[ตัดเกรด] โอริกี้, จินี่ จัดให้ ! แข้ง หงส์ วิ่งสู้ฟัด บดยับ บาร์ซ่า 4-0 (4-3) ลิ่วชิง ชปล.


การแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19 รอบรองชนะเลิศ เลกที่ 2
วันแข่งขัน คืนวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2562
เวลาแข่งขัน 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมเหย้า ลิเวอร์พูล 
ทีมเยือน บาร์เซโลนา 
สนาม แอนฟิลด์
ผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูล 4-0 (4-3) บาร์เซโลน่า

ลิเวอร์พูล

ผู้รักษาประตู 

อาลีสซง เบ็คเกอร์ : 7/10 ช่วยทีมไว้ได้มากในครึ่งเวลาแรก เพราะถ้สเกิดเสียประตูแม้แต่ลูกเดียวรับรองรูปเกมอาจมีท้อแท้แน่นอน

กองหลัง

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ : 8/10 วันนี้เล่นดีใช้ได้เลย เกมบุกที่ดีอยู่แล้วก็มีประโยชน์ ส่วนเรื่องเกมรับที่ไม่ค่อยจะดีเกมนี้กลับทำดีแบบยอดเยี่ยมจริง ๆ

โฌแอล มาติป : 7/10 ใครว่า เอา เมสซี่ ไม่อยู่มาถาม มาติป ได้เลย เกมนี้มีจังหวะพลาดให้เห็นน้อยมาก ลูกกลางอากาศเก็บหมด

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 8/10 เกมนี้เก็บหมด เมสซี่ และ ซัวเรส เล่นยากกันทั้งสองคน

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 7/10 ความมุ่งมั่นที่มีอยู่แล้วเกมนี้มีทวีคูณ มีจังหวะผลักหัว เมสซี่ บอกตามตรงว่าไม่ค่อยชอบเลย น่าเกลียดไปนิดถ้าดูจากภาพช้า ก่อนจะโดนเปลี่ยนออกเนื่องจาก อาการบาดเจ็บ

กองกลาง

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 7/10 คุมจังหวะเกมได้ดี ดูเหมือนเกมนี้จะเป็นกอกลางคนที่สร้างสรรค์เกมมากที่สุดคนหนึ่งเลย

ฟาบินโญ่ ตาวาเรส : 8/10 เก็บกวาดแดนกลาง บาร์ซ่า ได้อยู่หมัด แถมยังโดดเด่นอีกต่างหาก เรียกได้ว่าที่บอลขึ้นไปไม่ค่อยถึง เมสซี่ ก็เพราะว่าไม่ผ่านเขาคนนี้นี่แห่ละ

เจมส์ มิลเนอร์ : 7/10 คล็อปป์ เลือกใช้ความเก๋าและความขยันลงมาบวกกับ แดนกลาง บาร์ซ่า ซึ่งโดยรวมก็ถือว่าไม่เลว เกมนี้ต้องถอยลงไปเล่นแบ็คซ้ายแทน โรเบิร์ตสัน ช่วงครึ่งหลังด้วย

กองหน้า

ดิว็อค โอริกี : 9/10 ฮีโร่ อ่ะ คำนิยามสั้น ๆ เลย

ซาดิโอ มาเน่ : 8/10 วูบวาบ ป่วนแนวรับ บาร์ซ่า ได้ตลอดทั้งเกม เกมนี้แม้ไม่มีรายชื่อทำประตู แต่ผลงานไม่แย่เลย

เซอร์ดาน ชากิรี่ : 7/10 จังหวะการตัดสินใจไม่เด็ดขาด เข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงหลัง คล็อปป์ ถึงไม่ค่อยเลือกใช้งาน

ตัวสำรอง

จอร์จินิโญ่ ไวจ์นัลดุม 9/10 : ไม่รู้ว่าเก็บกดอะไรมา ลงมาแปปเดียว กด 2 ประตูคนเดียว ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที

โจ โกเมซ N/A นาที 85

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ N/A นาที 90

บาร์เซโลน่า

ผู้รักษาประตู

มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น : 6/10 โดนไป 4 ประตู จะให้ว่าไง

