วิเคราะห์ 5 ประเด็นร้อนก่อนศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 14 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : ลิเวอร์พูล (1) พบ (3) เรอัล มาดริด
สนาม : แอนฟิลด์
ถ่ายทอดสด : UEFA.tv

ลิเวอร์พูล ถูกความยอดเยี่ยมของ วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าวัย 20 ปีของ เรอัล มาดริด เผาเครื่องในเลกแรกจนทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้วยสกอร์ 3-1

การประสานงานระหว่าง โทนี โครส กับ วินิซิอุส ส่งผลให้ ราชันชุดขาว ออกสตาร์ทด้วยการขึ้นนำ หงส์แดง ตั้งแต่นาทีที่ 27 ตามด้วยประตูจาก มาร์โก้ อเซนซิโอ จากความผิดพลาดของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะสังหารประตูไล่มาเป็น 2-1 ในช่วงต้นครึ่งหลัง

อย่างไรก็ตาม วินิซิอุส คนเดิมพังประตูตอกฝาโลงให้ทีมของ ซีดาน ทิ้งห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 65 และรักษาสกอร์ดังกล่าวไว้ได้จนจบเกม

แม้ เร้ดแมชีน จะเป็นฝ่ายตามหลัง 2 สกอร์แต่พวกเขาเคยสร้างปาฎิหาริย์คัมแบ็คต่อทีมจาก ลา ลีกา มาแล้วเมือปี 2019 หลังจากปราชัยต่อ บาร์เซโลนา เลกแรกที่ คัมป์นู 3-0 ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์กลับไปอัดทัพ อาซูลกรานา ขาดลอย 4-0 ที่ คัมป์นู กรุยทางสู่ตำแหน่งแชมป์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในที่สุด

ลิเวอร์พูล เพิ่งจะหยุดสถิติปราชัยคาบ้านในเกม พรีเมียร์ลีก 6 นัดติดต่อกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจากชัยชนะเหนือ แอสตัน วิลลา 2-1 โดย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สังหารประตูชัยให้กับพวกเขาในช่วงท้าย

ขณะที่ เรอัล มาดริด ทำศึกหนักกับ บาร์เซโลนา และเป็นฝ่ายกำชัยด้วยสกอร์ 2-1 โดย ซีเนดีน ซีดาน ถึงกับออกโรงบ่นถึงสภาพร่างกายของลูกทีมที่กรอบสุดๆ หลังจากต้องลงเล่นโดยที่ไม่ได้มีเวลาพักมากนักตลอดฤดูกาลนี้

โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจเอล มาติป ยังคงต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บระยะยาวโดยคาดการณ์ว่า แนท ฟิลลิปส์ กับ โอซาน คาบัค จะยังคงได้รับความไว้วางใจลงเล่นร่วมทัพในบทบาทคู่เซ็นเตอร์แบ็ค

หงส์แดง จะยังคงไร้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แต่ เคอร์ติส โจนส์ หายเดี้ยงกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองให้กับทีมได้ในเกมกับ วิลลา และจะมีชื่ออย่างน้อยบนม้านั่งสำรองให้กับ คล็อปป์ ในเกมนี้

ในแดนหน้า เจ้าถิ่นยังไร้ ดิว็อค โอริกี จากการบาดเจ็บขณะที่ ซาดิโอ มาเน ได้พักมาในเกมสุดสัปดาห์และดาวยิงทีมชาติ เซเนกัล จะกลับมามีชื่อเป็นตัวจริงในเกมนี้อย่างแน่นอนโดยที่ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน กับ ดิโอโก้ โชต้า จะขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งตัวจริงในบทบาทกองหน้าตัวเป้าหรือฟอลส์ไนน์

เรอัล มาดริด ไม่อาจใช้งานคีย์แมนอย่าง ดานี การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส และ ราฟาเอล วาราน ได้จากปัญหาอาการบาดเจ็บโดยที่ ลูคัส บาสเกซ เพิ่งเดี้ยงมาจากเกม เอล กลาซิโก้ และหมดสิทธิ์ลงสนามด้วยเช่นเดียวกัน

มีความเป็นไปได้สูงที่ อัลบาโร โอดริโอโซลา จะได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็คขวาดวลกับ ซาดิโอ มาเน ขณะที่ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ยืนยันว่าพร้อมจะลงสนามให้กับทีมของ ซีดาน แม้จะมีสภาพร่างกายไม่เต็มถังก็ตาม

เอแด็น อาซาร์ หายเจ็บกลับมาลงซ้อมกับ โลส บลังโกส เป็นที่เรียบร้อยแต่ยังไม่มีแมตช์ฟิตมากพอที่จะลงสนามช่วยทีม

