ซื้อเดี๋ยวนี้ ! แม็คมาน เผยชื่อ ยอดมิดฟิลด์ ที่เหมาะกับ คล็อปป์ แบบสุด ๆ

สตีฟ แม็คมาน ตำนานกลางรับของ ​ลิเวอร์พูล ยืนยันเองแล้วว่า รูเบน เนเวส จอมทัพวัยรุ่นของ วูล์ฟแฮมป์ตันฯ เป็นผู้เล่นในสไตล์ที่ เจอร์เกน คล็อปป์ กำลังมองหาอยู่อย่างแท้จริง

“รูเบน เนเวส เป็นมิดฟิลดฺ์ที่มีคุณสมบัติของผู้บัญชาเกมแดนกลางได้แบบครบถ้วนจริง ๆ” อดีตจอมโหดหงส์แดง พูดถึงสตาร์วัย 22 ของทัพหมาป่า

“ผมชอบวิธีการควบคุมจังหวะเกมของ เนเวส ไม่ว่าจะเป็นการดึงให้ช้า หรือเร่งให้เร็ว ทุกอย่างถูกที่ถูกเวลาไปหมด นอกจากนั้นยังจ่ายบอลคมกริบทั้งสั้น-ยาว เล่นลูกตั้งเตะมีประสิทธิภาพ แล้วก็ยิงเองได้ด้วยในบางที”

“เมื่อดูจากฟอร์มของ เนเวส ในฟุตบอลอังกฤษต่อเนื่องมา 2 ปี ผมก็มั่นใจสุด ๆ ว่าเด็กคนนี้มีสไตล์การเล่นในแบบที่ เจอร์เกน คล็อปป์ กำลังมองหาอยู่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ปล่อยชิล ! ฟาน ไดจ์ค เผยสิ่งที่อยากทำก่อนเข้าแคมป์เก็บตัวบู๊นัดชิง UCL

เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยอดปราการหลังของทีม ​ลิเวอร์พูล เปิดเผยแล้วว่าจะขอแว๊บไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ก่อนเข้าแคมป์เก็บตัวสำหรับนัดชิงฯ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ในคืนวันที่ 1 มิถุนายนนี้

“ผมจะพาตัวเองไปเที่ยวทะเลเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหลังจากกรำศึกหนักมานาน และใช้เวลาสนุกกับครอบครัวบนชายหาดให้เต็มที่ ก่อนเข้าแคมป์เก็บตัวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับนัดชิงฯ UCL” พี่ไดจ์ค กล่าว

“สิ่งเดียวที่อยากบอกทุกคนคือ พยายามมองโลกในแง่บวกเข้าไว้ อย่าลืมว่าเรากำลังจะเดินทางไปเล่นนัดชิงฯ UCL ที่ มาดริด ซึ่งเป็นจุดหมายของนักฟุตบอลทั่วโลก”

“ก็หวังว่าสุดท้ายแล้วจะสามารถปิดฤดูกาลนี้กับ ลิเวอร์พูล ได้ด้วยความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ เพราะมันคือสิ่งที่นักเตะ ลิเวอร์พูล และผู้จัดการทีมพยายามต่อสู้ร่วมกันมาตลอดทั้งปี”

แบ่งกัน ! โอบาเมยอง, ซาลาห์ และ มาเน ครองรางวัลดาวซัลโวร่วม พรีเมียร์ลีก 2018/19

นัดปิดท้ายของศึก ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2018/19 รูดม่านปิดฉากลงพร้อมกับการสร้างประวัติศาสตร์การครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกันของ 3 แข้งเป็นครั้งแรก

โดย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ของ ​สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล และ ซาดิโอ มาเน กับ ​โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดูโอ้จาก​ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล คว้ารางวัลรองเท้าทองคำร่วมกัน

โดย ซาลาห์ มีตุนไว้ 22 ประตูก่อนคิวเตะนัดที่ 38 ของ พรีเมียร์ลีก และไม่สามารถทำประตูได้เพิ่มเติม ขณะที่ โอบาเมยอง และ มาเน รัวยิง 2 ประตูในเกมสุดท้ายของพวกเขาทั้งคู่ (อาร์เซนอล 3-1 เบิร์นลีย์ และ ลิเวอร์พูล 2-0 วูล์ฟส) ทำให้ตัวเลขของทั้งสองขยับเป็น 22 ลูกเทียบเท่าดาวเตะชาว อียิปต์ในที่สุด

ทั้งนี้ เจ้าของตำแหน่งทั้ง 3 รายยังเป็นแข้งจากทวีป แอฟริกา ซึ่งยังนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าของรางวัลร่วมมาจากกาฬทวีปอีกด้วย

