ตามรอยแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด เกมถล่ม โรมา 7-1 แชมเปี้ยนส์ลีก 2006/07

โหมโรงก่อนศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก 2020/21 รอบรองชนะเลิศเลกแรกระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพบ อาเอส โรมา ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด คืนนี้กับแมตช์คลาสสิคที่ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันมาแล้วเมื่อปี 2006 กับรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ตำนานนายทวารชาว ดัตช์ แขวนถุงมือกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2010/11 ขณะที่เจ้าตัวมีอายุ 41 ปี ยุติเส้นทางค้าแข้งด้วย 7 เมเจอร์โทรฟีได้แก่ พรีเมียร์ลีก (4), ลีกคัพ (1), ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (1) และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ (1)

ให้หลังจากนั้น ฟาน เดอร์ ซาร์ รับงานในบทบาทผู้ให้ทัศนะฟุตบอลทางโทรทัศน์กับสื่อ เนเธอร์แลนด์ สำหรับทัวร์นาเมนต์ แชมเปี้ยนส์ลีก 2011/12 พร้อมกับลงเล่นในแมตช์การกุศลเป็นระยะ ตามด้วยการรับตำแหน่งผู้อำนวยการการตลาดให้กับ อาแจ็กซ์ เมื่อพฤศจิกายน 2012 และก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

แข้งสารพัดประโยชน์ดีกรีทีมชาติ ไอร์แลนด์ ผู้สามารลงเล่นได้ในทุกบทบาทในแนวรับและแผงมิดฟิลด์ รวมทั้งยังเคยทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูจำเป็นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว

โอเช อยู่โยงกับ ปีศาจแดง ถึง 12 ฤดูกาลนับตั้งแต่เดบิวต์ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซีซัน 1999/00 ก่อนจะโบยบินสู่ ซันเดอร์แลนด์ (2011/12 – 2017/18) และปิดฉากเส้นทางค้าแข้งกับ เรดดิ้ง เมื่อปี 2019 และเข้ารับตำแหน่งโค้ชทีมชุดใหญ่กับทัพ เดอะรอยัลส์ หลังจากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

หนึ่งในปราการหลังที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ พรีเมียร์ลีก เจ้าตัวค้าแข้งอยู่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเวลาถึง 12 ปีก่อนจะทิ้งทวนอาชีพค้าแข้งกับ ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ในซีซัน 2014/15 และกลายเป็นผู้ให้ทัศนะทางโทรทัศน์กับสถานี บีที สปอร์ต ในอังกฤษ

ลูกหม้อของ ปีศาจแดง ที่ก้าวขึ้นมามมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ซีซัน 1997/98 และอยู่โยงในถิ่น โรงละครแห่งความฝัน อีก 13 ปีถัดมาโดยมีไฮไลท์เป็นการคว้าโทรฟี ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย (1998/99 และ 2007/08)

บราวน์ ถูกปล่อยตัวให้กับ ซันเดอร์แลนด์ ในซัมเมอร์ 2011 ลงเล่นให้กับพลพรรค แมวดำ เป็นเวลา 5 ซีซันก่อนจะมี แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เป็นหมุดหมายในช่วงเวลาสั้นๆ และทิ้งทวนเส้นทางค้าแข้งกับ เคราลา บลาสเตอร์ส ใน อินเดียน ซูเปอร์ลีก ฤดูกาล 2017/18 เป็นปีสุดท้าย

ปัจจุบันเจ้าตัวเปิดอคาเดมีลูกหนังของตนเองที่มีชื่อว่า WB06 Academy ในอังกฤษ

แบ็คซ้ายชาว อาร์เจนตินา มีช่วงเวลาสั้นๆ ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียง 3 ฤดูกาลระหว่างซีซัน 2004/05 – 2006/07 หลังสร้างชื่อกับ ปารีส แซ็งต์-แชร์กแมง

ไอน์เซ กลายเป็นขุนพลของ เรอัล มาดริด ด้วยมูลค่าราว 8 ล้านปอนด์ตามด้วย มาร์กเซย์ และ โรมา ในเวลาต่อมาและแขวนสตั๊ดกับ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ อดีตสังกัดที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมาโดยปัจจุบันเจ้าตัวทำหน้าที่คุมทัพ อตาลันต้า ยูไนเต็ด ใน เมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ กับวัย 43 ปี