ทั้ง ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด ต่างขาดคีย์แมนในเกมรับและประเด็นดังกล่าวต่างก็ถูกคู่แข่งเล่นงานจนเป็นเหตุให้เสียประตูมาแล้วอย่างที่เห็นในเลกแรก

หงส์แดง ที่หลังพิงฝาต้องการอย่างน้อย 2 ประตูเพื่อพลิกสถานการณ์สู่การผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเคยแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นมาแล้วในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อครั้งอดีตและสถานการณ์บังคับให้ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

อย่างไรก็ตาม ซีดาน ได้แสดงให้เห็นถึงพิษสงการฉวยโอกาสโจมตีอย่างรวดเร็วมาแล้วโดยเฉพาะประตูแรกที่พวกเขาทำได้ในเลกแรกกับช็อต โทนี โครส วางยาวให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า อลิสซอน เบ็คเกอร์ ส่งบอลสู่ก้นตาข่าย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ทัพ โลส บลังโกส จะตั้งรับลึกอย่างเหนียวแน่นเพื่อรอจังหวะสวนกลับเร็วเมื่อพวกเขาไม่จำเป็นที่ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่เจ้าถิ่นแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ความผิดพลาดเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในเกมรับของทั้ง 2 ทีมกับแมตช์แรกเมื่อพวกเขาไม่ได้มีกองหลังคนสำคัญก็ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะมีช็อตหลุดจนเป็นเหตุให้เสียประตูอีกครั้งทั้ง 2 ทีม

เปิดสถิติ 5 อันดับดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ ลิเวอร์พูล : RANKING

5. หลุยส์ การ์เซีย – 10 ประตู

“คิงหลุยส์” ตัวรุกร่างเล็กที่ ราฟา เบนิเตซ สอยมาร่วมทีมในปี 2004 ก่อนที่เจ้าตัวจะพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่ซีซั่นแรกที่ย้ายมาร่วมทีม โดยโมเมนต์สำคัญของเขาก็คือประตูชัยในรอบ 4 ทีมสุดท้ายที่ทำให้ทีมเอาชนะ เชลซี ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ การ์เซีย ลงสนามในรายการนี้ให้กับ หงส์แดง ทั้งสิ้น 24 นัด ทำไก้ 10 ประตูด้วยกัน

4. โรแบร์โต ฟิร์มิโน – 15 ประตู

หัวหอกหมายเลข 9 คนปัจจุบันที่ยังคงค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ หลังจากย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2015 “บ็อบบี้” ลงสนามในรายการนี้ไปแล้วกว่า 41 นัด ทำได้ 15 ประตู เคยคว้าแชมป์กับทีม 1 สมัยเมื่อปี 2018/19 ที่ผ่านมา

3. ซาดิโอ มาเน – 19 ประตู

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปิดสถิติ 5 อันดับดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : RANKING

เปิดรายชื่อ 5 อันดับนักเตะ ปีศาจแดง ที่ทำประตูได้มากที่สุดในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก บนหน้าประวัติศาสตร์ของสโสมร…

Saksorn Nenlert

|

2:59 AM GMT+7

เรอัล มาดริด 3-1 ลิเวอร์พูล : ชำแหละทุกความเป็นไปหลังศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกแรก

วิเคราะห์ 5 ประเด็นเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

Tomorn Nuanprasert

|

Apr 7, 2021

แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่องท้ายเกม, ลิเวอร์พูล ถูกเด็ดปีก : สรุปผล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายคืนวันอังคาร

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกแรกโดยเล่นในรังเหย้าของตนเองเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะเหนือผู้มาเยือน

Tomorn Nuanprasert

|

Apr 7, 2021

ปอร์โต้ 0-2 เชลซี : เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สิงห์บลู บุกคว้าชัยชิงความได้เปรียบ

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 7 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น.
คู่แข่งขัน : ปอร์โต้ 0-2 เชลซี

Saksorn Nenlert

|

Apr 8, 2021

กองหน้าชาวเซเนกัล ติดโผดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในรายการยี้ของ หงส์แดง ในอันดับที่ 3 เลยที่เดียว จากผลงานการลงสนาม 41 เกมทำได้ 19 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์ ซึ่งก็เช่นเดียวกับ ฟิร์มิโน ดายิงรายนี้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญช่วยทีมคว้าแชมป์เมื่อปี 2019 มาครองได้เป็นสมัยล่าสุด

