[OPINION] ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง คือคำตอบที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหาจริงหรือ ?

ด้วยสถานการณ์เรื่องสัญญาฉบับใหม่ของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าตัวเก่งของ ​อาร์เซนอล ทีมอันดับ 9 ใน ​พรีเมียร์ลีก ยังคงอึมครึมอยู่พอสมควร เนื่องจากหากจบฤดูกาลนี้เจ้าตัวจะเหลือสัญญากับ เดอะกันเนอร์ส เพียงปีเดียว ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของทั้งสโมสรและนักเตะที่นาติดตามกันเป็นอย่างมาก

สถานการณ์แบบนี้โดยส่วนมากแล้วทางสโมสรต้นสังกัดจะต้องรีบจัดการเรียกตัวแทนและนักเตะเข้ามาคุยเรื่องการต่อสัญญาใหม่โดยด่วน อาจจะเป็นช่วงปลายปีหรือต้นปีก็ว่าไป เพื่อให้ช่วงซัมเมอร์นั้นไม่วุ่นวายมากและให้ผู้จัดการทีมสามารถจัดการเรื่องการซื้อนักเตะใหม่ได้ง่ายขึ้น

แต่ในกรณีของ โอบาเมย็อง นั้นทาง อาร์เซนอล ได้เปิดการเจรจากันไปแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จนทำให้ตอนนี้เวลาก็งวดเข้ามาทุกทีและมีข่าวตามมาว่าสโมสรอาจจำใจขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์

ความจริง โอบา นั้นมีข่าวกับ บาร์เซโลนา มาตั้งแต่ปลายปี แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าจนเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของฤดูกาลข่าวกับ บาร์ซา และอีกหลายทีมก็เริมดังขึ้นมาอีกครั้ง

Pierre Emerick Aubameyang

ล่าสุดมีรายงานว่า อาร์เซนอล เหมือนจะรู้ตัวว่ารั้งยังไงก็คงไม่อยู่ เลยรีบชิงตั้งค่าตัวเสียก่อน ใครสนใจก็เอามา 50 ล้านปอนด์ แล้วเดี๋ยวห่อส่งให้ถึงที่

งานนี้มีหลายทีมที่ตกเป็นข่าวทั้ง บาร์ซา เองที่ยังคงติดตามอย่างไม่ลดละ หรือหน้าใหม่ ๆ อย่าง ​เชลซี และ ​ลิเวอร์พูล รวมทั้ง ​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โอเล กุนนาร์ โซลชา

พอพูดถึงทีม ปีศาจแดง กูรูอย่าง พอล เมอร์สัน ซึ่งแม้ว่าจะเคยเป็นเด็กปืนมาก่อน แต่เจ้าตัวก็ให้ความเห็นว่ากองหน้าวัย 30 ปีรายนี้คือคนที่ทีม ปีศาจแดง ตามหามานาน

เผลอ ๆ ราคา 50 ล้านปอนด์ที่ตั้งเอาไว้นั้นถูกเกินไปด้วยซ้ำ

“โอบาเมย็อง คือสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังตามหา เขาคือจอมถล่มประตู และเป็นจอมถล่มประตูที่ประเมินค่าไม่ได้ พวกเขาร้องหาใครซักคนที่สามารถยิงประตูได้ 20-25 ประตูต่อหนึ่งซีซัน นั่นคือสิ่งที่ โอบา ให้คุณได้ เขาสามารถยิง 25 ประตูได้แบบสบาย ๆ เลยล่ะ”

เมอร์สัน ว่าอย่างนั้น

Pierre-Emerick Aubameyang

พอพูดกันแบบนี้ เรามาไล่เรียงว่ากองหน้าที่เป็น ‘สไตรเกอร์’ หรือกองหน้าตัวเป้าในกรอบเขตโทษของพวกเขาในตอนนี้มีใครบ้าง

อ็องโตนี มาร์กซิยาล, เมสัน กรีนวู้ด และ โอเดียน อิกาโล

3 คนนี้มีกองหน้าตัวเป้าแบบธรรมชาติอยู่ 2 คนคือ กรีนวู้ด และ อิกาโล ซึ่งคนแรกยังเป็นดาวรุ่งและเจ้าหนูนี่ไม่ใช่ ลีโอเนล เมสซี ที่จะระเบิดฟอร์มได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ส่วนดาวเตะไนจีเรียที่ยืมมาจาก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว นั้นแม้จะทำผลงานได้ดีแต่ก็ยังเป็นการดึงมาเล่นแบบขัดตาทัพเท่านั้น

