ทิ้งทวน ! บาร์โตเมว เผยพา บาร์เซโลนา ตอบรับเข้าร่วม ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก

FBL-ESP-LIGA-BARCELONA
FBL-ESP-LIGA-BARCELONA | LLUIS GENE/Getty Images

โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ผู้กลายเป็นอดีตประธานสโมสร บาร์เซโลนา ได้เปิดเผยว่าตัวเขาและอดีตบอร์ดบริหารได้ตอบรับข้อเสนอการพาทัพ อาซูลกรานา เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก รายการแข่งขันใหม่ถอดด้ามที่นำเอาบิ๊กทีมระดับหัวกะทิของ ยุโรป ร่วมฟาดแข้ง

บาร์โตเมว และบอร์ดบริหารอำลา บาร์ซา อย่างเป็นทางการในคืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย

“บอร์ดบริหารได้อนุมัติการเข่าร่วมในรายการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ลาออกของ บาร์โตเมว ระบุข้อความดังกล่าว

“รายละเอียดทั้งหมดจะได้รับการเปิดเผยโดยบอร์ดบริหารชุดถัดไป รวมทั้งการตัดสินใจจรดปากกาเข้าร่วมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจะเกิดขึ้นในการประชุมหารือร่วมกันครั้งต่อไป”

“นอกจากนี้ ผมยังอยากที่จะประกาศให้ทราบว่าพวกเราได้อนุมัติการเข้าร่วมรายการ คลับ เวิลด์คัพ รูปแบใหม่ด้วยเช่นกัน”

เกือบไม่รอด ! เฮนเดอร์สัน ยอมรับกองหน้า เชฟฯ ยูไนเต็ด ทำแผงหลัง ลิเวอร์พูล ปั่นปวน

Jordan Henderson
Liverpool v Sheffield United – Premier League | Michael Steele/Getty Images

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับว่า โอลี แม็คเบอร์นี กองหน้าของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมคู่แข่งในศึก พรีเมียร์ลีก เป็นนักเตะที่อันตรายที่สุดในการเจอกันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามรายงานจาก บีบีซีสปอร์ต

หงส์แดง ถูกทีมเยือนออกนำไปก่อนจากลูกจุดโทษอันน่ากังขา ก่อนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน และ ดิโอโก้ โชต้า จะมายิง 2 ประตูรวดให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะได้ 2-1 เก็บ 3 คะแนนรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป

เฮนเดอร์สัน ได้กล่าวหลังเกมว่า “มันยากอย่างที่เราคิดไว้ พวกเขาเป็นทีมที่ดีซึ่งทำงานกันอย่างหนัก เรารู้ว่ามันจะเป็นงานยากและเราดีใจที่สามารถเก็บคะแนนได้”

“แม็คเบอร์นี นั้นเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยมมากซึ่งทำให้กองหลังรับมือได้ยาก แต่พวกเขาก็สามารถจัดการได้และทำได้ดีในครึ่งหลัง เราควรจะยิงได้อก 1 หรือ 2 ประตูเพื่อปิดเกมนี้”

“ผมให้ความสนใจเพียงแค่เรื่องของสภาพจิตใจของทุกคนในห้องแต่งตัวและผมได้เห็นความหิวกระหาย ความยืดหยุ่น คาแร็คเตอร์ และ ชัยชนะ แม้ว่าเราจะเล่นกันได้ไม่ดีก็ตาม เราแสดงให้เห็นว่าเราจะสามารถเปิดเกมใส่และได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้” เฮนโด้ กล่าว

[Match Report] วาร์ดี้ ซัดโทนท้ายเกม ! เลสเตอร์ บุกดับ อาร์เซนอล พังคาบ้าน 1-0

FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEICESTER
FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEICESTER | CATHERINE IVILL/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 0-1 เลสเตอร์ ซิตี้
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ประตูโทนของ เจมี วาร์ดี้ ในช่วงท้ายเกมพา เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมากำชัยเหนือ อาร์เซนอล ถึงถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจากพลพรรค ไอ้ปืนใหญ่ ถูก VAR ริบประตูของ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ ตั้งแต่ช่วง 5 นาทีแรก

เดอะกันเนอร์ส เป็นฝ่ายส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จเมื่อบอลจากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายไปที่เสาแรกเข้าหัว อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ โฉบขึ้นโหม่งเช็ดบอลลอยไปชนเสาสองกระดอนสู่ก้นประตู ทว่าการพิจารณาจาก VAR ให้เป็นลูกล้ำหน้าเมื่อ กรานิท ชาก้า ยืนค้ำขวางทาง แคสเปอร์ ชไมเคิล จนไม่สามารถพุ่งไปเซฟได้

ให้หลังจากนั้นเกมตกเป็นของทัพ ปืนโต ครองบอลบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่ไม่สามารถเอาชนะแนวรับของ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ได้กระทั่งถูกการประสานงานของ 2 ตัวสำรองอย่าง เซงกิซ อุนแดร์ กับ วาร์ดี้

บอลไดเร็กต์จากกลางสนามของทีมเยือนวางให้ อุนแดร์ หลุดขึ้นไปที่กราบขวาเลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนปาดให้ วาร์ดี้ พุ่งโหม่งระยะเผาขน บอลพุ่งสู่ก้นตาข่ายชนิด แบร์นด์ เลโน หมดสิทธิ์เซฟและจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
อาร์เซนอล : เลโน, เบเยริน, ลุยซ์, กาเบรียล, เทียร์นีย์, เซบายอส, ชาก้า, ปาร์เตย์, ซาก้า, ลากาเซ็ตต์, โอบาเมยอง
ตัวสำรอง : รูนาร์สสัน, เมตแลนด์-ไนลส์, มุสตาฟี, เอลเนนี, วิลล็อค, เปเป้, เอ็นเคเทียห์