2. สตีเฟน เจอร์ราร์ด – 21 ประตู

สุดยอดกองกลางกัปตันทีมของ หงส์แดง ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำนานสโมสร แน่นอนว่า สตีวี่ เคยเป็นผู้ถือครองสถิตินักเตะ ลิเวอร์พูล ที่ทำประตูมากที่สุดในรายการนี้ที่ 21 ประตูกับ 15 แอสซิสต์จากการลงสนาม 73 เกม แถม กัปตันเจิร์ด ยังเคยได้ชูถ้วยใบนี้ 1 สมัยด้วยกันเมื่อปี 2005 ที่พวกเขาสร้างปาฏิหาริย์พลิกนรกกลับมาชนะ เอซี มิลาน ได้อย่างยิ่งใหญ่จนเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

1. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 25 ประตู

“บังโม” เพิ่งจะทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดในรายการใหญ่ของยุโรป ที่ เจอร์ราร์ด ทำเอาไว้ 21 ประตูลงไปได้เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวยิงไปแล้วถึง 25 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์จากการลงเล่น 42 นัด และยังมีโอกาสที่จะบวกสถิติเพิ่มขึ้นไปได้อีกแน่นอนหากหัวหอกชาวอิยิปต์รายนี้ไม่รีบย้ายหนีไปไหนเสียก่อน ซาลาห์ เคยคว้าแชมป์รายการนี้ร่วมกับ หงส์แดง 1 สมัยในปี 2019 ที่เขาเป็นผู้ยิงจุดโทษออกนำให้กับทีมคว้าชัยเหนือ สเปอร์ส ไปได้ 2-0 นั่นเอง

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-3 อาร์เซนอล : เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังชัยชนะของ ไอ้ปืนใหญ่ ใน พรีเมียร์ลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 01:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-3 อาร์เซนอล
สนาม : บรามอลล์ เลน

เจ้าหนู บราซิเลียน วัย 19 ปีได้รับความไว้วางใจจาก มิเคล อาร์เตต้า ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงที่ริมเส้นฝั่งซ้ายและกลายเป็นแข้งที่วูบวาบที่สุดในแนวรุกของ อาร์เซนอล

เจ้าตัวจบเกมด้วยการมีชื่อบนสกอร์บอร์ด 1 ครั้งจากความพยายามสับไกทั้งหมด 3 ครั้ง มากที่สุดของแข้ง ไอ้ปืนใหญ่

มาร์ติเนลลี ยังแสดงให้เห็นถึงความกระหายที่จะเลี้ยงบอลเอาชนะคู่แข่งทุกครั้งที่เขาได้บอล

2 ประตูที่ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ ทำได้ในเกมนี้ทำให้เจ้าตัวขึ้นทำเนียบกลายเป็นนักเตะชาว ฝรั่งเศส คนที่ 6 ของ พรีเมียร์ลีก ที่ทำประตูแตะหลัก 50 ลูกให้สโมสรเดียว โดย 3 จาก 6 แข้ง เฟรนช์แมน ดังกล่าวเป็นผู้เล่นของ ไอ้ปืนใหญ่ อย่าง เธียร์รี อองรี, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ โรแบร์ ปิแรส

เดอะกันเนอร์ส เพิ่งตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ไร้ชัยมา 4 นัดติดต่อกันเมื่อรวมทุกรายการก่อนหน้านี้ 1 ในนั้นเป็นการปราชัยอย่างหมดรูปต่อ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 3-0 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน พร้อมกับมีข่าวลือว่ากลุ่มแข้งซีเนียร์ออกอาการไม่พอใจในตัว มิเคล อาร์เตต้า นักเมื่อผลงานของทีมไม่เป็นที่น่าพอใจ

ชัยชนะในเกมนี้ของ ปืนโต ช่วยปลดล็อกความตึงเครียดจากสถานการณ์ดังกล่าวไปอีกเปลาะก่อนที่พวกเขาจะมีคิวดวลกับ สลาเวีย ปราก ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก กลางสัปดาห์นี้ตามด้วยการทำศึก ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ กับ ฟูแลม ในช่วงสุดสัปดาห์

กรานาด้า 0-2 แมนยู : ชำแหละทุกความเป็นไปหลังศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก เลกแรก

การแข่งขัน : ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปาลีกรอบ 8 ทีมสุดท้าย 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน :กรานาด้า 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : นูเอโบ เอสตาดิโอ เดอ โลส คาร์เมเนส

1. ลุ้นกันต่อในเลก 2

ข้อเสียอย่างหนึ่งจากชัยชนะในแคว้น อันดาลูเซีย คือ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, ลุค ชอว์ และ แฮร์รี แม็คไกวร์ จะพลาดการลงสนามใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากที่ทั้ง 3 คนได้รับใบเหลืองใบที่ 3 ของตัวเองในการแข่งขันฟุตบอล ยุโรป ในฤดูกาลนี้

2. โรมา ในรอบถัดไป?