ส่วน มาร์กซิยาล นั้นแจ้งเกิดมาจากตัวริมเส้น ความเร็วคืออาวุธของเขา คล้าย ๆ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่พอโดนจับไปอยู่ตรงกลางแล้วเจ้าตัวมักจะทำผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ดังนั้นถ้าจะหากองหน้าตัวเป้าหรือสไตรเกอร์ธรรมชาติซักคน โอบาเมย็อง ก็คงเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

Marcus Rashford

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ เมอร์สัน พูดนั้นไม่ได้อ้างขึ้นมาลอย ๆ ตัวเลขสถิติการถล่มประตูตั้งแต่ที่อยู่ ดอร์ทมุนด์ ของเจ้าตัวนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดี

จำนวนประตูเมื่อรวมทุกรายการเริ่มตั้งแต่ซีซัน 2015-2016 อยู่กับ เสือเหลือง ยิงได้ 39 ประตู, 2016-2017 ยิงได้ 40 ประตู พอมาซีซัน 2017-2018 ยิงได้ 31 ประตูกับทั้ง ดอร์ทมุนด์ และ อาร์เซนอล, ซีซัน 2018-2019 ยิงได้ 31 ประตูในซีซันแรกอย่างเต็มตัวกับทีมปืนใหญ่ และซีซันนี้ก็ยิงไปแล้ว 20 ประตู

นับแค่ที่ค้าแข้งกับ เดอะกันเนอร์ส 2 ซีซันครึ่ง โอบา ยิงเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก ไป 10, 22 และ 17 ประตู ตามลำดับ โดย 2 ซีซันหลังสุดนี้เขาได้ลงเล่นแบบเต็มฤดูกาล

ส่วนสถิติของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาเฉพาะ 5 ซีซันหลังสุดพวกเขามีเพียงซีซันเดียวที่ดาวซัลโวประจำทีมยิงได้ 17 ประตูในลีกซึ่งนักเตะคนนั้นคือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

และครั้งสุดท้ายที่มีการยิงได้มากกว่า 20 ประตู ต้องย้อนกลับไปในซีซันสุดท้ายที่พวกเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก นั่นคือเมื่อปี 2012-2013 ที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี จัดการซัดไป 26 ประตู

FBL-EUR-C1-MAN UTD-BAYER LEVERKUSEN

ซึ่งทั้ง ‘บร๊ะเจ้า’ และ RVP นั้นคือสไตรเกอร์โดยธรรมชาติ

ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้แล้วว่าหาก โอเล กุนนาร์ โซลชา ต้องการพาทีมกลับมาประสบความสำเร็จ พวกเขาจะต้องหาใครซักคนมายืนค้ำถล่มตาข่าย โดยปล่อยให้ แรชฟอร์ด, มาร์กซิยาล, เจมส์ และ บรูโน แฟร์นันเดส สร้างสรรค์โอกาสอยู่ข้างหลัง

แต่ปัญหาก็คือ กองหน้าทีมชาติกาบองอายุเข้าหลัก 30 เรียบร้อย ซึ่งการจะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างมากก็ 3 ปี ไหนจะค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ซึ่งระดับนี้อาจจะเอาไปซื้อกองหน้าอายุ 24-28 ปีฝีเท้าดี ๆ ได้ซักคน พร้อมกับค่าเหนื่อยระดับไม่ต่ำกว่า 200,000 ที่เจ้าตัวได้รับกับ อาร์เซนอล อาจจะทำให้ โซลชา ต้องคิดทบทวนให้ดีหากจะลงทุน

ซึ่งถ้ามองที่ตัวนักเตะล้วน ๆ อาจจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่หากมองว่าสิ่งที่ โอบา จะให้กับทีมในระยะเวลาที่ค้าแข้งใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทั้งจำนวนประตู, การช่วยพัฒนาฟอร์มการเล่นของกองหน้าดาวรุ่งอย่าง เมสัน กรีนวู้ด และความสำเร็จในระยะสั้น มันก็น่าจะลองเสี่ยงดูซักตั้ง

เผลอ ๆ การพาทีมกลับมาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ซักครั้ง แค่นี้ก็คงจะคุ้มเกินคุ้มแล้ว!