กองหลัง

เคราร์ด ปีเก้ : 6/10 ดูเหมือนจะเป็นแนวรับ บาร์ซ่า ที่ผลงานดีที่สุด แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี

เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ : 5/10 การตัดสินใจต้องเด็ดขาดกว่านี้ เกมนี้ดูแกว่งพอสมควรเวลาเจอผู้เล่น หงส์แดง เพลสซิ่ง ใส่

ฆอร์ดี้ อัลบา : 6/10 : บอกตามตรงว่าเกมนี้ไม่มี ซาลาห์ ให้รับมือ แต่ทำไม อัลบา ถึงไม่เข้าฝัก ดูประมาทไปนิด

เซร์จี้ โรเบร์โต้ : 6/10 ดูอึดอัดแปลก ๆ ในเกมนี้ 

กองกลาง

อีวาน ราคิติช : 6/10  ด้วยสปีดที่ช้าทำให้เกมนี้ โชว์ฟอร์มไม่ออกเมื่อเจอความบ้าคลั่งของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล 

เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ : 6/10 ไม่ต่างอะไรกับ ราคิติช 

อาร์ตูโร่ วีดาล : 7/10 ดูจะเป็นกองกลางคนเดียวที่ต่อกรกับ กองกลาง หงส์แดง ได้

กองหน้า

ลิโอเนล เมสซี่ : 6/10 บอลไปไม่ค่อยถึง บ่อยครั้งต้องลงมาล้วงบอลเอง

หลุยส์ ซัวเรซ : 6/10 เกมนี้แสบใช่เล่น แต่ส่วนมากไม่ค่อยมีประโยชน์

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ : 5/10 หายไปจากเกมเลย ยืนงงใน แอนฟิดล์

ตัวสำรอง 

เนลสัน เซเมโด้ 5/10 : ลงมาผิดเวลาไปนิด เกมนี้ฟอร์มโดยรวมจัดการกับ แนวรุก ลิเวอร์พูล ไม่ได้เลย

ลุงขอโทษ ! ซาร์รี ยอมรับทำพลาดจน ก็องเต้ ต้องเจ็บแฮมสตริง

เมาริซิโอ ซาร์รี ผู้จัดการทีม​ เชลซี ยอมรับตามตรงแล้วว่าตนเป็นคนผิดที่คิดส่ง เอ็นโกโล ก็องเต้ ลงสนามไปในเกมชนะ วัตฟอร์ด เพราะทำให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณแฮมสตริง “เอ็นโกโล ก็องเต้ ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณแฮมสตริง ซึ่งผมยอมรับว่าเป็นคนผิดเองที่ตัดสินใจส่งเขาลงสนาม แทนที่จะให้พักไปก่อนในเกมนี้” ลุงรี่ กล่าว

ค่อยเป็นค่อยไป ! วิลเชียร์ ชม ปืนโต มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมแล้ว

แจ็ค วิลเชียร์ กองกลาง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ออกมาชื่นชมอดีตทีมเก่าอย่าง ​อาร์เซนอล ว่ามีปีที่เยี่ยมยอดในฤดูกาลนี้

โดย ปืนโต แม้จะแทบหมดโอกาสคว้าท็อปโฟร์แล้วแต่พวกเขายังมีถ้วย ยุโรป้าลีก ให้ลุ้นเพื่อตั๋ว ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า

“พวกเขามีโอกาสที่จะคว้าอันดับที่ต้องการมาได้ แต่มันก็ไม่สำเร็จ” วิลเชียร์ กล่าว “แต่พวกเขาเองก็ยังมีเกม ยูโรป้าลีก ให้เล่นซึ่งมันเป็นอีกทางที่เหมือนกับการคว้าท็อปโฟร์”

“แต่ผมก็คิดว่า อาร์เซนอล มีปีที่ดีนะ ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะแฮปปี้รวมถึงแฟนบอลด้วย ผมหวังว่าสุดท้ายแล้ว อาร์เซนอล จะคว้าแชมป์ ยูโรป้าลีก ได้”