ในวัย 36 ปี คริสเตียโน โรนัลโด้ ยังคงเดินหน้าล่าตาข่ายอย่างไม่หยุดยั้งให้กับ ยูเวนตุส เขากลายมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังเคียงข้างกับ ลิโอเนล เมสซี ในเจเนเรชันเดียวกัน

คาร์ริค ค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของเจ้าตัวหลังแจ้งเกิดกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และสร้างชื่อกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในช่วงต้นของอาชีพโดยปัจจุบันในวัย 39 ปีเขาเป็นหนึ่งในทีมงานโค้ชของ ปีศาจแดง เคียงข้างกับ โซลชา

คลาสออฟ 92 แข้งลูกหม้อของ ปีศาจแดง ตำนานวันแมนคลับตลอดเส้นทางค้าแข้ง กิ๊กซี่ รีไทร์ในปี 2014 กับ ผีแดง หลังจากขยับไปทำหน้าที่โค้ชและผู้เล่นเมื่อครั้ง เดวิด มอยส์ กุมบังเหียนก่อนจะกลายเป็นกุนซือขัดตาทัพเมื่อ มอยส์ ถูกตะเพิดและกลายเป็นมือขวาของ หลุยส์ ฟาน กัล ในเวลาต่อมา

ปัจจุบันในวัย 47 ปีเจ้าตัวเป็นกุนซือของทีมชาติ เวลส์

อลัน สมิธ มีช่วงเวลาสั้นๆ กับ ปีศาจแดง เพียง 3 ฤดูกาลระหว่างซีซัน 2004/05 – 2006/07 โดยเป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในปีสุดท้ายของเขากับทีม

นิวคาสเซิล เป็นสโมสรถัดมาของเจ้าตัวใน พรีเมียร์ลีก ก่อนจะใช้เวลาช่วงโค้งสุดท้ายกับ เอ็มเค ดอนส์ แห่ง ลีกวัน (2011-2014) และ น็อตต์ส เคาท์ตี้ ใน ลีกทู (2014-2018) โดยปัจจุบันในวัย 40 ปีเจ้าตัวย้ายไปตั้งรกรากที่ สหรัฐอเมริกา และทำงานเป็นโค้ชให้กับอคาเดมี XL Soccer World

เจ้าของสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของทั้งทีมชาติ อังกฤษ และ แมนฯ ยูไนเต็ด โดย รูนีย์ บอกลาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แบบไร้ค่าตัวตั้งแต่ซัมเมอร์ 2017 โดยมี เอฟเวอร์ตัน (2017/18), ดีซี ยูไนเต็ด (2018-19) และ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ เป็นหมุดหมาย ปัจจุบันเจ้าตัวเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ใน แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2020/21

ตัวสำรอง
โทมัสซ์ คุสแช็ค – ค้าแข้งกับทีมระหว่างปี 2006-2012 ก่อนจะวนเวียนอยู่กับทีมระดับ แชมเปี้ยนชิพ อย่าง วัตฟอร์ด , ไบรท์ตัน, วูล์ฟส และแขวนถุงมือกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้

ปาทริซ เอวรา – ตำนานแบ็คซ้ายชาว ฝรั่งเศส ที่อยู่กับทีมเป็นเวลา 8 ฤดูกาลก่อนจะโบยบินสู่ ยูเวนตุส, มาร์กเซย์ และแขวนสตั๊ดกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

โอเล กุนนาร์ โซลชา – เจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารกผู้กลายเป็นกุนซือของทีมในปัจจุบัน

ตง ฟาวโจว – กองหน้าชาว จีน ที่เส้นทางค้าแข้งของเขาถูกลืมเลือนในเวลาต่อมาโดยมีทีมอย่าง รอยัล อันทเวิร์ป, ต้าเหลียน ซื่อเต๋อ, ลีเจีย วอร์ซอว์, ปอร์ติโมเนนเซ, มิก้า, หูหนาน บิลโลวส์ และ เหอเป่ย ซงยี เป็นสโมสรลำดับถัดๆ มาในโปรไฟล์ของเขา

คีแรน ริชาร์ดสัน – เด็กปั้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ผู้ไม่อาจแจ้งเกิดกับทีมได้โดยมี เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, ซันเดอร์แลนด์, ฟูแลม, แอสตัน วิลลา และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เป็นทีมที่เจ้าตัวเคยค้าแข้งก่อนแขวนสตั๊ด

