( คลิปข่าว) ราชดำเนิน เปิดตัวโปรโมเตอร์ลุยศึกสิงห์มาวิน

“เวทีมวยราชดำเนิน” เสาหลักแห่งวงการมวยไทย เปิดตัวโปรโมเตอร์มวยไทย จากค่าย”สิงห์มาวิน” ที่จะเข้ามามีบทบาท จัดชกมวยไทย ภายใต้ชื่อรายการชก “ศึกสิงห์มาวิน”

เวทีมวยราชดำเนิน กรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโปรโมเตอร์มวยประจำเวทีราชดำเนิน ที่จะเข้ามารับหน้าที่ในการจัดชกมวยไทยตั้งแต่พฤษภาคม เป็นต้นไป โดยมี เฉลิมพงษ์เชี่ยวสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเวทีราชดำเนิน จำกัด เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย จิต เชี่ยวสกุล นายสนามมวยเวทีราชดำเนินและ ธัชชานนท์ คชชาสุวรรณหรือ หนึ่ง สิงห์มาวิน เจ้าของค่ายมวยไทย “สิงห์มาวิน”

ทั้งนี้การเปิดตัวโปรโมเตอร์คนใหม่ของเวทีราชดำเนิน เนื่องจากในการทำงานร่วมกันระหว่าง ผู้บริหารสนามมวยเวทีราชดำเนิน รวมกับ เจ้าของค่ายมวยไทย “สิงห์มาวิน”ต่างฝ่ายเห็นถึงแนวทางการทำงานที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะความต้องการ ที่จะร่วมกันพลิกฟื้นอุตสาหกรรมมวยไทย การทำงานที่สามารถสร้างความเป็นมืออาชีพ และมิติที่แปลกใหม่ให้กับวงการมวย เพื่อตอบสนองแฟนมวย และทำให้แฟนมวยกลับเข้าสนามมวยเพิ่มขึ้นขณะที่ในส่วนของเวทีมวยราชดำเนิน กำลังเดินหน้ายกเครื่องระบบสื่อสารและ ทำการตลาด เพื่อโปรโมทให้มวยไทย กลับมาอยู่ใน กระแสความนิยมอีกครั้ง สำหรับโปรโมเตอร์จากค่ายมวยสิงห์มาวิน มีโปรไฟล์เคยผ่านประสบการณ์ทำทีมฟุตบอลสงขลาเอฟซี มาก่อน ในยุคที่เล่นไทยพรีเมียร์ลีก อันเป็นช่วงที่วงการฟุตบอลอาชีพขณะนั้นเติบโตสูงสุด สามารถทำยอดผู้ชมมากว่า1 หมื่นคน ก่อนที่จะเฟดตัวเอง หันมาปลุกปั้นค่ายมวยไทย และยกระดับสู่ การเป็นโปรโมเตอร์ให้ เวทีมวยราชดำเนิน ทั้งเวทีมวยราชดำเนิน จะประเดิมกับการจัดชกมวยไทยภายใต้ชื่อรายการว่า “ศึกสิงห์มาวิน” ตั้งแต่ 29 พฤษภาคม เป็นต้นไป

( รายงาน) ต่อพิฆาต เป้าหมาย 2019 … ต้องดีกว่าเดิม

สร้างผลงานกับฤดูกาลแรกของฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2018 ด้วยการจบผลงาน ด้วยอันดับ 6 ของตารางจาก 18 ทีม ส่วนฤดูกาล 2019 ที่ออกสตาร์ทไปแล้ว 7 นัด เป็นความมั่นใจของกุนซือ ” ต่อพิฆาต”ว่า ซีซั่นนี้ พวกเขาน่าจะทำผลงานออกมาได้ดี เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

เป็น1 ใน 3 ทีมที่เลื่อนชั้นจากไทยลีก2 หรือดิวิชั่น 1 เดิม มาเล่นยังไทยลีกหรือไทยลีก 1 ฤดูกาล 2018 และจบผลงานในลีกสูงสุดด้วยอันดับ6 จาก 18 ทีมของตารางนี่คือการออกสตาร์ทของน้องใหม่ไทยลีก 2018 (ในขณะนั้น)สำหรับ”ต่อพิฆาต” พีที ประจวบเอฟซีที่น่าสนใจคือ หากเปรียบเทียบกับ 2ทีมที่ก้าวขึ้นมาพร้อมกันล้วนมีบทสรุปที่ต่างกัน