หาก ยูไนเต็ด ไม่พลาดท่าพลิกล็อคตกรอบคาบ้านตัวเองในสัปดาห์หน้า โรมา อาจจะเป็นคู่แข่งในรอบรองชนะเลิศของพวกเขา หลังจากที่ตัวแทนจาก เซเรีย อา พลิกแซง อาแจ็กซ์ พร้อมคว้าอเวย์โกลไปครองด้วยสกอร์ 1-2

3. แรชฟอร์ดกับตุงที่ 20

แข้งหมายเลข 10 ของ ปีศาจแดง ยิงไปแล้ว 20 ประตูในทุกการแข่งขันพร้อมทำสถิติยิงได้อย่างน้อย 20 ลูกถึง 2 ฤดูกาลติดกันทำให้เขาเป็นผู้เล่น ยูไนเต็ด คนแรกที่ทำได้นับตั้งแต่เวย์น รูนีย์ ในปี 2008/09 และ 2009/10

4. เด เคอา คัมแบ็คพร้อมคลีนชีท

บทความที่เกี่ยวข้อง

บรูโน ซัดจุดโทษท้ายเกมพา แมนยู เก็บอเวย์โกลถึงถิ่น กรานาด้า 0-2 ศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก เลกแรก – Match Report

แรชฟอร์ด ควง แฟร์นันดส์ ยิงคนละลูกช่วยทีมคว้าชัยได้สำเร็จ

Chidchanok Sharma

|

4:02 AM GMT+7

กรานาด้า พบ แมนฯ ยูไนเต็ด : พรีวิวยูฟ่า ยูโรปาลีก, วัน+เวลาแข่งขัน, คาดการณ์ 11 ตัวจริง และช่องถ่ายทอดสด

สำรวจความพร้อมล่าสุดก่อนเกม ยูฟ่า ยูโรปาลีก ระหว่าง กรานาด้า พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

Tomorn Nuanprasert

|

Apr 7, 2021

แอนตี้ไคลแม็กซ์ท้ายเกม อาร์เซนอล เจ๊า สลาเวีย ปราก 1-1 ยูโรปาลีก – Match Report

อาร์เซนอล ทำได้เพียงเปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เสมอกับ สลาเวีย ปราก 1-1 ชนิดที่ทัพ ไอ้ปืนใหญ่ เสียประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลัง ชวดชัยชนะอย่างน่าเสียดาย

Tomorn Nuanprasert

|

4:01 AM GMT+7

แมนยู ใส่ชื่อ อีลังก้า เตรียมลุย ยูโรปาลีก กับ กรานาดา

ดาวรุ่งอีกรายที่อาจได้เดบิวต์ให้ปีศาจแดง

Chidchanok Sharma

|

Apr 7, 2021

ดาบิด เด เคอา กลับมาลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงหนแรกนับตั้งแต่การลาไปเฝ้าภรรยาเมื่อเดือนก่อนและสามารถเก็บคลีนชีทได้สำเร็จแม้คู่แข่งจะไม่ได้สร้างความอันตรายมากนักก็ตาม

5. จุดหมายต่อไป…ลอนดอนเหนือ

ก่อนเลกที่ 2 ของเกม ยูโรปาลีก ในวันพฤหัสบดีหน้า โอเล กุนนาร์ โซลชา ยังมีเกม พรีเมียร์ลีก ในวันอาทิตย์กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อยู่ โดยที่ผู้เล่นของ โจเซ มูรินโญ จะฟิตเต็มถังรอพวกเขาอยู่จากการตกรอบฟุตบอล ยุโรป ไปก่อนหน้านี้

ลิเวอร์พูล มีข่าว ตราโอเร อีกรอบหลัง วูล์ฟ เตรียมขึ้นบัญชีขายช่วงซัมเมอร์

ดันแคน คาสเซิล สื่อชื่อดังระบุว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน เตรียมปล่อย 3 ดาวดังของพวกเขาอย่าง เปโดร เนโต, รูเบน เนเวส และ อดามา ตราโอเร ในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินการของสโมสรรวมทั้งในตลาดซื้อขายต่อไป ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูลเอ็คโค

ลิเวอร์พูล เคยตกเป็นข่าวกับ ตราโอเร มาแล้ว ในขณะที่ดาวเตะอีก 2 รายก็กำลังเป็นที่สนใจของบรรดาทีมใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกัน โดย คาสเซิล ได้กล่าวผ่านทาง ทรานสเฟอร์วินโดว์พอดแคสถึงเรื่องนี้ว่า

“อดามา นั้นอายุ 25 ปีและเหลือสัญญาอยู่กับทีมจนถึงปี 2023 พวกเขาต้องการขายอย่างน้อยหนึ่งคนโดยมีค่าตัวในระดับมหาศาลในตลาดซื้อขายซัมเมอร์ หรืออาจะมากกว่านั้น จากนั้นก้เป็นการลงทุนใและสร้างทีมขึ้นมาใหม่ต่อไป”