คริส อีเกิลส์ – ให้หลังจากไม่ประสบความสำเร็จกับ ปีศาจแดง เจ้าตัวพเนจรค้าแข้งกับ 12 สโมสรภายในระยะเวลา 16 ปี

เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สิงห์บลู บุกคว้า อเวย์โกล

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 27 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : เรอัล มาดริด 1-1 เชลซี
สนาม : อัลเฟรโด ติ สเตฟาโน

ตลอด 90 นาทีของเกมนี้ ต้องบอกว่าต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่แลกกันได้อย่างสูสี แต่ดูเหมือนว่าโอกาสในการเข้าทำนั้น เชลซี ดูจะทำได้ชัดเจนและหวาดเสียวมากกว่า ซึ่งต้องชมบรรดาตัวรุกรวมถึงผู้เล่นในแดนกลางของ สิงห์บลู ที่วันนี้ต่อบอลเท้าสู่เท้าสร้างสรรค์โอกาสได้ค่อนข้างแม่นยำ ทั้ง เมสัน เมานท์ เดอะแบกของทีมในชั่วโมงนี้ที่วันนี้มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากพอสมควร และที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ “กัปตันอเมริกา” คริสเตียน พูลิซิช ที่วันนี้ดูจะเล่นงานแนวรับของเจ้าบ้านได้ดีชนิดที่โดนไล่เตะล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง ในขณะที่ฝั่ง ราชันชุดขาว ตัวรุกที่ฟอร์มกำลังแรงอย่าง วินิซิอุส กลับเล่นไม่ออก ยังดีที่พวกเขามีตัวเก๋าอย่าง เบนเซมา ที่ยังสามารถแบกเกมรุกไว้บนบ่าช่วยให้ทีมไม่แพ้กลับออกมาในค่ำคืนนี้

หากใครได้ชมเกมในนัดนี้ จะเห็นได้ว่าต้นเกม เชลซี ทำได้ดีกว่ามาก แถมยังสร้างสรรค์โอกาสสวย ๆ ได้หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะที่ เมานท์ หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนโยนมาให้ พูลิซิช โขกตั้งมาหน้าประตูแบบโล่ง ๆ แต่ เจ้ากรรม ติโม แวร์เนอร์ กลับยิงโล่ง ๆ ไปติดเซฟของ กูร์ตัวส์ ชนิดที่แฟน เชลซี หลายคนคงยืนขึ้นแล้วเอามือกุมศีรษะเลยทีเดียว แน่นอนลูกนี้ต้องชมอดีตนายด่าน สิงห์บลู ที่ปฏิกิริยาไวยื่นขาออกมาขวางไว้ได้ทัน แต่ในมุมของศูนย์หน้า ทั้งโล่งทั่งจ่อขนาดนี้ ยังไงก็ต้องตุงตาข่ายเท่านั้น แต่ก็ดันพลาด !

ตลอด 90 นาที เรอัล มาดริด แม้จะสร้างสรรค์โอกาสได้หลายครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่าแทบไม่สามารถสร้างความหนักใจให้กับแผงหลัง เชลซี ได้เลย แดนกลาง 3 คนก้เป็น กาเซมิโร ที่ดูจะทำได้ดีที่สุดเพราะต้องรับบทหนักไปกับเกมรับ ส่วนทั้ง โมดริช และ โครส กับไม่สามารถสร้างอิมแพคให้ทีมได้มากนัก เช่นเดียวกับตัวรุกอย่าง วินิซิอุส หรือแม้แต่ เอเดน อาซาร์ ก็ยังไม่มีทีเด็ดทีขาดมากพอที่จะทำอันตรายแนวรับ สิงห์บลู ได้ จะมีก็แต่เพียงความเก๋าของ คาริม เบนเซมา ที่วันนี้ดูจะฝากความหวังเอาไว้ได้ทั้งจากจังหวะยิงตีเสมอรวมถึงลูกยิงไกลชนเสาในครึ่งแรกเท่านั้น

นั่นแสดงให้เห็นว่า ซีดาน จำเป็นต้องงัดแทคติกเป็นทีเด็ดออกมามากกว่าการหวังเพิ่งความสามารถของกองหน้าตัวเก๋าวัย 33 ปีอย่าง เบนเซมา ให้แบกทีมไปจนถึงฝั่งฝัน เพราะดูจากทรงแล้ว หากยังแก้ปัญหานี้ไม่ตก การออกไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจแทบจะไม่เห็นหนทางที่จะคว้าชัยกลับออกมาและทะุเข้าสู่รอบชิงเลยก็ว่าได้…