แมนฯ​ ยูไนเต็ด 0-2 คาร์ดิฟฟ์ : เก็บตกทุกประเด็นหลัง ปีศาจแดง ส่งท้าย พรีเมียร์ลีก 2018/19

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2018/19 นัดที่ 38

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้

โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงฟอร์มบู่จนถึงนัดปิดท้ายของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018/19 เมื่อเปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ปราชัยต่อทีมตกชั้นไปแล้วอย่าง คาร์ดิฟฟ์ 0-2

ปีศาจแดง ออกสตาร์ทได้อย่างคึกคักและหวิดจะได้ประตูหลายต่อหลายครั้งทว่าขาดความเด็ดขาดไปเองแม้จะได้ส่องเหน่งๆ ก็ตาม กระทั่ง ดิโอโก้ ดาโลต์ เสียบสกัดเข้าใส่ นาธาเนียล เมนเดซ-แลง จากด้านหลังเสียจุดโทษและเป็น เมนเดซ-แลง ที่ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทัพบลูเบิร์ดส ออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 23 ของเกม

Aron Gunnarsson

เกมยังคงตกเป็นของ เร้ดเดวิลส์ ที่สร้างความกดดันให้กับแนวรับของทีมเยือนได้อย่าต่อเนื่องแม้จะเป็นฝ่ายเสียประตูไปก่อน ทว่าประตูถัดมายังคงเป็นของ คาร์ดิฟฟ์ ในช่วงต้นครึ่งหลังเมื่อ เมนเดซ-แลง คนเดิมได้หลุดไปแท็ปอินลูกเปิดเลียดของ จอช เมอร์ฟี ในระยะเผาขน สกอร์ขยับเป็น 2-0

เจ้าถิ่นยังคงได้ครองบอลพยายามหาช่องเข้าทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือ แต่ไม่สามารถยกระดับความเด็ดขาดขึ้นมาได้ และจบเกมด้วยความพ่ายแพ้ในนัดปิดฤดูกาลในที่สุด


Paul Pogba

แมนฯ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยความน่าอึดอัดต่อเนื่องจากฟอร์มในช่วงหลังท่ามกลางเครื่องหมายคำถามของทั้ง โอเล กุนนาร์ โซลชา และบรรดาลูกทีมของนายใหญ่ชาว นอร์เวย์

แม้พลพรรค ปีศาจแดง จะเป็นฝ่ายครองบอลพยายามหาช่องเข้าทำได้มากกว่าอย่างชัดเจน ทว่าพวกเขาขาดจินตนาการในเกมรุกและความเด็ดขาดในแดนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเมื่อถูกการอาศัยจังหวะฉวยโอกาสที่เข้าเป้าของ คาร์ดิฟฟ์ นั่นก็ส่งผลให้พวกเขาจบเกมนี้ด้วยความพ่ายแพ้คาบ้าน

กลายเป็น เมสัน กรีนวูด ดาวรุ่งของ เร้ดเดวิลส์ ที่วูบวาบที่สุดในแนวรุก เจ้าของสถิติแข้ง ผีแดง อายุน้อยที่สุดที่ได้มีชื่อเป็นตัวจริงบนเวที พรีเมียร์ลีก ด้วยวัยเพียง 17 ปีโดยที่ อองโตนี มาร์กซิยาล ทำได้เพียงนั่งอยู่บนม้าทั่งสำรอง

นอกจากนั้นสิ่งที่ดีสำหรับ ปีศาจแดง ที่เราพอจะเห็นในเกมนี้ก็คือนักเตะดาวรุ่งอย่าง อันเดรียส เปเรย์รา ก็มีชื่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับ อังเดร โกเมส ที่ลุกจากม้านั่งสำรองมามีส่วนร่วมกับทีมในช่วงท้าย


คะแนนนักเตะ

11 นักเตะตัวจริง: เด เคอา (4); ดาโลต์ (4), สมอลลิง (5), โจนส์ (5), ยัง (5); เปเรย์รา (5), แม็คโทมิเนย์ (4), ป็อกบา (5); ลินการ์ด (6); กรีนวูด (6), แรชฟอร์ด (6)

ตัวสำรอง: มาร์กซิยาล (5), วาเลนเซีย (4), โกเมส (4)


FBL-ENG-PR-MAN UTD-CARDIFF

เป็นอีกเกมที่บรรดานักเตะบิ๊กเนมต่างพากันหลุดฟอร์มเล่นต่ำกว่ามาตรฐานกันแทบจะยกทีม มีเพียง เมสัน กรีนวูด เท่านั้นที่ดูจะเข้าตาแฟนบอลจากการลงเล่นเป็นนัดแรกภายใต้การคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา รวมทั้งสร้างสถิติเป็นแข้ง ผีแดง อายุน้อยที่สุดที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับทีมในรายการ พรีเมียร์ลีก

