[OPINION] ย้อนรอย 6 กุนซือ พรีเมียร์ลีก ที่ฝากผลงานอันยอดเยี่ยม หลังจากเข้ามาคุมทีมระหว่างฤดูกาล

6. เดวิด มอยส์ – 2001/02

ทีม เอฟเวอร์ตัน 

ฤดูกาล 2001-02

วันที่เข้ารับงาน 14 มีนาคม 2002

นี่คือจุดเริ่มต้นของ ตำนานกุนซืออันดับ 7 อย่าง เดวิด มอยส์ ที่ก่อนหน้านั้นเจ้าตัวกำลังคุม เปรสตัน ทีมเก่าที่เจ้าตัวพึ่งจะแขวนสตั๊ดด้วยไม่กี่ปีก่อน แต่แล้วก็มีความท้าทายครั้งใหญ่ในชีวิตเข้ามาหลังจาก เอฟเวอร์ตัน ที่ขณะนั้นกุนซืออย่าง วอล์เตอร์ สมิธ ถูกปลดจากตำแหน่งไปหลังทำผลงานได้ย่ำแย่ ผ่าน 29 นัดมี 30 คะแนนรั้งอันดับที่ 16 แต่แต้มเท่ากับทีมอันดับ 18 ที่อยู่ในโซนตกชั้น

ซึ่ง มอยส์ เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้มารับเผือกร้อนโดยมีโจทย์ว่าทีมจะต้องรอดตกชั้นให้ได้ และเข้าก็ทำได้สำเร็จ ไม่เพียงแค่นั้น ปีต่อ ๆ มา กุนซือชาวสกอตแลนด์ ยังสามารถยกระดับทีม ให้ขึ้นไปอยู่หัวตารางได้และสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับ ท็อฟฟีสีน้ำเงิน อย่างต่อเนื่องอีกกว่า 11 ปี กระทั้งย้ายไปคุม ปีศาจแดง ในปี 2013

5. แฮร์รี เร้ดแนบป์ – 2008/09

ทีม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

ฤดูกาล 2008-09

วันที่เข้ารับงาน 26 ตุลาคม 2008

หลังจากผลงานอันย่ำแย่ที่ ฮวนเด รามอส ทำเอาไว้เมื่อผ่านไปเพียง 11 สัปดาห์ ทัพไก่เดือยทอง ก็หล่นมารั้งอันดับบ๊วยของตารางทั้งที่มีนักเตะชื่อดังแทบจะล้นทีม นั่นจึงทำให้อดีตนายใหญ่จากเซบีญา จึงต้องถูกเตะจากเก้าอี้ไปตามระเบียบ และเป็นเสือเฒ่า แฮร์รี เร้ดแนบป์ ที่ถูกเรียกต้วเข้ามากู้สถานการณ์แทนในเดือน ตุลาคม ปี 2008 แล้วก็อย่างที่ทราบกับ เร้ดแนบป์ สามารถพาทีมจบในอันดับที่ 8 ฤดูกาลนั้น แถมตลอด 4 ปีที่คุม สเปอร์ส เขายังสามารถพาทีมจบท็อป 4 ได้ ถึง 2 ครั้ง ในปี 2010 และ 2012 จนกระทั่งแยกทางกับทีมไปในช่วงหน้าร้อนปีเดียวกันนี้

4. โรแบร์โต้ มันชินี – 2009/10

ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ฤดูกาล 2009-10

วันที่เข้ารับงาน 19 ธันวาคม 2009

แม้ว่ากุนซือคนก่อนอย่าง มาร์ค ฮิวจ์ส ผลงานจะไม่ได้แย่อะไรมากมายนักในช่วงเวลานั้น แพ้ไปเพียงแค่ 2 จาก 21 เกม แต่ก็เสมอไปถึง 8 นัดในทุกรายการ รั้งอันดับที่ 6 หลังในลีก แต่นั่นยังไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่บอร์ดบริหารในยุคนั้นคาดหวังนัก จึงทำการปลด ฮิวจ์ส ออกจากตำแหน่งและตั้ง โรแบร์โต้ มันชินี ที่กำลังว่างงานอยู่เข้ามาทำหน้าที่แทน

แม้ในปีแรกผลงานจะยังไม่ดีมากนัก พาทีมจบเพียงอันดับที่ 5 แต่ในฤดูกาล 2011-12 เจ้าตัวก็สร้างประวัติศาสตร์ พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968 และรับเป็นการจุดประกายความยิ่งใหญ่ให้กับ พลพรรคเรือใบสีฟ้า มาจนถึงปัจจุบัน