เลสเตอร์ ซิตี้ : ชไมเคิล, คาสตานเญ, โฟฟานา, อีแวนส์, ฟูคส์, จัสติน, เมนดี้, ติเลอมองส์, ปราท, แมดดิสัน, บาร์นส
ตัวสำรอง : วอร์ด, มอร์แกน, ชาดิวรี, อัลไบรท์ตัน, อุนแดร์, อิเฮนาโช, วาร์ดี้

เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก สิงห์บลู บุกแบ่งแต้ม ปีศาจแดง เมื่อคืนวาน

Edinson Cavani, Thiago Silva
Manchester United v Chelsea – Premier League | Matthew Ashton – AMA/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 เชลซี
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

วันนี้ทั้งสองทีมปรับหมากในการเล่นมาพอสมควรจากเมื่อเกมกลางสัปดาห์ แต่ที่สังเกตได้ชัดเจนอย่างหนึ่งคือตัวผู้เล่นที่ เชลซี มาในระบบหลัง 3 ตัว รวมถึง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ส่งทั้ง เฟร็ด และ แมคโทมิเนย์ ลงมาไล่บอลในแดนกลางแทนที่จะเป็น ป็อกบา หรือ ฟาน เดอ เบ็ค ที่เล่นเกมรุกได้ดีกว่า อีกทั้งแท็คติกต่างฝ่ายต่างเล่นค่อนข้างเซฟตัวเอง ผลัดกันถอยลงมารับต่ำในแดนตัวเองโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก ทำให้การขึ้นเกมทำได้ค่อนข้างยากลำบาก แบ็คก็เติมไม่สุด แผงหลังไม่ดันขึ้นสูง ทำให้เกมที่หลายคนคาดว่าคงจะเปิดแลกกันอย่างสนุกดูกร่อยลงไปพอสมควรเลยทีเดียว

เกมนี้เป็นอีกวันที่ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค มิดฟิลด์ตัวใหม่ป้ายแดงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้รับโอกาสให้ลงมาแสดงฝีเท้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว แถมเกมเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าตัวยังได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น นั่นหมายความว่าตั้งแต่เจ้าตัวย้ายมามีเพียงฟุตบอลถ้วย คาราบาว คัพ ที่พบกับ ไบรท์ตัน เพียงนัดเดียวเท่านั้นที่ได้ลงเล่นเต็ม 90 นาที…

หลายคนอาจมองว่า เดอ เบ็ค เป็นนักเตะใหม่อาจยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับทีม แต่จากที่ดูตั้งแต่ย้ายมา บอกได้เลยว่าฝีเท้าของเขานั้นก็ดูไม่เป็นรอง ป็อกบา เท่าใดนัก แต่ไม่ว่าทีมจะตกอยู่ในสถานการณ์ใดก็ดูเหมือนว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา จะมองข้ามและเลือกที่จะไม่ใช้งานกองกลางชาวฮอลแลนด์รายนี้เลย หรือว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ น้าโอเล ต้องการมาตั้งแต่ต้น ?

แม้วันนี้ ปีศาจแดง จะสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำได้ไม่มากนัก แต่พวกเขาก็พอจะมีจังหวะได้ยิงแบบหวังผลอยู่บ้าง ทั้งจากลูกปั่นนอกกรอบของ มาต้า และ แรชฟอร์ด รวมถึงจังหวะที่ควรต้องได้ประตูสุด ๆ อย่างลูกหลุดเดี่ยวในครึ่งเวลาแรก ทั้งหมดกลับถูกนายทวารชาวเซเนกัลคนใหม่ของ สิงโตน้ำเงินคราม อย่าง เอดูอาร์ด เมนดี้ ปฏิเสธเอาไว้ได้ทั้งหมด ในขณะที่อีกฟาก ดาบิด เด เคอา ในวันนี้ยืนว่างตบยุงเล่นเพราะแทบไม่เจอการทดสอบใด ๆ เลยตลอด 90 นาที แม้ เมนดี้ จะยังมีจังหวะเหวอ ๆ อยู่บ้างเล็กน้อยจากจังหวะออกบอลชนิดที่เกือบเข้าประตูตัวเองไป แต่หากพูดถึงฟอร์มการเซฟนั้นบอกได้เลยว่าขอยกให้เป็น แมน ออฟ เดอะแมทช์ ในวันนี้เลยทีเดียว

นาทีที่ 58 โอเล กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจเปลี่ยนเอา แดน เจมส์ ที่ฟอร์มตกฮวบมาร่วมปีออกและตัดสินใจส่งกองหน้าตัวความหวังคนใหม่อย่าง เอดิสัน คาวานี ประเดิมสนามในฐานะตัวสำรองเป็นเกมแรก ซึ่งลงมาได้เพียงไม่กี่นาทีเจ้าตัวเกือบสร้างความฮือฮาด้วยการเกือบทำประตูได้ตั้งแต่สัมผัสแรก แต่น่าเสียดายที่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว แต่หลังจากนั้นร่วมครึ่งชั่วโมง ต้องบอกเลยว่าเงียบกริบแทบจะหายไปจากเกมอย่างสิ้นเชิง