ลาปอร์ต โขกโทน แมนฯ ซิตี้ เฉือน สเปอร์ส คว้าแชมป์ลีกคัพ 4 สมัยซ้อน

การแข่งขัน : คาราบาวคัพ 2020/21 รอบชิงชนะเลิศ
วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน :ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม : เวมบลีย์

Match Report

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าถ้วยรางวัลแรกของฤดูกาลได้สำเร็จพร้อมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้ถึง 4 ปีซ้อนเทียบเท่ากับที่ ลิเวอร์พูล ทำเอาไว้ในยุค 80
ขณะที่สถิติการคว้าแชมป์สมัยที่ 8 ทำให้พวกเขาทาบสถิติของ ลิเวอร์พูล อีกเช่นกัน

หลังจากสัปดาห์ที่วุ่นวาย ซิตี้ กับดราม่าของ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก พวกเขายังไม่วอกแว่กเก็บ 3 แต้มในเกมลีกกับ แอสตัน วิลลา ได้ในโปรแกรมกลางสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก่อนจะตามกันมาติดๆด้วยการต้องเผชิญหน้ากับ สเปอร์ส ที่เพิ่งตัดสินใจไล่ โจเซ มูรินโญ ออกเมื่อต้นสัปดาห์โดยให้ ไรอัน เมสัน รับหน้าที่เป็นกุนซือขัดตาทัพแทนโดยที่เกมในรอบชิงนี้เป็นเพียงการคุมทีมจากข้างสนามนัดที่ 2 ของเขาเท่านั้นเอง

เป๊ป กวาดิโอลา ได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับสู่ทีมโดยมี อเกวโร อยู่บนม้านั่ง ในเกมที่ตึงเครียดไม่น้อยสำหรับ ซิตี้ ที่แม้จะครองเกมเหนือกว่าเกือบตลอด 90 นาทีแต่กลับล้มเหลวในการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูจนถึงนาทีที่ 81 เมื่อ อายเมริค ลาปอร์ต ช่วยโขกชัยให้จากลูกฟรีคิก

Player Ratings

ยอริส(8), ออริเยร์(5), อัลเดอไวเรลด์(7), ดายเออร์(7), เรกิลอน(5), วิงคส์(7), ฮอยแบร์ก(5),มูรา(6), โล เซลโซ(6), ซน(5), เคน(6)

ตัวสำรอง : เบิร์กไวจน์(6), อัลลี(6), ซิสโซโก้(6), เบล(6)

สเตฟเฟน(6), วอล์คเกอร์(6), ดิอาส(6), ลาปอร์ต(6),คันเซโล(7), กุนโดกัน(6), แฟร์นันดินโญ(6), สเตอร์ลิง(7), มาห์เรซ(7), เดอ บรอยน์(8), โฟเดน(6)

ตัวสำรอง : โรดรี(6), ซิลวา(6)

เก็บตกหลังเกม

รอบชิงชนะเลิศเกมนี้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอล 8,000 คน ; มากที่สุดในรอบปีกว่าสำหรับเกมในประเทศ อังกฤษ แห่งนี้

การต้องพบกับทีมระดับท็อปอย่าง แมนฯ ซิตี้ ทำให้ ไรอัน เมสัน ต้องคิดหนักว่าจะนำทีมลงเล่นด้วย “วิถีของท็อตแนม” ตามที่เขาสัญญาเอาไว้หรือจะเล่นแบบรัดกุมเพื่อหวังผล

เมสัน เลือกอย่างหลังโดยให้ วิงคส์ ออกสตาร์ทแทน เอ็นดอมเบเล เพื่อหวังจะคุมเกมในแดนกลางให้แน่นอนมากขึ้นซึ่งก็ต้องแลกกับการสร้างสรรค์เกมที่ด้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ดีมันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องก็เป็นได้เพราะลูกทีมของ เมสัน สามารถรับมือกับการโหมบุกของ ซิตี้ เอาไว้ได้เกือบตลอดทั้งเกม..จนกระทั่งประตูของ ลาปอร์ต มาถึงในนาทีที่ 81

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นการแข่งขันด้วยความเข้มข้นและสิ่งเดียวที่ขาดหายไปจากผลงานครึ่งแรกคือประตู

ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิล โฟเดน จุดประกายให้แฟนๆใน เวมบลีย์ ด้วยการเคลื่อนไหวและเล่ห์เหลี่ยมอันแพรวพราวขณะที่ เดอ บรอยน์ ก็คอยแจกจ่ายบอลไปทั่วสนามจากตำแหน่งหมายเลข 10

เรกีลอน และ ออริเยร์ น่าจะหายใจโล่งขึ้นเยอะเมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดครึ่งเวลาแรกเพียงเพื่อต้องมาเจอหนังม้วนเดิมในครึ่งหลัง

กุนโดกัน ออกหน้าฟาด ยูฟ่า ฉะ แชมเปี้ยนส์ลีก แบบใหม่แย่พอๆกับ ซูเปอร์ลีก

อิลคาย กุนโดกัน ได้ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์การจัดรูปแบบใหม่ของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จะมีผลในปี 2024 พร้อมตราหน้าว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายพอๆกับ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก

ทางยูฟ่า ได้ยืนยันแล้วว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก โดยจะมีการเพิ่มจำนวนทีมเข้าแข่งขันจาก 32 ทีมมาเป็น 36 ทีมซึ่งส่งผลให้รอบแบ่งกลุ่มแต่ละทีมต้องลงแข่งมากขึ้นเป็น 10 เกมเพื่อ 8 ทีมที่จะได้ผ่านเข้าไปสู่รอบต่อไปและตามมาด้วยการเตะเพลย์ออฟของทีมลำดับถัดลงมาเพื่อหาอีก 8 ทีมไปสู่รอบน็อคเอาท์กันตามเดิม

ล่าสุดกองกลางสังกัด แมนฯ ซิตี้ ได้ออกมาแสดงความคับข้องใจผ่านทางทวิตเตอร์และหวังให้ผู้คนหันมามองประเด็นนี้กันมากขึ้น

“หลังผ่านพ้นเรื่อง ซูเปอร์ลีก ไปแล้ว พวกเราช่วยพูดเกี่ยวกับ แชมเปียนส์ลีก รูปแบบใหม่กันบ้างได้ไหม เตะกันมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆเลย นี่ไม่มีใครนึกถึงพวกเราที่เป็นผู้เล่นบ้างเหรอ?

“รูปแบบ UCL ใหม่เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ESL เลย รูปแบบเดิมๆในตอนนี้มันใช้งานได้ดีอยู่แล้วและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกทั้งสำหรับผู้เล่นและสำหรับแฟนๆ”

บ่อนปรับราคา ซาร์รี คุม สเปอร์ส หลัง มูรินโญ โดนตะเพิด

บริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมายของอังกฤษปรับอัตราต่อรองของ เมาริซิโอ ซาร์รี ในการนั่งแท่นกุนซือ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ คนใหม่ลง หลัง โชเซ มูรินโญ โดนไล่ออกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามรายงานจาก เดลีเมล

เดอะสเปเชียลวัน โดนไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ไก่เดือยทอง เพียง 6 วันก่อนที่พวกเขาจะลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เวมบลีย์ ในวันอาทิตย์นี้

ในขณะที่ แดเนียล เลวี ประธานสโมสรกำลังตามหาผู้จัดการทีมคนใหม่ของพวกเขา ชื่อของ ซาร์รี ก็กลายเป็นหนึ่งในกุนซือที่เป็นตัวเต็งที่จะเข้ามารับงานแทนที่ มูรินโญ ในช่วงซัมเมอร์ หลังจากที่เจ้าตัวเคยมีข่าวมาแล้วราว ๆ หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่นายใหญ่ชาวโปรตุกีสจะโดนปลด

แลดโบรคส์ บริษัทรับพนันถูกกฎหมายชื่อดังปรับลดอัตราต่อรองของอดีตนายใหญ่ เชลซี และ ยูเวนตุส ลงจาก 20/1 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์เป็น 4/1 ซึ่งหมายความว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เขาจะย้ายมายังถิ่นนอร์ธลอนดอนหลังจบฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม “เต็งหนึ่ง” ในตำแหน่งนี้ยังคงเป็น ยูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มของ อาร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งทางบริษัทพนันดังกล่าวให้อัตราต่อรองอยู่ที่ 11/4

นอกจากผู้จัดการทีม 2 รายข้างต้นแล้วยังมีชื่อของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ เลสเตอร์ ซิตี้, เอ็ดดี้ ฮาว อดีตนายใหญ่ บอร์นมัธ และ ไรอัน เมสัน ซึ่งกำลังรับหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราวของ สเปอร์ส เป็นหนึ่งในตัวเต็งอีกด้วย

ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก แถลงยุติจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ – OFFICIAL

ฝ่ายจัดการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ร่อนหนังสือยุติจัดทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการหลังบิ๊กซิกซ์แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ พาเหรดถอนตัวเมื่อกลางดึกคืนวันอังคารที่ผ่านมา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมแรกที่ถอนตัวจากรายการ ซูเปอร์ลีก กลางดึกคืนวันอังคารตามเวลาในประเทศไทย ตามด้วย เชลซี ที่มีกระแสข่าวรายงานว่าได้เตรียมตัวยื่นเอกสารเพื่อถอนตัวเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นอีก 4 ทีมที่เหลือทั้ง อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ก็ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเรียบร้อย

ขณะที่ ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้ยกเลิกกำหนดการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุใน สเปน อย่างกะทันหันหลังท่าทีของทีมในลีกสูงสุดแดนผู้ดี โดยให้เหตุผลว่าต้องหารือด่วนร่วมกับสโมสรสมาชิก ซูเปอร์ลีก

โดยแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของ ซูเปอร์ลีก มีเนื้อหาดังนี้

“ประกาศ”

“ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก เชื่อว่าสถานะปัจจุบันของฟุตบอลยุโรปต้องมีการเปลี่ยนแปลง”

“พวกเรายื่นข้อเสนอจัดการแข่งขันใหม่ในยุโรปเนื่องจากระบบการแข่งขันในเวลานี้ไม่ทำงาน ข้อเสนอของเรามุ่งเป้าไปที่วิวัฒนาการของกีฬาไปพร้อมกับการสร้างทรัพยากรและความยั่งยืนต่อโครงสร้างพีระมิดฟุตบอลทั้งระบบ รวมไปถึงการก้าวข้ามความยากลำบากทางการเงินที่ชุมชนฟุตบอลของเราทั้งหมดกำลังประสบอยู่ด้วยสาเหตุจากากรแพร่ระบาดของไวรัส มันจะช่วยให้เกิดความั่นคงทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรมต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในโลกฟุตบอล”

“แม้ว่าจะมีการประกาศแยกตัวของทีมจาก อังกฤษ อันเป็นผลของการตัดสินใจจากแรงกดดันที่พวกเขาได้รับ เรายืนยันว่าข้อเสนอดังกล่าวสอดคล้องกับกฎหมายของ ยุโรป รวมไปถึงกฎระเบียบจากการตัดสินของศาลเพื่อปกป้อง ซูเปอร์ลีก จากการกระทำของบุคคลที่สาม”

“จากสถานการณ์ในปัจจุบัน เราต้องหวนพิจารณาก้าวต่อไปที่เหมาะสมใหม่ โดยมีเป้าหมายที่ตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่าเพื่อที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับแฟนบอลพร้อมกับความมั่นคงทางการเงินแก่ชุมชนฟุตบอลทั้งหมด”

คล็อปป์ สุดเดือด เมินสวมเสื้อต้าน ซูเปอร์ลีก ที่ ลีดส์ เอามาให้ถึงห้องแต่งตัว

ลิเวอร์พูล ปฏิเสธที่จะสวมเสื้อยืดต่อต้านการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ที่ทีมงานของ ลีดส์ ทิ้งเอาไว้ให้ในห้องแต่งตัวโดย เยอร์เก้น คล็อปป์ เองก็ยอมรับว่ารู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของเจ้าบ้าน

ลิเวอร์พูล เปิดตัวเป็น 1 ใน 12 ทีมผู้ก่อตั้ง ซูเปอร์ลีก ท่ามกลางเสียงคัดค้านมากมายจากทั้งแฟนๆ, อดีตนักเตะและคนดังในวงการรวมไปถึงเจ้าของสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด คู่แข่งของพวกเขาเมื่อคืนนี้ที่ถึงกับลงทุนให้ผู้เล่นในทีมสวมเสื้อสกรีนข้อความ ‘Earn it’ และ ‘Football is for the Fans’ พร้อมตราสัญลักษณ์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ลงวอร์มอัพก่อนเกมอีกด้วย