เริ่มจาก”นักสู้ภูธร”หรือ”นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิลที่จบผลงานที่อันดับ 13 ของตารางหรือในแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะอันดับ 14 จนถึง 18 ลงไป คือทีมที่ตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 และ ทีมที่ 18ตกชั้นไทยลีก 1 คือ”อินทรีทัพฟ้า” แอร์ฟอร์ซเซ็นทรัล เอฟซีที่ก้าวขึ้นมาในลีกสูงสุดแบบฤดูกาลเดียวและต้องตกชั้นลงไป

กรณีของ”ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ผลงานปีแรกบนลีกสูงสุด ฤดูกาล 2018 จึงเป็นสิ่งที่หักปากกาเซียนอย่างแท้จริงเพราะเป็นการจบผลงานเมื่อสิ้นฤดูกาลด้วยเลขตัวเดียว ผลงานตลอดฤดูกาล 2018 ของทัพ “ต่อพิฆาต” ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทีมนี้”ไม่ธรรมดา”เพราะ 34 นัดในลีกสูงสุดเป็นการชนะ 15 เสมอ 8 แพ้ 11 เก็บได้ 53คะแนน ห่างจ่าฝูงไทยลีก 2018 อย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เก็บได้ 87 คะแนนหรือห่างกัน 34 คะแนน

ความสำเร็จในการเอาตัวรอดได้แบบ”พลิกความคาดหมาย” หรือลบคำสบประมาทของสื่อกีฬาที่วิเคราะห์ล่วงหน้าว่าพีที ประจวบ เอฟซี ไม่น่าจะรอดหรือทำอันดับได้ดีต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งว่านี่คือการทำงานหนักของ”โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูลกับเหล่าพลพรรค”ต่อพิฆาต”

ทั้งนี้”โค้ชวัง”ไปรับงานในถิ่นสามอ่าวสเตเดี้ยมในฤดูกาล 2017 เมื่อครั้งอยู่ในไทยลีก 2 หลังการก้าวออกไปของ”โค้ชโอ่ง”ดุสิต เฉลิมแสนซึ่งขณะนั้น(ฤดูกาล 2017) “โค้ชโอ่ง” ย้ายไปรับงานให้ศรีสะเกษเอฟซี และด้วยการอยู่กับทีมอย่างต่อนื่อง ตั้งแต่ดิวิชั่น 1 จนมาถึงไทยลีก1สิ่งเหล่านี้คือการสะสมองค์ความรู้หรือการมองเห็นถึงแนวทางที่จะวางโครงสร้างทีมเพื่อรับมือการต่อสู้จนทำให้ปีแรกในลีกสูงสุด”โค้ชวัง”สามารถจบผลงานได้เกินเป้าหมาย

ธวัชชัย ดำรงอ่องตะกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอน “ต่อพิฆาต”ให้สัมภาษณ์ว่า หากประเมินผลงานในลีกสูงสุด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย เพราะเป็นการจบผลงานด้วยเลขตัวเดียวคืออันดับ 6 ของตาราง ซึ่งก่อนเปิดฉากของฤดูกาล 2018 ทราบดีว่า พีทีประจวบ เอฟซีถูกประเมินว่าน่าจะดิ้นรนอย่างหนักเพราะเป็นทีมน้องใหม่ อีกทั้งไทยลีก 1 ในขณะนั้นตกชั้นด้วยกันถึง 5 ทีมแต่ด้วยการทำงานหนักของทุกฝ่ายก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงผลลัพธ์ที่ออกมาอย่างน่าพอใจ