เห็นได้ชัดว่าแผนการของ โซลชา คือใช้ความเร็วความคล่องตัวของตัวรุกริมเส้นเล่นงานคู่แข่ง แต่การที่ คาวานี ไม่ได้มีจุดเด่นในด้านนั้น ก็น่าคิดว่าเขาจะสามารถปรับสไตล์การเล่นให้เข้ากับทีมได้อย่างไร เพราะเวลาของเจ้าตัวในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เหลืออีกไม่มากแล้วในการจะพิสูจน์ตัวเองว่ายังมีดีพอในการเล่นฟุตบอลระดับสูงต่อไป…

แต่ตั้งเปิดฤดูกาลมา แฟนเชลซี หลายคน เริ่มจะแสดงอาการผิดหวังต่อฟอร์มการเล่นของกองกลางค่าตัวสถิติสโมสรอย่าง ไค ฮาเวิร์ตซ์ ซึ่งถึงตอนนี้มีเพียงเกม คาราบาว คัพ ที่พบกับ บาร์สลีย์ นัดเดียวที่ดูจะโดดเด่น แต่ก็ยังดูไม่มีแววจะเป็น “เดอะแบก” คนต่อไปที่แฟน ๆ จะฝากความหวังเอาไว้ได้อยู่ดี

โดยจุดเด่น ๆ ที่พอจะเห็นได้คือการหาพื้นที่ว่างในการเข้าทำรวมถึงการจบสกอร์ที่ค่อนข้างเฉียบขาด แต่ดูแล้วสิ่งเหล่านั้นแทบไม่ถูกหยิบเอามาใช้เลยเมื่อต้องถอยลงมายืนต่ำ ๆ แถมข้อเสียที่เห็นชัดมากคือสไตล์ที่ดูเหยาะแยะ เก้งก้าง ไม่แข็งแกร่ง ล้มง่าย รวมถึงไม่ค่อยจะขยันวิ่งไล่บอลเท่าใดนัก มันจึงเริ่มเกิดเป็นคำถามคาใจขึ้นมาว่า ตกลงแล้วจะยังสามารถคาดหวังความยอดเยี่ยมของเขาเหมือนสมัยที่ยังเล่นใน บุนเดสลีกา ได้หรือไม่ หรือสุดท้ายเขาก็เป็นได้แค่ตัวรุกธรรมดา ๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นแถมสวนทางกับค่าตัวที่จ่ายไปอย่างสิ้นเชิง

[OPINION] แข้งตกกระป๋อง ! วิเคราะห์สถานการณ์บรรดาแข้งส่วนเกินของทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียรลีก ฤดูกาลนี้

Mesut Ozil
Arsenal FC v Olympiacos FC – UEFA Europa League Round of 32: Second Leg | Chloe Knott – Danehouse/Getty Images

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่สร้างความฮือฮาโดยเฉพาะจากการที่แต่ละทีมส่งรายชื่อนักเตะเพื่อลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ มากพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละกรณีก็มีที่มาที่ไปแตกต่างกัน วันนี้เราจะลองมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุ รวมถึงคาดการณ์อนาคตของนักเตะเหล่านี้ที่ว่ากันว่า “ตกกระป๋อง” ของบรรดาทีมใหญ่ในลีกสูงสุดของอังกฤษ โดยจะมีใครกันบ้างนั้น ลองไปชมกัน…

เมซุด เออซิล – โซคราติส จาก อาร์เซนอล

จัดว่าเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียวสำหรับการถูกหั่นรายชื่อออกจากทีมชุดลุยศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ของ โซคราติส และสตาร์ดังค่าเหนื่อยแพงอย่าง เมซุต เออซิล ที่ดูเหมือนจะมีปัญหาภายในอยู่กับสโมสรในประเด็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ของประเทศจีนลงบนโซเชียลมีเดียเมื่อปลายปีก่อน จนทำให้หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ถูกตัดออกจากสารบบในทันที รวมถึงถูกบอยคอตอย่างรุ่นแรงในประเทษจีนทั้งสิ้นค้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การไม่มีชื่ออยู่ในเกม PES และ FIFA เวอร์ชั่นที่เปิดขายในแดนมังกรเลยทีเดียว

คาดว่าในส่วนของ โซคราติส ยังพอมีข่าวลือว่าทีมในกรีซบ้านเกิด รวมถึงใน บุนเดสลีก้าเยอรมัน กำลังให้ความสนใจจะดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึง แต่ในรายของ เออซิล เจ้าตัวเคยออกมาประกาศว่าจะอยู่กับทีมจนหมดสัญญากลางปีหน้านั่นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า อดีตจอมทัพอินทรีเหล็กรายนี้อาจต้องนั่งว่างงาน โดยไม่ได้ลงสนามไปอีกร่วมปีเลยทีเดียว

เคปา – อลอนโซ – รือดิเกอร์ จาก เชลซี

ด้าน สิงโตน้ำเงินคราม ที่หลังจากเสริมทัพครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แน่นอนว่าย่อมมีนักเตะเก่าบางรายที่ต้องตกกระป๋องไปตามสภาพ รายแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือ เคปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารดีกรีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ที่ได้รับโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าในซีซั่นนี้แต่ก็ยังเล่นผิดพลาดชนิดไม่น่าให้อภัยในแทบทุกเกมที่ลงสนาม จึงไม่แปลกที่เจ้าตัวจะถูกดร็อปให้อยู่บนม้านั่งไปตามระเบียบ แถมยังมีข่าวลือหนาหูถืงการที่ทีมพยายามจะขายเขาออกไปตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย

รายต่อมา มาร์กอส อลอนโซ ที่มีข่าวว่าผิดใจกลับ แฟรงค์ แลมพาร์ด อย่างรุนแรงตั้งแต่เกมลีกกับ เวสต์บรอมวิช ที่เจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่พักครึ่งเวลาและไม่อยู่ชมเกมต่อในสนาม ซึ่งตามรายงานระบุว่ากุนซือหนุ่มโกรธเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์นี้ และหลังจากนั้นแฟน ๆ สิงห์บลู ก็ไม่เห็นหน้าคาดตาแบ็คซ้ายรายนี้อีกเลย ดังนั้นคงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าอนาคตของเขากับทีมอาจจะสิ้นสุดลง ณ ตรงนี้ ทันที่ที่เปิดตลาดหน้าหนาวก็เตรียมเก็บสัมภาระและมองหาต้นสังกัดใหม่ได้เลย

สุดท้ายคงเป็นคนที่ถูกแฟน ๆ ตั้งคำถามถึงการหายหน้าไปมากที่สุดนั่นคือ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ปราการหลังตัวเก่งชาวเยอรมันที่ยังไม่เคยได้ลงสัมผัสสนามเลยแม้แต่นาทีเดียวในฤดูกาลนี้ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงที่เจ้าตัวโดนดร็อปไป แต่ก็มีข่าวลือแว่ว ๆ ว่าอาจมีสาเหตุจากการที่ทีมต้องการจะขายเขาออกไป แต่ไม่สามารถหาผู้ซื้อในราคาที่ต้องการได้จนกระทั่งตลาดปิดตัวลง สำหรับรายนี้คงต้องมาลุ้นกันว่าทั้งสองฝ่ายจะเคลียใจกันได้หรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะยังพอมีโอกาสเพราะแผงหลังที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ก็ยังไว้ใจอะไรไม่ได้ รือดิเกอร์ จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีหากทีมต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนในช่วงที่ยังซื้อใครมาเพิ่มไม่ได้ในตอนนี้

โรเมโร – โจนส์ – โรโฮ จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

และก็มาถึงคิวของนายทวารที่ว่ากันว่าน่าสงสารสุด ๆ คนหนึ่งในตอนนี้อย่าง เซร์คิโอ โรเมโร นายทวารฝีมือดีชาวอาร์เจนไตน์ ที่ไม่รู้ว่าไปทำกรรมอะไรกับ โอเล กุนนาร์ โซลชา เอาไว้ ถึงถูกมองข้ามมาโดยตลอด โดยเฉพาะในฤดูกาลก่อนที่แม้จะได้ลงเล่นเฉพาะในบอลถ้วย แต่ก็สามารถพาทีมเข้าไปถึงรอบลึก ๆ ได้ แต่สุดท้ายกลับถูกดร็อปในเกมสำคัญจนทีมตกรอบไปทุกรายการ ไม่เพียงแค่นั้นการมาของ ดีน เฮนเดอร์สัน ในปีนี้เป็นการปิดฉากอนาคตของเขากับทีมอย่างสมบูรณ์ และแทนที่ทีมจะขายเขาออกไป กลับเลือกจะเก็บนายทวารผู้อาภัพรายนี้ออกไปในช่วงตลาดซื้อขายรอบที่ผ่านมา ที่สำคัญคือยังโดนตัดชื่อออกจากทีมชุดลุยศึก พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้เป็นที่เรียบร้อย ก็ไม่รู้ทำไมทีมถึงใจร้ายกับเขาได้ขนาดนี้ คาดว่า โรเมโร คงจะอยู่กับทีมเป็นปีสุดท้ายและคงตัดสินใจย้ายทีมแบบไร้ค่าตัวหลังหมดสัญญาในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลางปีหน้าอย่างแน่นอน

ด้าน ฟิล โจนส์ และ มาร์กอส โรโฮ สองรายนี้ค่อนข้างแน่นอนมาพักใหญ่แล้วว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โซลชา สำหรับ โรโฮ ที่สัญญาจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์หน้า คาดว่าเจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นในลีกบ้านเกิดหลังจากหน้าร้อนที่ผ่านมามีหลายทีมในอาร์เจนตินาสนใจจะดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว แต่ต้นสังกัดต้องการจะปล่อยออกแบบถาวร การย้ายทีมจึงไม่เกิดขึ้น ที่น่าเป็นห่วงคือ โจนส์ ที่ยังเหลือสัญญาอีกร่วม 3 ปี แต่กลับถูกตัดชื่อออกจากทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งดูทรงคงน่าจะต้องติดอยู่ในสภาพนี้อีกพักใหญ่ เพราะด้วยค่าตัวที่ตั้งไว้สูงถึง 20 ล้านปอนด์ คงยากที่ทีมใดจะเสี่ยงทุ่มเงินก้อนโตวัดดวงกับกองหลังที่ท่าทางไม่น่าลงทุนแบบนี้ไปร่วมทีมเป็นแน่

แดนนี โรส – เดเล อัลลี จาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

แดนนี โรส แบ็คซ้ายวัย 30 ปีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ กลับถูกเมินที่จะใช้งานโดย โชเซ มูรินโญ ทำให้เจ้าตัวต้องยอมย้ายไปเล่นให้กับ นิวคาสเซิล เมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา แต่แล้วในปีนี้เขาก็ยังคงหาสังกัดใหม่ไม่ได้จนตลาดปิดทำให้ต้องอยู่ในฐานะส่วนเกินของทีมต่อไป แต่ยังดีที่สัญญาของแบ็คจอมบุกรายนี้กำลังจะหมดลงกลางปีหน้า แถมมีข่าวแว่ว ๆ ว่าที้งสองฝ่ายกำลังเจรจายกเลิกสัญญากันอยู่ ซึ่งหากสำเร็จลุล่วง โรส จะสามารถย้ายทีมได้ทันทีที่มีสถานะเป็นนักเตะฟรีเอเจนต์นั่นเอง

ปิดท้ายกันที่กองกลางดีกรีทีมชาติอังกฤษอีกรายที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นแข้งที่จะแบกทีม ไก่เดือยทอง ไปถึงฝั่งฝันได้ในอนาคตอย่าง เดเล อัลลี ซึ่งก็เป็นอีกรายที่ดูเหมือนว่าจะเล่นไม่ค่อยเข้าตานายใหญ่อย่าง “เฮียมู” จนทำให้ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง และบ่อยครั้งที่ไม่มีชื่อติดมากับทีม จนมีข่าวว่าหลายทีมยักษ์ใหญ่อยากได้ตัวไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่เมื่อสุดท้ายไม่ได้ย้าย คงต้องบอกว่างานหยาบเลยทีเดียวสำหรับอนาคตของอดีตวันเดอร์คิดรายนี้ที่คาดว่าจะต้องนั่งตบยุงว่างงานต่อไปยาว ๆ ในซีซั่นนี้ อย่างมากก็คงได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในฟุตบอลถ้วยอีกสัก 2-3 นัดหากทีมยังไม่รีบตกรอบไป ส่วนเกมสำคัญ ๆ รวมถึง พรีเมียร์ลีก คงเป็นได้แค่กองเชียร์ให้เพื่อนร่วมทีมข้างสนามต่อไปอย่างไม่มีกำหนด…

เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หงส์แดง บุกคว้า 3 แต้ม เมื่อคืนที่ผ่านมา

Dusan Tadic, Jordan Henderson
Ajax v Liverpool – UEFA Champions League | Soccrates Images/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 21 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : อาแจ็กซ์ 0-1 ลิเวอร์พูล
สนาม : อัมสเตอร์ดัม อารีนา

ตลอด 90 นาทีในเกมนี้ ลิเวอร์พูล อาจเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย แต่จังหวะการเข้าทำถือว่าสูสีกันมาก ๆ ซึ่งต้องชมเจ้าบ้านที่สามารถเปิดเกมบุกเข้าใส่ได้อย่างไม่เกรงกลัวและเกือบจะทำประตูได้หลายต่อหลายครั้ง เสียดายที่ทีมของ เอริค เทน ฮาก มาโชคร้ายทำเข้าประตูตัวเองชนิดที่น่าเจ็บใจสุด ๆ เพราะด้วยผลงานระดับนี้ บอกเลยว่า อาแจ็กซ์ สมควรอย่างยิ่งที่จะมีแต้มติดมือออกมาอย่างน้อย 1 คะแนนเป็นอย่างต่ำ

ก่อนเกมแฟน ๆ หงส์แดง หลายคนออกมาแสดงความเป็นห่วงทีมรักของตนเองโดยเฉพาะในแผงหลังที่เซ็นเตอร์แบ็คได้รับบาดเจ็บกันเป็นว่าเล่นจนเหลือ โจ โกเมซ ที่เป็นปราการหลังตัวกลางอาชีพอยู่เพียงคนเดียว และแน่นอนเกมนี้เขาจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ รวมถึง ฟาบินโญ ที่ต้องถอยลงมาเป็นกองหลังจำเป็นอีกหนึ่งราย แต่ต้องบอกเลยว่าทั้งคู่กลับทำได้ดีเกินคาดในการป้องกันเกมรุกอันดุดันของเจ้าถิ่นที่ถาโถมเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะ ฟาบินโญ ที่จัดว่าเล่นได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียวจนช่วยทีมคว้า 3 คะแนนกลับบ้านไปได้ในที่สุด

สำหรับในกลุ่ม ดี นอกจากสองทีมนี้แล้วยังมี มิดทิลแลนด์ และ ม้ามึดจอมถล่มประตูอย่าง อตาลันต้า อยู่ร่วมชายคาด้วย ซึ่งฟอร์มของยอดทีมจาก เซเรีย อา บอกได้เลยว่ายังคงร้อนแรงและดุดันเหมือนในฤดูกาลก่อนไม่มีผิด แถมเกมแรกยังบุกอัด มิดทิลแลนด์ ไปได้ขาดลอยถึง 0-4 เมื่อคืนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามเกมหน้าในรายการนี้ หงส์แดง จะมีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ มิดทิลแลนด์ ก่อนแต่อีก 2 เกมต่อจากนั้นที่พวกเขาต้องพบกับ อตาลันต้า ติดกัน เหย้า-เยือน คาดว่าจะเป็นสองเกมที่ชี้ชะตาอนาคตแชมป์กลุ่มเลยก็เป็นได้ หรือหากทีมได้พลาดพลั้งแพ้รวดทั้งสองนัด ก็มีโอกาสถึงขั้นไม่ได้ไปต่อในรอบต่อไปเลยก็เป็นได้