แข่งวัย 17 ปีสร้างความวูบวาบให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า และเจ้าตัวดูจะเป็นคนที่มีโอกาสพังประตูให้กับทีมได้มากที่สุด โดยเฉพาะช็อตล่อเป้าใส่ นีล เอเธอร์ริดจ์ ในครึ่งแร

[ตัดเกรด] มาเน่ เบิ้ลสอง ! หงส์ เปิดบ้าน อัด วูล์ฟส์ 2-0 ส่งท้ายซีซั่น

การแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2018/19 นัดที่ 38
วันแข่งขัน วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2562
เวลาแข่งขัน 21:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมเหย้า ลิเวอร์พูล
ทีมเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
สนาม แอนฟิลด์
ผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูล 2-0 วูล์ฟส์แฮมป์ตัน

อาลีสซง เบ็คเกอร์ : 7/10 ปิดฉากได้สวยงามด้วยการเก็บคลีนชีทเป็นนัดที่ 21 สำหรับเกมนี้ก็เซฟสำคัญช่วยทีมไว้หลายจังหวะเหมือนกัน

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ : 8/10 จัดไปอีก 2 แอสซิตส์ แซงหน้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปแบบดื้อ ๆ เลย สำหรับเจ้าของแอสซิตส์สูงสุดของทีม

โฌแอล มาติป : 7/10 ถือว่าทำได้ดี มีจังหวะพลาดให้เห็นบ้าง แต่โดยรวมก็พอให้อภัยได้

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 7/10 รักษามาตรฐานความยอดเยี่ยมไว้จนนัดสุดท้ายจริง ๆ

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : 6/10 เกมนี้ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ อาจจะมาจากสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 7/10 อยู่ในระดับที่กลาง ๆ ไม่ได้โดดเด่นมากมายในเกมนี้

ฟาบินโญ่ : 7/10 มีส่วนสำคัญถือเป็นกองกลางที่แรากฏตัวบ่อยสุดเลยก็ว่าได้

จอร์จินโย่ ไวนัลดุม: 7/10 เกมที่แล้วเรียกความมั่นใจด้วยการกดสองประตู เกมนี้ก็มีความมั่นใจในการเล่นให้เห็นเช่นกัน

โมฮาเหม็ด ซาลาห์: 7/10 พยายามยิงประตูเพื่อเป็นดาวซัลโวแต่ก็ทำไม่ได้ ฟอร์มวันนี้ดูแล้วพรอ้มดวลแข้งกับ สเปอร์ส

ดิว็อก โอริกี้ 6/10 : มีโอกาสยิงประตู 1-2 ครั้ง ก่อนจะถูก ถอดออกช่วงนาทีที่ 60

ซาดิโอ มาเน่ 9/10 : กดไป 2 ประตู ขยับขึ้นมาเป็นดาวซัลโวร่วมกับ โม ซาลาห์ และ โอบาเมยอง ที่ 22 ประตู

ของของข้า ! ซาร์รี ประกาศชัด เชลซี สมควรเป็นแชมป์ ยูโรป้า

หลังจากที่ผลงานลุ่ม ๆ ดอน ๆ มานาน เมาริซิโอ ซาร์รี นายใหญ่แห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ กล่าวด้วยความมั่นใจว่าทีมของเขาสมควรจะได้แชมป์ ยูโรป้าลีก เพื่อเป็นบทสรุปของสโมสรในซีซันนี้ ​เชลซีเพิ่งคว้าโควต้า​ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และพวกเขายังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องใน ยูโรป้าลีก ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจากการด้วยจุดโทษเอาชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต ไปได้หลังจากที่เสมอกัน 1-1 ทั้ง 2 เลก โดยทาง ซาร์รี ได้กล่าวหลังจบเกมว่า “เราลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศ ลีกคัพ กับ…

[ข่าวซื้อขาย] มีแววรุ่ง ! ตำนานหงส์แนะ คล็อปป์ เซ็นกองกลาง จิ้งจอกน้ำเงิน

สตีฟ นิโคล หนึ่งในตำนานนักเตะ ​สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ได้ออกมาแนะนำให้ทีมคว้าตัว เจมส์ แมดดิสัน จาก เลสเตอร์ ซิตี้ เข้าทีมใน ​ตลาดซื้อขายนักเตะ ช่วงซัมเมอร์นี้ กองกลางดาวรุ่งของ จิ้งจอกสยาม สามารถโชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดีใน ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาลแรกของตัวเองจนตกเป็นข่าวกับยักษ์ใหญ่เช่น ​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ​ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ด้วย

