เก็บตก 4 ประเด็นร้อนหลังศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2021
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : เบนฟิก้า 1-1 อาร์เซนอล
สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้

อาร์เซนอล ชวดโอกาสที่จะกำชัยเหนือ เบนฟิก้า อย่างน่าเสียดายเมื่อ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเยอง พลาดการจบสกอร์แบบเหน่งๆ มากกว่า 1 ครั้ง จังหวะที่โดยปกติศูนย์หน้าทีมชาติ กาบอง สามารถแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้กลับทำได้อย่างน่าผิดหวัง

มาร์ติน โอเดการ์ด ปักหลักในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุกด้านหลัง โอบาเมยอง และเจ้าตัวงัดคิลเลอร์พาสสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง น่าเสียดายที่จังหวะสุดท้ายไม่เป็นไปอย่างใจ

การผ่านบอลของ โอเดการ์ด เป็นจุดเริ่มต้นในการได้ประตูตีเสมอ 1-1 ของ ไอ้ปืนใหญ่

อีกแมตช์ที่เมื่อ บูคาโย ซาก้า สามารถเผาเครื่องแนวรับคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่องก็ทำให้เกมรุกของ เดอะกันเนอร์ส ลื่นไหล

เจ้าตัวจบเกมด้วยการมีชื่อบนสกอร์บอร์ดจากการยิงตีเสมอ 1-1 และน่าจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดมากกกว่า 1 ครั้งรวมไปถึงน่าจะได้แอสซิสต์ด้วยเช่นกันหากรุ่นพี่ร่วมทีมเด็ดขาดมากกว่านี้

วิสัยทัศน์ คลาสบอล รวมไปถึงความแม่นยำในการตัดบอลจังหวะชี้เป็นชี้ตายคือสิ่งที่ ดานี เซบายอส แสดงให้เราเห็นในเกมนี้

ที่โดดเด่นที่สุดสำหรับมิดฟิลด์ชาว สเปน คือทัศนคติในการผ่านบอลที่กลายเป็นจุดตั้งต้นในการโจมตีของ ไอ้ปืนใหญ่

ยูเวนตุส ผ้าป่าคว่ำ, ดอร์ทมุนด์ ได้เฮ ! สรุปผล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันพุธ

ยูเวนตุส พบกับความปราชัยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกแรกต่อ ปอร์โต้ 2-1 ขณะที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สามารถบุกไปเอาชนะ เซบียา 3-2

ประตูจาก เมห์ดี้ ทาเรมี พา ปอร์โต้ ออกนำ ยูเวนตุส ตั้งแต่นาทีแรกของเกมก่อนที่พวกเขาจะทิ้งห่างเป็น 2-0 ด้วยลูกยิงของ มุสซา มาเรก้า ในช่วงต้นครึ่งหลังโดยที่ทัพ ม้าลาย ได้ประตูตีไข่แตกจาก เฟเดริโก้ คิเอซา นาทีที่ 82

ส่วนพลพรรค เสือเหลือง ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำต่อ เซบียา ไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 7 ของเกมที่ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน จากประตูของ ซูโซ ก่อนจะรัวแซงเป็น 3-1 ก่อนจบครึ่งแรกจาก มาห์มูด ดาฮูด และ 2 ประตูโดย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ก่อนที่ ลุค เด ยอง จะยิงให้เจ้าบ้านตีตื้นเป็น 3-2 ในช่วงท้ายเกม

ที่แล้วให้แล้วไป ! มูรินโญ ยอมรับ “ตัดสินใจพลาด” ดร็อป 2 ดาวดัง สเปอร์ส

โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ของสโมสร ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ยอมรับว่าเขาตัดสินใจผิดพลาดเกี่ยวกับ แกเร็ธ เบล และเดเล อัลลี ในฤดูกาลนี้ ตามรายงานจาก goal.com

เบล และ อัลลี ได้รับโอกาสไม่มากนักภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวโปรตุกีสในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้รวมทั้งยังถูกวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นและความเป็นมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามด้วยฟอร์มของ สเปอร์ส ที่กำลังย่ำแย่อย่างหนักอยู่ในเวลานี้ ทำให้ มูรินโญ ต้องกลืนน้ำลายตัวเองและหวังว่าทั้งคู่จะแสดงศักยภาพออกมาเพื่อช่วยให้ทีมผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้