ชำแหละทุกความเป็นไปหลัง ผีแดง บุกสอย เปแอสเช คาถิ่น

FBL-EUR-C1-PSG-MAN UTD
FBL-EUR-C1-PSG-MAN UTD | FRANCK FIFE/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 20 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : ปาร์ค เดส์ แปรงซ์

ในวันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไร้เงาปราการหลังคีย์แมนอย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ และ เอริก ไบยี จากอาการบาดเจ็บ โอเล กุนนาร์ โซลชา จัดทัพโดยใช้ปราการหลังตัวกลาง 3 รายเพื่อรับมือกับแนวรุกระดับพระกาฬอย่าง เนย์มาร์, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ อังเคล ดิ มาเรีย ด้วย อักเซล ทวนเซเบ้, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ และ ลุค ชอว์ โดยมี อารอน วาน-บิสซาก้า กับ อเล็กซ์ เตลเลส ขนาบข้าง

กลายเป็นเกมที่บรรดาแนวรับของ โซลชา ทำหน้าที่ได้อย่างมีวินัย สอดซ้อนประสานงานรับมือการโจมตีของเจ้าถิ่นได้เฉียบขาดโดยเฉพาะการเข้าสกัดในพื้นที่สุดท้าย

แม้จะมีเซอร์ไพรส์อยู่เล็กๆ เมื่อ โซลชา ตัดสินใจหั่นปราการหลังมากประสบการณ์อย่าง มาร์กอส โรโฮ และ ฟิล โจนส์ ออกจากทีมชุดลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยใส่ชื่อ 2 ดาวรุ่ง อักเซล ทวนเซเบ้ กับ ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์

ว่ากันตามตรง แม้ โรโฮ กับ โจนส์ จะมีช่วงเวลาที่เลวร้ายอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยชื่อชั้นและประสบการณ์ที่พวกเขามีอาจมีประโยชน์กับทีมมากกว่าเมื่อพวกเขาต้องการกำลังสำรองในแดนหลัง

ทว่า ทวนเซเบ้ ผู้ได้รับความไว้วางใจประจำการในบทบาทเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวาเกมนี้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถก้าวขึ้นมาแทนที่แข้งรุ่นพี่อย่างไม่เคอะเขิน โดยลูกหม้อ อสูรแดง พันธุ์แท้วัย 23 ปีสามารถรับมือกับทั้ง เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ ได้อย่างน่าประทับใจ แถมมีช็อตเตะตากับการวิ่งไล่กวดดักสกัดในพื้นที่อันตรายอย่างเด็ดขาด

นายใหญ่ชาว นอร์เวย์ เลือกส่ง เฟร็ด ลงจับคู่กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่แดนกลางเป็นปราการด่านแรกคอยหยุดเกมรุกของ เปแอสเช โดยมี บรูโน แฟร์นันด์ส รับบทบาทจอมทัพปั้นเกมรุกอยู่หลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล ขณะที่ เนมานยา มาติช นั่งสแตนด์บายอยู่บนม้านั่งสำรอง

เป็นอีกครั้งที่การประสานงานระหว่าง เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์ ทำได้อย่างลงตัวโดยเฉพาะเมื่อทีมตกเป็นฝ่ายตั้งรับ มิดฟิลด์ทีมชาติ สกอตแลนด์ วัย 23 ปีรับบทบาทผึ้งงานไล่บี้คอยตัดเกมที่แดนกลางอันเป็นงานถนัดของเจ้าตัว ขณะที่คู่หูชาว บราซิล โดดเด่นกับการเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว

อเล็กซ์ เตลเลส เดบิวต์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการออกสตาร์ทประจำการในบทบาทวิงแบ็คฝั่งซ้ายโดยลอยเติมเกมขึ้นสูงจนกลายเป็นคีย์แมนในการเปิดเกมรุกจากริมเส้นฝั่งดังกล่าว

เตลเลส จบเกมด้วยสถิติการครอสบอลมากที่สุดในสนาม 8 ครั้ง เข้าเป้า 3 ครั้งเป็น 3 คีย์พาส โดยยังนับเป็นแข้งที่สามารถผ่านบอลให้เพื่อนสับไกมากครั้งที่สุดในเกมนี้อีกด้วยแม้เจ้าตัวจะใช้เวลาอยู่ในสนามเพียง 67 นาทีเท่านั้น

นอกเหนือจากตัวเลขสถิติ วิธีการเปิดบอลของแบ็คซ้าย บราซิเลียน ที่ทำให้บอลโค้งพุ่งแรงก่อนจะมุดลงอย่างรวดเร็วเป็นอีกหนึ่งในอาวุธเด็ดของ ปีศาจแดง ในเกมนี้

ให้หลังจากที่ เปแอสเช ตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 55 ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น โซลชา ตัดสินใจส่ง ปอล ป็อกบา ลงเล่นแทนที่ เตลเลส พร้อมกับปรับรูปแบบการเล่นเป็นกองหลัง 4 ราย

การมีมิดฟิลด์ทีมชาติ ฝรั่งเศส ลงไปขับเคลื่อนเกมที่แดนกลางช่วยให้เข้าทำของทีมเยือนลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมี ป็อกบา คอยเปิดป้อน พลิกบอลให้แนวรุกเข้าทำ

เจ้าตัวจบเกมด้วยการทำแอสซิสต์ไหลบอลให้ แรชฟอร์ด ซัดประตูชัยในช่วงท้ายเกม

ลิเวอร์พูล สนกลาง ลีดส์ 50 ล้าน, แมนฯ ยูไนเต็ด บี้ มาดริด ล่า ฮาแลนด์ : สรุปข่าวซื้อขายนักเตะประจำวันที่ 19 ตุลาคม

สรุปทุกประเด็นข่าวที่สำคัญในแวดวงฟุตบอลที่เกิดขึ้นในรอบวันของ ลิเวอร์พูลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, และบรรดาบิ๊กทีมในศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษข่าวซื้อขายนักเตะ และวงการฟุตบอลทั่วโลก

ติดตามบทความย้อนหลังได้ที่ : ลิเวอร์พูล เล็ง คาลวิน ฟิลลิปส์, แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้: สรุปข่าวซื้อขายนักเตะประจำวันที่ 18 ตุลาคม

The Metro สื่อในอังกฤษ รายงานว่า ลิเวอร์พูล และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ กำลังให้ความสนใจในตัว เคลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางวัย 24 ปีดีกรีทีมชาติอังกฤษของ ลีดส์ ยูไนเต็ด มาเสริมทัพในช่วงกลางปีหน้า โดยคาดว่าจะมีค่าตัวอยู่ที่ราว 50 ล้านปอนด์ด้วยกัน นอกจากนี้มีข่าวว่า ไก่เดือยทอง ก็กำลังสนใจ มาร์เซโล โบรโซวิช มิดฟิลด์ของ อินเตอร์ มิลาน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมทัพแดนกลาง

เจมี คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังตำนานสโมสร ลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความมั่นใจว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีม หงส์แดง จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะนำตัว ดาโยต์ อูปาเมกาโน กองหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสของ แอร์เบ ไลป์ซิก มาร่วมทีมให้ได้ภายในตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมที่จะถึง หลังจากเซ็นเตอร์แบ็คตัวเก่งของทีมอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักยาวจากเกมล่าสุดที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ABC รายงานว่า เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งฟอร์มแรงของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดย โอเล กุนนาร์ โซลชา เตรียมจะใช้ความเป็นนอร์เวย์คอนเน็คชั่นในการชักจูงให้อดีตดาวรุ่งของ ซัลซ์บวร์ก รายนี้ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่อย่างไรก็ตามสื่อดังกล่าวชี้ว่า นักเตะสนใจจะย้ายไปเล่นให้กับ ราชันชุดขาว มากกว่า

เดลี สตาร์ รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีแผนจะกระชากตัว ลิโอเนล เมสซี ซุเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนตินาของ บาร์เซโลนา มาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว โดยพร้อมจะยื่นข้อเสนอราว 15 ล้านปอนด์ ให้กับ เจ้าบุญทุ่มพิจารณาแลกกับการปล่อยตัวเอเลี่ยนที่กำลังจะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์หน้าออกจากทีม โดยสื่อดังกล่าวเปิดเผยว่ายังมีอีกหลายสโมสรที่คาดว่าจะเข้าร่วมวงล่าลายเซ็นนักเตะอันดับ 1 ของโลกรายนี้ทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เชลซี ยูเวนตุส อินเตอร์ มิลาน รวมถึงทีมจาก เมเจอร์ลีกซ็อคเกอร์สหรัฐอเมริกา

ดิ เอ็กซ์เพลสส์ ตีข่าวว่า อาร์เซนอล กำลังให้ความสนใจในตัว เปา ตอร์เรส กองหลังเลือดกระทิงดุของ บียาร์เรอัล หลังจากปราการหลังวัย 23 ปีรายนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนถูกเรียกติดทีมชาตสเปนไปแล้ว 5 นัด โดยสื่อดังกล่าวชี้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็กำลังให้ความสนใจแข้งรายนี้อยู่เช่นกัน และคาดว่าจะมีค่าตัวอยู่ที่ราว 30-35 ล้านปอนด์

Football.London สื่อท้องถิ่นในอังกฤษ เปิดเผยว่า เชลซี กำลังตามติดสถานการณ์ของ เปลโล ดิบาลา ตัวรุกชาวอาร์เจนตินาวัย 26 ปีของ ยูเวนตุส ตามที่มีข่าวลือว่าอนาคตของเขากับต้นสังกัดเริ่มส่อแววแตกหัก แถมเจ้าตัวยังไม่ได้ลงสัมผัสสนามให้กับ ทีมม้าลายแห่งตูริน เลยแม้แต่วินาทีเดียวในฤดูกาลนี้ โดยสื่อดังกล่าวชี้ว่า สิงโตน้ำเงินคราม มีแผนจะดึงตัวเพลย์เมกเกอร์รายนี้มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์หน้า

Football.London สื่อท้องถิ่นเมืองผู้ดี ตีข่าวว่า เชลซี ยังมีแผนจะคว้าตัวนายทวารคนใหม่เข้ามาเสริมทัพนั่นคือ จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูชาวอิตาลีของ เอซี มิลาน ที่กำลังจะหมดสัญญากับทีม ปีศาจแดงดำ ในช่วงกลางปีหน้า นั่นทำให้ สิงห์บลู จะสามารถเซ็นสัญญามาร่วมทีมล่วงหน้าแบบไร้ค่าตัวได้ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป

หายหน้าหายตา ! แลมพาร์ด พูดถึงอนาคตของ รือดิเกอร์ กับ เชลซี 

Antonio Ruediger
Germany v Switzerland – UEFA Nations League | Martin Rose/Getty Images

แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าเขาปฏิบัติต่อผู้เล่นทุกคนด้วยความเท่าเทียม และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับเลือกได้ลงสนามเป็นตัวจริงเท่า ๆ กัน รวมทั้ง อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่หลุดเป็นตัวสำรองด้วย ตามรายงานจาก goal.com

แม้ว่าทีม สิงห์บลู จะจัดการทุ่มเงินกว่า 200 ล้านปอนด์เมื่อช่วงซัมเมอร์ดึงผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์เข้ามาร่วมทีมหลายราย แต่นายใหญ่ชาวอังกฤษก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่านักเตะทุกคนมีโอกาสได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกเช่นเดียวกัน

“ผู้เล่นทุกคนสามารถเล่นในแบบของพวกเขาเพื่อให้ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงได้ ซึ่งโอกาสมันอยู่ในมือของพวกเขา นั่นคือการทำงานของผม สิ่งที่ผมทำนั้นเพื่อปผลประโยชน์ของทีมเสมอและเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสโมสร เพราะเราต้องการเก็บชัยชนะให้ได้ในทุก ๆ สัปดาห์”

“ผู้เล่นทุกคนต่างรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น ความสวยงามของตลาดซื้อขายที่เพิ่งปิดไปก็คือ เราสามารถทำงานได้และรู้ว่าทีมเราเป็นอย่างไร พวกเขารู้และและสามารถมีส่วนร่วมได้และเราก็ต้องการและพึ่งพาพวกเขาในหลาย ๆ เกมที่ลงสนาม โทนี ก็เหมือนกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เช่นกัน”

เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก ปีศาจแดง บุกขย่ำ สาลิกาดง

Bruno Fernandes
Newcastle United v Manchester United – Premier League | Alex Pantling/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง: นิวคาสเซิล 1-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : เซนต์ เจมส์พาร์ค

เกมนี้แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะดูเหนือกว่า แต่ตลอด 80 นาทีพวกเขาแทบจะงัดเกมรุกทุกรูปแบบในการเข้าทำรวมถึงการได้ลูกจุดโทษ แต่ก็ยังไม่สามารถหาช่องเจาะประตูของเจ้าถิ่นได้ แถมมีจังหวะโดนโต้กลับหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งต้องชม ดาบิด เด เคอา ในวันนี้ ที่ช่วยเซฟจังหวะสำคัญ ๆ ทำให้ทีมไม่เสียประตูที่สอง กระทั่งต้องอาศัยบารมีของ “เดอะแบก” บรูโน เฟอร์นันเดส ในการยิงประตูสุดสวยช่วยปลดล็อคในนาทีที่ 86 และหลังจากนั้นสกอร์ก็ไหลมาเทมา เพราะเจ้าบ้านต้องยอมเปิดเกมบุกแลกจนผลออกมาอย่างที่ทราบกันนั่นเอง

ในช่วงท้ายเกม โอเล กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจส่ง พอล ป็อกบา และ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค ลงมาเปลี่ยนเกม ซึ่งเป็นการแก้เกมที่ต้องบอกเลยว่าตรงจุดสุด ๆ เพราะดูแล้วซุเปอร์ซับทั้ง 2 คน สามารถลงมาเล่นกับ บรูโน และ มาต้า ได้อย่างเข้าขาสุด ๆ จนสามารถสร้างสรรค์จังหวะต่อบอลจากแดนตัวเองสวย ๆ งดงามและไหลลื่น ในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าใดนักจากบรรดาแข้ง ปีศาจแดง จนเป็นที่มาของ 3 ประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้าย

น่าสนใจว่าหาก โซลชา ลองจัดตัวโดยส่ง 4 คนนี้ลงเล่นพร้อมกันในแผงมิดฟิลด์ 5 ตัว การต่อบอลในแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด คงจะงดงามและน่าดูชมขึ้นอีกหลายเท่าตัวเป็นแน่…

8 ครั้ง คือจำนวนเซฟจังหวะสำคัญ ๆ ที่ คาร์ล ดาร์โลว์ นายทวารวัย 30 ปีชาวอังกฤษ โชว์ซุเปอร์เซฟช่วย ทีมสาลิกาดง มาได้ตลอด 85 นาที ทั้งที่มีอาการบาดเจ็บระหว่างเกม กระทั้ง 5 นาทีสุดท้ายบวกทดเวลาอีก 5 นาที เจ้าตัวกลับโดนยิงล่อเป้าถึง 3 ประตูชนิดที่เผาขนและแทบจะหมดสิทธิเซฟทั้งหมด อย่างไรก็ตามใครที่ได้ติดตามชมคงจะเห็นแล้วว่าฝีมือของเขานั้นไม่ธรรมดาทั้งการอ่านจังหวะบอล ความนิ่ง รวมถึงการยืนตำแหน่ง ไม่ทราบว่าหลังจาก ดูบราฟก้า มือหนึ่งของทีมหายเจ็บกลับมา ดาร์โลว์ จะถูกดรอปเป็นตัวสำรองตามเดิมหรือไม่ แต่บอกได้เลยว่าฝีไม้ลายมือขนาดนี้ ย้ายไปเป็นมือหนึ่งให้ทีมอื่นได้สบาย ๆ