Category: RSS Thai

การฝึกซ้อมครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเน้นไปที่การเล่นภายใต้คอนเซปต์ ทั้งการสร้างเกมจากแดนหลัง รวมถึงการกดดันแดนบน ที่ต้องสนับสนุนกัน

หลังการฝึกซ้อม แซ็คคารี่ สิงห์ บินรงค์ กองหลังลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย  เจ้าของสวนสูง 187ซม.  ที่เคยอยู่กับ  บริสเบน โรร์ ในลีกออสซี่ กล่าวว่า “การฝึกซ้อมกับทีมชาติไทยรุ่นนี้ มีความเข้มข้นสูงมากครับ เพื่อนร่วมทีมทุกคนต่างมีทักษะการเล่นที่สูงมาก ผมเองก็พยายามพัฒนาตัวเองขึ้นในทุกวัน เพื่อแสดงฝีเท้าของตัวเอง ผมสนุกที่ได้เรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆมากมาย”

“ผมยอมรับเลยว่าอากาศที่ไทยกับออสเตรเลีย ค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก ผมก็จะพยายามปรับตัวให้เร็วที่สุด การฝึกซ้อมครั้งแรกของผมกับทีมก็ค่อนข้างหนักพอสมควร เพราะพออากาศเปลี่ยน ร่างกายผมก็ป่วยทันที แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ที่ไทยนั้นร้อนมาก ส่วนที่ออสเตรเลีย นั้นกำลังหนาว ผมก็พยายามปรับตัวให้เร็วที่สุด”

“เพื่อนร่วมทีมในทีมชาติทุกคนต่างมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก หากเทียบกับที่สโมสรที่ออสเตรเลีย ทั้งเรื่องการกิน การพักผ่อนต่างๆ หลายคนต้องพยายามดูแลตัวเองให้ดีให้พร้อมที่สุดสำหรับการซ้อมสามครั้งต่อวัน”

“ส่วนสตาฟฟ์โค้ชก็พยายามช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่ คือผมมีปัญหาที่ไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทยเท่าไหร่ แต่ก็มีคนมาคอยช่วยเหลือ คอยอธิบายให้ ผมสามารถทำได้ตามที่โค้ชต้องการ”

“การมาทีมชาติครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งทีสองของผมแล้ว หลังได้มาร่วมเก็บตัวแบบสั้นๆในครั้งก่อน ครั้งก่อนผมพยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด และก็พยายามทำการบ้านให้กับตัวเองตลอดเวลาว่ายังมีจุดไหนที่บกพร่องอยู่บ้าง ตอนนี้ผมเข้าใจหลายอย่างมากขึ้น และผมก็จะพยายามพัฒนาตัวเองต่อไป”

“อีกเรื่องที่แตกต่างระหว่างฟุตบอลออสเตรเลียกับฟุตบอลไทย ที่เป็นเรื่องสำคัญก็คือเรื่องสไตล์การเล่น ในส่วนของออสเตรเลีย จะพยายามเน้นเรื่องการวางบอลยาวให้แม่นยำเพราะคนออสเตรเลียส่วนใหญ่มีรูปร่างที่สูงและแข็งแกร่ง ในขณะทีไทย มีนักเตะรูปร่างเล็ก เราก็จะพยายามเน้นต่อเกมไปแบบสั้นๆ แต่ให้มีความรวดเร็วเพื่อการลำเลียงบอลไปข้างหน้า”

“ส่วนการเล่นเกมรับ ที่ออสเตรเลียจะเน้นเรื่องการเล่นกองหลังแบบสี่คน ที่เน้นปิดแนวกว้างไม่ให้เขาเข้าครอส ส่วนที่ไทย จะเล่นกองหลังแบบสามคน ที่เน้นคอมแพคต์พื้นที่ และต้องช่วยเหลือกันสอดซ้อนกันเป็นหลัก ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมต้องปรับตัวให้เร็วที่สุด”

ช้างศึก U19 จะเก็บตัวไปจนถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2562 ก่อนจะคัดเลือกนักกีฬาให้เหลือ 23 คน เพื่อเข้าแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าวต่อไป

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ มาเลเซีย, เวียดนาม, กัมพูชา, สิงคโปร์ และ ออสเตรเลีย

ถัดมาในคู่ที่สอง ในประเภท หญิงเดี่ยว ไทยส่ง จิว พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ และแพ้ ปุตรี วาร์ดานี ไปแบบฉิวเฉียด 1-2 เกม คะแนน 21-18 , 12-21 และ 11-21 ทำให้ อินโดนีเซีย ออกนำ 2-0 คู่

แต่ในที่สุดความหวังที่เหลืออยู่ก็สัมฤทธิ์ผล ในประเภท ชายเดี่ยว ไทยมาไล่ตีไข่แตกเป็น 1-2 คู่ จาก วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่เอาชนะ บ๊อบบี้ เซเตียบูดี้ ไป 2-1 เกม คะแนน 21-16 , 15-21 และ 21-18

และในคู่ที่ 4 ไทยตีเสมอเป็น 2-2 คู่ จาก ประเภทหญิงคู่ หลังจาก มูนา เบญญาภา เอี่ยมสะอาด กับ เอม พีรยา คันธารวงสกุล เอาชนะ นิตา มาร์วาห์ กับ ปุตรี สเยียกาห์ 2-1 เกม คะแนน 21-16 , 16-21 และ 21-8 ต้องไปตัดสินในประเภทคู่ผสม

จนสุดท้าย วิว กุลวุฒิ และ จิว พิทยาภรณ์ รวมพลังกันตบชนะ ลีโอ คาร์นันโด กับ อินดาห์ จามิล ไป 2-0 เกม คะแนน 21-12 และ 21-16 ทำให้บทสรุป จบลงที่ ทีมแบดมินตันเยาวชนทีมชาติไทย พลิกกลับมาชนะ อินโดนีเซีย ไป 3-2 คู่ ผงาดคว้าแชมป์ รายการ เอเชีย จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองศึกชิงแชมป์เยาวชนเอเชียประเภททีมผสมได้สำเร็จเป็นครั้งแรก