[ข่าวซื้อขาย] พร้อมทวงบัลลังก์ ! วู้ดเวิร์ด ยัน ปีศาจแดง เตรียมเสริมทัพใหญ่ซัมเมอร์

เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหารของ ​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่าการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้จะมีความสำคัญกับทีมเป็นอย่างยิ่งในการสร้างทีมใหม่เพื่อกลับสู่การเป็นสโมสรระดับท็อปของ ​พรีเมียร์ลีก และในยุโรปอีกครั้ง

“กระบวนการสรรหาผู้เล่นใหม่นั้นเราโฟกัสไปที่การวิเคราะห์และคัดเลือกนักเตะตลอดทั้งฤดูกาล ในส่วนของการเสริมทัพนั้นเรามองว่าตลาดช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึงนั้นเป็นโอกาสที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง”

“เราไม่มีการลงทุนกับนักเตะในระยะสั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมากับเงินจำนวน 200 ล้านปอนด์ที่จ่ายไปนับตั้งแต่ที่ โอเล เข้ามาคุมทีม เป้าหมายของเราคือเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการเสริมทัพนักเตะที่มีคุณภาพ”

“ส่วนงานด้านการสรรหาผู้เล่นนั้นกำลังทำงานกันบนแผนงานที่มีความชัดเจนและด้วยปรัชญาไปพร้อม ๆ กับ โอเล กัลสตาฟฟ์ของเขา เราให้ความสำคัญกับการผสมผสานการนำเอานักเตะที่มีประสบการณ์และพวกดาวรุ่งฝีเท้าดีที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต รวมกับเด็ก ๆ ที่มาจากอคาเดมีของพวกเราด้วย” วู้ดเวิร์ด กล่าว

[ข่าวซื้อขาย] เชื่อดีไหม !? เดอะซัน เผย เสือใต้ เตรียมทุ่ม 75 ล้านคว้า ฟิร์มิโน เข้ารัง

บาเยิร์น มิวนิค ทีมดังใน บุนเดสลีกา เตรียมทุ่มทุนกว่า 75 ล้านปอนด์คว้าตัว โรแบร์โต ฟิร์มิโน จาก ลิเวอร์พูล มาร่วมทีมตามรายงานของ เดอะ ซัน

ตามรายงานระบุว่าทีมแชมป์เยอรมันต้องการยกระดับกองหน้าและ ฟิร์มิโน เองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหลังทำผลงานอย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้

ขณะที่นอกจากนี้ก็เชื่อว่า บาเยิร์น ยังต้องการคว้าตัว เลรอย ซาเน ปีกความไวสูงจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีมพร้อม ฟิร์มิโน ในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย

โดยหัวหอกทีมชาติบราซิลในวัย 28 เองก็ย้ายมาจาก ฮอฟเฟนไฮม์ เข้ารัง แอนฟิลด์ เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์ซึ่งทำให้เขามีความคุ้นเคยกับลีกเยอรมนีเป็นอย่างดี

ซึ่งในขณะนี้ ฟิร์มิโน เองก็ยังเหลือสัญญากับ หงส์แดง จนถึงกลางปี 2022 หลังเพิ่งต่อมันออกไปเมื่อช่วงปี 2018 นั่นเอง

อินเตอร์ มิลาน 4-2 เอซี มิลาน : เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังเกม กัลโช เซเรีย อา ดาร์บี้แมทช์เมืองมิลาน

การแข่งขัน ฟุตบอล กัลโช เซเรีย อา 2019/20 นัดที่ 23
วันแข่งขัน คืนวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2020
เวลาแข่งขัน 02.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน 4-2 เอซี มิลาน
สนาม สตาดิโอ จูเซ็ปเป้ เมอัซซา

อินเตอร์ มิลาน พลิกนรกคว้าชัยเหนือ เอซี มิลาน ในศึก ดาร์บี้แมทช์ 4-2 โดย ปีศาจแดงดำ ได้ประตูออกนำก่อนถึง 2 ลูกจาก อันเต เรบิค นาทีที่ 40 และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช นาทีที่ 45 ส่วน งูใหญ่ มายิงคืน 4 ประตูรวดในช่วงครึ่งหลังจาก มาร์เซลโล โบรโซวิช นาทีที่ 51 มาธิอัส เวซิโน นาทีที่ 53 สเตฟาน เดอ ไฟรจ์ นาทีที่ 70 และ โรเมลู ลูกากู นาทีที่ 90+3 จบเกมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ คว้า 3 แต้มได้สำเร็จขยับขึ้มานำเป็นจ่าฝูงในศึก กัลโช เซเรีย อา อีกครั้ง 

FBL-ITA-SERIEA-INTER-AC-MILAN

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เป็นทางด้าน เอซี มิลาน ที่ครองเกมบุกได้ค่อนข้างชัดเจนกว่า ส่วนด้าน อินเตอร์ ถอยลงมาตั้งโซนและรอจังหวะสวนกลับ