“พวกเขาเป็นนักเตะที่ดีเมื่อยามฟิตเต็มร้อยและเมื่อพวกเขาพร้อมที่จะลงสนาม พวกเขาสามารถลงเล่นให้กับทีมได้ เรายินดีต้อนรับเสมอ” นายใหญ่จากแดนฝอยทองกล่าวถึง เบล และ อัลลี ก่อนจะลงทำศึก ยูโรป้าลีก รอบ 32 ทีมในวันพฤหัสบดีนี้

“บางครั้งคนเป็นโค้ชก็สามารถตัดสินใจผิดพลาดได้ เราทุกคนเป็นแบบนั้น แต่เราไม่ได้บ้า ไม่มีใครบอกว่าผมไม่ต้องการให้นักเตะคนนี้มาช่วยเหลือผมและทีม เมื่อนักเตะมีศักยภาพและสภาพร่างกายพร้อม เขาต้องทำมันให้ได้”

“เราไม่มี จีโอ (โจวานนี โล เซลโซ) มานานมาก เราไม่มี เรกีลอน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถ้าเราได้พวกเขากลับมาและเราได้ เดลเล และ แกเร็ธ ที่ฟิตและพร้อมลงเล่น มันจะเป็นเรื่องที่ดีมกับทีมมาก ๆ เลยทีเดียว” มูรินโญ กล่าว

[Player Ratings] แวร์เนอร์ มีส่วน 2 ประตู ! ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกมเปิดบ้านอัด นิวคาสเซิล 2-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2021
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : เชลซี 2-0 นิวคาสเซิล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

คะแนนนักเตะ เชลซี

เกปา อาร์ริซาบาลาก้า – 7/10
ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในรอบหลายเดือน แต่วันนี้จัดว่าทำหน้าทีได้ดี แทบไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น แถมมีจังหวะเซฟสวย ๆ ช่วยทีมไว้ได้ในช่วงครึ่งหลัง

อันโตนิโอ รือดิเกอร์ – 7.5/10
เกมรับยังคงทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ มีจังหวะเข้าสะกัดสวย ๆ ช่วยทีมเอาไว้ได้หลายครั้ง

อันเดรส คริสเตนเซน – 7/10
รับมือกับแนวรุกทีมเยือนได้ค่อนข้างดี แต่ดูมั่งจะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างในจังหวะขึ้นบอลจากแนวหลัง

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า – 7.5/10
โดดเด่นทั้งเกมรุกและรับในวันนี้ แถมยังเกือบใส่สกอร์ได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกมจากการขึ้นไปโหม่งลูกเตะมุม หน้าเสียดายที่กองหลัง นิวคาสเซิล สะกัดออกจากเส้นได้ทัน

มาร์กอส อลอนโซ – 7/10
เป็นอีกนัดที่เจ้าตัวเล่นได้ค่อนข้างโดดเด่นโดยเฉพาะเกมรุกช่วงต้นเกม ที่มีโอกาเติมเข้ากรอบเขตโทษได้หลายครั้ง

คัลลัม ฮัดสัน โอดอย – 7.5/10
โดดเด่นในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งขวา โดยรวมทำหน้าที่ได้ดี มีโอกาสทำเกมเข้าเขตโทษบ่อยครั้ง แต่ยังมักจะเสียในจังหวะสุดท้าย

จอร์จินโญ – 7/10
คุมเกมต่อบอลในแดนกลางรวมถึงลงไปช่วยเกมรับ สามารถครองเกมในแดนกลางได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก

มาเตโอ โควาชิช – 7.5/10
ยังคงเล่นได้อย่างโดดเด่นบริเวณกลางสนาม มีจังหวะครองบอลไปกับบอลได้ดี แถมยังลำเลียงบอลเข้าสู่แดนหน้าสวย ๆ หลายครั้ง

เมสัน เมานท์ – 6.5/10
วันนี้แม้จะมีบทบาทกับเกมรุกไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าช่วยต่อบอลสร้างสรรค์เกมได้ดีบริเวณหน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่ง

แทมมี อับราฮัม – 6/10
ลงเล่นได้เพียง 20 นาทีก็ได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป ซึ่งช่วงก่อนหน้านั้นเจ้าตัวมีโอกาสจ่อ ๆ ถึง 2 ครั้งทั้งจากลูกโหม่งและจังหวะหลุดเดี่ยว แต่ยังเปลี่ยนให้เป็นประตูไม่ได้

ติโม แวร์เนอร์ – 8/10
มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูในเกมวันนี้ หาพื้นที่จบสกอร์ได้ดี ขยับออกมาสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนบริเวณริมเส้นบ่อยครั้ง แถมยังยิงปลดล็อคให้กับตัวเองได้ในค่ำคืนนี้