นอกจากปีกทีมชาติสเปนที่มีข่าวกับ ลิเวอร์พูล แล้ว เปโดร เนโต้ ก็กำลังเป็นเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากพวกเขาไม่สามารถคว้าตัว เจดอน ซานโช มาร่วมทีมได้

ลิเวอร์พูล วางแผนเตรียมจับ ซาลาห์ พร้อม 3 สตาร์ต่อสัญญาใหม่หลังจบฤดูกาล

มีรายงานว่าสโมสร ลิเวอร์พูล ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก เตรียมเปิดการเจรจากับ 4 สตาร์ดังเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ซึ่งน่าจะมีขึ้นหลังจบฤดูกาลนี้

เดอะไทม์ส อ้างว่า หงส์แดง มีแผนที่จะเรียก 4 แข้งสำคัญของทีมอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟาบินโญ, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เข้ามาพูดคุยเรื่องการขยายสัญญาการค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ ออกไปหลังช่วยทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา

รายงานดังกล่าวระบุว่า ลิเวอร์พูล มุ่งไปที่การเจรจากับกองหน้าทีมชาติอียิปต์เป็นรายแรก หลังจากที่มีข่าวเรื่องการย้ายทีมออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะกับ เรอัล มาดริด คู่แข่งในศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบควอเตอร์ไฟนอล ในขณะที่เจ้าตัวเหลือสัญญาอยู่กับทีมจนถึงปี 2023

ทางด้าน ฟาบินโญ และ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ซึ่งยังไม่สามารถกลับมาลงสนามได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าก็กำลังจะเข้าสู่ 2 ปีสุดท้ายในสัญญาเช่นเดียวกัน ในขณะที่สัญญาปัจจุบันของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ จะหมดลงในปี 2024

คาดว่าหาก โม ซาลาห์ ตกลงต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล เขาจะยังคงเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในสโมสรต่อไป โดยปัจจุบันเจ้าตัวรับอยู่ที่ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

เป๊ป แย้มเหตุผลที่ แมนฯ ซิตี้ อาจทุ่มเงินกระชาก เออร์ลิง ฮาแลนด์ ร่วมทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ให้สัมภาษณ์เป็นนัยเกี่ยวกับข่าวเรื่องการย้ายทีมที่มีความเชื่อมโยงกันระหว่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในเวลานี้ ก่อนที่พวกเขาจะพบกับ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ ในศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบควอเตอร์ไฟนอล ตามรายงานจกา แมนเชสเตอร์อิฟนิงนิวส์

นายใหญ่ชาวคาตาลันเปิดเผยว่า เขาไม่ต้องการทุ่มเงินระดับ 100 ล้านปอนด์ เพื่อหาตัวแทนของ เซร์คิโอ อเกวโร หลังจากที่ทีม เสือเหลือง ออกมาประกาศตั้งค่าตัวของกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ไว้ที่ 130 ล้านปอนด์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด เป๊ป ได้เผยเป็นนัยว่าการเซ็นสัญญากับนักเตะที่มีค่าตัวแพงขนาดนั้นอาจมีความจำเป็นในอนาคตหากว่าสโมสรต้องการพัฒนาทีมในระยะยาวต่อไป

“การจ่ายเงินมากมายให้กับนักเตะเพียงคนเดียวไม่ได้ทำให้คุณมีความได้เปรียบที่จะสามารถเอาชนะทีมอื่นได้ ฟุตบอลเป็นเกมของทีม ทุกคนต้องมีส่วนร่วม”

“การเป็นแชมป์ไม่ใช่มาจากนักเตะเพียงคนเดียว มันคือผู้เล่นทุกคน และจนถึงตอนนี้สโมสรได้ติดสินใจไม่ทุ่มเงินระดับ 100 ล้านปอนด์ เพื่อนักเตะคนใดคนหนึ่ง”

“แต่บางทีอาจจะเป็นเรื่องของอนาคต มันอาจจะเกิดขึ้นก็ได้ หากว่าสโมสรคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทีมสำหรับ 5-10 ปีข้างหน้า แต่ตอนนี้ในองค์กรมีการตัดสินใจที่จะไม่ทำแบบนั้น นั่นจึงเป้นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจะไม่ทำแบบนั้น แต่ในอนาคตก้ไม่แน่” เป๊ป กล่าว

5 นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูสูงสุดในยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชา

ถือเป็นโอกาสครบรอบ 2 ปีที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา ได้รับสัญญาถาวรในการคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ถูกแต่งตั้งรับงานชั่วคราวแทนที่ โชเซ มูรินโญ ที่โดนไล่ออกเมื่อเดือนธันวาคม 2018