ส่วนฤดูกาล 2019 มั่นใจว่าทีมจะทำผลงานได้ดีแม้จำนวนทีมในลีกจะลดลงเหลือเพียงแค่ 16 ทีมแต่หากประเมินจาก 7 นัดที่ออกสตาร์ทของฤดูกาล 2019 และพีทีประจวบ เอฟซี อยู่ที่อันดับ 3 ของตาราง จากการชนะ 4แพ้ 3 เก็บได้ 12 คะแนนในขณะที่จ่าฝูงของตารางคือ การท่าเรือ เอฟซี เก็บได้ 14 คะแนนสิ่งเหล่านี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าทีมยังคงอยู่ในเส้นทางที่มั่นคงและน่าพึงพอใจในการออกสตาร์ท7 เกมแรก ที่สามารถตุนคะแนนได้อย่างน่าพอใจส่วนผลงานของฤดูกาลนี้จะทำได้ดีกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาหรือไม่ยังคงต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างแต่สิ่งที่มั่นใจคือการวางรากฐานตั้งแต่เริ่มต้นที่น่าจะเป็นผลที่ส่งไปถึงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล

“ฤดูกาล 2019 สำหรับผมกับการทำงานที่นี่เป็นความอบอุ่น ที่ผมรับรู้ได้ ได้ทำงานอย่างมีความสุขมีผู้ใหญ่ที่ให้อิสระในการทำงาน มีทีมงานที่ดี มีนักเตะที่เข้าใจคอนเซ็ปต์ทีมรวมทั้งการมีแฟนบอลที่เหนียวแน่นปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่สร้างความสุขในการทำงานให้ผมและสิ่งที่ผมจะทำในฤดูกาลนี้ก็คือพาทีมทำผลงานให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลลีกหรือฟุตบอลถ้วย” ธวัชชัย กล่าว

ปีนี้จึงเป็นอีกความท้าทายของ “ต่อพิฆาต” พีทีประจวบ เอฟซี ต่อการพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางที่ท้าทายกับไทยลีก1 หลังจากทำสำเร็จมาแล้วในฤดูกาล 2018 ที่จบผลงานด้วยเลขตัวเดียว

( คลิปข่าว) เทิดศักดิ์ ใจมั่นจากชลบุรีสู่ภูเก็ต

เป็นอีกหนึ่งตำนานของ”ชลบุรี เอฟซี” เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่กลับมาสานต่องานภาคสนาม หลังแขวนสตั๊ด ด้วยการคุมทัพให้ ภูเก็ต ซิตี้ ติดตามรายงานได้จาก โสภณ เพชรแท้

เทิดศักดิ์ ใจมั่น หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอล ภูเก็ตซิตี้ ทักทายกับสตาฟของทีมฟุตบอลราชประชา เอฟซี ในนัดที่ ภูเก็ต ซิตี้ ออกมาเยือน ราชประชาที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธนบุรี เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ฤดูกาล 2019 เทิดศักดิ์ ใจมั่น อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยและนักเตะที่เป็นตำนานคนหนึ่งให้กับชลบุรีเอฟซี ก้าวออกมาจากถิ่นฉลามชล มารับงานให้กับภูเก็ต ซิตี้ ทีมในไทยลีก 3 กลุ่มล่าง ถือเป็นการกลับคืนสู่งานภาคสนามอย่างเต็มตัวในบทบาทของเฮดโค้ช หลังจากเคยผ่านประสบการณ์ผู้จัดการทีมฟุตบอลให้กับชลบุรี เอฟซี ทีมในไทยลีก 1 ฤดูกาล 2016 และ 2017 และการออกสตาร์ทกับ 6 เกมในไทยลีก 3 ก็ทำให้ เขาเรียนรู้ว่ายังต้องทำงานหนักเพื่อพาภูเก็ต ซิตี้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย

6 เกมแรกของภูเก็ต ซิตี้ ในมุมของเทิดศักดิ์ แน่นอนว่า นี่คือ การสูญเสียโอกาส เพราะเป็น6 เกม ที่ชนะเพียง 1เสมอ 3 แพ้ 2 อยู่ที่อันดับ11 จาก 14 ทีม ของตาราง ซึ่งเท่ากับว่า จากนี้ไป คือ การที่จะต้องเร่ง ฟื้นฟูแนวทางของทีมเพื่อยกระดับผลงานทีมฟุตบอลภูเก็ต ซิตี้ ในเชิงโครงสร้างพึ่งพาความร่วมมือด้านต่างๆ จากชลบุรี เอฟซี ทีมฟุตบอลชั้นนำในไทยลีก นั่นจึงทำให้เทิดศักดิ์ใจมั่น อดีตเพลย์เมกเกอร์ ได้ก้าวเข้ามามีบทบาท ในการคุมทัพให้กับเรือใบสีทอง เป็นการออกเดินทางจากชลบุรี สู่ภูเก็ต