นอกจากนี้ทีมงานของ ยูงทอง ยังได้เอาเสื้อยืดดังกล่าวเอาไปวางไว้ในห้องแต่งตัวของ ลิเวอร์พูล แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะสวมมันออกมาในสนามก่อนที่จะตามมาด้วยความเห็นของกุนซือชาว เยอรมัน ต่อเหตุการณ์นี้ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“ถ้าใครบางคนคิดว่าพวกเขาต้องเตือนเราเกี่ยวกับการคว้าโอกาสไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก นั่นเป็นเรื่องตลกสิ้นดี มันเป็นเรื่องตลกจริงๆและมันทำให้ผมโกรธมากด้วย”

ในขณะที่ เจมี คาร์ราเกอร์ อดีตผู้เล่นของ หงส์แดง และกูรูช่อง สกายสปอร์ตส ยอมรับว่าเห็นด้วยกับไอเดียของเจ้าของทีม ลีดส์ ในการแสดงออกผ่านข้อความบนเสื้อและหวังจะได้เห็นตัวแทนจากสโมสรอื่นๆทำเช่นนี้ดูบ้าง

คล็อปป์ อัพเดตสภาพร่างกาย โจ โกเมซ หลังเจ็บเข่าจนต้องพักยาวหลายเดือน

เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่าปราการหลังลูกรักอย่าง โจ โกเมซ มีการฟื้นฟูสภาพร่างกายค่อนข้างน่าพอใจ หลังเจ็บหัวเข่ารุนแรงจนต้องพักรักษาตัวนานหลายเดือน

ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน เซ็นเตอร์แบ็ควัย 23 ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษพร้อมฟอร์มการเล่นที่กำลังร้อนแรงต่อเนื่อง แต่ดันได้รับบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมตรงเข่าซ้าย สุดท้ายร้ายแรงกว่าที่คิดจนต้องพักยาวตามลูกพี่อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ไปท่ามกลางความเซ็งของเด็กหงส์

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาราว 5 เดือน โกเมซ เริ่มกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้เบา ๆ ขณะที่ยังต้องเข้าโปรแกรมพิเศษเพื่อทำกายภาพบำบัดควบคู่กันไปด้วย กุนซือเฮฟวี่เมทัล ก็อัพเดตให้แฟน ๆ ชื่นใจว่า

“โจ โกเมซ สามารถวิ่งได้เต็มที่เหมือนเดิมแล้วซึ่งรายละเอียดเล็ก ๆ แค่นี้แหละที่ทำให้ผมมีความสุขสุด ๆ มันคือก้าวสำคัญสำหรับเขาอย่างแท้จริงหลังบาดเจ็บรุนแรง” คล็อปป์ กล่าวผ่านงานแถลงข่าว

“หากดูกันด้วยตาเปล่า ผมกล้าพูดเลยว่าสภาพร่างกายของ โกเมซ โอเคแล้ว วิ่งได้ปกติ ลงน้ำหนักได้เต็มที่ ไม่มีอาการเจ็บเพิ่มที่หัวเข่าซ้าย แม้จะยังต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่ก็ถือเป็นข่าวดีกับตัวเขาและสโมสรจริง ๆ”

เตลลิส แจ๋ว-เดอ เบ็ค แจ่ม ตัดเกรดผู้เล่น แมนยู เปิดบ้านย้ำชัย กรานาด้า ในเกม ยูโรปาลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย 2020/21

วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน :แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4) 2-0 (0) กรานาด้า
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

คะแนนนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด

ดาบิด เด เคอา – 7/10
ไม่ได้เจองานหนักมากนัก แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องชื่นชมการยืนตำแหน่งของเขาและปฏิกิริยาท้ายเกมที่ช่วยทีมไว้ไม่ให้เสียประตู

แอรอน วาน-บิซซาก้า – 6/10
เล่นง่ายๆไม่หวือหวาแต่ก็เพียงพอที่จะช่วยทีมไม่ให้เสียประตู

วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ – 6/10
พลาดท่าให้แนวรุกของ กรานาด้า อยู่บ้างแต่ทีมเยือนใช้โอกาสเปลืองไปมาก

แอ็กเซล ตวนเซเบ้ – 7/10
ทำหน้าที่ได้ดีสำหรับคนที่ไม่ได้ลงสนามมานาน รับมือกับ โซลดาโด้ ได้อยู่หมัดแต่โดน ยางเกล เฮร์เรรา เล่นเอาเสียหลักไปหลายที

อเล็กซ์ เตลลิส – 7/10
มีส่วนกับประตูทั้ง 2 ลูกในเกม ทั้งจากการแอสซิสต์และเปิดบอลเข้าหัว บาเญโฆ ทำเข้าประตูตัวเอง