Pierre-Emerick Aubameyang

เกือบไปแล้ว ! เคราช์ เผย ลิเวอร์พูล เคยจีบ แกเร็ธ เบล สมัยยังเป็นแข้ง เซาแธมป์ตัน

ปีเตอร์ เคราช์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติ อังกฤษ ระบุว่า ​สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แห่งศึก ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เคยแสดงท่าทีต้องการที่จะคว้าตัว แกเร็ธ เบล ในสมัยที่สตาร์ทีมชาติ เวลส์ ยังคงเป็นนักเตะดาวรุ่งในทีม เซาแธปม์ตัน

เคราช์ ในวัย 39 ปีเล่าความหลังในเส้นทางค้าแข้งผ่านคอลัมน์ของ เดลีเมล เปิดโอกาสให้แฟนบอลถามคำถาม โดยหนึ่งในนั้นเป็นคำถามถึงนักเตะที่เขาคิดว่ามีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมที่สุด

“ตอนที่ผมอยู่กับ เซาแธมป์ตัน ผู้คนที่นั่นตื่นเต้นกับเด็ก 2 คนในอคาเดมีสุดๆ” อดีตกองหน้าร่างโย่งเกริ่น “ธีโอ วัลค็อตต์ และ แกเร็ธ เบล คือชื่อของ 2 นักเตะดังกล่าว”

“พวกเราได้รับรู้ความเห็นที่เป็นด้านดีหลายต่อหลายครั้ง และผมก็รู้มาว่า ลิเวอร์พูล แสดงความสนใจที่จะคว้าตัวเขาไปร่วมทีมใน ​ตลาดซื้อขายนักเตะ ซัมเมอร์ปี 2007”

“อย่างไรก็ตาม เส้นทางค้าแข้งของผมกับ เบล ไม่ได้มาเจอกันจนกระทั่งอีกไม่กี่ปีให้หลังในทีม ท็อตแนม​ ฮ็อตสเปอร์ โดยแข้งชาว เวลส์ วัยกระเตาะในเวลานั้นมีปัญหาเรื่องความมั่นใจและไม่ค่อยสนุกกับการเล่นเป็นแบ็คซ้ายนัก ก่อนที่เขาจะมีประเด็นว่าจะย้ายไป น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่มูลค่าราว 2 ล้านปอนด์”

“จากนั้น เขาก็เริ่มที่จะจับจังหวะของตนเองได้ เบล เริ่มแข็งแกร่ง รวดเร็วยิ่งขึ้น ความมั่นใจของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย และความมหัศจรรย์ที่เราเคยคาดหวังจากเด็กคนนี้ก็กลายเป็นความจริงในที่สุด”

คนสำคัญ ! ลิเวอร์พูล จ่อยื่นขยายสัญญา อลิสซอน-ฟาน ไดค์

​สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แห่งศึก ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เตรียมที่จะยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ พิจารณาตามการรายงานของ ​90Min ประเทศอังกฤษ โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิด อลิสซอน และ ฟาน ไดค์ กลายเป็นแข้งคีย์แมนในทัพ หงส์แดง ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ตั้งแต่พาทีมซิวแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ต่อเนื่องด้วยแชมป์ ฟุตบอลสโมสรโลก และกลายเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ Reports suggest Alisson and Virgil van Dijk ‘are in line for…

[OPINION] ผู้สืบทอดตำแหน่งกุนซือของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ ลิเวอร์พูล

แม้ว่าทาง​ ลิเวอร์พูล จะเพิ่งได้รับข่าวดีว่าทาง ​พรีเมียร์ลีก ได้ตัดสินใจที่จะให้ดำเนินการแข่งขันกันจนจบฤดูกาลเพื่อให้ได้ผลสรุปทุกอย่าง ทั้งทีมที่จะเป็นแชมป์ ทีมที่จะได้ไปเล่น ​ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และทีมตกชั้น โดยจะเริ่มกลับมาเตะกันอีกครั้งในวันที่ 30 เมษายนหลังจ่ากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 4 เมษายน

