สร้างผลงานกับฤดูกาลแรกของฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2018 ด้วยการจบผลงาน ด้วยอันดับ 6 ของตารางจาก 18 ทีม ส่วนฤดูกาล 2019 ที่ออกสตาร์ทไปแล้ว 7 นัด เป็นความมั่นใจของกุนซือ ” ต่อพิฆาต”ว่า ซีซั่นนี้ พวกเขาน่าจะทำผลงานออกมาได้ดี เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
เป็น1 ใน 3 ทีมที่เลื่อนชั้นจากไทยลีก2 หรือดิวิชั่น 1 เดิม มาเล่นยังไทยลีกหรือไทยลีก 1 ฤดูกาล 2018 และจบผลงานในลีกสูงสุดด้วยอันดับ6 จาก 18 ทีมของตารางนี่คือการออกสตาร์ทของน้องใหม่ไทยลีก 2018 (ในขณะนั้น)สำหรับ”ต่อพิฆาต” พีที ประจวบเอฟซีที่น่าสนใจคือ หากเปรียบเทียบกับ 2ทีมที่ก้าวขึ้นมาพร้อมกันล้วนมีบทสรุปที่ต่างกัน
เริ่มจาก”นักสู้ภูธร”หรือ”นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิลที่จบผลงานที่อันดับ 13 ของตารางหรือในแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะอันดับ 14 จนถึง 18 ลงไป คือทีมที่ตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 และ ทีมที่ 18ตกชั้นไทยลีก 1 คือ”อินทรีทัพฟ้า” แอร์ฟอร์ซเซ็นทรัล เอฟซีที่ก้าวขึ้นมาในลีกสูงสุดแบบฤดูกาลเดียวและต้องตกชั้นลงไป
กรณีของ”ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ผลงานปีแรกบนลีกสูงสุด ฤดูกาล 2018 จึงเป็นสิ่งที่หักปากกาเซียนอย่างแท้จริงเพราะเป็นการจบผลงานเมื่อสิ้นฤดูกาลด้วยเลขตัวเดียว ผลงานตลอดฤดูกาล 2018 ของทัพ “ต่อพิฆาต” ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทีมนี้”ไม่ธรรมดา”เพราะ 34 นัดในลีกสูงสุดเป็นการชนะ 15 เสมอ 8 แพ้ 11 เก็บได้ 53คะแนน ห่างจ่าฝูงไทยลีก 2018 อย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เก็บได้ 87 คะแนนหรือห่างกัน 34 คะแนน
ความสำเร็จในการเอาตัวรอดได้แบบ”พลิกความคาดหมาย” หรือลบคำสบประมาทของสื่อกีฬาที่วิเคราะห์ล่วงหน้าว่าพีที ประจวบ เอฟซี ไม่น่าจะรอดหรือทำอันดับได้ดีต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งว่านี่คือการทำงานหนักของ”โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูลกับเหล่าพลพรรค”ต่อพิฆาต”
ทั้งนี้”โค้ชวัง”ไปรับงานในถิ่นสามอ่าวสเตเดี้ยมในฤดูกาล 2017 เมื่อครั้งอยู่ในไทยลีก 2 หลังการก้าวออกไปของ”โค้ชโอ่ง”ดุสิต เฉลิมแสนซึ่งขณะนั้น(ฤดูกาล 2017) “โค้ชโอ่ง” ย้ายไปรับงานให้ศรีสะเกษเอฟซี และด้วยการอยู่กับทีมอย่างต่อนื่อง ตั้งแต่ดิวิชั่น 1 จนมาถึงไทยลีก1สิ่งเหล่านี้คือการสะสมองค์ความรู้หรือการมองเห็นถึงแนวทางที่จะวางโครงสร้างทีมเพื่อรับมือการต่อสู้จนทำให้ปีแรกในลีกสูงสุด”โค้ชวัง”สามารถจบผลงานได้เกินเป้าหมาย
ธวัชชัย ดำรงอ่องตะกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอน “ต่อพิฆาต”ให้สัมภาษณ์ว่า หากประเมินผลงานในลีกสูงสุด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย เพราะเป็นการจบผลงานด้วยเลขตัวเดียวคืออันดับ 6 ของตาราง ซึ่งก่อนเปิดฉากของฤดูกาล 2018 ทราบดีว่า พีทีประจวบ เอฟซีถูกประเมินว่าน่าจะดิ้นรนอย่างหนักเพราะเป็นทีมน้องใหม่ อีกทั้งไทยลีก 1 ในขณะนั้นตกชั้นด้วยกันถึง 5 ทีมแต่ด้วยการทำงานหนักของทุกฝ่ายก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงผลลัพธ์ที่ออกมาอย่างน่าพอใจ
ส่วนฤดูกาล 2019 มั่นใจว่าทีมจะทำผลงานได้ดีแม้จำนวนทีมในลีกจะลดลงเหลือเพียงแค่ 16 ทีมแต่หากประเมินจาก 7 นัดที่ออกสตาร์ทของฤดูกาล 2019 และพีทีประจวบ เอฟซี อยู่ที่อันดับ 3 ของตาราง จากการชนะ 4แพ้ 3 เก็บได้ 12 คะแนนในขณะที่จ่าฝูงของตารางคือ การท่าเรือ เอฟซี เก็บได้ 14 คะแนนสิ่งเหล่านี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าทีมยังคงอยู่ในเส้นทางที่มั่นคงและน่าพึงพอใจในการออกสตาร์ท7 เกมแรก ที่สามารถตุนคะแนนได้อย่างน่าพอใจส่วนผลงานของฤดูกาลนี้จะทำได้ดีกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาหรือไม่ยังคงต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างแต่สิ่งที่มั่นใจคือการวางรากฐานตั้งแต่เริ่มต้นที่น่าจะเป็นผลที่ส่งไปถึงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล
“ฤดูกาล 2019 สำหรับผมกับการทำงานที่นี่เป็นความอบอุ่น ที่ผมรับรู้ได้ ได้ทำงานอย่างมีความสุขมีผู้ใหญ่ที่ให้อิสระในการทำงาน มีทีมงานที่ดี มีนักเตะที่เข้าใจคอนเซ็ปต์ทีมรวมทั้งการมีแฟนบอลที่เหนียวแน่นปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่สร้างความสุขในการทำงานให้ผมและสิ่งที่ผมจะทำในฤดูกาลนี้ก็คือพาทีมทำผลงานให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลลีกหรือฟุตบอลถ้วย” ธวัชชัย กล่าว
ปีนี้จึงเป็นอีกความท้าทายของ “ต่อพิฆาต” พีทีประจวบ เอฟซี ต่อการพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางที่ท้าทายกับไทยลีก1 หลังจากทำสำเร็จมาแล้วในฤดูกาล 2018 ที่จบผลงานด้วยเลขตัวเดียว