ผลงานของ “กุนซือหน้าทารก” ถือได้ว่ามีพัฒนาการน่าชื่นชม เขาสามารถพาทีมเข้ามาติดอันดับ 3 ในซีซันแรกที่ได้คุมทีมเต็มตัวชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด และในปีนี้เจ้าตัวก็กำลังพาทีมคั่วรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก และถ้วย ยูโรป้าลีก

นอกจากการทำทีมที่ดูมีความก้าวหน้ามากขึ้นกว่าเดิมแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งคือการมีเกมรุกที่น่ากลัวและเกมสวนกลับที่เฉียบคมที่ทำให้ผลงานของพวกเขาดีวันดีคืนในซีซันนี้ และกลายเป็นทีมที่กลับมามีเกมรุกที่ดุดันอีกครั้ง

นี่คือ 5 นักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดในยุคของนายใหญ่ชาวนอร์วีเจี้ยน

5. ปอล ป็อกบา – 17 ประตู

แม้ว่าจะมีข่าวย้ายทีมมาตลอดนับตั้งแต่ยุคของ โชเซ มูรินโญ จนมาถึงการทำทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา แต่ ป็อกบา ก็ยังคงความยอดเยี่ยมในแดนกลางเอาไว้ได้ โดยจุดเด่นที่สำคัญนอกจากทรงผมและลีลาการทำเกมแล้ว การยิงประตูถือเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคุ้นเคยกันดี

ตอนที่กุนซือวัย 48 ปีรับหน้าที่คุมทีมชั่วคราวเมื่อปลายปี 2018 กองกลางเฟร้นช์แมนก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง โดยิงไปทั้งหมด 16 ประตูในทุกรายการ โดย 11 ประตูมาจากยุคของนายใหญ่นอร์วีเจี้ยน

จากนั้นเมื่อเข้าสู่ซีซันใหม่ 2019-2020 การมาของ บรูโน แฟร์นันเดส ในช่วงปีใหม่ทำให้ ป็อกบา ยกระดับการเล่นของตัวเองได้ดีขึ้นและมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมกลับมาฟอร์มดีหลังจากที่ฟุตบอลกลับมาลงเตะกันอีกครั้งจากการหยุดไป 3 เดือนเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด จนทำให้พวกเขาคว้าอันดับ 3 ไปครองและได้ไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ส่วนในซีซันนี้ ป็อกบา ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับข่าวเรื่องการย้ายทีม แต่เมื่อมีโอกาสลงสนาม เขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังโดยเฉพาะในช่วงคริสมาสต์จนถึงปีใหม่ที่เจ้าตัวเป็นคนทำประตูสำคัญช่วยพาทีมแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงครั้งแรกในรอบ 8 ปี ก่อนจะโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โกยแต้มทิ้งไม่เห็นฝุ่นในเวลานี้

4. เมสัน กรีนวู้ด – 22 ประตู

นี่คือหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของ โอเล กุนนาร์ โซลชา การค้นพบ กรีนวู้ด ถือเป็นการปลุก ปีศาจแดง ให้ตื่นจากการหลงทางในตลาดซื้อขายนักเตะ เพราะนี่คือเลือดเนื้อเชื้อไขของทีมและเมื่อถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เจ้าตัวก็ไม่ทำให้บอสและแฟนบอลต้องผิดหวังด้วยการยิงประตูอย่างถล่มทลาย

ต้องขอบคุณการจากไปของ โรเมลู ลูกากู ที่ตัดสินใจย้ายไป อินเตอร์ มิลาน ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการคาดการณ์เกี่ยวกับกองหน้าคนใหม่ในตลาดซื้อขาย แต่กุนซือไวกิ้งเลือกที่จะหันไปดันนักเตะเยาวชนอย่าง กรีนวู้ด ขึ้นมาเสียบแทนตำแหน่งในทีมชุดใหญ่และกำลังสร้างตำนานบทใหม่ให้กับตัวเอง

กองหน้าชาวเมืองผู้ดียิงประตูแรกในเกมกับ แอสตานา ใน ยูโรป้าลีก เมื่อเดือนกันยายน 2019 ทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรที่ยิงประตูได้ในเกมยุโรปได้คือ 17 ปีกับ 353 วัน จากนั้นอีก 2 เดือนต่อมาเจ้าหนูรายนี้ก็ยิงประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในเกมที่เสมอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-3 พร้อมกับจบซีซันนั้นด้วยการยิงไป 17 ประตูในทุกรายการโดยเป็นการยิง 10 ประตูในลีก

อย่างไรก็ตาม กรีนวู้ด ก็โดนเล่นงานด้วยโรค “เซคันด์ซีซันซินโดรม” หรือโรคซีซันที่สอง เขายังโชว์ฟอร์มได้ไม่สม่ำเสมอนัก โดยถึงตอนนี้เพิ่งยิงไปแค่ 5 ประตูเท่านั้น