ซึ่งตอนนี้ทีมของ อูไน เอเมอรีย์ ก็แหย่ขาข้างหนึ่งเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโรป้าลีก แล้วหลังจากที่เกมรอบรองชนะเลิศเลกแรกสามารถเอาชนะ บาเลนเซีย ไปได้ 3-1


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆหากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด

ถอยหลังลงคลอง ! บาร์นส์ เตือน ผีแดง กำลังเดินตามรอย หงส์แดง ในยุค 90

จอห์น บาร์นส์ ตำนานนักเตะ ​ลิเวอร์พูล เชื่อว่า ​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเดินในเส้นทางเดียวกับอดีตทีมเก่าของเขาในยุค 90 

โดย หงส์แดง เคยเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษแบบชนิดที่แทบไร้คู่แข่งแต่นับตั้งแต่ปี 1990 พวกเขาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้อีกเลย

“ผมเห็นสิ่งที่มันคล้ายกัน” บาร์นส์ กล่าว “ยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ผ่านไปแล้ว คุณไม่อาจเรียกคืนกลับมาและต้องเดินหน้าไปจากมันให้ได้”

“สิ่งที่ผิดพลาดมากที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในตอนแรกๆ นั่นก็คือการที่พวกเขาพยายามกลับให้เป็นเหมือนในอดีตทั้งๆ ที่ควรจะวิ่งออกมาจากมัน”

“ยูไนเต็ด ทำอย่างนั้นตอน หลุยส์ ฟาน กัล และ มูรินโญ แต่ตอนนี้ โอเล่ กลับมาพวกเขาก็เอาแต่พูดถึงการกลับไปให้เหมือนกับยุค เซอร์ อเล็กซ์”

“ลิเวอร์พูล ต้องลืมเกี่ยวกับยุคของ บิล แชงคลีย์ และตอนนี้พวกเขาก็ออกมาแล้ว นี่คือยุคของ เยอร์เกน คล็อปป์”

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆหากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด

สาวกว่าไง ! ปิแรส ยกย่อง เทพปรือ สำคัญต่อ ปืน เทียบเท่า เบิร์กแคมป์

โรแบร์ ปิแรส ตำนานปีกปืนใหญ่ ยอมรับว่า เมซุต โอซิล เป็นแข้งพรสวรรค์สูงที่มีความสำคัญต่อ ​อาร์เซนอล เทียบเท่ากับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ไว้ในอดีตได้เลย

“แน่นอนว่าเราสามารถยกเอา เมซุต โอซิล ขึ้นไปเปรียบเทียบกับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ได้เลยเพราะพวกเขาเล่นในตำแหน่งที่คอยสนับสนุนหน้าเป้าเป็นหลักอยู่แล้ว” ปิแรส กล่าว

“เมซุต เป็นเพลย์เมคเกอร์ที่สุดยอดมาก แต่บางครั้งเขาดูขาดความมั่นใจไปหน่อย โดยเฉพาะวันที่ฟอร์มตก แต่ถึงกระนั้นก็ถือว่ามีฝีเท้าอยู่ในระดับปรมาจารย์ไม่แพ้ เบิร์กแคมป์ เหมือนกัน”

“อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของ เมซุต ในทีม อาร์เซนอล เป็นอะไรที่อธิบายยาก เพราะเขาจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกเกม แต่มันกลับออกมาไม่ได้ดั่งใจ”

“ผมกับเขารู้จักกันเป็นการส่วนตัว ทำให้รู้ดีว่า เมซุต ทุ่มเททำงานหนักเพื่อทีมมากแค่ไหน และทุกครั้งที่ไม่ชนะ ก็ผิดหวังรุนแรงกว่าคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน”


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง  เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด

ไม่ได้แช่ง ! เทพปรือ ยอมรับ ลุ้นให้สิงห์ทำแต้มหลุดมือ

เมซุต โอซิล เพลย์เมคเกอร์อัจฉริยะของ ​อาร์เซนอล ออกมายอมรับแล้วว่าการลุ้นชิงพื้นที่ ท็อปโฟร์ ตอนนี้ต้องลุ้นให้ เชลซี ทำแต้มหล่นเองเท่านั้นไม่งั้นก็เลิกหวังกันได้เลย