ช่วงต้นเกม ปีศาจแดงดำ เกือบได้ประตูขึ้นนำเร็วจากลูกยิงไกลของ ฮาคาน คัลฮาโนกลู แต่บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ด้าน ทีมงูใหญ่ ก็มีจังหวะได้ลุ้นประตูหลายครั้ง ทั้งจากลูกเตะมุมที่ ดิเอโก้ โกดิน ได้ขึ้นโหม่งเฉียดเสาออกไป รวมถึงจังหวะสวนกลับที่ ลูกากู หลุดมาทางกราบขวาและตบเข้ากลาง เวซิโน ซัดจ่อ ๆ แต่บอลยังไปตรงตัว ดอนนารุมมา

กระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เอซี มิลาน ได้ประตูออกนำไปก่อน 0-1 จากจังหวะวางบอลยาวเข้ากรอบเขตโทษ ซลาตัน โหม่งชงมาให้ เรบิค ยิงโล่ง ๆ เข้าไปในนาทีที่ 40

เกมเหมือนจะจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้ แต่แล้ว ปีศาจแดงดำ มาได้ประตูที่สองจากลูกเตะมุม คาสติลล์โญ เปิดโค้งเข้ามา ก่อนที่ เคสซีย์ จะสะกิดเปลี่ยนทาง บอลเลยมาถึง อิบราฮิโมวิช โหม่งจ่อ ๆ เข้าไปในนาทีที่ 45

และจบ 45 นาทีแรก อินเตอร์ ตามหลัง มิลาน 0-2

FBL-ITA-SERIEA-INTER-AC-MILAN

เริ่มเกมในครึ่งหลังยังคงเป็น เอซี มิลาน ที่เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ แต่ดูเหมือนทางฝั่ง อินเตอร์ จะเริ่มบุกและหาโอกาสเข้าทำได้มากขึ้น

ในนาทีที่ 51 ทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้ประตูตีไข่แตก 1-2 จากจังหวะเปิดบอลแฉลบมาเข้าทาง โบรโซวิช ได้วอลเล่จากนอกกรอบ บอลพุ่งผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป

จากนั้นอีกเพียง 2 นาที ทีมงูใหญ่ ตีเสมอเป็น 2-2 ได้อย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่ อเล็กซิส หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายกลับมาบริเวณจุดโทษให้ เวซิโน ยิงโล่ง ๆ เข้าไป

หลังจากถูกตีเสมอ สเตฟาโน ปิโอลี ดูเหมือนจะสั่งให้ลูกทีมเปิดเกมบุกกดดันมากขึ้นซึ่งก็พอจะมีโอกาสเข้าทำอยู่บ้างแต่ก็ยังแทบหาจังหวะจบที่มีลุ้นประตูไม่ได้

แต่แล้วนาทีที่ 70 อินเตอร์ พลิกขึ้นนำ 3-2 ได้สำเร็จจากลูกเตะมุม การเดรวา เปิดมาให้กับ สเตฟาน เดอ ไฟรจ์ โฉบเข้ามาโหม่ง บอลย้อยเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสุดสวย

ช่วงท้ายเกม ปีศาจแดงดำ เกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกโหม่งของ ซลาตัน แต่บอลไปชนเสาอย่างจัง ทำให้พลาดโอกาสได้ประตูไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ งูใหญ่ มาได้ประตูย้ำชัย 4-2 จากจังหวะสวนกลับ วิคเตอร์ โมเสส หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนบรรจงเปิดให้ ลูกากู โหม่งจ่อ ๆ เข้าไป

ทำให้จบเกม อินเตอร์ มิลาน พลิกแซงคว้าชัยในศึก ดาร์บี้แมทช์เมืองมิลาน 4-2

Romelu Lukaku

อินเตอร์ มิลาน


ประเด็นหลังเกม

รูปเกมในวันนี้ของ ทัพงูใหญ่ โดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีแรกนั้น ดูแย่กว่าทาง เอซี มิลาน อย่างเห็นได้ชัด ทั้งการครองบอล รวมถึงโอกาสเข้าทำ แถมยังมาพลาดเสีย 2 ประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก จนหลายคนมองว่าด้วยฟอร์มแบบนี้ ครึ่งหลังมีแววว่าอาจจะโดนยิงเพิ่มอีกลูกสองลูกอย่างแน่นอน

แต่แล้วในช่วงครึ่งเวลาหลัง อันโตนิโอ คอนเต้ ปรับแผนให้ลูกทีมเน้นเกมรุกมากขึ้น ซึ่งพวกเขายิงคืน 2 ประตูรวดภายใน 2 นาที ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง แน่นอนว่ามันทำให้ความมั่นใจของพวกเขากลับคืนมา จนสามารถยิงขึ้นนำได้สำเร็จ แถมยังจากเปลี่ยน คริสเตียน เอริคเซน ลงมา ทำให้เกมรุกของพวกเขาดูมีมิติมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเจ้าตัวสามารถสร้าสรรค์จังหวะเข้าทำสวย ๆ ได้หลายครั้งในช่วง 20 นาทีสุดท้าย จนในที่สุดก็เป็น ลูกากู ที่เป็นผู้ยิงปิดเกมได้สำเร็จ พาทีมทะยานขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในศึก กัลโซ เซเรีย อา ได้สำเร็จอีกครั้ง