ทีมหญิงวางเป้ารอบสุดท้าย"จูเนียร์เฟดคัพ"-นักหวดชายคว้าที่8


3 นักหวด เยาวชนหญิงทีมชาติไทย พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช, ลัลนา ธาราฤดี และ ธมนพรรณ จงเลิศตระกูล พร้อมลงหวดกับรายการ “จูเนียร์ เฟดคัพ บาย บีเอ็นพี พาริบาส์ 2019” ที่จะดวลแร็คเก็ต ตั้งแต่ 15-20 เม.ย. ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี

คุณหญิงปัทมา ขอคนไทย เชียร์ บาส-ปอป้อคว้าชัยแบดสิงค์โปร์

“บาส”เดชาพล พัววรานุเคราะห์-“ปอป้อ”ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 4 ของโลก ทำผลงานผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกหวดลูกขนไก่ “สิงคโปร์ โอเพ่น 2019” ที่สิงคโปร์ ซึ่งจะดวลกับมาเลเซีย วันอาทิตย์นี้ นายกสมาคมกีฬาแบด ฝากขอแรงใจคนไทย รวมเชียร์นักกีฬาไทย สร้างผลงาน

แบดมินตันสะสมคะแนนโลกเวิลด์ทัวร์ระดับซูเปอร์ 500 “สิงคโปร์ โอเพ่น 2019” ที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 13 เมษายน ใน รอบรองชนะเลิศ คู่ผสม “บาส”เดชาพลพัววรานุเคราะห์-“ปอป้อ”ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 4 ของโลก ดวลกับเจิ้งซิเหว่ย-หวง หย่าเฉียง คู่มือ 1 ของโลก จากจีน ซึ่งในปีนี้คู่จากจีน ทำผลงานยอดเยี่ยมยังไม่แพ้ใครเลยและคว้าแชมป์ไปได้แล้ว ถึง 3 รายการติดต่อกันที่ลงแข่งขันสำหรับสถิติที่ทั้งคู่พบกันมา 6 ครั้ง เป็นคู่แดนมังกรเอาชนะได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามในการพบกันรอบนี้คู่ บาส-ปอป้อ โชว์เกมรับที่เหนียวแน่นและจังหวะการตีที่แม่นยำกว่า พลิกเอาชนะไปได้อย่างสุดมัน 2 เกมรวด คือ 24-22และ 21-19ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบ ตัน เคียง เม็ง-เป่ย จิง ไล้ คู่มือ 26ของโลก จากมาเลเซีย ในวันอาทิตย์ ที่14 เม.ย. ซึ่งรอบชิงชนะเลิศจะเริ่มแข่งขันคู่แรกตั้งแต่เวลา 12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูลนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศ มาจากการเล่นที่ท็อปฟอร์มของบาส-ปอป้อ มีการเตรียมแผนการเล่นมาดีแก้เกมดี มีหลายจังหวะที่เหมือนจะเสียเปรียบแต่ก็พลิกสถานการณ์กลับมาได้แต้มโดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่สามารถปิดเกมเอาชนะได้ บ่งบอกถึงการพัฒนาด้านสมาธิและจิตใจของทั้งคู่ส่วนในรอบชิงฯ ที่บาส-ปอป้อ จะเจอคู่หวดจากมาเลเซีย ซึ่งอันดับโลกของ บาส-ปอป้อดีกว่า และสถิติที่เจอกัน 4 ครั้งผลัดกันแพ้-ชนะมา แต่ก็มั่นใจว่าบาส-ปอป้อไม่ประมาทแน่นอน หวังว่าในรอบชิง คู่ของ บาส ปอป้อจะสามารถคว้าแชมป์รายการเก็บคะแนนสะสม เวิลด์ทัวร์ 500 เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ ในนามของนายกสมากีฬาแบดมินตัน อยากขอกำลังใจจากแฟนกีฬาชาวไทยร่วมส่งแรงใจเชียร์กันเพื่อให้ทั้งคู่คว้าแชมป์เป็นของขวัญให้กับชาวไทยในเเทศกาลสงกรานต์