ซึ่งหมายความว่า การคาดการณ์ที่ว่า หงส์แดง อาจจะไม่ได้แชมป์ในซีซันนี้เนื่องจากอาจมีการยกเลิกหรือประกาศเป็นโมฆะนั้นก็จะไม่มีทางเป็นจริงได้

อันนี้เด็กหงส์หลายคนคงสบายใจไปเปลาะหนึ่ง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะหมดกังวลเรื่องจะแชมป์-ไม่แชมป์ จะแข่งต่อหรือโมฆะกันไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีข่าวเล็ดลอดออกมาจากวงในของฝ่ายบริหารที่ แอนฟิลด์ ว่าพวกเขาเริ่มที่จะมีการพิจารณาตัวแทนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากที่เจ้าตัวจะหมดสัญญาในปี 2024 นี้กันแล้ว

ถามว่าทำไมจึงต้องรีบกันขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่ก็เหลืออีกตั้ง 4 ปีกว่าจะหมดสัญญา ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะแต่ละสโมสรน่าจะมีการวางแผนระยะยาวเอาไว้ให้กับทีมอย่างน้อย 5 ปี และมีแผนปีต่อปีเพื่อที่จะเป็นกลไกที่จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายระยะยาวที่วางไว้ได้

FBL-TUR-SUPERCUP-LIVERPOOL-TRAINING

อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ เงื่อนไขในสัญญาฉบับใหม่ของกุนซือชาวเยอรมันที่ระบุเอาไว้ว่า ทางสโมสรยินดีที่จะปล่อยให้เขายกเลิกสัญญากลางคันได้หากว่าเจ้าตัวปราถนาที่จะย้ายไปคุมทีมอื่นไม่ว่าจะเป็น ทีมชาติเยอรมนี หรือ บายิร์น มิวนิค ก็ตาม เพียงแต่ต้องแจ้งให้ทางสโมสรทราบล่วงหน้า 1 ฤดูกาลหรืออย่างน้อย 6 เดือน

นั่นจึงเป็นที่มาของข่าวเรื่องการมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่ที่จะมานั่งเก้าอี้นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ในอนาคต

สำหรับแคนดิเดตที่ฝ่ายบริหารเล็งไว้นั้นหลัก ๆ มีอยู่ 2 คนคือ เป๊ป ลินเดอร์ส มือขวาของ คล็อปป์ และอีกคนคือกุนซือหนุ่มไฟแรงแห่งยุคคนชาติเดียวกันอย่าง ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ซึ่งตอนนี้กำลังปลุกปั้น แอร์เบ ไลป์ซิก ในบุนเดสลีกา

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจาก เจมส์ เพียร์ซ นักข่าวของ ดิแอตเลติก ซึ่งเมื่อก่อนเคยทำงานกับ ลิเวอร์พูลเอ็คโค คนนี้คือวงในที่เชื่อถือได้หากเป็นข่าวที่เกี่ยวกับ เร้ดแมชชีน อะไรที่มาจากปลายปากกาหรือทวิตเตอร์ของเขานั้นต้องผ่านการกรองมาหลายชั้นเป็นอย่างดี

Pepijn Lijnders

คนข่าวเมืองผู้ดีระบุว่า เป๊ป ลินเดอร์ส นั้นได้รับความเคารพจากเจ้าของทีมเป็นอย่างมาก และเจ้าตัวเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในสโมสร และเชื่อว่าเขาอาจจะได้รับการทาบทามให้เข้ามารับงานต่อจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อเวลานั้นมาถึงก็เป็นได้

ในส่วนของ นาเกลส์มันน์ นั้น เพี๊ยซ ระบุว่าหากกุนซือรายนี้ยังคงรักษาระดับของตัวเองเอาไว้ได้เหมือนกับในตอนนี้ เขาก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามสื่อรายนี้ก็แอบใส่ความเห็นของตัวเองลงไปโดยเขาเชื่อว่า ตัวเลือกที่เหมาะสมเมื่อถึงเวลานั้นก็คือ สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม หงส์แดง ที่ตอนนี้รับงานผู้จัดการทีม กลาสโกว เรนเจอร์ส ในสก็อตติช พรีเมียร์ลีก