Antonio Conte

คะแนนผู้เล่น อินเตอร์ มิลาน

ตัวจริง : ปาเดลลี(5.5), โกดิน(6.5), เดอ ไฟรจ์(7.5), สกริเนียร์(6.5), กานเดรวา(6.5), ยัง(6.5), เวซิโน(7), โบรโซวิช(7.5), บาเรลลา(7.5), ลูกากู(8), อเล็กซิส(6.5)

ตัวสำรอง : เอริคเซน(7), โมเสส(6.5), บิราคี(5)


คีย์แมน – โรเมลู ลูกากู

อดีตหัวหอกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันนี้ทำไป 1 ประตู เป็นประตูปิดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แม้ว่าตลอด 90 นาที เจ้าตัวจะได้โอกาสยิงค่อนข้างน้อย แต่ก็มักจะมีส่วนร่วมกับจังหวะเข้าทำอยู่เสมอ ๆ แถมวันนี้ยังพักบอล เก็บบอลในแดนหน้าได้สวย ๆ อยู่หลายครั้ง กระทั่งมาโหม่งปิดกล่อง ชนิดที่ ดอนนารุมมา หมดสิทธิที่จะป้องกันเอาไว้ได้

FBL-ITA-SERIEA-INTER-AC-MILAN

เอซี มิลาน


ประเด็นหลังเกม

ทีมของ สเตฟาโน ปิโอลี ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งเวลาแรก ด้วยการบุกกดดันคู่แข่งอย่างหนักจนต้องถอยลงไปตั้งรับต่ำ ทำให้พวกเขาแทบจะพับสนามอยู่ฝ่ายเดียว อีกทั้งยังได้ความยอดเยี่ยมของ ซลาตัน ทั้งยิงทั้งจ่าย ช่วยให้ทีมเจาะต่าขายได้ถึง 2 ประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งเวลา

แต่แล้วพอเริ่มครึ่งหลัง พวกเขาเสีย 2 ประตูอย่างรวดเร็ว แม้พวกเขาจะพยายามบุกอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ อินเตอร์ ได้ จนมาเสียประตูที่ 3 แถมยังโชคไม่ดีที่ลูกโหม่งช่วงท้ายเกมของ อิบรา ดันไปชนเสาเต็ม ๆ และต้องมาเสียประตูที่ 4 ในที่สุด

เกมนี้จึงเป็นอีกนัดที่น่าเสียดายสุด ๆ ที่ ทัพปีศาจแดงดำ ต้องพบกับความปราชัยชนิดที่ว่าไร้ดวงอย่างสิ้นเชิง แต่จะไปโทษโคชะตาอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะอย่างที่ทราบกันว่า เกมระดับนี้ ตัดสินกันที่ความเฉียบขาด เมื่อมีโอกาสกันทั้งคู่และพวกเขาคว้าเอาไว้ไม่ได้ แต่อีกฝ่ายกลับทำได้ ผลมันก็เลยออกมาชนิดที่น่าเจ็บใจเช่นนี้นั่นเอง

FC Internazionale v AC Milan - Serie A

คะแนนนักเตะ เอซี มิลาน

ตัวจริง : ดอนนารุมมา(6), เคียร์(6), โรมักโนลี(6), คอนติ(6), เฮอร์นันเดซ(6), เคสซีย์(6.5), เบนนาเซอร์(6.5), คาสติลล์โญ(6.5), เรบิค(7), คัลฮาโนกลู(6.5), อิบราฮิโมวิช(8)

ตัวสำรอง : ราฟาเอล(6), ปาเกวต้า(5), โบนาเวนตูรา(5)


คียแมน – ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

กองหน้าระดับตำนานวัย 38 ปี ที่พึ่งจะย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงเดือน มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ อิบรา ทำได้ 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ แถมอีก 1 เสาในช่วงท้ายเกม แต่ก็ยังไม่พอที่จะช่วยให้ต้นสังกัดคว้าชัยมาได้ในศึกแห่งศักดิ์ศรีนี้

หากดูเฉพาะผลงานส่วนตัวของเขานั้น แม้จะมีส่วนร่วมกับเกมไม่มาก แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าตัวนั้นยังฝากความหวังเอาไว้ได้เสมอ ด้วยประสบการณ์อันโชกโชน ที่สำคัญคือความเฉียบคมที่ยังคมเต็มเปียม บอกได้เลยว่า ช่วงครึ่งซีซั่นที่เหลือนี้ ซลาตัน คงต้องรับบทเป็น “เดอะแบก” คนใหม่ ที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทัพ ปีศาจแดงดำ เสียแล้ว