ซัลบา เสียดาย ช้างศึกU15 จบสกอร์ไม่เฉียบ ทำพ่าย เลกาเนส

ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย เฮดโค้ช “ช้างศึกu15” รู้สึกเสียดายที่ลูกทีมจบสกอร์ไม่เฉียบขาด ทำให้พ่าย สโมสร เลกาเนส รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ไปอย่างหวุดหวิด 0-1

ขุนพล “ช้างศึกu15” ลงสนามอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายในการเดินทางมาเก็บตัวที่ประเทศสเปน พ่ายให้กับสโมสร เลกาเนส รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ไปอย่างหวุดหวิด 0-1 ทำให้สรุปผลงาน 4 นัด สามารถเก็บชัยชนะ 1 นัด จาก กิโรน่า ด้วยสกอร์ 3-2  และแพ้ไป 3 นัด จากการแพ้ บาร์เซโลน่า, แอต. มาดริด และล่าสุดกับ เลกาเนส

หลังเกม ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย เฮดโค้ชของทีม กล่าวว่า “เกมนี้ผมพอใจกับฟอร์มการเล่นของนักเตะทุกคน น่าเสียดายที่เรามีโอกาสยิงประตูมากมายแต่ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ได้”

“ผมคิดว่าการที่เราทำผลงานได้ดีเพราะว่าทีมเราไม่มีซูเปอร์สตาร์ เราทำงานกันเป็นทีม ทำงานหนักร่วมกัน นักเตะเล่นเกมเพรสซิ่งแดนบนได้ดี ซึ่งวันนี้เรามีโอกาสทำประตูเยอะมาก ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เราทำได้ดีและกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ครับ”

“สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือการเสียประตูในช่วง 10 นาทีแรก เราโดนยิงประตูตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกำชับกับนักเตะก่อนลงสนามทุกครั้งว่าต้องมีสมาธิ ซึ่งหลังจากกลับไปยังประเทศไทยนักเตะทุกคนต้องนำข้อผิดพลาดตรงนี้ไปพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม”

สำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 14 เมษายน 2562 จากนั้นจะมีโปรแกรมลงแข่งขันฟุตบอล ยู-16 ชิงแชมป์อาเซียน 2019 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ช่วงปลายเดือนกรกฏาคมนี้ ซึ่ง เจ้าหนูช้างศึก อยู่สาย บี ร่วมกับ ออสเตรเลีย, มาเลเซีย, บรูไน, ลาว และ กัมพูชา

ช้างศึก สุดต้าน พ่าย อุรุกวัย 0-4 คว้ารองแชมป์ไชน่า คัพ

“จอมโหด” อุรุกวัย โชว์คลาสที่เหนือกว่า เอาชนะ ทีมชาติไทย ขาดลอย 4-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลไชน่า คัพ 2019 ไปครอง ขณะที่ “ช้างศึก” ได้รองแชมป์ ศึกฟุตบอล ไชนา คัพ 2019 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562

ฟุตบอล ไชนา คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 25 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. ที่สนามกว่างซี สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์, นครหนานหนิง ทีมชาติไทย อันดับ 115 ของโลก ลงสนามพบกับ ทีมชาติอุรุกวัย อันดับ 7 ของโลก

โดย “ช้างศึก” เอาชนะเจ้าภาพ จีน มาได้ 1-0 เกมนี้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เฮดโค้ชยึดผู้เล่นชุดเดิมลงสนามในระบบ 3-5-1-1 นายทวารใช้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเฝ้าเสา

นัสตพล มาลาพันธ์, สุพรรณ ทองสงค์ และ อดิศร พรหมรักษ์ เป็น 3 กองหลัง

วิงแบ็คสองข้างเป็น ทริสตอง โด ฝั่งขวา และซ้ายเป็น ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีม

กองกลางมี สารัช อยู่เย็น, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ชนาธิป ทรงกระสินธ์ เป็นกองหน้าตัวต่ำ ส่วนกองหน้าตัวเป้าใช้ อดิศักดิ์ ไกรษร

ด้าน ออสการ์ ตาบาเรซ บรมครูลูกหนัง “จอมโหด” อุรุกวัย เจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย เอาชนะ อุซเบกิสถาน มา 3-0 ยังขนผู้เล่นตัวเก่งลงสนามในระบบ 4-4-2 นำโดย ดิเอโก้ โกดิน ทำสถิติลงสนามมากที่สุดให้ทีม “จอมโหด” ที่ 126 นัด รวมถึง โฆเซ กิเมเนซ, มาร์ติน กาเซเรส, มาธิอัส เวซิโน, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ และคริสเตียน สตูอานี ลงสนามครบครัน

เริ่มเกมมาได้ 6 นาที อุรุกวัย ได้ลูกเตะมุม นิโกลัส โลเดโร เปิดบอลไปให้ มาธิอัส เวซิโน สอดมาโขกเสียบเสาแรกให้ “จอมโหด” ออกนำก่อน 1-0

อดีตแชมป์โลก 2 สมัยครองบอลได้เหนือกว่า นาทีที่ 22 มาธิอัส เวซิโน ได้ยิงไกล แต่บอลไปตรงตัว ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รับไว้ได้

นาทีที่ 27 ไทย ได้ลุ้นประตู จากการยิงไกลของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แต่บอลไม่เข้ากรอบ

นาทีที่ 38 คริสเตียน สตูอานี หลุดไปสุดเส้นหลังแล้วผ่านบอลเรียดไปหน้าประตูให้ แกสตัน เปเรโร ยิงจ่อๆ พา อุรุกวัย นำห่าง ไทย เป็น 2-0

ทำให้หมดครึ่งแรก อุรุกวัย นำห่าง ไทย อยู่ 2-0

ครึ่งหลัง อุรุกวัย ถอดเอา แกสตัน เปเรโร กับ มาธิอัส เวซิโน ออกแล้วส่ง จอร์เจียน เด อาร์ราสกาเอตา และ ลูคัส ตอร์เรย์รา ลงสนาม

นาทีที่ 49 จอร์เจียน เด อาร์ราสกาเอตา เปิดบอลโด่งไปหน้าประตูให้ โฆเซ กิเมเนซ โหม่งหลุดกรอบไป

นาทีที่ 54 อุรุกวัย เกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ จอร์เจียน เด อาร์ราสกาเอตา ไหลบอลตัดแนวรับ “ช้างศึก” ให้ คริสเตียน สตูอานี หลุดไปยิงด้วยซ้าย แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังปัดบอลไปชนเสา

นาทีที่ 58 จอร์เจียน เด อาร์ราสกาเอตา เปิดลูกเตะมุมให้ คริสเตียน สตูอานี ขึ้นโขกคนเดียวเสียบเสาแรกให้ “จอมโหด” หนีห่างเป็น 3-0

ท้ายเกม นาทีที่ 88 มักซิมิเลียโน โกเมซ ยิงไปแฉลบ สุพรรณ ทองสงค์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ อุรุกวัย นำ 4-0

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อุรุกวัย เอาชนะ ไทย ไป 4-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลไชน่า คัพ 2019 ไปครอง ขณะที่ “ช้างศึก” ได้รองแชมป์

ส่วนผลอีกคู่ชิงอันดับ 3 อุซเบกิสถาน ชนะ จีน ไป 1-0

.

.

.

.