โดยแม้ว่าผลงานตอนนี้อาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมาก แต่โดยภาพรวมแล้วเจ้าตัวทำได้ดีกับ เรนเจอร์ส ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

Steven Gerrard

เพี๊ยซ กล่าวตบท้ายถึงสาเหตุที่เขาเลือก เจอร์ราด ว่า “ในโลกของฟุตบอลนั้นมันเกี่ยวกับเรื่องของจังหวะเวลา ผมรักที่จะเห็น สตีเวน ประสบความสำเร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นใน ไอบร็อกซ์ ปาร์ค (สนามของ เรนเจอร์ส) หรือไม่ว่าจะย้ายไปคุมทีมไหนก็ตาม”

“จากนั้นเขาก็จะอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมด้วยประสบการณ์ที่มากพอที่จะสืบทอดตำแหน่งของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ ลิเวอร์พูล ต่อไป”

ทั้งหมดคือสิ่งที่สื่อวงในรายนี้รายงาน และก็เชื่อว่ามีการพูดคุยเรื่องนี้จริงแต่อาจจะอยู่ในช่วงของการสังเกตการณ์เรื่อย ๆ เก็บข้อมูลกันไปก่อน

เพราะเอาเข้าจริงมาถึงตรงนี้เรื่องผู้สืบทอดอาจจะเป็นเรื่องไกลตัว เมื่อถึงเวลานั้นอาจมีตัวเลือกมากกว่านี้ก็เป็นได้

ตอนนี้ก็ขอเอาใจช่วยให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมกอบโกยความสำเร็จให้ได้มากที่สุดก่อนหมดสัญญา ถึงเวลานั้นเจ้าตัวอาจจะอยากอยู่ต่ออีกซัก 2-3 ปีก็ได้ ใครจะรู้ 

Jurgen Klopp

[OPINION] เพชฌฆาตอัศวินสีส้ม ! TOP 5 สไตรเกอร์ชาวดัตช์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน พรีเมียร์ลีก

ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในชาติที่มีฟุตบอลอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกมาตลอดทุกยุคทุกสมัย จึงไม่แปลกที่จะมีนักเตะที่เป็นตำนานมากมาย

เช่นเดียวกันกับใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่แข้งชาวดัตช์หลายคนมีโอกาสมาแสดงเพลงแข้งอันสุดยอดให้แฟนบอลได้สัมผัสกัน แต่วันนี้เราจะเลือกเฉพาะในตำแหน่งกองหน้า 5 คนที่คิดว่าดีที่สุดแล้วดังต่อไปนี้


5. เดิร์ค เคาท์

Image result for dirk kuyt

เคาท์ มาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในฐานะดาวซัลโว เอเรดิวิซี ลีก แต่เมื่อมายังถิ่น แอนฟิลด์ แม้จะไม่สามารถถล่มประตูได้มากนักหากก็มีความขยันที่เป็นจุดเด่นซึ่งช่วยทีมได้เป็นอย่างดี

ตลอดเวลา 6 ปีกับ หงส์แดง หัวหอกพลังดูราเซลล์ สามารถยิงไปได้ 71 ประตูจาก 285 เกม ซึ่งมี 2 ประตูจากรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแฮ็ตทริกจากเกมชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนั้นด้วย


4. จิมมี ฟลอยด์-ฮัสเซลเบงค์

Image result for hasselbaink

ฮัสเซลเบงค์ เล่นใน พรีเมียร์ลีก 9 ปีกับทั้ง ลีดส์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ มิดเดิลสโบรห์ ซึ่งฤดูกาลแรกกับทีมยูงทองเขาก็ยิงไปได้ถึง 16 ประตูเลย มิหนำซ้ำปีต่อมาก็ยังเป็นดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ด้วย จำนวน 18 ตุงด้วย

ขณะที่กับ สิงห์บลู ก็เป็นช่วงที่ดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของนักเตะรายนี้และด้วยการยิงอันหนักหน่วงก็ทำให้สามารถทำไปถึง 70 ประตูจาก 137 เกม

ส่วนกับ มิดเดิลสโบรห์ แม้จะอยู่ในช่วงอายุที่มากแล้ว ฮัสเซลเบงค์ ก็ยังสามารถทำไปได้ถึง 33 ประตูจาก 2 ฤดูกาลเลยทีเดียว


3. โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์

Image result for van persie manchester

ฟาน เพอร์ซีย์ ได้ลงเล่นกับ อาร์เซนอล ถึง 8 ปี พร้อมยิงไปถึง 132 ประตูจากทุกๆ รายการให้ทีมที่ อาร์เซน เวนเกอร์ กุมบังเหียน

จากนั้นเมื่อตัดสินใจย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเองก็ยังพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก พร้อมเป็นดาวซัลโวและนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยการยิงไปถึง 30 ประตูในปี 2011/12 ด้วย


2. รุด ฟาน นิสเตลรอย

Image result for van nistelrooy

ฟาน นิสเตลรอย คือหนึ่งในสไตร์เกอร์ที่มีความเฉียบขาดมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ด้วยการยิงไปถึง 150 ประตูจาก 219 เกมให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทุกๆ รายการก่อนย้ายไปเจิดจรัสต่อที่ เรอัล มาดริด

นอกจากจะเคยคว้ารางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก แล้วเขายังได้ในรายการ แชมเปียนส์ลีก ถึง 3 ครั้งตลอด 5 ปีใน โอลแทร์ฟฟอร์ด พร้อมยังเป็นกำลังหลักพาทีมกวาดแชมป์ในประเทศมาแทบทุกรายการ


1. เดนนิส เบิร์กแคมป์

Image result for bergkamp

‘ดิ ไอซ์เบิร์ก’ หนึ่งในสุดยอดตำนานของ พรีเมียร์ลีก และ อาร์เซนอล คือผู้ชนะในสายตาเราสำหรับการจัดอันดับครั้งนี้

แม้ค่าเฉลี่ยการยิงประตูจะไม่มากนักด้วยจำนวน 120 ลูกจาก 423 เกม แต่ เบิร์กแคมป์ ก็เปรียบเสมือนหัวใจของ ไอ้ปืนโต

ด้วยการเล่นอันแพรวพราวและสง่างามก็ทำให้เขาพาทีมกวาดถ้วยรางวัลมาแล้วอย่างมากมายโดยเฉพาะกับแชมป์พรีเมียร์ลีกไร้พ่ายในตำนานด้วย

อนาคตเกอิต้ากับลิเวอร์พูล, ห้างยาเปิดทางเบลีย์ซบทีมพรีเมียร์ลีก: สรุปข่าวฟุตบอลประจำวันนี้ 18 มีนาคม


สรุปทุกประเด็นข่าวที่สำคัญในแวดวงฟุตบอลที่เกิดขึ้นในรอบวันของ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, และบรรดาบิ๊กทีมในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ, ข่าวซื้อขายนักเตะ และวงการฟุตบอลทั่วโลก ติดตามสรุปข่าวย้อนหลังได้ที่ : เหตุผลเดียวที่ ลิเวอร์พูล จะขาย มาเน, แมนฯ ยูไนเต็ด สน อุมติตี้: สรุปข่าวฟุตบอลประจำวันที่ 17 มีนาคม ยูฟ่า ประกาศเลื่อนการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป จากเดิมที่จะฟาดแข้งกันในปี 2020 ออกไปเป็นซัมเมอร์ 2021 เป็นที่เรียบร้อย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: [BREAKING] ยูฟ่า…

กระทบทั่วโลก ! ส.บอลอเมริกาใต้ ประกาศเลื่อน โคปา อเมริกา ไปเป็นปี 2021

สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมบอล) ประกาศเลื่อนทัวร์นาเมนต์ โคปา อเมริกา จากเดิมที่จะแข่งขันในซัมเมอร์ 2020 ไปเป็นปี 2021 อย่างเป็นทางการให้หลังจากที่ สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ประกาศเลื่อนรายการ ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) เพียงไม่กี่ชั่วโมง

โดย อาร์เจนตินา และ โคลอมเบีย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพรายการที่จะจัดขึ้นในซัมเมอร์นี้ตามกำหนดการเดิม ก่อนที่ คอนเมบอล จะประกาศเลื่อนการแข่งขันไปเป็นวันที่ 11 มิถุนายนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2021 แทนที่

“จากผลพวงของเหตุการณ์ที่ไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดทั่วโลกท่ามกลางการให้ความสำคัญต่อสุขภาพของผู้คนที่เกี่ยวข้องในวงการฟุตบอล อเมริกาใต้ คอนเมบอล ประกาศเลื่อนการแข่งขัน โคปา อเมริกา ครั้งที่ 47 ออกไปเป็นวันที่ 11 มิถุนายนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2021” ส.บอลอเมริกาใต้ แถลงการณ์อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ รูปแบบการแข่งขันรวมทั้งผลการแบ่งกลุ่มจะยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม ขณะที่ อเลฮานโดร โดมิงเกวซ ประธาน คอนเมบอล แสดงท่าทีว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยทางสุขภาพของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

[OPINION] เอาไงดี !? 5 ทางออกของ พรีเมียร์ลีก หลังเจอวิกฤติ COVID-19

โควิด-19 ได้ส่งผลต่อกิจกรรมแทบทุกอย่างในตอนนี้ของมนุษย์โลกจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ พรีเมียร์ลีก  อังกฤษจะต้องเจอผลกระทบไปด้วย

เบื้องต้น พรีเมียร์ลีก ประกาศเลื่อนการแข่งขันไปจนถึงช่วงต้นเดือนเมษายน แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่น่าจะคลี่คลายในเร็ววันจนยังแข่งไม่ได้ จึงมีคำถามว่าทางออกที่ดีที่สุดจะเป็นแบบไหนกันแน่?

เลื่อนวันแข่งขันออกไปอีกและแข่งต่อจนจบ

Image result for premier league

นี่คือแผนที่หลายฝ่ายอยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดซึ่งคงเป็นไปได้มากกว่านี้ถ้าหากเหลือการแข่งขันเพียง 2-3 นัดเท่านั้น

แต่สิ่งที่จะกระทบทันทีก็คือเวลาวันปิดฤดูกาลก็จะเลื่อนไปเรื่อยๆ และก็จะไปส่งผลกับทั้งเรื่องสัญญานักเตะ, โปรแกรมทีมชาติและตลาดนักเตะรวมถึงฤดูกาลใหม่ด้วย

ยกเลิกและให้ฤดูกาลนี้เป็นโมฆะ

Image result for premier league

ตอนนี้มีบางส่วนต้องการให้ฤดูกาลนี้เป็นโมฆะและกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ในฤดูกาลหน้า

ในทางกลับกันก็มีทีมที่ทำผลงานในปีนี้ได้ดีโดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ซึ่งหากผลถูกทำให้เป็นโมฆะก็จะมีข้อครหาตามมามากมาย นี่จึงน่าจะเป็นตัวเลือกท้ายๆ เลย

ตัดจบฤดูกาลนี้แต่ยกแต้มไปฤดูกาลหน้า

Image result for manchester united

ตัวเลือกนี้จะไม่มีทีมได้แชมป์หรือตกชั้นในฤดูกาลนี้ แต่จะให้ไปเริ่มแข่งฤดูกาลหน้าใหม่โดยตั้งต้นจากแต้มในตอนนี้

อย่างไรก็ตามนอกจากจะมีเรื่องยุ่งยากในตลาดนักเตะแล้ว การที่แต้ม ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างเกินก็อาจจะทำให้ทีมอื่นลุ้นด้วยยากจนความสนุกหายไป

เช่นเดียวกันกับทีมในโซนตกชั้นก็คงไม่อยากเริ่มด้วยความเสียเปรียบด้วยช่องว่างกับทีมอื่นๆ มากขนาดนี้ด้วย

ตัดจบด้วยอันดับในปัจจุบัน

Image result for premier league

นี่เป็นอีกวิธีที่ต่างจากให้ฤดูกาลนี้เป็นโมฆะเพราะจะมีทั้งทีมแชมป์, ทีมตกชั้น, ทีมได้อันดับไปพื้นที่ยุโรปครบถ้วน

แต่วิธีนี้หลายฝ่ายก็คงไม่เห็นด้วยนักเพราะตอนนี้ก็ยังเหลือแต้มมากพอให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงอันดับปัจจุบันและบางทีมก็เพิ่งจะเครื่องร้อนเอาตอนนี้นี่เอง

แข่งต่อให้จบภายในสนามปิด

Image result for premier league

ตัวเลือกนี้อาจจะเป็นไปได้มากที่สุด เพราะสิ่งที่จะส่งผลเต็มๆ ก็เพียงแค่การที่เจ้าบ้านจะไม่มีเสียงเชียร์ของแฟนๆ หนุนหลังและสโมสรเสียค่าเข้าชมไปแต่ก็จะยังมีค่าถ่ายทอดเข้ามาอยู่

สิ่งที่ต้องระวังก็คือต้องมีการตรวจเช็คนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้องในสนามว่าไม่มีการติดเชื้อแน่ๆ ก่อน ไม่อย่างนั้นนี่ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งวิธีการแพร่เชื้อในหมู่นักเตะก็เป็นได้

ติดอีกราย ! เอเลียควิม ม็องกาลา ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ตาม การาย

เอเลียควิม ม็องกาลา อดีตกองหลัง ​สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่ในกับ บาเลนเซีย แห่งศึก ลา ลีกา สเปน กลายเป็นนักฟุตบอลอีก 1 รายที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากการเปิดเผยของตัวนักเตะเองผ่านโซเชียลมีเดีย

ม็องกาลา ประกาศให้หลังจากที่ ไอ้ค้างคาว แถลงว่า เอเซเคียล การาย ปราการหลังเพื่อนร่วมทีมของเจ้าตัวกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ติดเชื้อโควิด-19 เพียงไม่นาน

“ผมรู้ในวันนี้ว่าผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก” ม็องกาลา กล่าว “ผมยังคงรู้สึกสบายดีและไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้อยู่ในกระบวนการกักตัวที่บ้านพักแยกห่างจากครอบครัวเรียบร้อย”

“ผมได้ตระหนักว่าเราสามารถเป็นพาหะของไวรัสโดยที่ยังไม่ได้แสดงอาการได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมอยากให้ทุกคนปฎิบัติตามหลักสุขอนามัย หลีกเลี่ยงการสัมผัสบุคคลอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แม้ว่าคุณจะมีสุขภาพดีก็ตาม”

[ข่าวซื้อขาย] เดินหน้าลุย ! ลือสนั่น ลิเวอร์พูล เดินหน้ายื่นข้อเสนอซื้อ อูกูร์คาน ชาคีร์

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แห่งศึก ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตกเป็นข่าวได้ยื่นข้อเสนอซื้อตัว อูกูร์คาน ชากีร์ นายทวารวัย 23 ปีทีมชาติ ตุรกี สังกัด แทร็บซอนสปอร์ เรียบร้อย

ชาคีร์ ก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนของต้นสังกัดในฤดูกาลนี้เมื่อลงเล่นให้กับทีมไปแล้ว 32 นัดเมื่อรวมทุกรายการ (เสียประตูทั้งหมด 38 ลูก)

โดยรายงานจากเว็บไซต์ เตอร์กิชฟุตบอล สื่อใน ตุรกี ระบุว่า ลี คอนเกอร์ตัน หัวหน้าทีมแมวมองของ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมที่จับตามอง ชาคีร์ อยู่เช่นกันได้เปิดเผยกับเว็บไซต์ดังกล่าวว่า หงส์แดง ได้ยื่นข้อเสนอราว 22 ล้านปอนด์ให้กับ แทร็บซอนสปอร์ พิจารณาแล้ว

ขณะที่ อาห์เหม็ต อเกากลู ประธานสโมสรต้นสังกัดได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าพวกเขาอาจจะต้องเสีย ชาคีร์ ใน ​ตลาดซื้อขายนักเตะ ซัมเมอร์นี้

“เช่นเดียวกับเดียว อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ (อดีตนักเตะ แทร็บซอนสปอร์) เราซื้อแข้งที่มีแววเข้ามาร่วมทัพ ขัดเกลาฝีเท้าของเขา ก่อนที่จะขายทำกำไรเป็นลำดับต่อไป นั่นคือความเป็นจริงของสโมสรเรา พวกเราต้องขายพวกเขาออกจากทีมและแทนที่โดยแข้งที่มีศักยภาพสูง ราคาไม่แพงนักมาร่วมทีม นักเตะที่ระดับ 10-20 ล้านยูโรเดินตบเท้ามาที่นี่ทุกปี หากเรายังสามารถใช้งานนโยบายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพผมก็เชื่อว่าในระยะยาวเราจะสามารถจัดการหนี้สินของสโมสรได้สำเร็จ”