เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สิงห์บลู บุกคว้า อเวย์โกล

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 27 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : เรอัล มาดริด 1-1 เชลซี
สนาม : อัลเฟรโด ติ สเตฟาโน

ตลอด 90 นาทีของเกมนี้ ต้องบอกว่าต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่แลกกันได้อย่างสูสี แต่ดูเหมือนว่าโอกาสในการเข้าทำนั้น เชลซี ดูจะทำได้ชัดเจนและหวาดเสียวมากกว่า ซึ่งต้องชมบรรดาตัวรุกรวมถึงผู้เล่นในแดนกลางของ สิงห์บลู ที่วันนี้ต่อบอลเท้าสู่เท้าสร้างสรรค์โอกาสได้ค่อนข้างแม่นยำ ทั้ง เมสัน เมานท์ เดอะแบกของทีมในชั่วโมงนี้ที่วันนี้มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากพอสมควร และที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ “กัปตันอเมริกา” คริสเตียน พูลิซิช ที่วันนี้ดูจะเล่นงานแนวรับของเจ้าบ้านได้ดีชนิดที่โดนไล่เตะล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง ในขณะที่ฝั่ง ราชันชุดขาว ตัวรุกที่ฟอร์มกำลังแรงอย่าง วินิซิอุส กลับเล่นไม่ออก ยังดีที่พวกเขามีตัวเก๋าอย่าง เบนเซมา ที่ยังสามารถแบกเกมรุกไว้บนบ่าช่วยให้ทีมไม่แพ้กลับออกมาในค่ำคืนนี้

หากใครได้ชมเกมในนัดนี้ จะเห็นได้ว่าต้นเกม เชลซี ทำได้ดีกว่ามาก แถมยังสร้างสรรค์โอกาสสวย ๆ ได้หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะที่ เมานท์ หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนโยนมาให้ พูลิซิช โขกตั้งมาหน้าประตูแบบโล่ง ๆ แต่ เจ้ากรรม ติโม แวร์เนอร์ กลับยิงโล่ง ๆ ไปติดเซฟของ กูร์ตัวส์ ชนิดที่แฟน เชลซี หลายคนคงยืนขึ้นแล้วเอามือกุมศีรษะเลยทีเดียว แน่นอนลูกนี้ต้องชมอดีตนายด่าน สิงห์บลู ที่ปฏิกิริยาไวยื่นขาออกมาขวางไว้ได้ทัน แต่ในมุมของศูนย์หน้า ทั้งโล่งทั่งจ่อขนาดนี้ ยังไงก็ต้องตุงตาข่ายเท่านั้น แต่ก็ดันพลาด !

ตลอด 90 นาที เรอัล มาดริด แม้จะสร้างสรรค์โอกาสได้หลายครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่าแทบไม่สามารถสร้างความหนักใจให้กับแผงหลัง เชลซี ได้เลย แดนกลาง 3 คนก้เป็น กาเซมิโร ที่ดูจะทำได้ดีที่สุดเพราะต้องรับบทหนักไปกับเกมรับ ส่วนทั้ง โมดริช และ โครส กับไม่สามารถสร้างอิมแพคให้ทีมได้มากนัก เช่นเดียวกับตัวรุกอย่าง วินิซิอุส หรือแม้แต่ เอเดน อาซาร์ ก็ยังไม่มีทีเด็ดทีขาดมากพอที่จะทำอันตรายแนวรับ สิงห์บลู ได้ จะมีก็แต่เพียงความเก๋าของ คาริม เบนเซมา ที่วันนี้ดูจะฝากความหวังเอาไว้ได้ทั้งจากจังหวะยิงตีเสมอรวมถึงลูกยิงไกลชนเสาในครึ่งแรกเท่านั้น

นั่นแสดงให้เห็นว่า ซีดาน จำเป็นต้องงัดแทคติกเป็นทีเด็ดออกมามากกว่าการหวังเพิ่งความสามารถของกองหน้าตัวเก๋าวัย 33 ปีอย่าง เบนเซมา ให้แบกทีมไปจนถึงฝั่งฝัน เพราะดูจากทรงแล้ว หากยังแก้ปัญหานี้ไม่ตก การออกไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจแทบจะไม่เห็นหนทางที่จะคว้าชัยกลับออกมาและทะุเข้าสู่รอบชิงเลยก็ว่าได้…