“สำหรับสถานการณ์การลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ ผมและเพื่อนร่วมทีม อาร์เซนอล ต้องการให้ เชลซี ทำแต้มหลุดมือในสองนัดที่เหลืออยู่” เทพปรือ กล่าว

“และถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงล่ะก็ เราจะมีโอกาสสูงมากสำหรับการยึดเอาอันดับ 4 คืนมาได้ก่อนจบฤดูกาล แต่สำคัญกว่านั้นคือ อาร์เซนอล เองก็ต้องชนะรวดด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามเป้า”

“ผมต้องการให้เพื่อน ๆ พยายามยกระดับคุณภาพการเล่นให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ มันคือการพิสูจน์ตัวเองว่าเรามีดีแค่ไหน ไม่ใช่เพื่อตัวผมเอง แต่นี่คือสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรเลยทีเดียว”


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด

[Match Report] ผีแดง แห้ว แชมเปี้ยนส์ลีก ! แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเจ๊า ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-1

พรีเมียร์ลีก 2018/19 นัดที่ 37

ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จอห์น สมิธส์ สเตเดี้ยม


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงเข้าไปร่วมเล่นในศึก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ฤดูกาลหน้าเป็นที่แน่นอนแล้วแม้จะเหลือการแข่งขันในซีซันนี้อีก 1 นัด เมื่อผลเสมอกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทำให้ ปีศาจแดง จะไม่สามารถไล่ทัน สเปอร์ส ในอันดับที่ 4 ซึ่งมีแต้มเหนือพวกเขา 4 แต้ม

Scott McTominay

เร้ดเดวิลส์ ออกสตาร์ทได้อย่างสวยหรูเมื่อ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 8 ของเกม

Isaac Mbenza,David De Gea

ทว่าความผิดพลาดของ ลุค ชอว์ ที่ไม่สามารถสกัดลูกเปิดเกมจาก โจนาส ลอสเซิล นายทวารเจ้าบ้านได้ทำให้บอลหลุดไปถึง ไอแซค เอ็มเบนซา เข้าไปดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับ ดาบิด เด เคอา และจบสกอร์ไม่พลาด


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ฮัดเดอร์สฟิลด์ : ลอสเซิล, คองโกโล, ฮ็อกก์, บาคูนา, มอย, โลว์, แกรนท์, เอ็มเบนซา, พริทชาร์ด, ชินด์เลอร์, เดิร์ม

ตัวสำรอง : โคลแมน, สมิธ, คาชุงก้า, เดียคาบี, มูนิเย, สแตนโควิช, ดาลี

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เด เคอา, ยัง, โจนส์, ลินเดเลิฟ, ชอว์, มาติช, แม็คโทมิเนย์, ป็อกบา, มาต้า, อเล็กซิส, แรชฟอร์ด

ตัวสำรอง : แกรนท์, ดาโลต์, สมอลลิง, เฟร็ด, อันเดร์ เอร์เรรา, อันเดรียส, ชอง

แฟนผียิ้มอ่อน ! โซลชาร์ เผย โรเมโร เจ็บระหว่างซ้อมก่อนเกมชน ฮัดเดอร์ฟิลด์

โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายืนยันด้วยตัวเองแล้วว่า เซร์คิโอ โรเมโร ได้รับบาดเจ็บระหว่างซ้อมก่อนเกมกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ สุดสัปดาห์นี้

“เซร์คิโอ โรเมโร ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าระหว่างฝึกซ้อมเต็มเซสซั่นเมื่อวานนี้ ซึ่งดูแล้วก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วงนิดหน่อย ขณะที่ เด เคอา ทำงานของตัวเองได้ดีตามคาด” โอเล กล่าว

“ผมอยากย้ำกับทุกคนอีกครั้งว่า เด เคอา มีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากตลอดฤดูกาลอันยากลำบากของเรา จึงไม่ชอบเลยที่เห็นสื่อพาดหัวข่าวโจมตีเขาแบบผิด ๆ อยู่ทุกวัน แต่ถึงกระนั้นผมก็เชื่อว่าเราจะก้าวผ่านมันไปได้”

