ISN mahu bertemu atlet pecut Muhammad Azeem

KUALA LUMPUR: Institut Sukan Negara (ISN) akan mengadakan pertemuan empat mata, dengan atlet pecut muda negara Muhammad Azeem Mohd Fahmi, bagi mengenal pasti keperluan atlet berkenaan.

Ketua Pegawai Eksekutif ISN, Ahmad Faedzal Md Ramli berkata pihaknya sedang mencari masa yang sesuai, memandangkan Muhammad Azeem masih bersekolah di Sekolah Menengah Kebangsaan Gunung Rapat, di Perak.

“Kita akan buat ujian untuk mengenal pasti karakter beliau dahulu, kerana kami perlukan maklumat asas seperti ketinggian, kepanjangan kaki dan beberapa hal berkaitan fizikal beliau.

“Daripada situ kita akan berikan maklumat kepada jurulatih sekarang untuk ‘fine tune’ dan buat penambahbaikan terhadap kaedah latihan, kerana kami berpendapat kita harus biarkan beliau dalam ‘setting’ semasa,” katanya.

Muhammad Azeem, 15 tahun, diiktiraf sebagai remaja terpantas di dunia untuk peringkat umur bawah 16 tahun (B-16) dalam acara 200 meter (m) menerusi catatan 21.24 saat yang dilakukan pada Kejohanan Olahraga Majlis Sukan Sekolah Malaysia (MSSM) di Johor minggu lepas.

Ia adalah berdasarkan kajian terperinci dilakukan oleh ahli Kesatuan Statistik Balapan dan Padang (ATFS), Jad Adrian Washif.

Ditanya mengenai latihan serta penyertaan kejohanan di luar negara, Ahmad Faedzal berkata beberapa faktor perlu diambil kira, selain perlu mendapatkan pandangan daripada tuan punya badan sendiri.

“Untuk bertanding di luar negara, ia bukan perkara baharu buat Muhammad Azeem. Untuk latihan, kita kena bincang kerana perlu lihat faktor seperti kesesuaian, kesediaan, psikologi dan persekitaran atlet berkenaan.

“ISN juga mengambil maklum kebimbangan yang disuarakan jurulatih pecut negara Mohd Poad Md Kassim demi masa depan permata baharu negara itu,” katanya.

Menteri Belia dan Sukan Syed Saddiq Syed Abdul Rahman, ketika ditemui pada Jumaat berkata, Kementerian Belia dan Sukan (KBS) masih menunggu jawapan daripada Muhammad Azeem, berhubung tiga tawaran yang dikemukakan kepada atlet berkenaan.

Tiga tawaran daripada KBS adalah berlatih di luar negara, dibawa ke Bukit Jalil untuk diberikan segala kemudahan di Majlis Sukan Negara (MSN) dan ISN, atau kekal berlatih di Perak dengan segala bantuan akan disalurkan mengikut keperluan.

“Saya bersama Ketua Pengarah MSN (Datuk Ahmad Shapawi Ismail) berkesempatan berjumpa dengannya dan jurulatih. Apabila bertanyakan kepada jurulatihnya tentang usaha KBS untuk bawa dia (Muhammad Azeem) ke luar negara ataupun ke Bukit Jalil, jurulatihnya menyatakan persetujuan kerana keutamaan adalah buat Azeem dan juga keluarganya.

“Kita beri pilihan ini adalah kerana kita mahu berikan masa kepadanya, memandangkan ketika itu dia belum berbincang lagi dengan ibu bapanya serta jurulatih. Seminggu daripada sekarang, saya akan dapat maklumat balas daripadanya,” katanya.

Selain itu, Syed Saddiq berkata keistimewaan wajar juga diberikan kepada jurulatih yang melatih Muhammad Azeem termasuk mendapat faedah sama, sekiranya pelari pecut muda itu memilih salah satu daripada tawaran KBS.

“Setiap pagi jurulatihnya mengharungi perjalanan dua jam setengah untuk ke tempat latihan daripada rumahnya dan itu menunjukkan beliau ikhlas serta begitu komited melatih Azeem.

“Jasa jurulatih begitu besar dan apa yang dilakukan dalam mencungkil bakat itu adalah rahsianya. Kami pun sudah berikan tawaran kepada jurulatih sekiranya dia mahu ikut sekali,” katanya.

Pada ketika ini, Muhammad Azeem dibimbing di bawah jurulatih Amir Izwan Tan. — Bernama

[PLAYER PROFILE] มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ : ปราการหลังแห่งโมเดิร์นฟุตบอลจากสถาบันลูกหนัง อาหยักซ์

ในวัยเพียง 19 ปี มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ แห่ง อาหยักซ์ ได้กลายเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งบนเวทีฟุตบอลยุโรปเมื่อทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล , บาร์เซโลนา เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ตกเป็นข่าวกับ เดอ ลิกต์ ใน ตลาดซื้อขายนักเตะ

เราพาผู้อ่านไปสำรวจเส้นทางลูกหนังของ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ตั้งแต่เข้าร่วมกับสถาบันลูกหนังของ อาหยักซ์ ก่อนที่จะกลายเป็นปราการหลังที่ได้รับการจับตาที่สุดบนโลกฟุตบอลในเวลานี้


7. เจ้าหนูที่เชื่องช้า

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ในวัย 9 ขวบเล่นให้กับสโมสรบ้านเกิดชานเมือง อัมสเตอร์ดัม ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเตะตาสถาบันลูกหนังเยาวชนของ อาหยักซ์

แม้เจ้าตัวจะถูกมองว่ารูปร่างเล็กและไม่ได้มีสปีดที่รวดเร็วนักในวัยเด็กแต่ก็ได้รับความมั่นใจจากแมวมองว่าจะสามารถพัฒนาจุดด้อยดังกล่าวได้ในอนาคตก่อนที่จะได้เข้าร่วม ยอง อาหยักซ์ ได้ในวัยดังกล่าว

6. ทะลุขึ้นสู่ชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี

สิงหาคม 2016 เดอ ลิกท์ ก็ได้ประเดิมสนามให้กับ อาหยักซ์ เป็นเกมแรกด้วยวัยเพียง 16 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะได้ลงเล่นให้กับทีมทั้งหมด 17 เกมให้กับต้นสังกัดในฤดูกาล 2016/17 และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศเกมเมเจอร์ของทวีปยุโรปด้วยอายุ 17 ปี 285 วันเมื่อได้ออกสตาร์ทศึก ยูโรป้าลีก นัดชิงชนะเลิศกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายของซีซัน

เดอ ลิกท์ กลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนของ อาหยักซ์ ตั้งแต่ปีแรกด้วยจุดเด่นในด้านการเซ็ตบอลที่เยือกเย็นจากแดนหลัง มีการผ่านบอลที่เฉียบขาดทั้งสองเท้า รวมทั้งการเติมเกมขึ้นไปมีส่วนร่วมกับลูกเซ็ตพีซที่เด็ดขาด

5. บ่อน้ำมันของทัพ อัศวินสีส้ม

เดอ ลิกต์ ประเดิมสนามให้กับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ในวัยเพียง 17 ปีเมื่อเดือนมีนาคม 2017 และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ออกสตาร์ทให้กับพลพรรค ฟลายอิ้งดัตช์แมน นับตั้งแต่ปี 1931 อีกด้วย

ภายใต้การคุมทีมของ แดนนี บลินด์ พวกเขาบุกไปดวลกับ บัลแกเรีย ในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หากแต่บทบาทในการเซ็ตบอลจากแดนหลังของเจ้าตัวถูกบรรดาแข้งเจ้าบ้านกดดันอย่างหนักจนเกิดความผิดพลาดหลายครั้งหลายคราจนทำให้ ทัพกังหันลม เป็นฝ่ายปราชัยไปด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งทั้งสองประตูดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของ เดอ ลิกท์ เอง

ผลจากการแข่งขันในเกมดังกล่าวทำให้ อัศวินสีส้ม พลาดการร่วมโม่แข้งใน ฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย และการบอกลาตำแหน่งนายใหญ่ของ บลินด์ ในที่สุด

4. แนวรับผลัดใบ

ดาบินซอน ซานเชซ ปราการหลังชาว โคลอมเบีย ที่เป็นตัวจริงให้กับ อาหยักซ์ อย่างต่อเนื่องในฤดูกาล 2016/17 ได้ย้ายออกจาก อาหยักซ์ สู่ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เมื่อจบซีซัน ทำให้ เดอ ลิกต์ ได้กลายเป็นแข้งตัวหลักของทีมในซีซันถัดมา

เดอ ลิกต์ ได้รับมอบปลอกแขนกัปตันทีมในเดือนมีนาคม 2018 เมื่อ โจเอล เวลต์มัน เจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมได้รับบาดเจ็บและปราการหลังวัยกระเตาะก็ได้ทำสถิติกลายเป็นกัปตันทีมอายุน้อยที่สุดของ อาหยักซ์

3. ประกาศศักดาคว้ารางวัล โกลเด้นบอย

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ได้รับรางวัล โกลเด้นบอย ที่ประกาศผลในเดือนธันวาคม 2018 เหนือผู้เข้าชิงอย่าง จัสติน ไคลเวิร์ต สังกัด โรมา, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แห่ง ลิเวอร์พูล, วินิซิอุส จูเนียร์ ของ เรอัล มาดริด และ แพทริค คูโตรเน ของ เอซี มิลาน

2. ตกเป็นเป้าสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป

ด้วยความที่ เฟรงกี้ เดอ ยอง เพื่อนร่วมทีมในทัพ อาหยักซ์ ได้บรรลุข้อตกลงย้ายไปร่วมทัพ บาร์เซโลนา เรียบร้อยทำให้ทัพ อาซูลกรานา ยิ่งมีภาษีในการคว้าตัวเขาไปด้วยอีกราย บวกกับสไตล์การเล่นของ เดอ ลิกต์ ที่ลงตัวกับการเล่นแบบครองบอล เซ็ตบอลจากแดนหลังก็ทำให้ดีลดังกล่าวดูจะสมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม จากการที่ มิโน ไรโอลา ซูเปอร์เอเยนต์ที่มีปราการหลังดาวรุ่งรายนี้เป็นลูกค้าเช่นเดียวกับ ปอล ป็อกบา และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และยังสายสัมพันธ์อันดีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ดูจะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่มีความเป็นได้เช่นเดียวกัน

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังมีแข้งที่เป็นคู่หูในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คในนามทีมชาติอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่ตกเป็นข่าวกับ เดอ ลิกท์ ด้วยเช่นเดียวกัน

1. สไตล์การเล่น

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ มีทุกอย่างที่นักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คควรจะมี ทั้งความแข็งแกร่ง รูปร่างที่สูงใหญ่จากส่วนสูง 189 เซนติเมตร มีการอ่านเกม ยืนตำแหน่งที่ชาญฉลาด รวมทั้งเข้าบอลได้อย่างเด็ดขาด และความเด็ดขาดในการเล่นลูกกลางอากาศ

สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากปราการหลังตัวกลางทั่วไปก็คือความเยือกเย็นในการตั้งเกมจากแดนหลัง เดอ ลิกท์ เป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่มีความแม่นยำในการผ่านบอล รวมกับทักษะในการครองบอลทำให้เจ้าตัวสามารถพาบอลขึ้นมาจากในแดนของตัวเองเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับทีมได้

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด

[Match Report] ลากาเซ็ตต์ เบิ้ล ! อาร์เซนอล เปิดบ้านเชือด บาเลนเซีย 3-1 ศึก ยูโรป้าลีก

การแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 2018/19 รอบรองชนะเลิศ เลกที่ 1
วันแข่งขัน คืนวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2562
เวลาแข่งขัน 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมเหย้า อาร์เซนอล
ทีมเยือน บาเลนเซีย
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน อาร์เซนอล 3-1 บาเลนเซีย

อาร์เซนอล เป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบเหนือ บาเลนเซีย ในเกมรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก เลกแรกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กับชัยชนะ 3-1 แม้จะถูกขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม

เกมเริ่มต้นขึ้นมาได้ 11 นาที ทัพค้างคาว เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมของ ดาเนียล ปาเรโฆ โยนลึกไปที่เสาสองให้ โรดริดโก้ โหม่งตั้งกลับเข้ามาที่เสาแรกให้กับ มุคตาร์ เดียคาบี ขึ้นโขกในระยะเผาขนตุงตาข่าย

ไอ้ปืนใหญ่ ตอบกลับทันควันอีก 7 นาทีต่อมาให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 เมื่อ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ แทงบอลทะลุช่องจากเส้นกลางสนามให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หลุดเดี่ยวกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะหักกลับหลังผ่านบอลคืนให้กับ ลากาเซ็ตต์ ที่สปรินท์ตามขึ้นมาแปบอลสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ

Alexandre Lacazette

เดอะกันเนอร์ส พลิกขึ้นนำ 2-1 จากลูกเปิดของ กรานิท ชาก้า ที่กราบซ้ายให้ ลากาเซ็ตต์ ขึ้นโหม่งกดลงพื้นเหน่งๆ โดยที่ เนโต้ นายทวารทีมเยือนสามารถพุ่งปัดไปชนเสาไว้ได้ แต่สัญญาณจากโกลไลน์และภาพช้าชัดเจนว่าบอลได้ข้ามเส้นประตูไปเรียบร้อยก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

อาร์เซนอล มาได้ประตูปิดท้าย 3-1 ในนาทีที 90 เมื่อ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เข้าถึงลูกเปิดที่สุดเส้นหลังของ เซอัด โคลาซินาช ที่เสาสอง ก่อนวอลเลย์กดลงพื้นไม่เหลือ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

อาร์เซนอล : เช็ก, โซคราติส, กอสเซียลนี, มุสตาฟี, เมตแลนด์-ไนลส์, เกนดูซี, ชาก้า, โคลาซินาช, เออซิล, โอบาเมยอง, ลากาเซ็ตต์

ตัวสำรอง : ลโน, มอนเรอัล, เอลเนนี, ตอร์เรย์รา, มคิทาร์ยาน, อิโวบี, เอ็นเคเทียห์

[Match Report] บดไม่ลง ! เชลซี บุกเจ๊า แฟรงค์เฟิร์ต 1-1 ยูโรป้าลีก

ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 2018/19 รอบรองชนะเลิศ เลกที่ 1

ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 1-1 เชลซี

คอมเมิร์ซแบงค์ อารีนา


เชลซี บุกไปเก็บผลเสมอพร้อมอเวย์โกลในศึก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก เลกแรกที่ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต แม้จะถูกลูบคมไปก่อนตั้งแต่ช่วงต้นเกม

แฟรงค์เฟิร์ต พังประตูขึ้นนำ 1-0 ไปก่อนในนาทีที่ ​23 จากช็อตเสียบอลกลางทางของ สิงห์บลู และเป็น ฟิลิป คอสติช ได้หลุดไปเปิดบอลที่ริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าหัว ลูก้า โยวิช พุ่งโหม่งกดลงพื้นเสียบมุม สุดปัญหาที่ เกปา อาร์ริซาบาลากา จะเซฟไว้ได้

สิงโตน้ำเงินคราม มาไล่ตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จก่อนที่จะจบครึ่งแรกเพียงไม่กี่อึดใจจากจังหวะอิมโพรไวส์ในกรอบเขตโทษของ เปโดร ที่ยิงผ่านมือ เควิน แทร็ปป์ ตุงตาข่าย

เกมในครึ่งหลัง สิงห์บลู เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจนและพยายามเร่งเครื่องหมายทำประตูแซงขึ้นนำโดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยิงเพิ่มได้และจบ 90 นาทีที่ คอมเมิร์ซแบงค์ อารีนา ด้วยสกอร์ 1-1

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต : แทร็ปป์, ฟาเล็ตต์, เฟอร์นันเดส, โยวิช, คอสติช, กาชิโนวิช, ฮินเตอร์เร็กเกอร์, โรด, อบราฮัม, ฮาเซเบะ, ดา คอสต้า

เชลซี : อาร์ริซาบาลากา, อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, คริสเตนเซน, เอเมอร์สัน, ก็องเต้, จอร์จินโญ, ลอฟตัส-ชีค, วิลเลียน, ชิรูด์, เปโดร

ตัวสำรอง : กาบาเยโร, ซัปปาคอสต้า, อลอนโซ, โควาชิช, บาร์คลีย์, อาซาร์, อิกวาอิน

Saya janji tidak tinggalkan kamu – Janji Chong Wei buat siapa?

JAGUH perseorangan badminton negara, Datuk Lee Chong Wei mengakui bersyukur dipertemukan dengan isterinya, Datin Wong Mew Choo dalam hidupnya.

Memetik status di Instagram peribadinya, Chong Wei berkata semalam merupakan hari paling bermakna buat isteri beliau apabila menyambut ulang tahun ke-36.

Perkenalan sejak zaman remaja, membuatkan beliau yakin wanita itu insan yang tepat untuknya dan merupakan sumber inspirasi untuk terus berjaya sehingga kini.

“Dia menjadikan saya seperti hari ini, saya terhutang budi kepadanya,” katanya.

Pengorbanan Mew Choo melahirkan dua zuriat comel, menjaganya ketika sakit membuatkan ikatan kasih sayang antara mereka bertambah erat.

“Saya berjanji tidak akan meninggalkan kamu malah akan menyambut setiap ulang tahun kelahiran bersama,” katanya.

Sementara itu, rata-rata netizen terharu dan mengambil peluang menyampaikan ucapan selamat ulang tahun kelahiran buat isterinya dan mendoakan mereka kekal bahagia selamanya.

Terlampau benci, Paulie Malignaggi ludah muka Conor McGregor

PERSENGKETAAN antara bekas petinju professional Paulie Malignaggi dan bintang seni bela diri campuran (MMA) dari UFC Conor McGregor memang tidak dapat dibendung lagi.

Terbaharu, Malignaggi dilihat menyatakan perasan tidak puas hatinya terhadap McGregor dalam postingnya di laman sosial Instagram pada Rabu.

Dalam video tersebut, Malignaggi dilihat sedang berjalan di hadapan sebuah mural berupa gambar McGregor.

Malignaggi kemudian ditanya tentang pendapatnya terhadap McGregor, di mana secara spontan dia melihat mural tersebut dan meludah ke arahnya.

Persengketaan mereka berdua bermula ketika persiapan McGregor menentang petinju lagenda, Floyd Mayweather pada Ogos 2017.

Malignaggi pada mulanya berada di dalam pasukan McGregor dan mereka berlatih bersama semasa kem latihan.

Namun perbalahan tercetus apabila McGregor menuat naik sedutan video daripada sesi latihan tinju mereka di laman sosial milik McGregor.

Dalam sedutan video tersebut Malignaggi kelihatan dibelasah dan McGregor juga berjaya menjatuhkan Malignaggi.

Ekoran tersebarnya sedutan video tersebut, Malignaggi mencabar McGregor untuk memuat naik versi penuh sesi latihan mereka.

Namun permintaan itu tidak dilayan McGregor.

Akhir Siri Hoki FIH: Kematangan pemain selamatkan Malaysia

KETUA jurulatih skuad hoki negara, Roelant Oltmans, menganggap kematangan pemain dalam menghadapi keputusan pengadil menyelamatkan Malaysia daripada diheret ke penentuan penalti ketika menewaskan Wales 2-1 dalam perlawanan ‘cross-over’ Kejohanan Pusingan Akhir Siri Hoki FIH di Bukit Jalil, semalam.

Keputusan pengadil yang kerap tidak memihak Malaysia dalam suku keempat hampir meragut peluang skuad negara ke separuh akhir.

Malaysia melancarkan serangan bertali-arus ketika Wales mengeluarkan penjaga gol untuk bermain secara ‘kicking fullback’.

Namun, pengadil mendakwa pemain negara banyak melakukan kesalahan dalam kawasan D.

Beberapa gerakan yang sepatutnya menghasilkan pukulan sudut penalti dinafikan, namun pemain negara mengkekalkan fokus hingga siren penamat dibunyikan.

“Kami hanya perlu meneruskan serangan untuk mungkin memperoleh lebih banyak gol dalam perlawanan ini.

“Apabila anda kerap melakukan serangan tetapi barisan pertahanan dalam keadaan bahaya, anda perlu membantu mereka seperti yang kami lakukan hari ini.

“Kami mempamerkan aksi yang lebih sabar hari ini dan itulah yang diperlukan walaupun masih terdapat ruang untuk diperbaiki,” katanya.

Malaysia membuka jaringan menerusi penyerang, Tengku Ahmad Tajuddin Tengku Abdul Jalil, pada minit ke-27 sebelum Faizal Saari melebarkan kedudukan pada minit ke-39.

Wales cuba bangkit menerusi gol daripada Luke Hawker pada minit ke-56, namun sudah terlewat untuk mengheret perlawanan ke penentuan penalti.

“Kami tidak memanfaatkan setiap peluang yang tiba.

“Kami tidak memanfaatkan pukulan sudut penalti dan bermain dalam keadaan yang tidak teratur.

“Ia perlawanan yang penuh dengan serangan balas, namun Malaysia memanfaatkan peluang dengan lebih baik,” kata kapten Wales, Lewis Prosser.

Arsenal Kalahkan Valencia 3-1, Lacazette: Kami Ingin Menangi Trofi Liga Eropa!

LONDON – Penyerang Arsenal, Alexandre Lacazette, mengungkapkan harapan setelah timnya menang 3-1 atas Valencia di leg I semifinal Liga Eropa 2018-2019, Jumat (3/5/2019) dini hari WIB. Pesepakbola asal Prancis itu berharap, kemenangan itu dapat meluluskan ambisi Arsenal yang bertekad memenangi trofi Liga Eropa 2018-2019.

Liga Eropa adalah satu-satunya ajang yang bisa dimenangi Arsenal musim ini. Hal itu setelah mereka tercecer di Liga Inggris, dan telah tersingkir di ajang Piala Liga Inggris dan Piala FA. Menjuarai Liga Eropa menjadi penting bagi skuad asuhan Unai Emery.

Arsenal

Sebab, dengan menjuarai Liga Eropa, Arsenal otomatis akan ambil bagian di Fase Grup Liga Champions 2019-2020. Bisa dibilang, menjuarai Liga Eropa adalah target alternatif untuk mentas di Liga Champions musim depan, jika melalui jalur Liga Inggris Arsenal tak dapat merealisasikannya

Saat ini hingga Liga Inggris 2018-2019 memasuki pekan 36, Arsenal masih tertahan di posisi lima dengan koleksi 66 angka. Arsenal terpaut dua poin dari Chelsea di tempat keempat atau batas akhir tim yang lolos ke Liga Champions 2019-2020.

“Kami ingin memenangi Liga Eropa bukan hanya untuk lolos ke Liga Champions, namun juga untuk memenangi trofi. Kami ingin finis di posisi empat Liga Inggris dan tampil di Baku (arena final Liga Eropa),” kata Lacazette mengutip dari laman resmi UEFA, Jumat (3/5/2019)

Arsenal

Lacezette sendiri tampil brilian di laga dini hari tadi. Eks penyerang Olympique Lyon itu mencetak dua gol awal Arsenal pada menit 18 dan 26. Ketajaman Lacazette tentu masih dibutuhkan Arsenal saat bertandang ke markas Valencia di leg II semifinal Liga Eropa 2018-2019 pada Jumat 10 Mei 2019 dini hari WIB.

Hal yang Diwaspadai Arsenal saat Jumpa Valencia di Leg II Semifinal Liga Eropa 2018-2019

LONDON – Penyerang Arsenal, Alexandre Lacazette, mengungkapkan sesuatu yang wajib diwaspadai timnya saat bertandang ke markas Valencia di leg II semifinal Liga Eropa 2018-2019, Jumat 10 Mei 2019 dini hari WIB. Lacazette menyebut Los Che –julukan Valencia– sangat piawai memanfaatkan bola mati, sehingga personel Arsenal diharapkan jangan lengah.

Dalam laga leg I semifinal Liga Eropa yang berlangsung dini hari tadi, Valencia asuhan Marcelino Garcia Toral beberapa kali mengancam gawang Arsenal melalui situasi set-piece. Peluang pertama terjadi di menit kedelapan. Saat itu, kapten Valencia Dani Parejo melepaskan sepakan bebas dari jarak jauh, hingga akhirnya si kulit bulat ditembak Rodrigo Moreno.

Sayangnya, bola masih berada di atas gawang Arsenal kawalan Petr Cech. Kemudian di menit 11 Valencia membuka keunggulan lewat Mouctar Diakhaby usai memanfaatkan sepak pojok. Saat itu, Parejo melepaskan sepak pojok ke arah Rodrigo.

Rodrigo kemudian menyundul bola dan mengarahkannya ke tiang jauh. Di tiang jauh, sudah menunggu Diakhaby yang langsung menyundul bola ke gawang Arsenal. Beruntung setelah momen di atas, personel Arsenal lebih berhati-hati saat mengatasi situasi set-piece yang dilancarkan pemain-pemain Valencia.

Diakhaby

Hasilnya, Arsenal sanggup membalikkan kedudukan hingga akhirnya menang 3-1. Gol-gol Arsenal dilesakkan Alexandre Lacazette pada menit 18 dan 25, serta Pierre-Emerick Aubameyang di pengujung pertandingan (90’).

Alexandre Lacazette

“Kami kebobolan, yang mana kami tahu mereka sangat piawai dalam memanfaatkan situasi set-piece. Kami harus berhati-hati akan hal itu di pertemuan kedua. Meski begitu, tim telah menunjukkan karakter bagus dan beraksi dengan baik di pertandingan tadi,” kata Lacazette mengutip dari laman resmi UEFA, Jumat (3/5/2019).

Ronaldo Ungkap Rahasia di Balik Adaptasi Cepatnya Bersama Juve

TURIN – Cristiano Ronaldo mengungkapkan apa yang menjadi rahasia di balik cepatnya adaptasi bersama Juventus. Menjadi diri sendiri adalah faktor utama di balik cepatnya adaptasi Ronaldo bersama Juve.

Sebagaimana diketahui pada musim 2018, Ronaldo memutuskan untuk hengkang dari Real Madrid dan menerima pinangan Juve. Kepindahan Ronaldo menuju Allianz Stadium sendiri harus membuat kubu Juve rela kehilangan 117 juta euro atau sekira Rp1,86 triliun.

Cristiano Ronaldo

Beberapa kalangan juga sempat meragukan Ronaldo bisa langsung menyetel bersama Juve. Terlebih gaya bermain di Liga Italia jauh berbeda dengan Liga Inggris dan Liga Spanyol, dua liga yang pernah dijajal oleh Ronaldo.

Akan tetapi prediksi tersebut nyatanya meleset. Ronaldo langsung menjadi andalan Juve dalam urusan mencetak gol. Kapten Timnas Portugal tersebut sejauh ini sudah menyumbangkan 27 gol serta 13 asis dari 40 penampilannya bersama Juve. Ronaldo pun membeberkan sejumlah faktor di balik cepatnya proses adaptasi bersama Juve.

Cristiano Ronaldo

“Hal pertama yang saya lakukan saat masuk ke klub baru adalah menjadi diri sendiri, bukan orang lain. Etos kerja saya selalu sama. Anda harus rendah diri dan mengingat bahwa Anda tak tahu segalanya. Bila anda cerdas, Anda akan mendapatkan hal kecil yang membuat anda berkembang sebagai atlet,” ucap Ronaldo, seperti dikutip dari Football Italia, Jumat (3/5/2019).

“Saya beradaptasi dengan sempurna di Juve. Mereka tidak melihat saya sebagai penipu. Hanya sepak bola dan hal-hal normal yang mereka bicarakan di ruang ganti bersama saya. Tidak lebih dan tidak kurang,” tuntas pemain yang kini telah berusia 34 tahun tersebut.