มิลาน ขอยืดเวลาโดนกฎแฟร์เพลย์ – Nation TV

“ปีศาจแดงดำ”เอซี มิลาน จาก อิตาลี ลีก กัลโช่ เซเรียอา เตรียมเดินหน้าเจรจากับยูฟ่าหาข้อตกลงใหม่กับกฎแฟร์เพลย์ทางการเงินเพื่อยืดเวลาปรับงบดุลย์ทางบัญชี ในฤดูกาล 2020-21

ทีมดังจากแดนลอมบาร์ดี้ เอซี มิลาน ทำผิดกฎแฟร์เพลย์ทางการเงินและถูกสั่งให้ต้องไม่เสียดุลย์ทางบัญชีภายในฤดูกาล 2020-21 หาไม่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกแบนจากฟุตบอลยุโรป

เอลเลียต เมเนจเม้นท์เจ้าของสโมสรใหม่โต้แย้งว่าพวกเขาไม่สมควรถูกลงโทษจากความผิดพลาดของผู้บริหารชุดเก่าภายใต้การนำของนายหลี่ หยงหง

พวกเขาขอเวลามากขึ้นเพื่อทำให้ไม่เสียดุลย์ทางบัญชีเพราะแนวทางเดียวที่จะทำเช่นนั้นได้คือการขายนักเตะระดับท็อปออกไป

หลังเคยชนะในการอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาเพื่อให้ได้เล่นยูโรป้า ลีกฤดูกาลนี้ ทนายความของมิลานก็ไม่อยากใช้หนทางนี้อีก

ตามการรายงานข่าวจาก คอร์ริเอเล่ เดลล่า เซร่า , ลา ริพับบลิก้า และสื่ออื่นๆของอิตาลีระบุว่ามิลานกำลังเจรจากับยูฟ่าเพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการทางกฎหมายมากกว่านี้และหันมาหาทางออกเพื่อขยายเวลาปรับงบดุลทางบัญชี

มิลานยังอาจใช้การที่ปารีส แซงต์-แชร์กแมงชนะในชั้นศาลต่อกฎแฟร์เพลย์ทางการเงินในสัปดาห์นี้ซึ่งทำให้ยูฟ่าพยายามหลีกเลี่ยงความล้มเหลวอีกครั้ง

เอซี มิลาน ใช้สนามซานซีโร หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สตาดีโอ จูเซ็ปเป เมอัซซา เป็นสนามที่ใช้ในการเล่นในฐานะเจ้าบ้าน ร่วมกับทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่างอินเตอร์

ลูกากู เผยฟอร์มกลับมาเทพได้เพราะ ซลาตัน – Nation TV

กองหน้าร่างตันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากเกาะแดนผู้ดี โรเมลู ลูกากู เปิดใจสุดซาบซึ้งหลังได้เรียนรู้อะไรมากมายจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงจอมเก๋าสมัยที่เล่นร่วมกันกับ “ปีศาจแดง” ชี้ ดาวเตะชาวสวีดิช เป็นคนมุ่งมั่นและจริงจังเสมอไม่เว้นแม้แต่ในการฝึกซ็อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยเปลี่ยนแปลงตนเองเยอะมาก

กองหน้าตู้เย็นโรเมลู ลูกากู กองหน้าตัวเก่ง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยตนพยายามเรียนรู้ทุกอย่างจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกมากประสบการณ์ เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จกับต้นสังกัด สมัยที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกันในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ดาวเตะทีมชาติเบลเยียม ฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงในฤดูกาลนี้ แต่ผลงานของนักเตะโดดเด่นเป็นสง่ามากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ที่ได้ทำงานร่วมกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมที่เข้ามากุมบังเหียน โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม เจ้าตัวฟอร์มกระฉูดสุดๆ ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง

ลูกากู ซึ่งถอนตัวจากการเล่นทีมชาติเบลเยียมเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บเท้า เผยว่าตนยังคงมีความทรงจำที่ดีกับการทำงานร่วมกับ อิบราฮิโมวิช ซึ่งได้แสดงให้เห็นบทเรียนที่แสนล้ำค่าในช่วงแรกที่เขาย้ายมาเล่นให้ “ปีศาจแดง” ขณะที่เป็นซีซั่นสุดท้ายของ ดาวเตะชาวสวีดิชกับทีม

กองหน้าเจ้าของค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ราว 3,075 ล้านบาท) กล่าวว่า “ทุกๆ อย่างที่ผมได้เรียนรู้จาก ซลาตัน มันยอดเยี่ยมมากๆ ตั้งแต่เรื่องราวของเขาที่เขาบอกผมตอนที่เขาอยู่กับ อินเตอร์, เอซี มิลาน, บาร์เซโลน่า และ อาแจ็กซ์ ไปจนถึงการทำงานร่วมกับเขาในสนาม การได้เห็นเขามุ่งมั่นในการแข่งขันมากแค่ไหน”

“ผมจำได้ว่าตอนที่ฝึกซ้อมครั้งหนึ่ง เราสองคนเป็นกองหน้า เราไม่เคยได้เล่นฝั่งเดียวกัน ตอนนั้นมีจังหวะเข้าปะทะ 50/50 เขาใส่ผมเต็มที่ ! นั่นแหละทำให้ผมรู้ว่าชายคนนี้ต้องการการแข่งขัน และชายคนนี้พร้อมสู้เพื่อตำแหน่งของเขา นั่นคือเหตุผลที่เขาเปลี่ยนแปลงผม นี่คือการเปิดหูเปิดตาของผม ชายคนนี้สู้เพื่อตำแหน่งของเขา”

“ดังนั้นผมได้เรียนรู้เรื่องการมีสมาธิ, ทำงานหนัก และมีความสุขในการเล่น เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกได้ด้วย และบุคลิกของเขาในห้องแต่งตัวถือว่าดีเยี่ยมมากๆ” อดีตกองหน้า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน และ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ระบุ

ช้างศึก ยู23 พ่าย เวียดนามเละ 4-0

ศึกฟุตบอล ”เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ 2020” เวียดนามซิวแชมป์กลุ่ม ชนะไทย 4-0 แต่ไทยยังเข้ารอบในฐานะเจ้าภาพ รอเล่นรอบสุดท้ายที่จัดขึ้นปีหน้า 8-26 ม.ค.2563

ศึกฟุตบอล ”เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ 2020” รอบควอลิฟาย นัดสุดท้ายของกลุ่ม เค ทีมชาติไทย พบกับเจ้าภาพ เวียดนาม โดยผลงานของทั้งสองทีมใน 2 แมตช์ที่ผ่านมา เอาชนะได้ 2 นัดรวดมี 6 คะแนนเท่ากัน นัดนี้จึงเป็นการชิงแชมป์กลุ่ม

เกมครึ่งแรก น.17 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮก่อนเมื่อ เหงียน กวาง ไฮ แทงทะลุช่องให้ ฮา ดุ๊ค ชินห์ หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลลอดขา นนท์ ม่วงงาม นายทวารช้างศึก เข้าประตูไปส่ง เวียดนาม ขึ้นนำ 1-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเล่นมาได้ 8 นาที เวียดนาม นำห่าง 2-0 เหงียน กวาง ไฮ แหวกแนวรับทีมชาติไทยก่อนเปิดด้วยซ้ายไปเสาสองให้ เหงียน ฮวง ดุ๊ค ได้ตวัดยิงด้วยซ้ายบอลเสียบมุมเข้าไป

สถานการณ์ของ “ช้างศึก” ย่ำแย่หนัก ใน น.57 เมื่อ “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด คุมอารมณ์ไม่อยู่เหวี่ยงหมัดใส่นักเตะเวียดนามผู้ตัดสินให้ใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ทำให้ไทยต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน

น.63 เวียดนามฟรีคิกโยนเข้าเขตโทษบอลมาเข้าทาง เหงียน ตรันห์ ชุง ได้ยิงระยะเผาขนเข้าไปไม่เหลือ ขยับสกอร์ เป็น 3-0 ก่อนที่ ในช่วงทดเวลา เวียดนาม มายิงปิดท้าย จาก เหงียน วาง เฮาจบเกม เวียดนาม เอาชนะ ไทย 4-0 คว้าแชมป์กลุ่ม เค ได้ไปเล่นรอบสุดท้ายร่วมกับ “ช้างศึก” ที่จบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพ

สำหรับศึก ”ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020” รอบสุดท้าย ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-26 ม.ค.2563 จะมีทีมเข้าร่วมชิงชัยจำนวน 16 ทีม โดยจะคัดเอาทีมแชมป์, รองแชมป์ และอันดับที่ 3 ของทัวร์นาเมนต์ เป็นตัวของทวีปเอเชีย ไปลุยฟุตบอลชายในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. – 9 ส.ค.2563 ต่อไป