ตัวสำรอง

โอลิวิเยร์ ชิรูด์ (ลงสนามนาทีที่ 20 แทนที่ อับราฮัม) – 7/10
ลงมาไม่นานก็ทำประตูได้จากจังหวะเก็บตกในกรอบเขตโทษตั้งแต่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก

เอ็นโกโล ก็องเต้ (ลงสนามนาทีที่ 70 แทนที่ เมานท์) – 6/10
ลงมาช่วยไล่บอลในแดนกลาง

รีซ เจมส์ (ลงสนามนาทีที่ 70 แทนที่ โอดอย) – 6/10
มีโอกาสได้ลองจบสกอร์แต่ยังไปติดเซฟ อย่างไรก็วันนี้ดูจะเล่นยากไปนิดจนทำให้เสียบอลในแดนหน้าหลายครั้ง

เพิ่งย้ายมาแท้ๆ ! ดันน์ หวั่นใจ โดเฮอร์ตี้ จะดับเพราะแทคติกรถบัสของ มูรินโญ

ริชาร์ด ดันน์ อดีตผู้เล่นทีมชาติ ไอร์แลนด์ ออกมาแสดงความกังวลใจเกี่ยวกับสถานกรณ์ของ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ แบ็คขวาของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่ไม่ค่อยจะได้โอกาสลงเล่นเสียเท่าไหร่นัก

เกมเมื่อคืนนี้ที่ สเปอร์ส บุกไปพ่าย แมนฯ ซิตี้ ก็เป็นอีกเกมที่ โจเซ มูรินโญ เลือกใช้งาน จาเฟ็ต แทนกังก้า ประจำการในตำแหน่งแบ็คขวาโดยให้อดีตแบ็คของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่เพิ่งย้ายมาออกสตาร์ทอยู่บนม้านั่งสำรองเท่านั้น ซึ่งในจุดนี้รุ่นพี่ในทีมชาติอย่าง ริชาร์ด ดันน์ ก็รู้สึกไม่พึงพอใจมาก เพราะเขาคิดว่ากุนซือชาว โปรตุเกส กำลังทำลาย โดเฮอร์ตี้ เพราะความผิดพลาดของตัวเอง

“แมตต์ กำลังเจอ ‘มูรินโญ เอฟเฟคท์’ เล่นงานเข้าให้แล้ว”

“การย้ายมา สเปอร์ส เป็นเรื่องที่ลำบากสำหรับเขาแต่ต้น เพราะหมอนี่ทำได้ดีมาอย่างต่อเนื่องหลายซีซั่นจากการสร้างโอกาสและทำประตูด้วยการเติมเกมรุก ผมดูทีมของ มูรินโญ ตลอดหลายปีมานี้เขาไม่เคยใช้งานผู้เล่นแบบนี้เลย”

“เมื่อผู้เล่นคนนี้เขาจดจ่ออยู่กับการโหมบุก ผู้จัดการทีมจึงมีข้ออ้างที่จะดร็อปเขาได้ เมื่อคุณไม่ได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้า คุณคงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เขาไม่กล้าเล่นเกมรุกเพราะกลัวจะโดนตำหนิที่ไม่ใส่ใจเกมรับ มันยากนะและ แมตต์ กำลังลำบากเลยเชียว ผมไม่รู้เลยว่าเขาต้องทำอย่างไรผู้จัดการทีมถึงจะพึงพอใจ”

เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม เอฟเอ คัพ สิงห์บลู คว้าชัยหืดจับ เมื่อคืนที่ผ่านมา

การแข่งขัน : ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2021
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : บาร์นสลีย์ 0-1 เชลซี
สนาม : โอคเวลล์

เชลซี บุกมาเฉือนชนะ บาร์นสลีย์ ไปได้แบบหืดจับ 0-1 โดยได้ประตูชัยจาก แทมมี อับราฮัม ในนาทีที่ 64 ทำให้จบเกม สิงโตน้ำเงินคราม ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต่อไ

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกเป็นทีมเยือนที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ถูกเจ้าบ้านไล่กดดันสูงจนแทบสร้างสรรค์โอกาสยิงไม่ได้เลยตลอดช่วง 10 นาทีแรก

นาทีที่ 11 บาร์นสลีย์ ได้โอกาสใกล้เคียงจะขึ้นนำจากจังหวะชาร์จจ่อ ๆ ของ บริตเทน แต่ยังไปติดเซฟของ เคปา

30 นาทีผ่านไปเกมรับของเจ้าบ้านยังคงทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ สิงห์บลู ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้เลยตลอดครึ่งชั่วโมงแรก

นาทีที่ 41 ทีมเยือนได้โอกาสจบสกอร์ที่ใกล้เคียงครั้งแรกจากจังหวะเข้าชาร์จของ พูลิซิช แต่บอลหลุดเสาออกไป

นาทีที่ 44 เจ้าถิ่นเกือบออกนำจากจังหวะเตะมุมโดยเล่นลูกสูตรและเป็น บริตเทน ได้ยิงโล่ง ๆ บอลไปแฉลบพวกเดียวกันถากเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

ทำให้จบ 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง สิงโตน้ำเงินคราม ยังคงพยายามครองบอลบุกเข้าใส่ ส่วนเจ้าถิ่นรอตั้งรับและอาศัยบอลยาวในการสวนกลับ

นาทีที่ 57 เชลซี มีลุ้นจาก โอดอย ลากเดียวเข้าเขตโทษก่อนจะซัดด้วยซ้าย บอลผ่านหน้าปากประตูออกไปนิดเดียวเท่านั้น

4 นาทีต่อจากนั้น ผู้มาเยือนได้โอกาสอีกครั้งจากลูกโหม่งโล่ง ๆ ของ รือดิเกอร์ แต่กลับหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

แต่แล้วนาทีที่ 64 เชลซี ออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ จากจังหวะหลุดเข้าเขตโทษของ รีซ เจมส์ ก่อนตบเข้ากลางให้ อับราฮัม แท็ปอินจ่อ ๆ เข้าไป

นาทีที่ 77 บาร์นสลีย์ เกือบตีเสมอได้สำเร็จจากลูกยิงส้มหล่นของ โซลบาเออร์ บอลกำลังจะเข้าประตูไปแต่ อับราฮัม ยังโหม่งสะกัดออกจากเส้นไปได้ทัน

ช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านพยายามบุกมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสที่ใกล้เคียงได้ ทำให้จบเกม เชลซี บุกมาเอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด 0-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ

คะแนนนักเตะ เชลซี

11 ผู้เล่นตัวจริง : เคปา (7), อลอนโซ (6), ซูมา (7), คริสเตนเซน (7), เอเมอร์สัน (6.5), ก็องเต้ (6.5), กิลมอร์ (6.5), ซิเยค (6), พูลิซิช (6), โอดอย (6.5), อับราฮัม (8)

ตัวสำรอง : รือดิเกอร์ (7), เจมส์ (7), อันจอริน (5.5), โควาชิช (5.5)

แมน ออฟ เดอะแมทช์ – แทมมี อับราฮัม

วันนี้นอกจากเจ้าตัวจะเป็นคนยิงประตูชัยให้กับทีมแล้ว บทบาทในเกมรับช่วงท้าย ยังถือว่าโดดเด่นและมีประโยชน์กับทีมอย่างมาก โดยเฉพาะลูกยิงของ โซลบาเออร์ ที่บอลกำลังจะเข้าประตูไปแล้ว แต่ แทมมี ยังโหม่งเคลียออกจากเส้นประตูไปได้อย่างหวุดหวิด เรียกได้ว่านอกจากจะยิงได้แล้ว ยังช่วยเซฟจังหวะสำคัญ ๆ ให้ทีมอีกด้วย

ประเด็นหลังเกม

สิงห์บลู เกือบเอาตัวไม่รอด..

ตลอด 90 นาทีของเกมในวันนี้ แม้ เชลซี จะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าชัดเจน แต่เรื่องรูปเกมและโอกาสในการเข้าทำต้องบอกว่า บาร์นสลีย์ สู้ได้อย่างสูสีเลยทีเดียวโดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีแรก ยอมรับเลยจริง ๆ ว่าพวกเขาทำได้ดีกว่าชัดเจน ชนิดที่ทีมเยือนแทบไม่มีโอกาสได้จบแบบจัง ๆ เลย แถมพวกเขายังเกือบพลิกล็อคออกนำได้หลายครั้ง โชคดีที่ยังขาดความเฉียบคมไป มิฉนั้นรูปเกมอาจจะไม่ออกมาอย่างที่เห็นในช่วงครึ่งเวลาหลัง

การแก้เกมของ ทูเคิล ในช่วงพักครึ่งอันที่จริงดูแล้วก็ยังคงไม่มีความชัดเจนมากนัก แต่อย่างน้อย พลพรคสิงห์บลู ก็หาจังหวะจบได้มากขึ้นจนเป็นที่มาของประตูชัยในนาทีที่ 64 จาก แทมมี อับราฮัม อย่างไรก็ตามช่วงท้ายเกม เจ้าบ้านพยายามบุกหนักและมีจังหวะหวาดเสียวอยู่พอสมควร โดยเฉพาะลูกเคลียออกจากเส้นของ แทมมี ซึ่งช่วยให้ทีมคว้าชัยผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต่อไปชนิดที่เกือบเอาตัวไม่รอดกลับออกมา…

เดี๋ยวก็มา ! เจมส์ เชื่อ แวร์เนอร์ กำลังคืนฟอร์มเก่งหลังมีส่วนช่วย เชลซี เชือด เชฟฯ ยูไนเต็ด

รีซ เจมส์ ฟูลแบ็คของสโมสร เชลซี เชื่อว่า ติโม แวร์เนอร์ จะสามารถกลับมาคืนฟอร์มเก่งและยิงประตูให้กับสโมสรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ตามรายงานจาก chelseafc.com

กองหน้าทีมชาติเยอรมนีทำ 1 แอสซิสต์ และเรียกจุดโทษให้กับทีมเกมที่ สิงห์บลู บุกไปเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้ 2-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก นัดคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวจะยังกลับมายิงประตูไม่ได้แต่ เจมส์ ก็ยังเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทีมรายนี้

“เวลาของเขากำลังจะมาถึง เขกำลังทำงานอย่างหนักและมีส่วนกับ 2 ประตูที่เกิดขึ้นซึ่งมันไม่ได้ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้มีส่วนร่วม การมีส่วนร่วมทั้ง 2 ครั้งของเขานั้นช่วยให้เราเก็บชัยชนะได้”

“ในเกมฟุตบอลนั้นบางครั้งความผิดพลาดและเรื่องแปลก ๆ มันก็เกิดขึ้นได้แต่เราตอบโต้ได้ดีและเราก็ทำเกมจนได้จุดโทษ เรารู้ว่าการมาเยือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด นั้นจะเป็นเกมที่ยาก เมื่อปีที่แล้วพวกเขาแสดงให้เห็นว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งและเรารู้ว่าเราต้องทุ่มเทเต็ม 100% ในการมาเยือนเพื่อเก็บชัยชนะให้ได้” เจมส์ กล่าว

[Player Rating] ต่ำกว่ามาตรฐานเกือบทั้งทีม ! ตัดเกรดผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด

การแข่งขัน : ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบที่ 5 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2021
เวลาแข่งขัน : 02:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ถ่ายทอดสด : beIN Sports

คะแนนนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด

ดีน เฮนเดอร์สัน 6/10
แทบไม่ได้ออกแรงเลยในเกมนี้

แอรอน วาน-บิซซาก้า – 5/10
ผิดฟอร์มไปมากทีเดียวหากนับว่าในระยะหลังเขามักจะทำได้ดีในการเติมเกมรุก

วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ – 6/10
เกือบทำประตูได้จากลูกเตะมุม ความพยายามในการจ่ายบอลขึ้นเกมจากแดนหลังของเขาดูจะล้มเหลวไปบางแต่นอกจากนั้นก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรมากนัก

แฮร์รี แม็คไกวร์ – 7/10
รับมือเซตพีซที่เป็นจุดแข็งของคู่แข่งได้ดีและตามซ้อนแนวรุกของพวกเขาได้อย่างหมดจด

อเล็กซ์ เตลลิส – 6/10
เล่นเกมรุกได้น่าตื่นตาสนครึ่งแรก ก่อนที่จะเริ่มค่อยๆหายไปจากเกมในช่วงครึ่งหลัง

เฟร็ด – 5/10
วิ่งไล่กวดแย่งบอลคืนมาให้ทีมได้ดี แต่ไม่ค่อยมีส่วนในการเล่นเกมรุกและมักจะจ่ายบอลแบบเอาปลอดภัยเข้าว่าไปก่อนเสมอ

เนมานยา มาติช – 5/10
ทำเกมช้ายามทีมได้บอลไปหลายหน และเป็นการเปิดโอกาสให้ เวสต์แฮม ถอยไปรับมือกับการสวนกลับของ ยูไนเต็ด ได้ง่ายขึ้น