3. อองโตนี มาร์กซิยาล – 34 ประตู

มาร์กซิยาล เกือบจะไม่มีอนาคตในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ภายใต้การนำของ โชเซ มูรินโญ แล้ว แต่โชคดีที่การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมมาเป็น โอเล กุนนาร์ โซลชา ในช่วงเดือนธันวาคมปี 2018 ทำให้เขากลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ก่อนจะจบซีซัน 2018-2019 ด้วยการยิงไปทั้งหมด 12 ประตู

มาถึงฤดูกาลที่นายใหญ่ไวกิ้งได้คุมทีมเต็มตัว ซึ่งทำให้กองหน้าชาวฝรั่งเศสระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก โดยเขายิงไปถึง 23 ประตูในทุกรายการ

มาในซีซันนี้ มาร์กซิยาล เปิดตัวอย่างเร้าใจด้วยการยิงแฮททริคแรกของตัวเองกับสโมสรใส่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งกลายเป็นการทำแฮททริคแรกของสโมสรนับตั้งแต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ ทำได้ในปี 2013 เมื่อเดือนเมษายนในเกมกับ แอสตัน วิลลา

จากนั้นมาก็มีแต่ความน่าผิดหวัง ทั้งอาการบาดเจ็บและฟอร์มตก ประกอบกับการมาของ เอดิสัน คาวานี กองหน้าชาวอุรุกวัยทำให้เขาต้องเสียตำแหน่งตัวจริงไป และยิงประตูได้จุ๋มจิ๋มเพียงแค่ 7 ลูก และกลายเป็นเป้าหมายในการโดนขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์นี้ไปแล้ว

2. บรูโน แฟร์นันเดส – 35 ประตู

ทั้ง ๆ ที่เพิ่งย้ายมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 แต่ บรูโน ก็กลายเป็นหัวใจสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็น “เดอะแบก” ของทีมมาจนถึงวันนี้

กองกลางโปรตุกีสใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนในการยกระดับทีมและยิงประตูช่วยพาทีม ปีศาจแดง กลับไปเล่นในฟุตบอล ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ โดยเขายิงไปทั้งหมด 12 ประตูจากการลงสนาม 22 เกม กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลไปโดยทันที

ในซีซันนี้มิดฟิลด์วัย 26 ปีก็ยังคงสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลได้อย่างต่อเนื่องด้วยการมีส่วนร่วมกับประตูทั้งสิ้น 36 ลูก แบ่งเป็นยิงได้ 23 ประตูและแอสซิสต์ 13 ครั้ง ซึ่งหากนับเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก เจ้าตัวมีส่วนร่วมไปมากถึง 26 ประตูเป็นรองเพียง แฮร์รี เคน ของ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ที่มีส่วนร่วมไป 30 ประตูเท่านั้น

ถึงตอนนี้หลายคนมองว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า บรูโน แฟร์นันเดส คือนักเตะที่สำคัญที่สุดของทีม เพราะเมื่อนับจำนวนเกมทั้งหมดในซีซันนี้ที่ ยูไนเต็ด เล่นไปแล้ว 47 เกม เขาพลาดการลงสนามให้กับทีมเพียง 2 เกมเท่านั้น

1. มาร์คัส แรชฟอร์ด – 49 ประตู

ในขณะที่ บรูโน แฟร์นันเดส คือนักเตะที่กลายเป็น “เดอะแบก” ของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลด 12 เดือนที่ผ่านมา ในอีกด้านหนึ่งเราก็สามารถพูดได้ว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด คือกองหน้าที่ยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอที่สุดในช่วง 2 ปีที่ โซลชา คุมทีมเช่นกัน

“แรชชี่” คือคนแรกที่ยิงประตูได้ในนัดแรกของการทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราวของนายใหญ่ไวกิ้ง ในเกมที่เจอกับ คาร์ดิฟ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 ด้วยการปั่นฟรีคิดเสียบตาข่ายตั้งแต่นาทีที่ 4 ของการแข่งขัน ทำให้บอสคนใหม่เปิดตัวได้อย่างสวยงามก่อนจะคว้าชัยชนะสุดหรู 5-1

ยังไม่พอ กองหน้าวัย 23 ปียังเป็นคนยิงจุดโทษในนาทีสุดท้ายให้ ยูไนเต็ด เอาชนะ ปารีส แซง-แชร์กแมง ไป 3-1 ในค่ำคืนแห่งความทรงจำในเกม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอ้าท์เลกที่ 2 ที่ทำให้พวกเขาพลิกสถานการณ์สามารถเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จเมื่อเดือนมีนาคมปี 2019