3. ดาวิด โอ เลียรี – 1998/99

ทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด

ฤดูกาล 1998-99

วันที่เข้ารับงาน 1 ตุลาคม 1998

สมัยช่วงปลายยุค 90 จนถึงต้นยุค 2000 ที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวตารางนั้น พวกเขาต้องการยกระดับทีมขึ้นไปอีกขั้น แต่กุนซือคนเก่าอย่าง จอร์จ เกรแฮม ดูจะยังไม่ใช่คนที่ตอบโจทย์นั้นได้ พวกเขาจึงทำการปลดกุนซือชาวสกอตต์ และตั้ง ดาวิด โอ เลียรี ที่เป็นผู้ช่วยอยู่ก่อนแล้วขึ้นมารับตำแหน่งแทน ซึ่งถือว่าเจ้าตัวทำได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะช่วงเวลาเกือบ 4 ปี ที่เขานั่งเก้าอี้กุนซือนั้น ทีมยุงทอง บินสูงคว้าอันดับท็อป 4 ได้แทบจะทุกซีซั่น จนถูกขนานนามว่ายักษ์ทีมที่ 5 ใน พรีเมียร์ลีก แต่หลังจากเจ้าตัวแยกทางกับทีมในปี 2002 ลีดส์ ก็ก้าวเข้าสู่ยุคมืดเต็มตัวกระทั่งฤดูกาล 2003-04 ก็ตกชั้นไปเล่นลีกรองในที่สุด

2. เยอร์เก้น คล็อปป์ – 2015/16

ทีม ลิเวอร์พูล 

ฤดูกาล 2015-16

วันที่เข้ารับงาน 8 ตุลาคม 2015

หลังจากเกมลีกฤดูกาล 2015-16 เริ่มไปได้เพียง 2 เดือนเศษ ผลงานของ หงส์แดง ในขณะนั้นก็ดูไม่ดีเอาเสียเลย ด้วยการหล่นมาอยู่อันดับที่ 10 มี 12 คะแนนจากการลงเล่น 8 เกม ทำให้กุนซือคนเก่าอย่าง แบรนเดน ร็อดเจอร์ส ปลิวตกเก้าอี้ไปตามระเบียบ และทีมก็ได้เปิดตัว เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือคนใหม่ในอีกไม่กี่วันต่อมา แม้ว่า ซีซั่นแรก อดีตกุนซือดอร์ทมุนด์ จะยังทำผลงานได้ไม่ดีนักโดยการคว้าอัน 8 หลังจบฤดูกาล แต่บอร์ดเองก็ยังคงไว้วางใจให้เวลาเจ้าตัวสร้างทีมขึ้นมาเรื่อย ๆ และหลังจากนั้น ทัพเร้ดแมทชีน ก็ไม่เคยหลุดจากท็อป 4 อีกเลย ภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ แถมผลงานยังดีขึ้นเรื่อย ๆ กวาดแชมป์รายการใหญ่ ๆ มากมาย จนการเป็นยอดทีมที่ดีที่สุดของโลกทีมหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปัจจุบัน

1. อาร์แซน เวงเกอร์ – 1996/97

ทีม อาร์เซนอล

ฤดูกาล 1996-97

วันที่เข้ารับงาน 1 ตุลาคม 1996

และแล้วก็มาถึงหนึ่งกุนซือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก อย่าง อาร์แซน เวงเกอร์ ที่รับงานเป็นกุนซือ ทัพไอ้ปืนใหญ่ ต่อจาก สจ๊วต ฮิวสตัน ที่แม้พึ่งจะถูกตั้งให้มาคุมทีม แต่ผลงานดูจะย่ำแย่ตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล บอร์ดบริหารในขณะนั้นจึงไม่รอช้ารีบหากุนซือคนใหม่เข้ามาก่อนที่จะสายเกินไป และสุดท้ายก็ไปได้ตัวยอดกุนซือชาวฝรั่งเศส รายนี้ที่กำลังคุมทีม นาโกยา แคมปัส ในเจลีกประเทศญี่ปุ่น กลับมาสู่ยุโรปอีกครั้ง

ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟน ๆ เดอะกันเนอร์ส ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย พาทีมจบอันดับ 3 ในซีซั่นแรกที่เข้ามาทำหน้าที่ จนกระทั่งผ่านร้อนผ่านหนาวกับสโมสรอย่างยาวนานเกือบ 22 ปี คว้าแชมป์ราการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะตำนานแชมป์ไร้พ่ายในปี 2003/04 ที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้เลยจนถึงทุกวันนี้