FC Internazionale v AC Milan - Serie A

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง


อินเตอร์ : ปาเดลลี, โกดิน, เดอ ไฟรจ์, สกริเนียร์, กานเดรวา, ยัง, เวซิโน, โบรโซวิช, บาเรลลา, ลูกากู, อเล็กซิส

ตัวสำรอง : ฮันดาโนวิช, สแตนโควิช, โมเสส, เซนซี, รานอคเคีย, อซาโมอา, วาเลโร, เอริคเซน, เอสโปซิโต, อกิลเม, ดิ อัมโบรซิโอ, บิราคี

เอซี มิลาน : ดอนนารุมมา, เคียร์, โรมักโนลี, คอนติ, เฮอร์นันเดซ, เคสซีย์, เบนนาเซอร์, คาสติลล์โญ, เรบิค, คัลฮาโนกลู, อิบราฮิโมวิช

ตัวสำรอง : เบโกวิช, บิเกลีย, โบนาเวนตูรา, เบรสเชียนินี, คาลาเบรีย, ดอนนารุมมา, กับเบีย, ลักเซาต์, ราฟาเอล, มูซาคชิโอ, ปาเกวต้า, อเล็กซิส

บาเยิร์น มิวนิค พบ แอร์เบ ไลป์ซิก : พรีวิวฟุตบอลบุนเดสลีกา, วัน+เวลาการแข่งขัน, ถ่ายทอดสด


ข้อมูลการแข่งขัน


การแข่งขัน ฟุตบอล บุนเดสลีกา 2019/20 นัดที่ 21
วันแข่งขัน คืนวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2020
เวลาแข่งขัน 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค พบ แอร์เบ ไลป์ซิก
สนาม อัลลิแอนซ์ อารีนา
ถ่ายทอดสด Fox Sports HD

ความพร้อมของทั้ง 2 ทีม


บาเยิร์น มิวนิค

อิวาน เปริซิช กับ นิคลาส ซือเล ยังคงต้องพักยาวรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บและคาดว่าจะเป็นโอกาสของ แซร์จ นาบรี้ เบียด ฟิลิปเป้ คูตินโญ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นฝั่งขวาในช่วงที่ คิงสลีย์ โกม็อง กับ ลูก้าส์ แอร์น็องด์เดซ ยังต้องเรียกแมตช์ฟิตหลังเพิ่งหายเดี้ยงเช่นเดียวกับ แยนน์-เฟียต อาร์ป

อัลบาโร โอดริโอโซลา ที่เพิ่งย้ายจาก เรอัล มาดริด ร่วมทัพ บาเยิร์น ด้วยสัญญายืมตัวจะมีชื่อสแตนด์บายบนม้านั่งสำรอง

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-2-3-1

ผู้รักษาประตู นอยเออร์
กองหลัง ปาวาร์, อลาบา, บัวเต็ง, เดวีส์
กองกลาง คิมมิช, ติอาโก้
นาบรี้, มึลเลอร์, โกเร็ทซ์ก้า
กองหน้า เลวานดอฟสกี้

แอร์เบ ไลป์ซิก

คาดการณ์ว่า อังเจลิโน แบ็คซ้ายที่พวกเขาคว้าตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมีชื่อสแตนด์บายอยู่บนม้านั่งสำรองเช่นเดียวกับ ดานี โอลโม มิดฟิลด์คนใหม่จาก ดินาโม ซาเกร็บ ขณะที่ แพทริค ชิค กับ ยูสซุฟ โพลเซน จะขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งตัวจริงในบทบาทคู่หูของ ติโม แวร์เนอร์

ไลป์ซิก จะได้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก หายจากอาการป่วยกลับมามีชื่อกับทีมอีกครั้งแต่กัปตันทีม วิลลี ออร์บาน ยังคงต้องพักรักษาตัวจากการผ่าตัดหัวเข่าเช่นเดียวกัน อิบราฮิมา โคนาเต้ ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และ เควิน แคมเปิล ต้องพักยาวหลังผ่าตัดเท้า

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-4-2

ผู้รักษาประตู กูลาสชี
กองหลัง มูเคียเล, คลอสเตอร์มันน์, อูปาเมคาโน, ฮัลส์เทนเบิร์ก
กองกลาง ซาบิทเซอร์, อดัมส์, ไลเมอร์, ฟอร์สเบิร์ก
กองหน้า ชิค, แวร์เนอร์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด


บาเยิร์น มิวนิค (ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 1)