เฟร็ด – 6/10
จ่ายบอลเสียง่ายๆแต่ก็ทำได้ดีในการไล่เอาบอลคืนมาและเดินเกมขึ้นสูงอยู่หลายหน

เนมานยา มาติช – 7/10
ทำหน้าที่แจกจ่ายบอลไปมาซ้าย-ขวาและคอยช่วย แฟร์นันดส์ ให้เดินเกมได้ง่ายขึ้น

เมสัน กรีนวู้ด – 6/10
ออกสตาร์ทเกมได้สวยก่อนจะค่อยๆเงียบไป

บรูโน แฟร์นันดส์ – 6/10
เกือบพังประตูวอลเลย์สุดสวย นอกจากนั้นก็ถือว่าตามมาตรฐาน

พอล ป็อกบา – 7/10
แอสซิสต์ไปอย่างเหนือชั้นก่อนที่จะโดนเปลี่ยนออกไปเพราะมีใบเหลือติดตัว

เอดินสัน คาวานี – 7/10
ฟอร์มดีต่อเนื่องจากเกมเจอ ท็อตแนม ด้วยการโชว์พังประตูแบบเฉียบขาดตั้งแต่ต้นเกม

ผู้เล่นสำรอง

เดอ เบ็ค – 7/10
ครอสส์บอลให้ กรีนวู้ด ได้อันตรายไม่เบากับอีกหนึ่งโอกาสเกือบทำประตูได้ การจ่ายบอลเชื่อมเกมและวิ่งลงมาล้วงบอลจัดว่าดีหากเทียบกับเกมก่อนหน้า

เจมส์ – 6/10
ใช้ความเร็วสร้างความอันตรายให้ฟูลแบ็คของ กรานาด้า ได้หลายหนแต่ไม่ได้สร้างสรรค์เกมมากเท่าที่ควร

มาต้า – 6/10
หายไปนานแต่การกลับมาของเขาก็ถือว่าเรียบง่ายและไม่มีจุดให้ติ

ดิยัลโล – N/A
น่าเสียดายกับจังหวะที่หลุดเดี่ยวไปโดนทำฟาวล์แบบชัดเจนแต่ผู้ตัดสินกลับไม่ว่าอะไร

วิลเลียมส์ – N/A

มิลเนอร์ เสียดาย ลิเวอร์พูล ตกรอบ UCL ทั้งที่เป็นฝ่ายเล่นดีกว่า มาดริด

เจมส์ มิลเนอร์ รองกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับว่าเสียดายที่ตกรอบ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก เพราะทำได้แค่เสมอกับ เรอัล มาดริด 0-0 ที่สนามแอนฟิลด์เมื่อคืนนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นฝ่ายเล่นดีกว่าชัดเจน

“สำหรับเกมวันนี้ ผมกล้าพูดเลยว่า ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายที่เล่นดีกว่า มาดริด แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่มากพอจะช่วยให้เราผ่านเข้ารอบไปได้” มิดฟิลด์คนขยัน กล่าวกับ BT Sport

“เราตั้งรับเหนียวแน่น สร้างสรรค์เกมบุกสวยงาม ไล่กดดันคู่แข่งด้วยพลังงานอันล้นเหลือไปทั่วสนาม ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง แต่ปัญหาคือยิงกันไม่เข้านี่แหละ”

“คือถ้าตัดเรื่องนั้นออกไป ผมค่อนข้างพอใจกับภาพรวมนะ พวกเรารู้ดีว่าต้องทำยังไงสำหรับเกมนัดสอง ไม่มีใครท้อแท้หรือยอมแพ้ตั้งแต่ก่อนแข่งเลยแม้แต่คนเดียว”

“วิธีการพาบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายก็มีมิติหลากหลายกว่าเดิมเยอะ มีการเร่ง-ผ่อนจังหวะเกมถูกช่วงเวลาทั้งหมด เสียดายที่เกมนัดแรกเราไม่สามารถทำได้แบบนี้ เลยต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย”

“แต่เมื่อทุกอย่างมันจบไปแล้ว ผมอยากให้นักเตะ ลิเวอร์พูล ทุกคนจดจำความรู้สึกในวันนี้เอาไว้ว่าเรามุ่งมั่นปรารถนาอยากคว้าชัยชนะกันมากแค่ไหน นี่แหละคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งท็อปโฟร์”