เมื่อเข้าสู่ซีซันแรกอย่างเต็มตัวของ โซลชา แรชฟอร์ด ก็ประเดิมประตูในเกมแรกของฤดูกาล 2019-2020 ให้ เร้ดเดวิลส์ เอาชนะ เชลซี ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ไป 4-0 และตลอดฤดูกาลนั้นเขาก็ยิงไปทั้งหมด 22 ประตูในทุกรายการและยิงในลีกไปถึง 17 ลูก

มาในฤดูกาลนี้แม้จะมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ดาวยิงทีมชาติอังกฤษก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องโดยยิงไปแล้ว 18 ประตูในทุกรายการ โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่เกม แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ยิงประตูชัยเอาชนะ เปแอชเช ได้อีกครั้งถึงถิ่นและซัดแฮททริคใส่ อาร์เบ ไลป์ซิก ในชัยชนะ 5-0 ในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อปลายปีก่อน

ร็อดเจอร์ส เชื่อ แมดดิสัน จะคืนฟอร์มพร้อมติดทีมชาติอังกฤษไปเตะ ยูโร 2020

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของ เลสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่า เจมส์ แมดดิสัน ลูกทีมของตนจะมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปลงเล่นในฟุตบอล ยูโร 2020 ในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน ตามรายงานจาก เดลีเมล

เพลย์เมคเกอร์วัย 24 ปีต้องร้างสนามไปร่วมเดือนหลังจากได้รับบาดเจ็บที่สะโพกในเกมที่ชนะ แอสตัน วิลลา ไป 2-1 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เขาไม่มีชื่อในทีมชาติอังกฤษชุดลงเล่นฟุตบอลโกลรอบคัดเลือกที่ผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ นี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม “บีร็อด” มั่นใจว่า คลาสบอล แมดดิสัน จะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมสิงโตคำรามในช่วงซัมเมอร์นี้ได้อย่างแน่นอน

“เขาได้แสดงให้เห็นถึงระดับการเล่นที่สม่ำเสมอซึ่งทำให้เขารับประกัยนตำแหน่งในทีมได้ แต่เห็นได้ชัดว่ามันมีการแข่งขันสูงมากและมีนักเตะที่มีพรสวรรค์มากมาย”

“แต่ถ้าเขาสามารถกลับมาและเล่นได้ในระดับที่เคยทำได้ ซึ่งนั่นจะทำให้ แกเร็ธ และทีมงานของเขาต้องตัดสินใจ แน่นอนว่าเขาอยากจะมีชื่ออยู่ในทีม เขาแค่ต้องตั้งสมาธิในการกลับมาเพื่อลงเล่นให้กับ เลสเตอร์ และกลับไปสู่จังหวะมี่คุ้นเคยและจบฤดูกาลนี้อย่างแข็งแกร่ง นั่นคือทุกอย่างที่คุณสามารถทำได้” ร็อดเจอร์ส กล่าว

ลิเวอร์พูล เปิดเจรจาอดีตปีก แมนฯ ยูไนเต็ด หวังซิวร่วมทีมไร้ค่าตัว

มีรายงานสโมสร ลิเวอร์พูล ได้ทำการยื่นข้อเสนอให้กับ เมมฟิส เดปาย กองหน้าของ โอลิมปิค ลียง ก่อนที่เจ้าตัวจะหมดสัญญากับสโมสรในซัมเมอร์นี้ ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูลเอ็คโค

เยอร์เก้น คล็อปป์ กำลังต้องการเสริมทีมในช่วงซัมเมอร์หลังจากที่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก และกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อค้วาโควต้า ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้ในฤดูกาลหน้า

ในขณะเดียวกันอดีตดาวเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดว่าจะอำลาต้นสังกัดหลังจบฤดูกาล โดยมีข่าวเชื่อมโยงกับ บาร์เซโลนา ซึ่งมี โรนัลด์ คูมัน อดีตผู้จัดการทีมชาติฮอลแลนด์เป็นเฮดโค้ช

อย่างไรก็ตามรายงานจาก มาร์ก้า สื่อดังจากสเปนระบุว่า ลิเวอร์พูล ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อเซ็นสัญญากับกองหน้าวัย 27 ปีซึ่งอยู่ในช่วงที่เจ้าตัวสามารถเปิดการเจรจากับสโมสรต่าง ๆ จากนอกประเทศได้

เดปาย เคยเล่นใน พรีเมียร์ลีก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2015-2017 ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาจึงได้ย้ายมาเล่นให้กับ ลียง และกลับมาแจ้งเกิดในวงการลูกหนังได้สำเร็จจนมีข่าวกับหลายทีมในยุโรป ณ เวลานี้