6 กุมภาพันธ์ เดเอฟเบ โพคาล บาเยิร์น 4 : 3 ฮอฟเฟนไฮม์ ชนะ
1 กุมภาพันธ์ บุนเดสลีกา ไมนซ์ 1 : 3 บาเยิร์น ชนะ
26 มกราคม บุนเดสลีกา บาเยิร์น 5 : 0 ชาลเก้ ชนะ
19 มกราคม บุนเดสลีกา แฮร์ธา 0 : 4 บาเยิร์น ชนะ
11 มกราคม กระชิบมิตร เนิร์นแบร์ก 5 : 2 บาเยิร์น แพ้

แอร์เบ ไลป์ซิก (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2)

5 กุมภาพันธ์ เดเอฟเบ โพคาล แฟรค์เฟิร์ต 3 : 1 ไลป์ซิก แพ้
2 กุมภาพันธ์ บุนเดสลีกา ไลป์ซิก 2 : 2 มึนเชนกลัดบัค เสมอ
25 มกราคม บุนเดสลีกา แฟรค์เฟิร์ต 2 : 0 ไลป์ซิก แพ้
19 มกราคม บุนเดสลีกา ไลป์ซิก 3 : 1 ยูนิโอน เบอร์ลิน ชนะ
21 ธันวาคม บุนเดสลีกา ไลป์ซิก 3 : 1 เอาส์บวร์ก ชนะ

เฮดทูเฮด (บาเยิร์น ชนะ 2 เสมอ 2 ไลป์ซิก ชนะ 1)

15 กันยายน 2019 บุนเดสลีกา ไลป์ซิก 1 : 1 บาเยิร์น
26 พฤษภาคม 2019 เดเอฟเบ โพคาล ไลป์ซิก 0 : 3 บาเยิร์น
11 พฤษภาคม 2019 บุนเดสลีกา ไลป์ซิก 0 : 0 บาเยิร์น
20 ธันวาคม 2018 บุนเดสลีกา บาเยิร์น 1 : 0 ไลป์ซิก
19 มีนาคม 2018 บุนเดสลีกา ไลป์ซิก 2 : 1 บาเยิร์น

ตามรอย ! มารี อยากสร้างตำนานเหมือนเหล่าแข้งรุ่นพี่ชาวสเปนในทีม อาร์เซนอล

พาโบล มารี กองหลังใหม่ป้ายแดงของ ​อาร์เซนอล ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าอยากเดินตามเส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ในทัพปืนโตเหมือนที่รุ่นพี่ชาวสเปนหลาย ๆ คนเคยผ่านมาก่อน

“บนหน้าประวัติศาสตร์ของ อาร์เซนอล ตลอดยุคสมัยพรีเมียร์ลีก เคยมีนักฟุตบอลชาวสเปนมาสร้างตำนานเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่มากมายหลายคน” มารี เกริ่น

“เชส ฟาเบรกาส, ซานติ กาซอร์ลา, โฆเซ อันโตนิโอ เรเยส เส้นทางค้าแข้งของพวกเขาติดตรึงอยู่ในใจของนักเตะอายุน้อย ๆ ที่กำลังเติบโตขึ้นในช่วงนั้นพอดี ซึ่งผมเองก็ด้วย”

“แต่อีกหนึ่งตำนานที่เราจะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ มิเกล อาร์เตตา ซึ่งเขากลับมาเป็นผู้จัดการทีมแล้ว นี่แหละคือสิ่งสำคัญสุดสำหรับ อาร์เซนอล ซึ่งผมเชื่อว่าต้องประสบความสำเร็จแน่”

“ถึงเราจะเล่นกันคนละตำแหน่ง แต่ผมก็มองเขาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าเดินตามรอยเท้าอย่างแท้จริง ฉะนั้นจึงหวังว่าตัวเองจะได้ค้าแข้งอยู่กับสโมสรแห่งนี้ไปอีกนานหลายปี เพราะอยากฉลองแชมป์ร่วมกับทุกคนมากเลยล่ะ”

สมรภูมิยูโร 2020 ! เจาะลึก 12 สังเวียนฟาดแข้งศึกชิงแชมป์ยุโรป


ความจุ: 67,889 ที่นั่ง เมือง: บูดาเปสต์ ประเทศ: ฮังการี สนามฟุตบอลใหม่ถอดด้ามของ ฮังการี ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 แทนที่สนามเดิม (เฟเรนซ์ ปุสกัส สเตเดี้ยม, 1953) ที่ถูกตั้งชื่อตามตำนานลูกหนังของพวกเขา ปุสกัส สเตเดี้ยม เพิ่งจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการเพียงแค่ 1 นัดเท่านั้นหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จโดยเป็นเกมกระชับมิตรนัดเปิดสนามที่ ฮังการี ปราชัยต่อ อุรุกวัย 1-2 ความจุ: 75,000 ที่นั่ง เมือง: มิวนิค ประเทศ: เยอรมนี รังเหย้าของบิ๊กทีมแห่ง บุนเดสลีกา อย่าง บาเยิร์น มิวนิค…

[ข่าวซื้อขาย] อย่าขวางทางพี่ ! เผย ป็อกบา ยืนกรานเพื่อน ผีแดง ว่ายังอยากย้ายทีม

ปอล ป็อกบา ยังยืนกรานกับเพื่อนในทีม ​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก ว่าอยากย้ายทีมตามรายงานของ แมนเชสเตอร์ อีฟนิง นิวส์

สตาร์วัย 26 ได้ลงสนามเป็นตัวจริงเพียง 6 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้จากอาการบาดเจ็บข้อเท้าสองครั้ง ส่งผลต่อฟอร์มของทีมที่อยู่แค่อันดับ 7 ของตาราง พรีเมียร์ลีก ด้วย

จากเรื่องนี้จึงเชื่อว่านักเตะทีมชาติฝรั่งเศสจึงอยากจะออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ กับสโมสรอย่าง ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ที่ให้ความสนใจอยู่

ส่วนอีกหนึ่งตัวแปรที่น่าจะทำให้ ป็อกบา ได้ย้ายทีมจริงๆ นั่นก็คือ มิโน ไรโอลา เอเยนต์ชื่อดังที่กำลังพยายามเรื่องนี้อย่างเต็มที่

ป็อกบา มีสัญญาเหลือกับ ปีศาจแดง เพียง 18 เดือนเท่านั้นหลังจากย้ายมาด้วยค่าตัวสถิติโลก และตอนนี้ก็คาดว่าทีมน่าจะตั้งราคาเขาไว้ราวๆ 180 ล้านปอนด์

ลิเวอร์พูล 1-0 ชรูวส์บิวรี : เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม เอฟเอ คัพ หงส์ยังบลัด เปิดบ้านเฉือนเข้ารอบ

การแข่งขัน ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2019/20 รอบที่ 4 นัดรีเพลย์
วันแข่งขัน คืนวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020
เวลาแข่งขัน 3.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูล 1-0 ชรูวส์บิวรี
สนาม แอนฟิลด์

ประเด็นร้อนหลังเกม


ความเป็นไปตลอด 90 นาที

เกมนี้ หงส์แดง ส่งชุดดาวรุ่งลงสนามทั้งทีม รวมถึงให้ นีล คริทชีย์ โค้ชทีมชุดเล็กลงคุมเกมข้างสนามแทนตามที่นายใหญ่อย่าง เยอร์เกน คล็อปป์ ลั่นวาจาเอาไว้ทุกประการ 

แต่ก็ต้องชมบรรดาดาวรุ่งที่สามารถครองเกมเอาไว้ได้ในช่วงครึ่งแรก แม้จะแทบไม่มีจังหวะลุ้นประตู แต่พวกเขาก็สามารถกดจนทีมเยือนไม่สามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้เลยตลอด 45 นาทีแรก ซึ่งในครึ่งหลัง ผู้มาเยือนจากลีกวัน เปิดเกมบุกแลกมากขึ้น ทำให้ทั้งสองทีมต่างมีช่องในการลุ้นประตูมากกว่าใน 45 นาทีแรก โดย ชรูวส์บิวรี เกือบทำเซอร์ไพรส์บุกมานำก่อน แต่ก็โดน VAR จับล้ำหน้าเอาไว้ได้ กระทั่งพลหรรคหงส์น้อย ขึ้นนำได้สำเร็จจากลูกโหม่งเข้าประตูตัวเองของกองหลังทีมเยือน และนั่นเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในเกมนี้ จบเกม ทัพเร้ดแมทชีน คว้าชัยชนะมาได้อย่างชิวเฉียด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

Sepp Van Den Berg

ดาวรุ่งหงส์ ทรงดีแต่ยังขาดประสบการณ์

นัดนี้รูปเกมของ ลิเวอร์พูล ดูจะเหนือกว่าคู่ต่อสู้อยู่พอสมควร สามารถครองบอลได้มากกว่าค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดในวันนี้ว่าพวกเขายังต้องพัฒนาอีกมาก นั่นคือจังหวะจบสกอร์ และการรับมือกับความกดดันในช่วงที่เกมอยู่ในจุดที่กำลังชี้เป็นชี้ตาย

เกมนี้เหล่า หงส์เลือดใหม่ สร้างสรรค์จังหวะเข้าทำได้ถึง 12 ครั้ง แต่ทั้งจากหมดนั้นไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูได้เลยแม่แต่ครั้งเดียว โดยประตูชัยที่พวกเขาได้มานั้น เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่นทีมเยือน ซึ่งถ้าวันนี้ ริโก้ วิลเลียมส์ พกความเฉียบขาดมาเพิ่มอีกนิด พวกเขาคงชนะขาด 2 ถึง 3 ประตูไปแล้ว

ส่วนอีกหนึ่งอย่างนั่นคือ ช่วงท้ายเกมที่ผู้มาเยือนพยายามบุกหนักเพื่อหวังเอาประตูคืนให้ได้นั้น ทางฝั่ง ดาวรุ่งลิเวอร์พูล ที่ถูกบุกกดดันอย่างหนัก ไม่สามารถเก็บบอลไว้กับทีมได้เลย ทั้งที่ตลอดทั้งเกมพวกเขาทำได้มาตลอด มีก็แต่ช่วงทดเวลาที่สามารถครองบอลฆ่าเวลาไปได้บ้าง แต่โดยรวมแล้วควรจะทำได้ดีกว่านี้เพื่อปิดเกม ไม่ใช่เคลียบอลสะเปะสะปะให้พ้น ๆ แล้วให้คู่แข่งได้เซ็ตบอลเข้ามาลุ้นประตูได้ใหม่แบบนี้

FBL-ENG-FACUP-LIVERPOOL-SHREWSBURY

โจนส์-วิลเลียมส์ มีแววได้เกิด

เกมนี้ 2 คนที่โดดเด่นเตะตาที่สุดในบรรดาดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล คงจะหนีไม่พ้น เคอร์ติส โจนส์ ที่วันนี้รับบทเป็นกองหน้า และ ริโก้ วิลเลียมส์ แบ็คขวาจอมบุกที่ฟอร์มค่อนข้างจัดจ้านตลอด 90 นาที

เคอร์ติส โจนส์ แฟนหงส์หลาย ๆ คนคงจะเคยเห็นชื่อของหนุ่มน้อยคนนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะในเกมรอบ 3 ของรายการนี้ ที่เจ้าตัวเป็นผู้ยิงประตูชัยสุดสวย ช่วยให้ทีมโค่น เอฟเวอร์ตัน ผ่านเข้ารอบมาได้ ในเกมนี้เจ้าตัวได้รับมอบหมายให้เห็นเป็นกองหน้า ซึ่งถือว่าเล่นได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว สามารถครองบอล เก็บบอล ไปกับบอลได้ดี มีทักษะความคล่องตัวสูง เสียอย่างเดียวถ้าวันนี้ไม่หวงบอลในหลาย ๆ จังหวะ คงจะดูหล่อขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่าเลยทีเดียว

ส่วนอีกรายคือ ริโก้ วิลเลียมส์ แบ็คขวาวัย 18 ปี ที่วันนี้ได้รับโอกาสให้ลงเป็นตัวจริง ซึ่งต้องบอกเลยว่าดูแล้วเหมือนกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในเวอร์ชั่นที่บ้ายิงยังไงอย่างงั้น เนื่องจากมีการเติมเกมรุกที่ดุดัน การขยับหาพื้นที่ว่างที่ดี แต่น่าเสียดายที่ยังต้องไปฝึกเรื่องความเฉียบขาดอีกนิด แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เจ้าตัวก็ทำได้ 1 แอสซิสต์ และเป็นประตูชัยส่งให้ทีมเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้อย่างฉิวเฉียดในเกมวันนี้  

Curtis Jones,Neco Williams

พรีเมียร์ลีกไม่ถูกใจสิ่งนี้ ! เป๊ป ชี้ หงส์แดง ทำงานกร่อยหลังแต้มห่างสุดกู่

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีม ​แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวหลังจบเกมที่พวกเขาบุกไปพ่ายให้กับ ​ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าทาง ​พรีเมียร์ลีก คงไม่พอใจนักที่ในซีซันนี้ ​ลิเวอร์พูล ทำแต้มทิ้งห่างไปถึง 22 คะแนนแล้วในตอนนี้

ก่อนเกมที่ ซิตี้ จะบุกไปพ่ายให้กับ สเปอร์ส ทัพ หงส์แดง ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็เปิดสนาม แอนฟิลด์ ไล่ถล่ม เซาแธมป์ตัน ไปอย่างไม่ยากเย็นด้วยสกอร์ 4-0 ทำให้เก็บไปแล้ว 73 คะแนนจากการลงสนาม 25 นัดนำห่าง เรือใบสีฟ้า ถึง 22 คะแนน

อย่างไรก็ตาม หลังจบเกมที่ลอนดอน เป๊ป เชื่อว่าทางผู้จัดการแข่งขันอาจจะไม่ค่อยพอใจนักที่มีการทำคะแนนทิ้งห่างกันแบบนี้ เหมือนที่ทีมของเขาเคยโดนพาดพิงมาแล้ว เนื่องจากทำให้การแข่งขันหมดสนุกและไม่มีลุ้นใด ๆ

“เจ้าของ พรีเมียร์ลีก เคยพูดไว้ว่ามันจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับ พรีเมียร์ลีก ที่ ซิตี้ เป็นแชมป์ด้วยการทำได้ 100 คะแนน ดังนั้นในตอนนี้พวกคุณต้องรู้สึกกังวลกับ ลิเวอร์พูล บ้างแล้วล่ะ” กวาร์ดิโอลา กล่าว

เบิร์นลีย์ 0-0 อาร์เซนอล : เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก ปืนใหญ่ กระสุนหมดบุกเจ๊า เบิร์นลีย์


ประเด็นร้อนหลังเกม


ความเป็นไปของเกม

ตลอด 90 นาทีที่ เทิร์ฟ มัวร์ ในเกมนี้ พลพรรคปืนใหญ่เป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่าตามฟอร์ม แถมยังสร้างโอกาสได้หลายครั้งตั้งแต่ต้นเกมแต่ก็ยังไม่สามารถปิดสกอร์ได้ ด้านเจ้าบ้าน เบิร์นลีย์ ก็พยายามอาศัยจังหวะโต้กลับโดยเน้นไปที่ลูกโยนยาวที่พวกเขาถนัด ซึ่งต้องบอกเลยว่าค่อนข้างได้ผลอยู่พอสมควร แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ได้เช่นกัน

ในช่วงครึ่งหลังดูเหมือนเจ้าถิ่นจะหาโอกาสได้ค่อนข้างชัดเจนกว่า แถมบางช่วงผู้มาเยือนต้องถอยลงมาตั้งรับต่ำเพราะโดนลูกโดยนยาวของ เบิร์นลีย์ เล่นงานอย่างหนักหน่วง ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมได้โอกาสทองโดยเฉพาะเจ้าบ้านที่ เจย์ โรดริกเกวซ ยิงจ่อ ๆ ไปชนคานอย่างจัง ส่วน ปืนใหญ่ ก็มีลุ้นจากลูกโหม่งของ โอบาเมยอง เช่นกัน แต่บอลกลับพุ่งเฉียดเสาออกไป ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งแต้มแบบไร้สกอร์ในค่ำคืนวันนี้

Jay Rodriguez,Chris Wood

ปัญหาในแนวรุกที่ยังไม่ถูกแก้ไข

แม้ว่าวันนี้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จะได้ตัว ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กลับมาช่วยทีมหลังจากพ้นโทษแบน แต่พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้ แม้จะสร้างโอกาสในการเข้าทำได้มากถึง 13 ครั้งในเกมนี้ ทั้ง โอบา ลากาเซ็ตต์ หรือ แม้แต่ มาร์ติเนลลี ดันมานัดกับฟอร์มบู่ในเกมเดียวกัน แถม นิโคลาส เปเป้ เองก็ยังไม่ดีพอจะฝากความหวังไว้ได้ในตอนนี้อีกต่างหาก เกมนี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นชัดเลยว่าหากวันใดที่ โอบาเมยอง หัวหอกตัวความหวังเพียงหนึ่งเดียวเล่นไม่ออกขึ้นมา ทัพเดอะกันเนอร์ส จะมีปัญหาในการผลิตสกอร์เมื่อนั้น 

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของทีม ที่เริ่มจะส่งผลชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องมาดูกันว่า อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มป้ายแดง จะหาทางออกต่อปัญหานี้อย่างไร เพราะถ้ายังคงปล่อยเอาไว้แบบนี้ ชะตากรรมของเจ้าตัวคงไม่ต่างอะไรกับ อูไน เอเมรี ก่อนหน้านี้อย่างจริงแท้แน่นอน 

Pierre-Emerick Aubameyang

เส้นทางลัดสู่ แชมเปี้ยนส์ลีก

หลังจาก 1 คะแนนในเกมวันนี้ ทำให้ อาร์เซนอล ยังคงรั้งอยู่อับที่ 10 เช่นเดิม มี 31 แต้ม จากการลงเล่น 25 เกม ที่สำคัญยังคงมีแต้มห่างจากอันดับ 4 อย่าง เชลซี อยู่ถึง 10 คะแนนด้วยกัน จริงอยู่ที่ในทางทฤษฎีจะยังมีความเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัติจริง ต้องบอกเลยว่ามันยากแสนยากที่พวกเขาจะเอาชนะเกมที่เหลือทั้งหมดได้ทุกเกมและลุ้นให้ ทีมท็อป 4 สะดุดบ่อย ๆ เพราะอย่าลืมว่า ที่นี่คือ พรีเมียร์ลีก ! ลีกที่ไม่มีความแน่นอนใด ๆ ทุกทีมพร้อมจะพลิกล็อกแพ้ชนะกันได้ได้ตลอดเวลา

ฉนั้นตอนนี้สิ่งที่ ปืนใหญ่ ทำได้คือ เล่นประคองตัวและพยายามทำผลงานของตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าโชคดีอาจได้ไปลุ้นพื้นที่ แชมเปียนส์ลีก ช่วงท้ายฤดูกาล ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังคงมีลุ้นทั้งใน เอฟเอ คัพ และอีกหนึ่งรายการที่อาจจะสำคัญที่สุดในฤดูกาลนี้ของ อาร์เซนอล แล้วก็คือ พวกเขายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ยูโรปาลีก ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นประตูลัดบานสุดท้ายให้พวกเขากลับสู่จุดที่ควรจะเป็นได้อีกครั้ง

FBL-EUR-C3-DRAW