หลังจากที่ โซลชาร์ ให้สัมภาษณ์จบ เชื่อว่าสาวกปีศาจแดงหลายคนอาจจะผิดหวังเล็ก ๆ เพราะด้วยความที่ เด เคอา อยู่ในช่วงฟอร์มตก จึงอยากเห็น โรเมโร ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตมือหนึ่งทีมชาติอาร์เจนตินา ได้รับโอกาสบ้างเท่านั้นเอง


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด

[Match Report] โอริกี้ ซัดชัย ! หงส์ ลุ้นเหนื่อยบุกเชือด สาลิกา 2-3 ทยานฝูง พรีเมียร์ลีก



การแข่งขัน พรีเมียร์ลีก 2018/19 นัดที่ 37
วันแข่งขัน คืนวันเสาร์ 4 พฤษภาคม 2562
เวลาแข่งขัน 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมเหย้า นิวคาสเซิล
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล
สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ผลการแข่งขัน นิวคาสเซิล 2-3 ลิเวอร์พูล

เริ่มเกมมา 11 นาที ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อน เมื่อบอลจาก โรเบิร์ตสัน เปิดจากฝั่งซ้ายมาเสาไกล บอลตกตรงหน้า ซาลาห์ ยิงทันทีด้วยซ้ายไปติดบล็อคเด้งออกหลังไป

กระนั้น อีก 2 นาทีต่อมา หงส์แดงก็มาขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดลูกเตะมุมไปให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เทกตัวโหม่งโล่งๆ ตุงตาข่าย

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 20 นิวคาสเซิ่ล ก็ตามเอาคืน 1-1 เมื่อ มานกีโย่ เปิดโด่งจากฝั่งขวามาเสาไกลถึง แม็ตต์ ริทชี่ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาไกล รอนดอน ยิงไปติด เทรนท์ ที่คุมเส้นอยู่ เด้งออกมาเข้าทาง คริสเตียน อัตซู ซ้ำเข้าประตูไป

ไม่แค่นั้น อีก 6 นาทีถัดมา เจ้าบ้านเกือบพลิกแซงเลย เมื่อ อโยเซ่ เปเรซ ได้ยิงในเขตโทษ บอลไปชนคานอย่างจัง หงส์แดงรอดตัวหวุดหวิด

แต่นาทีที่ 28 ทีมเยือนมาขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ เทรนท์ เปิดบอลจากกราบขวาโด่งไปตกที่ ซาลาห์ วางเท้าแปด้วยขวาผ่านมือ ดูบราฟก้า เข้าประตูไปเลย จากนั้นก็จบครึ่งแรกไปโดยที่ ลิเวอร์พูล มีสกอร์นำอยู่ 2-1

ครึ่งหลัง หงส์แดงเดินหน้าบุกหนัก และมีโอกาสทองจากทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ทว่าก็พลาดกันไปเอง

และกลายเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่ตามตีเสมออีกครั้งเป็น 2-2 เมื่อบอลชุลมุนในเขตโทษ ฆาบี มานกีโย่ โหม่งบอลมาตกใส่เท้า รอนดอน หวดด้วยซ้าย บอลพุ่งวาบเข้าประตูไปเลย

นาทีที่ 73 หงส์แดงต้องมาเสีย ซาลาห์ ที่ปะทะกับ ดูบราฟก้า ที่ศีรษะเล่นต่อไม่ไหว ต้องลงเปลหามออกไปแล้วให้ ดิว็อก โอริกี้ ลงมาแทน

ตอนนี้เป็น สาลิกาดงที่ดูจะเล่นได้คึกคัก และดีกว่าแล้ว โดยเฉพาะ รอนดอน กับ อัตซู ที่มีโอกาสช็อกเดอะ ค็อป หลายครั้ง

นาทีที่ 86 หงส์แดงมาได้เฮลั่นอีกรอบ เมื่อมาได้ฟรีคิกทางกราบขวา เซอร์ดาน ชากิรี่ เปิดบอลมาเข้าหัว โอริกี้ เบียดกับ ลาสเซลล์ส ขึ้นโหม่งตุงตาข่ายไปเลยเป็น 3-2

ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นก็พยายามเดินหน้าบุกเอาคืน แต่ก็ทำไม่ได้แล้ว จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2 ต่อลมหายใจในการลุ้นแชมป์อีกเฮือก


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

นิวคาสเซิ่ล : มารติน ดูบราฟก้า – ฆาบี มานกีโย่, ฟาเบียน แชร์, จามาล ลาสเซลล์ส, พอล ดัมเม็ตต์, แม็ตต์ ริทชี่ – อโยเซ่ เปเรซ, คี ซอง ยอง, ไอแซ็ค เฮย์เด้น, คริสเตียน อัตซู – ซาโลมอน รอนดอน

ตัวสำรอง : เชลวี่, ดิยาเม่, มุโตะ, เคเนดี้, เฟอร์นันเดซ, บาเรก้า, คาร์โลว์

ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเลน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ซาดิโอ มาเน่

ตัวสำรอง : โฌแอล มาติป, มินโญเลต์, มิลเนอร์, โกเมซ, แชมเบอเลน, ซากิรี่, โอริกี้,

​​

[PLAYER PROFILE] มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ : ปราการหลังแห่งโมเดิร์นฟุตบอลจากสถาบันลูกหนัง อาหยักซ์

ในวัยเพียง 19 ปี มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ แห่ง อาหยักซ์ ได้กลายเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งบนเวทีฟุตบอลยุโรปเมื่อทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล , บาร์เซโลนา เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ตกเป็นข่าวกับ เดอ ลิกต์ ใน ตลาดซื้อขายนักเตะ

เราพาผู้อ่านไปสำรวจเส้นทางลูกหนังของ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ตั้งแต่เข้าร่วมกับสถาบันลูกหนังของ อาหยักซ์ ก่อนที่จะกลายเป็นปราการหลังที่ได้รับการจับตาที่สุดบนโลกฟุตบอลในเวลานี้


7. เจ้าหนูที่เชื่องช้า

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ในวัย 9 ขวบเล่นให้กับสโมสรบ้านเกิดชานเมือง อัมสเตอร์ดัม ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเตะตาสถาบันลูกหนังเยาวชนของ อาหยักซ์

แม้เจ้าตัวจะถูกมองว่ารูปร่างเล็กและไม่ได้มีสปีดที่รวดเร็วนักในวัยเด็กแต่ก็ได้รับความมั่นใจจากแมวมองว่าจะสามารถพัฒนาจุดด้อยดังกล่าวได้ในอนาคตก่อนที่จะได้เข้าร่วม ยอง อาหยักซ์ ได้ในวัยดังกล่าว

6. ทะลุขึ้นสู่ชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี

สิงหาคม 2016 เดอ ลิกท์ ก็ได้ประเดิมสนามให้กับ อาหยักซ์ เป็นเกมแรกด้วยวัยเพียง 16 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะได้ลงเล่นให้กับทีมทั้งหมด 17 เกมให้กับต้นสังกัดในฤดูกาล 2016/17 และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศเกมเมเจอร์ของทวีปยุโรปด้วยอายุ 17 ปี 285 วันเมื่อได้ออกสตาร์ทศึก ยูโรป้าลีก นัดชิงชนะเลิศกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายของซีซัน

เดอ ลิกท์ กลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนของ อาหยักซ์ ตั้งแต่ปีแรกด้วยจุดเด่นในด้านการเซ็ตบอลที่เยือกเย็นจากแดนหลัง มีการผ่านบอลที่เฉียบขาดทั้งสองเท้า รวมทั้งการเติมเกมขึ้นไปมีส่วนร่วมกับลูกเซ็ตพีซที่เด็ดขาด

5. บ่อน้ำมันของทัพ อัศวินสีส้ม

เดอ ลิกต์ ประเดิมสนามให้กับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ในวัยเพียง 17 ปีเมื่อเดือนมีนาคม 2017 และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ออกสตาร์ทให้กับพลพรรค ฟลายอิ้งดัตช์แมน นับตั้งแต่ปี 1931 อีกด้วย