เมสัน กรีนวู้ด – 6/10
ดูวูบวาบแต่จังหวะสุดท้ายยังตัดสินใจไม่ค่อยดี

ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค – 6/10
เป็นผู้เล่นคนละสไตล์กับ แฟร์นันดส์ อย่างชัดเจน คอยวิ่งหาช่องและเน้นการเคาะบอลเปิดพื้นที่แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างอันตรายให้คู่แข่งได้

มาร์คัส แรชฟอร์ด – 5/10
แม้มีชื่อเป็นผู้แอสซิสต์ประตูชัย แต่นอกจากนั้นเขาทำพลาดอยู่เยอะทีเดียว ทั้งการเลี้ยงติดๆขัด การจ่ายบอลผิดจังหวะและการยิงทิ้งยิงขว้าง

อองโตนี มาร์กซิยาล – 6/10
ทำได้ไม่เลวในการคอยวิ่งหาช่องและฉีกตัวประกบให้เพื่อนเล่นกันได้ง่ายขึ้น

ตัวสำรอง

สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ – 7/10
เข้าปะทะแย่งบอลคืนมาให้ทีมบ่อยครั้ง เป็นผู้ยิงประตูชัยได้อย่างเฉียบขาด

บรูโน แฟร์นันดส์ – 7/10
สร้างความแตกต่างได้จากการจ่ายบอลได้เสียอยู่หลายหน

เอดินสัน คาวานี – 6/10

ลุค ชอว์ – 6/10
มีส่วนในการให้ทีมได้ประตูชัยจากการตัดบอลในแดนตัวเองได้และเป็นจุดเริ่มต้นของการสวนกลับที่ไปจบลงที่ แม็คโทมิเนย์

แบรนดอน วิลเลียมส์ – 6/10

ไม่มีข้อแก้ตัว ! เทรนด์ ยอมรับทำแฟน ลิเวอร์พูล ผิดหวังลั่นพร้อมทุ่มเทเพื่อทำผลงานให้ดีขึ้น

เทรนด์ อเลก็ซานเดอร์ -อาร์โนลด์ กองหลังของ ลิเวอร์พูล ออกมาขอโทษแฟนบอลหลังจากที่พวกเขาเปิดบ้านพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 4-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูลเอ็คโค

ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกของเกมซึ่งสกอร์เสมอกันอยู่ที่ 1-1 ก่อนที่ทีมเยือนจะมาได้ 3 ประตูรวดในช่วง 17 นาทีสุดท้ายโดย 2 ใน 3 ประตูนั้นมาจากการทำพลาดของ อลิสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ หงส์แดง

หลังจบเกม เทรนด์ อาโนลด์ ได้ออกมาโพสข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวแสดงความผิดหวังและกล่าวขอโทษแฟนบอลที่กับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น

“เรารู้ว่าเราทำให้พวกเราเองและแฟนบอลต่างผิดหวังในวันนี้ ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ แค่เราต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อจบซีซันอย่างแข็งแกร่ง เราจะทุ่มเททุกอย่าง”

ยิ้มอ่อน ! โซลชาร์ เผย คิดยังไงหลังเห็น ลินการ์ด ฟอร์มเทพกับ เวสต์แฮม

โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ยอมรับว่าดีใจสุด ๆ ที่เห็น เจสซี ลินการ์ด โชว์ฟอร์มได้แจ่มแมวในเกมเปิดตัวกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หลังย้ายไปด้วยสัญญายืมตัว

“ผมมีความสุขมากที่เห็น ลินการ์ด ทำผลงานได้น่าประทับใจในเกมเปิดตัวกับ เวสต์แฮม และมันทำให้รู้สึกว่าเราคิดถูกแล้วที่ปล่อยยืม เพราะเขามีความเป็นมืออาชีพสูงมากจริง ๆ” น้าลูกอม กล่าวกับ BBC

“ลินการ์ด ทำงานหนักมากกว่าคนอื่น ๆ เสมอ มาพร้อมคาแรคเตอร์โดดเด่นตลอดเวลา และผมกล้าพูดเลยว่าการไม่มีเขาอยู่ช่วยในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด งานของทุกฝ่ายจึงยากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า”

“เราสองคนคุยกันเยอะมากและผมมักบอก ลินการ์ด ว่าจงเตรียมตัวให้พร้อม เพราะโอกาสของคุณกำลังจะมาถึงแล้ว ฉะนั้นห้ามปล่อยให้มันหลุดมือไปอีกเด็ดขาด”