บาเลนเซีย (1) vs (3) อาร์เซนอล : พรีวิว ยูโรป้า ลีก, วัน+เวลาการแข่งขัน, ถ่ายทอดสด


ข้อมูลการแข่งขัน


การแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรป้าลีก  2018/19 รอบรองชนะเลิศ เลกที่ 2
วันแข่งขัน คืนวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2562
เวลาแข่งขัน 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมเหย้า บาเลนเซีย (1)
ทีมเยือน ​อาร์เซนอล (3)
สนาม เมสตายา
ถ่ายทอดสด GOAL

ความพร้อมทั้ง 2 ทีม


บาเลนเซีย

ฟรานซิส โกเกอแล็ง ที่พลาดการลงสนามในเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไปในเลกแรกจากการติดโทษแบนจะสามารถกลับมาช่วยทัพ ค้างคาว ได้ในเกมนี้หลังพ้นโทษแบน โดยที่ เจฟฟรีย์ กองด็อกเบีย กับ เดนิส เชรีเชฟ จะหมดสิทธิ์ลงสนามจากอาการบาดเจ็บ

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-4-2


ผู้รักษาประตู เนโต้
กองหลัง ปิชชินี, การาย,​ เปาลิสต้า,​ กายา
กองกลาง โซเลร์, โกเกอแล็ง, ปาเรโฆ, กูเอเดส
กองหน้า โมเรโน, มินา

อาร์เซนอล

ไอ้ปืนใหญ่ จะยังคงขาด ร็อบ โฮลดิ้ง, เอคตอร์ เบเยริน, แดนนี เวลเบ็ค และ อารอน แรมซีย์ จากอาการบาดเจ็บโดยคาดการณ์ว่า อูไน เอเมรี จะไม่ส่ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ออกสตาร์ทร่วมกับ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ ในแดนหน้าหลังจากที่พวกเขากุมความได้เปรียบมาก่อนในเลกแรก 3-1

เอนสลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมที่พวกเขาเสมอกับ ไบรท์ตัน 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะกลับสู่ทีมชุดตัวจริงอีกครั้งเช่นเดียวกับ โลร็องต์ กอสเซียลนี

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 3-4-2-1


ผู้รักษาประตู เช็ก
กองหลัง มุสตาฟี, โซคราติส, กอสเซียลนี
กองกลาง เมตแลนด์-ไนลส์, ชาก้า, เกนดูซี, โคลาซินาช
อิโวบี, มคิทาร์ยาน
กองหน้า ลากาเซ็ตต์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด


บาเลนเซีย (ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 3)

6 พฤษภาคม ลา ลีกา อูเอสกา 2 : 6 บาเลนเซีย ชนะ
3 พฤษภาคม ยูโรป้า ลีก อาร์เซนอล 3 : 1 บาเลนเซีย แพ้
28 เมษายน ลา ลีกา บาเลนเซีย 0 : 1 เออิบาร์ แพ้
25 เมษายน ลา ลีกา แอต. มาดริด 3 : 2 บาเลนเซีย แพ้
22 เมษายน ลา ลีกา เบติส 1 : 2 บาเลนเซีย ชนะ

อาร์เซนอล (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3)

5 พฤษภาคม พรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล 1 : 1 ไบรท์ตัน เสมอ
3 พฤษภาคม ยูโรป้า ลีก อาร์เซนอล 3 : 1 บาเลนเซีย ชนะ
28 เมษายน พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ 3 : 0 อาร์เซนอล แพ้
25 เมษายน พรีเมียร์ลีก วูล์ฟส 3 : 1 อาร์เซนอล แพ้
21 เมษายน พรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล 2 : 3 คริสตัล พาเลซ แพ้

เฮดทูเฮด (บาเลนเซีย ชนะ 3 เสมอ 1 อาร์เซนอล ชนะ 1)

3 พฤษภาคม 2019 ยูโรป้า ลีก อาร์เซนอล 3 : 1 บาเลนเซีย
9 สิงหาคม 2009 กระชับมิตร บาเลนเซีย 2 : 0 อาร์เซนอล
20 มีนาคม 2003 แชมเปี้ยนส์ลีก บาเลนเซีย 2 : 1 อาร์เซนอล
11 ธันวาคม 2002 แชมเปี้ยนส์ลีก อาร์เซนอล 0 : 0 บาเลนเซีย
17 เมษายน 2001 แชมเปี้ยนส์ลีก บาเลนเซีย 1 : 0 อาร์เซนอล

สถิติที่น่าสนใจ


  • บาเลนเซีย ต้องการอย่างน้อย 2 ประตูเพื่อการพลิกเข้ารอบสู่นัดชิงชนะเลิศศึก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก หลังปราชัยมาก่อนในเลกแรก 3-1 ซึ่งการเอาชนะ อูเอสก้า ถล่มทลาย 6-2 ในศึก ลา ลีกา สเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี

  • เจ้าบ้านยังมีสถิติเก็บชัยเกมเหย้าในถ้วยนี้ทุกนัด (8 เกม) ด้วยค่าเฉลี่ยการพังประตู 2.75 ลูกต่อแมตช์ และเสียเพียง 0.38 ลูกต่อเกมเท่านั้น พวกเขายังสามารถทำประตูขึ้นนำได้ก่อน 4 จาก 5 เกมเหย้าในรายการยุโรปหลังสุด

  • ขณะที่ฝั่ง อาร์เซนอล เพิ่งจะปราชัยเกมเยือนศึก ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2 นัดล่าสุดและเสียอย่างน้อยเกมละ 3 ลูกต่อเกม อย่างไรก็ตาม พวกเขาเพิ่งจะเสียประตูใน ยูโรป้า ลีก ไปเพียงแค่ 1 เกมเท่านั้นเมื่อออกไปเล่นนอกบ้านและรักษาคลีนชีตได้อีกด้วยจากชัยชนะเกมเยือนทั้งหมด 4 แมตช์ (ชนะ 4 แพ้ 2)

  • ทัพปืนโต สามารถรักษาสกอร์นำในครึ่งแรกไว้ได้ใน 3 จาก 4 เกมข้างต้น พวกเขายังทำสถิติเขี่ยคู่แข่งในการแข่งขันรอบน็อคเอาท์รายการยุโรปได้ทั้งหมด 17 จาก 19 ครั้ง

  • ซานติ มินา เพิ่งจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูในเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยคิดเป็นประตูที่ 6 ของเจ้าตัวกับ ทัพค้างคาว ในฤดูกาลนี้

  • ​อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ สอยประตูในเกมเลกแรกมา 2 ลูก โดยทั้ง 4 ประตูของ ลากาเซ็ตต์ ในศึก ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้เกิดขึ้นในครึ่งแรก

อาหยักซ์ 2-3 (3-3) สเปอร์ส : เก็บตก 5 ประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

5. ความเป็นไปของเกม

เป็นเกมที่ อาหยักซ์ ออกสตาร์ทได้อย่างเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตัวแทนจากแดนกังหันลมเล่นได้อย่างมั่นใจและกระตือรือล้นกว่าพลพรรค สเปอร์ส ที่ 45 แรกของพวกเขาดูจะไม่เป็นธรรมชาติอย่างที่เคย ซึ่งความมั่นใจของเจ้าบ้านนั่นเองที่ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังทัพ ไก่เดือยทอง กลับลงมาพร้อมกับความคึกคัก ขณะที่เจ้าถิ่นดูจะดร็อปลงไปและกว่าจะรู้ตัวอีก ทีมจาก ลอนดอน ก็รัวยิง 2 ประตูใส่ อาหยักซ์ เสียแล้ว

ช่วงท้าย เกมยังคงเปิดหน้าเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องเมื่อ สเปอร์ส ต้องการอีก 1 ประตูเพื่อผ่านเข้ารอบ ขณะที่เจ้าบ้านพยายามใช้โอกาสสวนกลับเร็วและต่างมีลุ้นเหน่งๆ ด้วยกันทั้งสองฝ่ายแต่ก็ไม่ฝ่ายใดสามารถทำประตูได้ กระทั่งทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 6 เมื่อ ลูคัส มูรา ซัดประตูแฮตทริคของเจ้าตัวและเป็นประตูที่ 3 ของทีมสำเร็จ

4. บรรดาเด็กระเบิดที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

อาหยักซ์ ได้กลายเป็นม้ามืดนอกสายตาที่โค่นยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ลงได้ก่อนที่เส้นทางของพวกเขาในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะถูกหยุดไว้ในรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

ฟุตบอลที่สวยงามของ อาหยักซ์ รวมกับบรรดานักเตะวัยกระเตาะได้หวนวันคืนให้เราย้อนนึกไปถึงอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ของพวกเขาก่อนหน้านี้ แต่มันก็ได้กลายเป็นดาบสองคมที่กลับมาเล่นงานพวกเขาในท้ายที่สุดเมื่อไม่สามารถรักษาความได้เปรียบในช่วงชี้เป็นชี้ตายของเกมไว้ได้

ที่น่าเสียดายยิ่งกว่าการพลาดเข้าชิงชนะเลิศในฤดูกาลนี้ คือมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เล่นร่วมกันเมื่อบรรดาคีย์แมนของทีมต่างตกเป็นข่าวกับยักษ์ใหญ่ทั่วทั้งทวีปยุโรป

3. เกียรติยศของ พอช และ สเปอร์ส

แชมป์ลีกสูงสุดของ สเปอร์ส ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1961

แชมป์ เอฟเอ คัพ ครั้งล่าสุดปี 1991

หรือจะเป็น แชมป์ ยูฟ่า คัพ ตั้งแต่ปี 1984

ที่เราพอจะจดจำความสำเร็จอย่างเป็นชิ้นเป็นอันของพวกเขาได้อย่างลางๆ ดูจะเป็นแชมป์ ลีก คัพ เมื่อปี 2008 แต่มันก็นานขนาดที่ว่านักเตะตัวหลักในทีมชุดนั้นมีชื่อของ พอล โรบินสัน, โจนาธาน วูดเกต, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, ร็อบบี้ คีน และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ขณะที่กุนซือหนุ่มวัย 47 ปีที่เพิ่งจะเทิร์นโปรในเส้นทางผู้จัดการทีมเมื่อปี 2009 ก็ยังไม่มีความสำเร็จใดๆ ที่จับต้องได้ทั้งกับ เอสปันญอล และ เซาแธมป์ตัน ในช่วงก่อนหน้านี้

นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19 จะกลายเป็นบทพิสูจน์ทั้งตัวของ พอช เอง รวมทั้งกับทัพ ไก่เดือยทอง ชุดนี้ว่าพวกเขามีดีพอที่จะประกาศศักดาเสียที

2. เจ้าหนู เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

มิดฟิลด์วัย 21 ปีผู้เป็นหัวใจของ อาหยักซ์ กลายเป็นแข้งที่สามารถเอาชนะในการเข้าปะทะสำเร็จมากที่สุดในสนาม (5 ครั้ง) และเป็นผู้เล่นเจ้าบ้านที่ตัดบอลได้มากที่สุด (8 ครั้ง)

ส่วนผสมระหว่างการผ่านบอลอันยอดเยี่ยม, วิสัยทัศน์ที่เฉียบขาด, การอ่านเกมที่ฉลาดเป็นกรด, ไหวพริบกับเทคนิคในการแก้ไขสถานการณ์ และความเด็ดขาดในการเข้าแย่งบอล ดูราวกับว่าจับเอา เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มารวมร่างกับ อันเดรียส อิเนียสต้า อย่างไรอย่างนั้น

ทีเด็ดของเจ้าตัวทำให้บรรดาผู้เล่นของ สเปอร์ส ต้องรุมกินโต๊ะเพื่อไม่ให้ เดอ ยอง มีพื้นที่และเวลาในการเล่นแต่เขาก็ยังสามารถเอาตัวรอดผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้เปรียบให้เห็นอีกหลายครั้งหลังจากนั้น

1. แฮตทริคฮีโร่ ลูคัส มูรา

ตัวจี๊ดชาว บราซิล ที่ สเปอร์ส ไปคว้ามาจาก ปารีส แซ็งต์-แชร์กแมง มักถูกมองว่ามีเพียงความวูบวาบหวือหวาทว่าขาดความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย แต่เกมนี้ ลูคัส ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม

หลังจาก 45 นาทีแรกที่ดูจะเข้าอีหรอบเดิม ลูคัส ที่ไม่รู้ว่าไปกินดีหมีจากที่ไหนมาในช่วงพักครึ่งก็กลายเป็นทำ 2 ประตูภายในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 5 นาทีช่วยทีมตีเสมอ ก่อนจะดราม่าสุดๆ เมื่อเจ้าตัวทำแฮตทริคสำเร็จในนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ ส่ง ไก่เดือยทอง เข้าชิงชนะเลิศ

[ตัดเกรด] อาหยักซ์ ดีครึ่งเดียว ! ลูคัสฮีโร่ สเปอร์ส รัวยิงเข่น 3-2 ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19

อาหยักซ์ 2-3 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

สกอร์รวม 3-3

สเปอร์ส ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยกฎประตูทีมเยือน

โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา


คะแนนนักเตะ อาหยักซ์

อังเดร โอนานา – 6/10

งัดซูเปอร์เซฟลูกยิงของ ซน กับ อีริคเซน ได้เน้นๆ ตามด้วยโอกาสของ อัลลี ในครึ่งหลัง แต่โชคร้ายกับจังหวะพัวพันกับเพื่อนร่วมทีมจนทำให้ ลูคัส ได้บอลฉกไปยิงในลูกตีเสมอ 2-2 ขณะที่อีกสองประตูนอกเหนือจากนั้นเจ้าตัวถือว่าหมดสิทธิ์เซฟ