ภายใต้การคุมทีมของ แดนนี บลินด์ พวกเขาบุกไปดวลกับ บัลแกเรีย ในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หากแต่บทบาทในการเซ็ตบอลจากแดนหลังของเจ้าตัวถูกบรรดาแข้งเจ้าบ้านกดดันอย่างหนักจนเกิดความผิดพลาดหลายครั้งหลายคราจนทำให้ ทัพกังหันลม เป็นฝ่ายปราชัยไปด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งทั้งสองประตูดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของ เดอ ลิกท์ เอง

ผลจากการแข่งขันในเกมดังกล่าวทำให้ อัศวินสีส้ม พลาดการร่วมโม่แข้งใน ฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย และการบอกลาตำแหน่งนายใหญ่ของ บลินด์ ในที่สุด

4. แนวรับผลัดใบ

ดาบินซอน ซานเชซ ปราการหลังชาว โคลอมเบีย ที่เป็นตัวจริงให้กับ อาหยักซ์ อย่างต่อเนื่องในฤดูกาล 2016/17 ได้ย้ายออกจาก อาหยักซ์ สู่ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เมื่อจบซีซัน ทำให้ เดอ ลิกต์ ได้กลายเป็นแข้งตัวหลักของทีมในซีซันถัดมา

เดอ ลิกต์ ได้รับมอบปลอกแขนกัปตันทีมในเดือนมีนาคม 2018 เมื่อ โจเอล เวลต์มัน เจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมได้รับบาดเจ็บและปราการหลังวัยกระเตาะก็ได้ทำสถิติกลายเป็นกัปตันทีมอายุน้อยที่สุดของ อาหยักซ์

3. ประกาศศักดาคว้ารางวัล โกลเด้นบอย

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ได้รับรางวัล โกลเด้นบอย ที่ประกาศผลในเดือนธันวาคม 2018 เหนือผู้เข้าชิงอย่าง จัสติน ไคลเวิร์ต สังกัด โรมา, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แห่ง ลิเวอร์พูล, วินิซิอุส จูเนียร์ ของ เรอัล มาดริด และ แพทริค คูโตรเน ของ เอซี มิลาน

2. ตกเป็นเป้าสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป

ด้วยความที่ เฟรงกี้ เดอ ยอง เพื่อนร่วมทีมในทัพ อาหยักซ์ ได้บรรลุข้อตกลงย้ายไปร่วมทัพ บาร์เซโลนา เรียบร้อยทำให้ทัพ อาซูลกรานา ยิ่งมีภาษีในการคว้าตัวเขาไปด้วยอีกราย บวกกับสไตล์การเล่นของ เดอ ลิกต์ ที่ลงตัวกับการเล่นแบบครองบอล เซ็ตบอลจากแดนหลังก็ทำให้ดีลดังกล่าวดูจะสมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม จากการที่ มิโน ไรโอลา ซูเปอร์เอเยนต์ที่มีปราการหลังดาวรุ่งรายนี้เป็นลูกค้าเช่นเดียวกับ ปอล ป็อกบา และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และยังสายสัมพันธ์อันดีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ดูจะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่มีความเป็นได้เช่นเดียวกัน

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังมีแข้งที่เป็นคู่หูในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คในนามทีมชาติอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่ตกเป็นข่าวกับ เดอ ลิกท์ ด้วยเช่นเดียวกัน

1. สไตล์การเล่น

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ มีทุกอย่างที่นักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คควรจะมี ทั้งความแข็งแกร่ง รูปร่างที่สูงใหญ่จากส่วนสูง 189 เซนติเมตร มีการอ่านเกม ยืนตำแหน่งที่ชาญฉลาด รวมทั้งเข้าบอลได้อย่างเด็ดขาด และความเด็ดขาดในการเล่นลูกกลางอากาศ

สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากปราการหลังตัวกลางทั่วไปก็คือความเยือกเย็นในการตั้งเกมจากแดนหลัง เดอ ลิกท์ เป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่มีความแม่นยำในการผ่านบอล รวมกับทักษะในการครองบอลทำให้เจ้าตัวสามารถพาบอลขึ้นมาจากในแดนของตัวเองเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับทีมได้

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด