UCL: Siapa yang lauk sebenarnya?

LAUK.

Itu perkataan yang digunakan penyokong-penyokong bola sepak yang menyindir peminat Liverpool selepas mereka kecundang 3-0 di Nou Camp dalam saingan Liga Juara-Juara Eropah (UCL) minggu lepas.

Semua ‘group’ Whatsapp mahupun Facebook dikongsi ‘meme’ kononnya Liverpool sudah menjadi makanan Barcelona apabila kalah dengan gagal mendapatkan sebarang gol ditempat lawan.

Perkara itu diulang semula pagi ini, selepas Liverpool berjaya mempamerkan kebangkitan yang menakjubkan untuk menewaskan Barcelona 4-0, sekali gus mara ke final UCL, cuma kini penyokong Liverpool pula menggunakannya untuk membalas ‘meme’ yang digunakan untuk mempersendakan the Reds.

Puas, amat puas, penyokong-penyokong yang lebih neutral, memuji kebangkitan yang dipamerkan Liverpool, tatkala ada juga yang menyatakan ia semua diatur oleh ‘bookie’ kerana tidak mungkin kelab yang dianggap tidak kuat mampu membelasah Barcelona, kelab bola sepak nombor satu dunia yang turut dibarisi bintang bola sepak dunia yang juga pemenang lima kali anugerah Ballon d’Or, Lionel Messi.

Penyokong Liverpool sudah pasti gembira, ada yang menangis tanda kegembiraan.

Kita lihat apa kata penyokong Barcelona pula.

Ada penyokong Barcelona di Malaysia ternyata kecewa dengan pengendali Barcelona, Ernesto Valverde.

Dalam laman Facebook FC Barcelona Fans (Malaysia), ramai yang mahu Valverde dipecat, walaupun berjaya membimbing pasukan itu mempertahankan kejuaraan LaLiga Sepanyol musim ini.

Antaranya Amir Abd Aziz, yang menganggap tiada perubahan yang dibuat dari segi taktikal oleh Valverde, menyebabkan pergerakan mereka mudah dibaca.

Formasi yang digunakan dengan meletakkan bekas pemain Liverpool, Philippe Coutinho di bahagian sayap, tidak memberi impak kepada bahagian serangan.

Amir memberi cadangan bahawa Velverde sepatutnya bermain formasi 4-4-2 dengan ketiadaan Ousmane Dembele yang cedera.

Komen penyokong Barcelona di Facebook Kelab Penyokong Barcelona Malaysia.

Kehebatan ‘comeback’ yang dibuat Liverpool ke atas Barcelona turut menyebabkan kelab bola sepak lain mengimbau kembali sejarah kelab masing-masing.

Antaranya di Facebook Kelab Penyokong Chelsea FC Malaysia, yang mengimbau musim ‘comeback’ terhebat kelab itu pada 2012, yang menyaksikan Chelsea muncul juara UCL.

Lawan Liverpool di final adalah pemenang separuh akhir kedua antara Tottenham Hotspur dan Ajax.

Penyokong Tottenham turut memuji kebangkitan Liverpool yang kemungkinan jadi lawan mereka di final nanti.

Semangat juang Liverpool turut digunakan dalam kempen pilihan raya di Afrika Selatan oleh parti Kongres Nasional Afrika (ANC).

Mabalan Mfundisi merupakan penyokong Barcelona menyifatkan kejayaan Liverpool membuktikan tiada apa yang mustahil jika ada semangat, kemahuan dan keberanian semangat juang yang tinggi.

บาเลนเซีย (1) vs (3) อาร์เซนอล : พรีวิว ยูโรป้า ลีก, วัน+เวลาการแข่งขัน, ถ่ายทอดสด


ข้อมูลการแข่งขัน


การแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรป้าลีก  2018/19 รอบรองชนะเลิศ เลกที่ 2
วันแข่งขัน คืนวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2562
เวลาแข่งขัน 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมเหย้า บาเลนเซีย (1)
ทีมเยือน ​อาร์เซนอล (3)
สนาม เมสตายา
ถ่ายทอดสด GOAL

ความพร้อมทั้ง 2 ทีม


บาเลนเซีย

ฟรานซิส โกเกอแล็ง ที่พลาดการลงสนามในเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไปในเลกแรกจากการติดโทษแบนจะสามารถกลับมาช่วยทัพ ค้างคาว ได้ในเกมนี้หลังพ้นโทษแบน โดยที่ เจฟฟรีย์ กองด็อกเบีย กับ เดนิส เชรีเชฟ จะหมดสิทธิ์ลงสนามจากอาการบาดเจ็บ

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-4-2


ผู้รักษาประตู เนโต้
กองหลัง ปิชชินี, การาย,​ เปาลิสต้า,​ กายา
กองกลาง โซเลร์, โกเกอแล็ง, ปาเรโฆ, กูเอเดส
กองหน้า โมเรโน, มินา

อาร์เซนอล

ไอ้ปืนใหญ่ จะยังคงขาด ร็อบ โฮลดิ้ง, เอคตอร์ เบเยริน, แดนนี เวลเบ็ค และ อารอน แรมซีย์ จากอาการบาดเจ็บโดยคาดการณ์ว่า อูไน เอเมรี จะไม่ส่ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ออกสตาร์ทร่วมกับ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ ในแดนหน้าหลังจากที่พวกเขากุมความได้เปรียบมาก่อนในเลกแรก 3-1

เอนสลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมที่พวกเขาเสมอกับ ไบรท์ตัน 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะกลับสู่ทีมชุดตัวจริงอีกครั้งเช่นเดียวกับ โลร็องต์ กอสเซียลนี

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 3-4-2-1


ผู้รักษาประตู เช็ก
กองหลัง มุสตาฟี, โซคราติส, กอสเซียลนี
กองกลาง เมตแลนด์-ไนลส์, ชาก้า, เกนดูซี, โคลาซินาช
อิโวบี, มคิทาร์ยาน
กองหน้า ลากาเซ็ตต์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด


บาเลนเซีย (ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 3)

6 พฤษภาคม ลา ลีกา อูเอสกา 2 : 6 บาเลนเซีย ชนะ
3 พฤษภาคม ยูโรป้า ลีก อาร์เซนอล 3 : 1 บาเลนเซีย แพ้
28 เมษายน ลา ลีกา บาเลนเซีย 0 : 1 เออิบาร์ แพ้
25 เมษายน ลา ลีกา แอต. มาดริด 3 : 2 บาเลนเซีย แพ้
22 เมษายน ลา ลีกา เบติส 1 : 2 บาเลนเซีย ชนะ

อาร์เซนอล (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3)

5 พฤษภาคม พรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล 1 : 1 ไบรท์ตัน เสมอ
3 พฤษภาคม ยูโรป้า ลีก อาร์เซนอล 3 : 1 บาเลนเซีย ชนะ
28 เมษายน พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ 3 : 0 อาร์เซนอล แพ้
25 เมษายน พรีเมียร์ลีก วูล์ฟส 3 : 1 อาร์เซนอล แพ้
21 เมษายน พรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล 2 : 3 คริสตัล พาเลซ แพ้

เฮดทูเฮด (บาเลนเซีย ชนะ 3 เสมอ 1 อาร์เซนอล ชนะ 1)

3 พฤษภาคม 2019 ยูโรป้า ลีก อาร์เซนอล 3 : 1 บาเลนเซีย
9 สิงหาคม 2009 กระชับมิตร บาเลนเซีย 2 : 0 อาร์เซนอล
20 มีนาคม 2003 แชมเปี้ยนส์ลีก บาเลนเซีย 2 : 1 อาร์เซนอล
11 ธันวาคม 2002 แชมเปี้ยนส์ลีก อาร์เซนอล 0 : 0 บาเลนเซีย
17 เมษายน 2001 แชมเปี้ยนส์ลีก บาเลนเซีย 1 : 0 อาร์เซนอล

สถิติที่น่าสนใจ


  • บาเลนเซีย ต้องการอย่างน้อย 2 ประตูเพื่อการพลิกเข้ารอบสู่นัดชิงชนะเลิศศึก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก หลังปราชัยมาก่อนในเลกแรก 3-1 ซึ่งการเอาชนะ อูเอสก้า ถล่มทลาย 6-2 ในศึก ลา ลีกา สเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี

  • เจ้าบ้านยังมีสถิติเก็บชัยเกมเหย้าในถ้วยนี้ทุกนัด (8 เกม) ด้วยค่าเฉลี่ยการพังประตู 2.75 ลูกต่อแมตช์ และเสียเพียง 0.38 ลูกต่อเกมเท่านั้น พวกเขายังสามารถทำประตูขึ้นนำได้ก่อน 4 จาก 5 เกมเหย้าในรายการยุโรปหลังสุด

  • ขณะที่ฝั่ง อาร์เซนอล เพิ่งจะปราชัยเกมเยือนศึก ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2 นัดล่าสุดและเสียอย่างน้อยเกมละ 3 ลูกต่อเกม อย่างไรก็ตาม พวกเขาเพิ่งจะเสียประตูใน ยูโรป้า ลีก ไปเพียงแค่ 1 เกมเท่านั้นเมื่อออกไปเล่นนอกบ้านและรักษาคลีนชีตได้อีกด้วยจากชัยชนะเกมเยือนทั้งหมด 4 แมตช์ (ชนะ 4 แพ้ 2)

  • ทัพปืนโต สามารถรักษาสกอร์นำในครึ่งแรกไว้ได้ใน 3 จาก 4 เกมข้างต้น พวกเขายังทำสถิติเขี่ยคู่แข่งในการแข่งขันรอบน็อคเอาท์รายการยุโรปได้ทั้งหมด 17 จาก 19 ครั้ง

  • ซานติ มินา เพิ่งจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูในเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยคิดเป็นประตูที่ 6 ของเจ้าตัวกับ ทัพค้างคาว ในฤดูกาลนี้

  • ​อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ สอยประตูในเกมเลกแรกมา 2 ลูก โดยทั้ง 4 ประตูของ ลากาเซ็ตต์ ในศึก ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้เกิดขึ้นในครึ่งแรก

อาหยักซ์ 2-3 (3-3) สเปอร์ส : เก็บตก 5 ประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

5. ความเป็นไปของเกม

เป็นเกมที่ อาหยักซ์ ออกสตาร์ทได้อย่างเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตัวแทนจากแดนกังหันลมเล่นได้อย่างมั่นใจและกระตือรือล้นกว่าพลพรรค สเปอร์ส ที่ 45 แรกของพวกเขาดูจะไม่เป็นธรรมชาติอย่างที่เคย ซึ่งความมั่นใจของเจ้าบ้านนั่นเองที่ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังทัพ ไก่เดือยทอง กลับลงมาพร้อมกับความคึกคัก ขณะที่เจ้าถิ่นดูจะดร็อปลงไปและกว่าจะรู้ตัวอีก ทีมจาก ลอนดอน ก็รัวยิง 2 ประตูใส่ อาหยักซ์ เสียแล้ว

ช่วงท้าย เกมยังคงเปิดหน้าเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องเมื่อ สเปอร์ส ต้องการอีก 1 ประตูเพื่อผ่านเข้ารอบ ขณะที่เจ้าบ้านพยายามใช้โอกาสสวนกลับเร็วและต่างมีลุ้นเหน่งๆ ด้วยกันทั้งสองฝ่ายแต่ก็ไม่ฝ่ายใดสามารถทำประตูได้ กระทั่งทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 6 เมื่อ ลูคัส มูรา ซัดประตูแฮตทริคของเจ้าตัวและเป็นประตูที่ 3 ของทีมสำเร็จ

4. บรรดาเด็กระเบิดที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

อาหยักซ์ ได้กลายเป็นม้ามืดนอกสายตาที่โค่นยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ลงได้ก่อนที่เส้นทางของพวกเขาในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะถูกหยุดไว้ในรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

ฟุตบอลที่สวยงามของ อาหยักซ์ รวมกับบรรดานักเตะวัยกระเตาะได้หวนวันคืนให้เราย้อนนึกไปถึงอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ของพวกเขาก่อนหน้านี้ แต่มันก็ได้กลายเป็นดาบสองคมที่กลับมาเล่นงานพวกเขาในท้ายที่สุดเมื่อไม่สามารถรักษาความได้เปรียบในช่วงชี้เป็นชี้ตายของเกมไว้ได้

ที่น่าเสียดายยิ่งกว่าการพลาดเข้าชิงชนะเลิศในฤดูกาลนี้ คือมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เล่นร่วมกันเมื่อบรรดาคีย์แมนของทีมต่างตกเป็นข่าวกับยักษ์ใหญ่ทั่วทั้งทวีปยุโรป

3. เกียรติยศของ พอช และ สเปอร์ส

แชมป์ลีกสูงสุดของ สเปอร์ส ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1961

แชมป์ เอฟเอ คัพ ครั้งล่าสุดปี 1991

หรือจะเป็น แชมป์ ยูฟ่า คัพ ตั้งแต่ปี 1984

ที่เราพอจะจดจำความสำเร็จอย่างเป็นชิ้นเป็นอันของพวกเขาได้อย่างลางๆ ดูจะเป็นแชมป์ ลีก คัพ เมื่อปี 2008 แต่มันก็นานขนาดที่ว่านักเตะตัวหลักในทีมชุดนั้นมีชื่อของ พอล โรบินสัน, โจนาธาน วูดเกต, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, ร็อบบี้ คีน และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ขณะที่กุนซือหนุ่มวัย 47 ปีที่เพิ่งจะเทิร์นโปรในเส้นทางผู้จัดการทีมเมื่อปี 2009 ก็ยังไม่มีความสำเร็จใดๆ ที่จับต้องได้ทั้งกับ เอสปันญอล และ เซาแธมป์ตัน ในช่วงก่อนหน้านี้

นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19 จะกลายเป็นบทพิสูจน์ทั้งตัวของ พอช เอง รวมทั้งกับทัพ ไก่เดือยทอง ชุดนี้ว่าพวกเขามีดีพอที่จะประกาศศักดาเสียที

2. เจ้าหนู เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

มิดฟิลด์วัย 21 ปีผู้เป็นหัวใจของ อาหยักซ์ กลายเป็นแข้งที่สามารถเอาชนะในการเข้าปะทะสำเร็จมากที่สุดในสนาม (5 ครั้ง) และเป็นผู้เล่นเจ้าบ้านที่ตัดบอลได้มากที่สุด (8 ครั้ง)

ส่วนผสมระหว่างการผ่านบอลอันยอดเยี่ยม, วิสัยทัศน์ที่เฉียบขาด, การอ่านเกมที่ฉลาดเป็นกรด, ไหวพริบกับเทคนิคในการแก้ไขสถานการณ์ และความเด็ดขาดในการเข้าแย่งบอล ดูราวกับว่าจับเอา เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มารวมร่างกับ อันเดรียส อิเนียสต้า อย่างไรอย่างนั้น

ทีเด็ดของเจ้าตัวทำให้บรรดาผู้เล่นของ สเปอร์ส ต้องรุมกินโต๊ะเพื่อไม่ให้ เดอ ยอง มีพื้นที่และเวลาในการเล่นแต่เขาก็ยังสามารถเอาตัวรอดผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้เปรียบให้เห็นอีกหลายครั้งหลังจากนั้น

1. แฮตทริคฮีโร่ ลูคัส มูรา

ตัวจี๊ดชาว บราซิล ที่ สเปอร์ส ไปคว้ามาจาก ปารีส แซ็งต์-แชร์กแมง มักถูกมองว่ามีเพียงความวูบวาบหวือหวาทว่าขาดความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย แต่เกมนี้ ลูคัส ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม

หลังจาก 45 นาทีแรกที่ดูจะเข้าอีหรอบเดิม ลูคัส ที่ไม่รู้ว่าไปกินดีหมีจากที่ไหนมาในช่วงพักครึ่งก็กลายเป็นทำ 2 ประตูภายในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 5 นาทีช่วยทีมตีเสมอ ก่อนจะดราม่าสุดๆ เมื่อเจ้าตัวทำแฮตทริคสำเร็จในนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ ส่ง ไก่เดือยทอง เข้าชิงชนะเลิศ

Matthijs de Ligt: Rasanya seperti Tanah Menghilang

AMSTERDAM – Kapten Ajax Amsterdam, Matthijs de Ligt, yakin petualangannya bersama rekan-rekan setim tidak akan dilupakan banyak orang meski tersingkir di Semifinal Liga Champions 2018-2019. Pria asal Belanda itu bersyukur melihat banyaknya dukungan yang diberikan kepada De Godenzonen.

Anak asuh Erik ten Hag meraih banyak simpati dari pecinta sepakbola sejagat usai menyingkirkan dua klub besar secara heroik di fase gugur Liga Champions 2018-2019. Real Madrid (babak 16 besar) dan Juventus (Perempatfinal) dibuat tak berdaya oleh Ajax Amsterdam.

Namun, langkah mereka harus terhenti di semifinal oleh Tottenham Hotspur. Matthijs de Ligt mengakui kegagalan tersebut sangat menyakitkan. Akan tetapi, pemain berusia 19 tahun itu cukup senang melihat banyaknya dukungan kepada Ajax Amsterdam.

Pemain Ajax Amsterdam terduduk lemas di lapangan (Foto: UEFA)

“Rasanya seperti tanah menghilang di bawah kaki kami. Kami sudah sangat dekat. Betapa pun sakitnya, kami melewati perjalanan yang fantastis. Wasit bilang hanya ada satu menit lagi, dan kami berpikir bisa melakukannya. Pertandingan berlangsung lima detik lebih lama,” ujar Matthijs de Ligt, mengutip dari laman resmi UEFA, Kamis (9/5/2019).

“Sangat hebat rasanya melihat banyaknya dukungan dari penggemar hingga membuat kami tersadar betapa berartinya perjalanan ini buat mereka,” imbuh pria asal Leiderdrop tersebut.

Matthijs de Ligt (Foto: UEFA)

Seiring dengan kegagalan tersebut, mimpi Ajax Amsterdam untuk mengakhiri musim dengan tiga trofi kandas. Namun, Matthijs de Ligt dan kawan-kawan masih bisa menyandang status double winners jika sukses menjadi kampiun di Liga Belanda usai memenangi Piala KNVB 2018-2019 pekan lalu.

De Jong: Dongeng Ajax di Liga Champions Berakhir Tidak Bahagia

AMSTERDAM – Gelandang Ajax Amsterdam, Frenkie de Jong, yakin banyak orang yang menikmati perjalanan timnya di Liga Champions 2018-2019. Sayangnya, perjalanan De Godenzonen di kompetisi terakbar Benua Biru tersebut berakhir menyedihkan.

Harapan Ajax Amsterdam untuk lolos ke Final Liga Champions 2018-2019 sempat membumbung tinggi ketika Matthijs de Ligt dan Hakim Ziyech membuat mereka unggul 2-0 (3-0 secara agregat) di babak pertama. Namun, Tottenham Hotspur mampu bangkit di paruh kedua hingga menang 3-2.

De Jong mengklaim, Ajax Amsterdam sesungguhnya pantas untuk berada di final melihat gaya permainan mereka sepanjang turnamen. Namun, ia mengakui Spurs berhak tampil pada partai puncak dengan penampilan gemilang di babak kedua.

Pemain Ajax Amsterdam terduduk lemas di lapangan (Foto: UEFA)

(Baca juga: Matthijs de Ligt: Rasanya seperti Tanah Menghilang)

“Menurut saya semua orang menikmati perjalanan kami di Liga Champions musim ini, rasanya seperti dongeng. Sayangnya, dongeng yang berakhir tidak bahagia. Sangat mengecewakan kehilangan peluang di detik-detik terakhir,” tutur Frenkie de Jong, mengutip dari laman resmi UEFA, Kamis (9/5/2019).

“Kami pantas mencapai final, melihat penampilan sepanjang turnamen dan juga babak pertama hari ini. Namun, Spurs juga berhak dengan performa mereka di babak kedua,” tutur pemain yang musim depan hijrah ke Barcelona tersebut.

Frenkie de Jong (Foto: UEFA)

Frenkie de Jong pantas kecewa karena mereka sudah menyingkirkan dua tim besar seperti Real Madrid dan Juventus di fase knockout. Pemain berusia 21 tahun itu yakin Ajax Amsterdam akan lolos jika bisa mempertahankan penampilan di paruh pertama.

Henderson Sebut Liverpool Siap Lanjutkan Keajaiban di Laga Terakhir Liga Inggris

LIVERPOOL – Kapten Liverpool, Jordan Henderson, mengatakan siap melanjutkan keajaiban timnya di Liga Champions ke Liga Inggris 2018-2019. Pada akhir pekan ini, Liverpool akan menghadapi momen penting lagi untuk melakoni laga pamungkas sekaligus menjadi penentu perebut gelar juara Liga Inggris musim ini.

Keberhasilan Liverpool melaju ke final memang sebuah keajaiban. Setelah tertinggal 0-3 di leg pertama, The Reds –julukan Liverpool– mampu membalikkan keadaan pada leg kedua dengan kemenangan telak lainnya yakni 4-0.

Liverpool vs Barcelona (Foto: UEFA)

Situasi serupa juga dirasakan Liverpool di kompetisi Liga Inggris. Kini mereka masih berharap-harap cemas untuk bisa mengunci titel Liga Inggris 2018-2019. Gelar juara pun tidak hanya akan ditentukan oleh dari diri mereka yang berjuma Wolverhampton di laga pamungkas.

Baca juga Henderson Ungkap Peran Besar Klopp Usai Liverpool Singkirkan Barcelona

Kemenangan takkan berarti apa-apa jika rival utamanya yakni Manchester City meraih tiga poin pula melawan Brighton & Hove Albion. Karena itu, kini mereka hanya berharap tampil semaksimal mungkin ketika menghadapi Wolverhampton dan tidak pernah menyerah atas situasi yang terjadi pada saat ini. Liga Champions pun menjadi contoh bagi mereka saat ini.

Liverpool vs Barcelona (Foto: UEFA)

“Itulah yang telah kami lakukan sepanjang musim dan kami akan terus melakukannya pada Minggu (ketika Liverpool menghadapi Wolves di pertandingan Liga Inggris terakhir mereka) dan final juga,” ungkap Henderson, mengutip dari Goal, Kamis (9/5/2019).

“Kami memiliki dua pertandingan besar (laga terakhir Liga Inggris dan final Liga Champions) untuk dinanti-nantikan dan kami hanya harus tetap dengan keyakinan serta semangat itu. Maka kami akan baik-baik saja,” pungkasnya.

[ตัดเกรด] อาหยักซ์ ดีครึ่งเดียว ! ลูคัสฮีโร่ สเปอร์ส รัวยิงเข่น 3-2 ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19

อาหยักซ์ 2-3 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

สกอร์รวม 3-3

สเปอร์ส ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยกฎประตูทีมเยือน

โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา


คะแนนนักเตะ อาหยักซ์

อังเดร โอนานา – 6/10

งัดซูเปอร์เซฟลูกยิงของ ซน กับ อีริคเซน ได้เน้นๆ ตามด้วยโอกาสของ อัลลี ในครึ่งหลัง แต่โชคร้ายกับจังหวะพัวพันกับเพื่อนร่วมทีมจนทำให้ ลูคัส ได้บอลฉกไปยิงในลูกตีเสมอ 2-2 ขณะที่อีกสองประตูนอกเหนือจากนั้นเจ้าตัวถือว่าหมดสิทธิ์เซฟ

นูสแซร์ มาซราอุย – 6/10

กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับทีม ไม่เจอกับงานยากนักใน 45 นาทีแรกก่อนที่จะถูกบดอย่างหนักในครึ่งหลังเมื่อโมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไป

ดาลีย์ บลินด์ – 6/10

เช่นเดียวกับแนวรับเพื่อนร่วมทีมที่ไม่เจอกับความยากลำบากเลยในครึ่งแรก ก่อนที่จะเจอตออย่าง เฟร์นันโด ยอเรนเต้ ในครึ่งหลังที่เจ้าตัวไม่สามารถต่อกรกับความแข็งแกร่งของเขาได้

มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ – 7/10

FBL-EUR-C1-AJAX-TOTTENHAM

เป็นคนโหม่งพังประตูเบิกร่องและบล็อกโอกาสของ ลูคัส ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ใช่ความผิดพลาดของเจ้าตัวเลยกับทั้ง 3 ประตูที่ทีมเสียไป ยังคงโดดเด่นกับบทบาทกัปตันทีมด้วยอายุเพียง 19 ปี

นิโกลาส์ ทาเกลียฟิโก้ – 6/10

แข็งแกร่งในครึ่งแรก ก่อนที่จะถูกเกมรุกของ สเปอร์ส บดอย่างหนักในครึ่งหลัง

เฟรงกี้ เดอ ยอง – 8/10

แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจและการเข้าบอลที่ชาญฉลาด ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำและเฉียบคมจนน่าเสียดายที่จะไม่เห็นเขาในนัดชิงชนะเลิศ

ลาสเซ โชน – 6/10

โชคร้ายกับจังหวะพัวพันกับ โอนานา ในช็อตเสียประตูที่สอง ทำหน้าที่ลูกหาบให้กับ เดอ ยอง ที่แดนกลาง

ฮาคิม ซีเย็ค – 7/10

ออกสตาร์ทได้อย่างหวือหวาและเป็นคนยิงประตู 2-0 ให้กับทีมด้วยเท้าซ้ายสุดฉมัง วูบวาบที่สุดในแนวรุกของ อาหยักซ์ แต่ไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่ายเพิ่มจากโอกาสทองที่มีในครึ่งหลังก่อนที่จะถูก สเปอร์ส ซัดชัยท้ายเกม

แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก – 6/10

ออกสตาร์ทแทนที่ เนเรส ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ตอนอบอุ่นร่างกาย มีช็อตวูบวาบให้เห็นอยู่บ้างต่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมนัก ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง

ดอนนี ฟาน เดอ บีค – 6/10

โดนเด่นกับเกมรุกของทีมในช่วงต้นก่อนที่จะค่อยๆ หายไปจากเกมเมื่อเวลาผ่านไป

ดูซาน ทาดิช – 6/10

ถูกถ่างออกไปเล่นริมเส้นเพื่อเปิดพื้นที่ให้ ดอลเบิร์ก ประจำการเป็นหัวหอกตัวเป้า ได้โอกาสทองแต่ยิงหลุดกรอบออกไปก่อนจะแอสซิสต์ให้กับ ซีเย็ค ในประตูที่สอง

ตัวสำรอง

โจเอล เวลต์มัน – 6/10 : ลงมาเสริมแนวรับในช่วง 30 นาทีสุดท้ายแต่ไม่อาจช่วยทีมได้มากนัก

ดาลีย์ ซิงค์กราเวน – 5/10 : ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก

ลิซานโดร มากายาน – N/A : ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามเพื่ออุดแนวรับแต่ไม่สามารถหยุด ลูคัส มูรา ได้อยู่


คะแนนนักเตะ สเปอร์ส

ฮูโก้ ยอริส – 7/10

FBL-EUR-C1-AJAX-TOTTENHAM

งัดเซฟตั้งแต่ช่วงต้นเกมปฎิเสธโอกาสของ ดูซานทาดิช สำเร็จก่อนที่จะหมดสิทธิ์เซฟกับทั้ง 2 ประตูที่เสียไปในครึ่งแรก ตามด้วยการโชว์เซฟสำคัญอีกหลายจังหวะในครึ่งหลังโดยเฉพาะการสับไกของ ฮาคิม ซีเย็ค ก่อนที่ทีมจะได้ประตูชัย

คีแรน ทริปเปียร์ – 5/10

ถูก เดอ ลิกท์ หนีการตามประกบอย่างง่ายไปสักหน่อยในจังหวะที่เสียประตูแรกรวมทั้งเป็นคนทำเสียบอลซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นประตูที่ 2 และไม่กระตือรือล้นที่จะวิ่งไล่ตามในช็อตดังกล่าว ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อยในครึ่งหลังโดยเป็นคนเซ็ตจังหวะให้ทีมได้ประตู ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วง 10 นาทีสุดท้ายแทนที่โดย เอริค ลาเมลา เมื่อทีมต้องการประตู

โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ – 7/10

จำเป็นที่จะต้องคัฟเวอร์พื้นที่ของ ทริปเปียร์ หลายครั้งจนมีส่วนเปิดพื้นที่ให้ ซีเย็ค พังประตู โดยรวมป้องกันได้ดีโดยเฉพาะในครึ่งหลังและมีส่วนกับการเซ็ตเกมรุกของทีมจากแนวรับ

แยน แฟร์ตองเก้น – 7/10

ได้โหม่งลุ้นพังประตูไปชนคานอย่างจังก่อนที่จังหวะตามซ้ำจะถูกผู้เล่นของ อาหยักซ์ เคลียร์จากบนเส้นประตูอย่างน่าเสียดาย

แดนนี โรส – 7/10

ทำเสียลูกเตะมุมโดยไม่จำเป็นจนเป็นที่มาของการได้ประตูแรกของ อาหยักซ์ ก่อนที่จะมีส่วนเซ็ตบอลให้ ลูคัส ยิงตีไข่แตกให้กับทีม แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะหมดก๊อกในช่วงท้ายและถูกแทนที่โดย เบน เดวีส์

วิคเตอร์ วานยามา – 4/10

ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมมากนักในครึ่งแรก ถูก ซีเย็ค กระชากหนีผ่านหน้าไปอย่างง่ายดายในจังหวะที่ทีมเสียประตูที่ 2 และถูกเปลี่ยนตัวออกหลังพักครึ่งทันทีแทนที่โดย เฟร์นันโด ยอเรนเต้

มุสซา ซิสโซโก้ – 8/10

ได้รับใบเหลืองตั้งแต่ 20 นาทีแรกทำให้หลังจากนั้นดูจะเล่นอย่างยากลำบากไปสักหน่อย แต่ในเกมรุกเจ้าตัวมีส่วนกับการขับเคลื่อนบอลจากแดนกลางได้ดี โดดเด่นกับการพาบอลลากขึ้นไปทลายแนวรับ อาหยักซ์

คริสเตียน อีริคเซน – 6/10

ได้ยิงไปตรงตัว อังเดร โอนานา ในครึ่งหลังก่อนที่จะเปิดให้ เดเล อัลลี ได้โอกาสเหน่งๆ ในช่วงต้นครึ่งหลัง

เดเล อัลลี – 8/10

ได้โอกาสปั่นโค้งหลุดออกนอกกรอบไปอย่างได้ลุ้นตั้งแต่ช่วงต้นเกม สร้างโอกาสให้ ซน เฮือง-มิน ได้หลุดไปเกือบจบสกอร์ได้ ก่อนที่ครึ่งหลังจะได้วอลเลย์ไปถูก โอนานา เซฟไว้ได้และมีส่วนกับประตูชัยของทีม

ลูคัส มูรา – 10/10

FBL-EUR-C1-AJAX-TOTTENHAM

แฮตทริคฮีโร่ผู้สร้างปัญหาให้กับแนวรับของเจ้าบ้านได้ตั้งแต่ต้นเกม เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัว

ซน เฮือง-มิน – 6/10

ยิงไปชนกรอบตั้งแต่ช่วงต้นเกม ตามด้วยการพลาดโอกาสจากลูกจ่ายของ อัลลี ครึ่งหลังดูจะวูบวาบกว่าในครึ่งแรกและมีพื้นที่ให้เล่น ได้โอกาสเหน่งๆ ในกรอบเขตโทษช่วงท้ายแต่ยิงข้ามคานออกไป

ตัวสำรอง

เฟร์นันโด ยอเรนเต้ – 6/10 : ถูกเปลี่ยนตัวลงสู่สนามหลังจากพักครึ่ง คอยยืนค้ำเก็บบอลที่แดนหน้าและเป็นตัวเป้าให้เพื่อนเปิดบอลเข้าใส่ มีส่วนกับการทำให้โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไป

เอริค ลาเมลา – N/A : ลงสนามในช่วงท้ายเกมและคอยเร่งจังหวะให้กับเกมรุกของทีมสปีดไม่ตก

เบน เดวีส์ – N/A : แทนที่ โรส ที่หมดแรงในช่วงท้าย


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดหากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด

Social media raves about Matthijs de Ligt after goal vs Spurs

De ligt Ajax

What a phenomenon

Social media is raving about Matthijs de Ligt again after he scored for Ajax in their Champions League semi-final second leg clash with Tottenham.

Spurs travelled to Amsterdam in hope of turning around a one-goal deficit in their semi-final clash with Ajax.

After Donny van de Beek’s goal handed Ajax a 1-0 win in the first leg, Spurs had to score two away from home in order to qualify.

That was always going to be a tough ask but Spurs’ task got even harder just four minutes into the clash.

AMSTERDAM, NETHERLANDS – AUGUST 14: Matthijs de Ligt of Ajax celebrates scoring his teams second goal of the game during the UEFA Champions League third round qualifying match between Ajax and Royal Standard de Liege at Johan Cruyff Arena on August 14, 2018 in Amsterdam, Netherlands. (Photo by Dean Mouhtaropoulos/Getty Images)

De Ligt key for Ajax yet again

That is because Ajax’s captain fantastic Matthijs de Ligt scored yet another huge goal for the Amsterdam side.

De Ligt burst onto the scene in the 2016/17 season as a 17-year-old, full of potential.

While he made 11 appearances in the Eredivisie, it was the Europa League where he really made his name.

De Ligt featured in nine of Ajax’s games including the final against Manchester United.

Since then De Ligt has gone from strength to strength in such a short period of time.

Despite being just 19 years old, the centre-back is current Ajax captain and you could argue he’s at least in the top five central defenders in world football right now.

Most wouldn’t argue with that opinion after his first-half goal against Tottenham.

The youngster lost Kieran Tripper and towered over Dele Alli to score a brilliant glancing header.

Now, everyone is appreciating the phenomenon that is Matthijs de Ligt on social media.

Social media reacts to De Ligt’s goal

Following his goal, several football fans and journalists were simply stunned by the ability and potential De Ligt possesses.

Social media in awe of the Champions League after Ajax vs Spurs thriller

Tottenham Champions League

What a season of drama it’s been

No one can quite believe what the Champions League is throwing up this season after another thrilling game between Ajax and Tottenham.

It’s certainly been a season of drama on the biggest stage in club football.

We had plenty of drama in the group stage as well as drama in the form of Manchester United knocking Paris Saint-Germain out in the last-16.

Though, despite all of the games prior, this week really has been possibly the most dramatic in Champions League history.

De ligt Ajax

Ajax’s Matthijs de Ligt celebrates scoring his side’s first goal of the game Ajax v Tottenham Hotspur – UEFA Champions League – Semi Final – Second Leg – Johan Cruijff ArenA 08-05-2019 . (Photo by Bradley Collyer/EMPICS/PA Images via Getty Images)

A week of twists and turns

We started off the week by watching Liverpool overturn a three-goal deficit at Anfield to knock Barcelona out of the Champions League.

Despite being dominated in the main at the Camp Nou, Liverpool came roaring back on their own turf to complete the most historic of comebacks.

Divock Origi and Georginio Wijnaldum scored a brace each with three of Liverpool’s goals coming in the second-half including Origi’s incredible 79th-minute winner.

Though, just when we thought there was enough drama for the week, Spurs’ clash with Ajax threw up even more shocks.

Ajax took an early 2-0 lead after impressive goals from Matthijs de Ligt and Hakim Ziyech.

Not only were they ahead, Ajax were completely in control as the game reached half-time.

Spurs truly looked down and out, needing to score three goals to go through.

That was until the second half where they came out fighting, just as Liverpool did the night before.

They finally made their breakthrough in the 55th minute when Lucas Moura finished off a brilliant counter-attack.

Spurs then made it 2-2 on the night and 3-2 to Ajax on aggregate, with Moura scoring his second of the game.

Chances kept on coming, with the biggest chance falling to Jan Vertonghen whose header hit the bar and his follow-up blocked on the line.

Then, just when you thought it was impossible, Tottenham scored with the last kick of the game to break Ajax hearts.

Lucas Moura’s dramatic strike sent Spurs through to the final, against all odds.

Social media reacts to a week of UCL drama

Safe to say, no one could quite believe what they had seen tonight, this week and this season.

It looks as though the love for Champions League football is at an all-time high.

Tottenham fans heap praise on Lucas after Ajax comeback

Tottenham vs Ajax

Tottenham faced Ajax on Wednesday evening in the second leg of their Champions League semi-final.

Spurs would lose the first leg 1-0 in their new stadium.

However, Ajax have been better away from home in the UCL this season with their comeback vs Real Madrid taking place at the Bernabeu.

The winner of this match knew they would be facing Liverpool in the final after Jurgen Klopp’s men came from 3-0 down to beat Barcelona 4-3.

Mauricio Pochettino during Tottenham vs Barcelona

LONDON, ENGLAND – OCTOBER 03: Mauricio Pochettino, Manager of Tottenham Hotspur looks on during the Group B match of the UEFA Champions League between Tottenham Hotspur and FC Barcelona at Wembley Stadium on October 3, 2018 in London, United Kingdom. (Photo by Shaun Botterill/Getty Images)

Lucas steals the show

Tottenham’s evening would get off to a nightmare start as Matthijs de Ligt put Ajax 1-0 up inside five minutes.

It was Kieran Trippier who should have been following de Ligt’s run when the corner was whipped in.

However, the young centre-back was left alone and headed in.