นูสแซร์ มาซราอุย – 6/10

กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับทีม ไม่เจอกับงานยากนักใน 45 นาทีแรกก่อนที่จะถูกบดอย่างหนักในครึ่งหลังเมื่อโมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไป

ดาลีย์ บลินด์ – 6/10

เช่นเดียวกับแนวรับเพื่อนร่วมทีมที่ไม่เจอกับความยากลำบากเลยในครึ่งแรก ก่อนที่จะเจอตออย่าง เฟร์นันโด ยอเรนเต้ ในครึ่งหลังที่เจ้าตัวไม่สามารถต่อกรกับความแข็งแกร่งของเขาได้

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ – 7/10

FBL-EUR-C1-AJAX-TOTTENHAM

เป็นคนโหม่งพังประตูเบิกร่องและบล็อกโอกาสของ ลูคัส ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ใช่ความผิดพลาดของเจ้าตัวเลยกับทั้ง 3 ประตูที่ทีมเสียไป ยังคงโดดเด่นกับบทบาทกัปตันทีมด้วยอายุเพียง 19 ปี

นิโกลาส์ ทาเกลียฟิโก้ – 6/10

แข็งแกร่งในครึ่งแรก ก่อนที่จะถูกเกมรุกของ สเปอร์ส บดอย่างหนักในครึ่งหลัง

เฟรงกี้ เดอ ยอง – 8/10

แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจและการเข้าบอลที่ชาญฉลาด ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำและเฉียบคมจนน่าเสียดายที่จะไม่เห็นเขาในนัดชิงชนะเลิศ

ลาสเซ โชน – 6/10

โชคร้ายกับจังหวะพัวพันกับ โอนานา ในช็อตเสียประตูที่สอง ทำหน้าที่ลูกหาบให้กับ เดอ ยอง ที่แดนกลาง

ฮาคิม ซีเย็ค – 7/10

ออกสตาร์ทได้อย่างหวือหวาและเป็นคนยิงประตู 2-0 ให้กับทีมด้วยเท้าซ้ายสุดฉมัง วูบวาบที่สุดในแนวรุกของ อาหยักซ์ แต่ไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่ายเพิ่มจากโอกาสทองที่มีในครึ่งหลังก่อนที่จะถูก สเปอร์ส ซัดชัยท้ายเกม

แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก – 6/10

ออกสตาร์ทแทนที่ เนเรส ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ตอนอบอุ่นร่างกาย มีช็อตวูบวาบให้เห็นอยู่บ้างต่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมนัก ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง

ดอนนี ฟาน เดอ บีค – 6/10

โดนเด่นกับเกมรุกของทีมในช่วงต้นก่อนที่จะค่อยๆ หายไปจากเกมเมื่อเวลาผ่านไป

ดูซาน ทาดิช – 6/10

ถูกถ่างออกไปเล่นริมเส้นเพื่อเปิดพื้นที่ให้ ดอลเบิร์ก ประจำการเป็นหัวหอกตัวเป้า ได้โอกาสทองแต่ยิงหลุดกรอบออกไปก่อนจะแอสซิสต์ให้กับ ซีเย็ค ในประตูที่สอง

ตัวสำรอง

โจเอล เวลต์มัน – 6/10 : ลงมาเสริมแนวรับในช่วง 30 นาทีสุดท้ายแต่ไม่อาจช่วยทีมได้มากนัก

ดาลีย์ ซิงค์กราเวน – 5/10 : ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก

ลิซานโดร มากายาน – N/A : ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามเพื่ออุดแนวรับแต่ไม่สามารถหยุด ลูคัส มูรา ได้อยู่


คะแนนนักเตะ สเปอร์ส

ฮูโก้ ยอริส – 7/10

FBL-EUR-C1-AJAX-TOTTENHAM

งัดเซฟตั้งแต่ช่วงต้นเกมปฎิเสธโอกาสของ ดูซานทาดิช สำเร็จก่อนที่จะหมดสิทธิ์เซฟกับทั้ง 2 ประตูที่เสียไปในครึ่งแรก ตามด้วยการโชว์เซฟสำคัญอีกหลายจังหวะในครึ่งหลังโดยเฉพาะการสับไกของ ฮาคิม ซีเย็ค ก่อนที่ทีมจะได้ประตูชัย

คีแรน ทริปเปียร์ – 5/10

ถูก เดอ ลิกท์ หนีการตามประกบอย่างง่ายไปสักหน่อยในจังหวะที่เสียประตูแรกรวมทั้งเป็นคนทำเสียบอลซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นประตูที่ 2 และไม่กระตือรือล้นที่จะวิ่งไล่ตามในช็อตดังกล่าว ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อยในครึ่งหลังโดยเป็นคนเซ็ตจังหวะให้ทีมได้ประตู ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วง 10 นาทีสุดท้ายแทนที่โดย เอริค ลาเมลา เมื่อทีมต้องการประตู

โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ – 7/10

จำเป็นที่จะต้องคัฟเวอร์พื้นที่ของ ทริปเปียร์ หลายครั้งจนมีส่วนเปิดพื้นที่ให้ ซีเย็ค พังประตู โดยรวมป้องกันได้ดีโดยเฉพาะในครึ่งหลังและมีส่วนกับการเซ็ตเกมรุกของทีมจากแนวรับ

แยน แฟร์ตองเก้น – 7/10

ได้โหม่งลุ้นพังประตูไปชนคานอย่างจังก่อนที่จังหวะตามซ้ำจะถูกผู้เล่นของ อาหยักซ์ เคลียร์จากบนเส้นประตูอย่างน่าเสียดาย

แดนนี โรส – 7/10

ทำเสียลูกเตะมุมโดยไม่จำเป็นจนเป็นที่มาของการได้ประตูแรกของ อาหยักซ์ ก่อนที่จะมีส่วนเซ็ตบอลให้ ลูคัส ยิงตีไข่แตกให้กับทีม แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะหมดก๊อกในช่วงท้ายและถูกแทนที่โดย เบน เดวีส์

วิคเตอร์ วานยามา – 4/10

ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมมากนักในครึ่งแรก ถูก ซีเย็ค กระชากหนีผ่านหน้าไปอย่างง่ายดายในจังหวะที่ทีมเสียประตูที่ 2 และถูกเปลี่ยนตัวออกหลังพักครึ่งทันทีแทนที่โดย เฟร์นันโด ยอเรนเต้

มุสซา ซิสโซโก้ – 8/10

ได้รับใบเหลืองตั้งแต่ 20 นาทีแรกทำให้หลังจากนั้นดูจะเล่นอย่างยากลำบากไปสักหน่อย แต่ในเกมรุกเจ้าตัวมีส่วนกับการขับเคลื่อนบอลจากแดนกลางได้ดี โดดเด่นกับการพาบอลลากขึ้นไปทลายแนวรับ อาหยักซ์

คริสเตียน อีริคเซน – 6/10

ได้ยิงไปตรงตัว อังเดร โอนานา ในครึ่งหลังก่อนที่จะเปิดให้ เดเล อัลลี ได้โอกาสเหน่งๆ ในช่วงต้นครึ่งหลัง

เดเล อัลลี – 8/10

ได้โอกาสปั่นโค้งหลุดออกนอกกรอบไปอย่างได้ลุ้นตั้งแต่ช่วงต้นเกม สร้างโอกาสให้ ซน เฮือง-มิน ได้หลุดไปเกือบจบสกอร์ได้ ก่อนที่ครึ่งหลังจะได้วอลเลย์ไปถูก โอนานา เซฟไว้ได้และมีส่วนกับประตูชัยของทีม

ลูคัส มูรา – 10/10

FBL-EUR-C1-AJAX-TOTTENHAM

แฮตทริคฮีโร่ผู้สร้างปัญหาให้กับแนวรับของเจ้าบ้านได้ตั้งแต่ต้นเกม เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัว

ซน เฮือง-มิน – 6/10

ยิงไปชนกรอบตั้งแต่ช่วงต้นเกม ตามด้วยการพลาดโอกาสจากลูกจ่ายของ อัลลี ครึ่งหลังดูจะวูบวาบกว่าในครึ่งแรกและมีพื้นที่ให้เล่น ได้โอกาสเหน่งๆ ในกรอบเขตโทษช่วงท้ายแต่ยิงข้ามคานออกไป

ตัวสำรอง

เฟร์นันโด ยอเรนเต้ – 6/10 : ถูกเปลี่ยนตัวลงสู่สนามหลังจากพักครึ่ง คอยยืนค้ำเก็บบอลที่แดนหน้าและเป็นตัวเป้าให้เพื่อนเปิดบอลเข้าใส่ มีส่วนกับการทำให้โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไป

เอริค ลาเมลา – N/A : ลงสนามในช่วงท้ายเกมและคอยเร่งจังหวะให้กับเกมรุกของทีมสปีดไม่ตก

เบน เดวีส์ – N/A : แทนที่ โรส ที่หมดแรงในช่วงท้าย


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดหากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด