คล้อยหลังจากนั้นไม่นานชื่อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด ก็กลายเป็น 2 ทีมที่เชื่อมโยงกับกองหน้าวัย 26 ปีรายนี้
อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าหาก เคน ต้องการประสบความสำเร็จจริง ๆ อย่างที่ให้สัมภาษณ์ การย้ายไปเล่นยังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก นอกจากนั้นยังมีอีกหลายปัจจัยที่เขาควรจะเลือกออกไปหาความท้าทายยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่าง มาดริด หากโอกาสมาถึง
และนี่คือ 5 เหตุผลที่ว่าทำไม เคน จึงควรเลือก เรอัล มาดริด มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด
1. รายได้มหาศาลที่รออยู่
ปัจจุบันนั้น เคน รับเงินค่าเหนื่อยกับทาง ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ อยู่ที่ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในทีมขณะนี้ ในขณะที่หากว่าเขาย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งตอนนี้ ดาบิด เด เคอา เป็นผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดอยู่ที่ 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เชื่อว่ากองหน้าทีมชาติอังกฤษคงได้ยืนพื้นที่ 300,000 ปอนด์
อย่างไรก็ตามหากว่าเขาตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด กองหน้าวัย 26 ปีจะสามารถการันตีรายได้อยู่ที่ 3-400,000 ต่อสัปดาห์เป็นอย่างต่ำ เพราะคนที่รับเงินสูงสุดของ ราชันชุดขาว ในตอนนี้อย่าง เอเด็น อาซาร์ ได้อยู่ที่ประมาณ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
และในกรณีที่ช่วงซัมเมอร์หากทาง มาดริด สามารถปล่อยตัว แกเร็ธ เบล ที่รับค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ออกจากทีมไปได้ ซึ่งอาจจะใช้เป็นเงื่อนไขเสนอการแลกตัวกับ เคน ให้ สเปอร์ส พิจารณา ถึงตรงนั้นจะทำให้ ราชันชุดขาว สามารถจ่ายเงินค่าเหนื่อยสตาร์ทีมชาติอังกฤษได้มากขึ้น ซึ่งอาจแตะหลักเดียวกับ อาซาร์ ก็เป็นได้
นอกจากนั้นยังมีค่าลิขสิทธิ์และค่าภาพลักษณ์ที่เชื่อว่าต้องเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ เพราะ มาดริด ถือเป็นแบรนด์ระดับโลกและนักเตะอย่าง แฮร์รี เคน ก็ไม่ใช่ไก่กา เจ้าตัวสามารถรับเงินเหล่านี้เพิ่มเติมหลักหลายล้านปอนด์ต่อปีได้สบาย ๆ
ยังไม่นับเรื่องภาษีที่ในสเปนจ่ายน้อยกว่าฝั่งอังกฤษเยอะอีกต่างหาก ตรงนี้จะทำให้นักเตะรับเงินแบบเต็มที่อย่างแน่นอน
2. การันตีได้ถึงเกียรติยศและความสำเร็จ
เจมี คาร์ราเกอร์ ตำนานนักเตะของ ลิเวอร์พูล คู่ปรับตัวฉกาจของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดประเด็นที่ เคน อาจจะต้องกลับไปนั่งคิดว่า หากเขาย้ายไปเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้นจะตอบโจทย์ชีวิตได้ขนาดไหน
“จากมุมมองของ เคน สถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ดีกว่า ท็อตแนม ในช่วงที่ผ่านมายังไง? มันจะเป็นการเดิมพันของเขาหากตัดสินใจย้ายไปเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพราะเมื่อดูแล้วยังมองไม่เห็นเลยว่า ยูไนเต็ด จะพร้อมสำหรับลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในเร็ววันนี้”
ซึ่งจะไปขัดน้าแกก็ไม่ได้ เพราะเรื่องจริงก็คือ สเปอร์ส ได้เข้าไปเล่นใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วง 4 ปีหลังสุด ส่วนทีม ปีศาจแดง นั้นทำได้เพียง 2 ครั้งในช่วง 6 ปีหลังจากที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013 เท่านั้น
แน่นอนว่าทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา กำลังดูดีมีทิศทาง แต่การจะลุ้นแชมป์ลีกนั้นข้ามศพ เชลซี , อาร์เซนอล , และ สเปอร์ส ไปให้ได้ก่อนเพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล นั้นทิ้งพวกเขาห่างไปหลายขุมทีเดียว
ส่วนการย้ายไป เรอัล มาดริด นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า ลาลีก้า มีอยู่ 2 ทีมที่แข่งกันสร้างความยิ่งใหญ่ ไม่ บาร์เซโลนา ก็ เรอัล มาดริด นาน ๆ ทีเราจะได้เห็นทีมอย่าง แอตเลติโก้ มาดริด ก้าวขึ้นมามีลุ้นกับเค้าบ้าง นั่นหมายความว่าการย้ายไปยัง ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว นั้นคุณสามารถการันตีแน่ ๆ แล้ว 2 แชมป์คือ แชมป์ลีก หรือไม่ก็ โคปา เดล เรย์ และอย่างน้อยก็ยังมีลุ้น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก อีกหนึ่งรายการ ซึ่ง ราชันชุดขาวนั้นช่ำชองยิ่งนัก
3. ร่วมงานกับยอดโค้ชและสตาร์ระดับเวิลด์คลาส
ดาวยิงทีมสิงโตคำรามจะได้ทำงานภายใต้การดูแลของ ซีเนดีน ซีดาน เจ้าของแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยซ้อนและแชมป์ ลาลีกา อีก 1 ครั้ง เรียกได้ว่านี่คือกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ UCL ที่ทำแบบนี้ได้ เพราะแม้แต่มหาโค้ชอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ โชเซ มูรินโญ ยังไม่เคยทำได้มาก่อน
นอกจากนั้น เคน ยังจะได้ร่วมงานกับนักเตะระดับเวิลด์คลาสอย่าง ลูก้า โมดริช เพื่อนเก่าที่ สเปอร์ส, โทนี โครส, เอเด็น อาซาร์, และ คาริม เบนเซมา และหากบุญพาวาสนาส่งเขาอาจจะได้ยืนอยู่ข้างเดียวกับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้, ซาดิโอ มาเน หรือ เจดอน ซานโช ที่กำลังมีข่าวกับทีม ราชันชุดขาว ก็เป็นได้
แถมยังจะมีโอกาสได้ดวลแข้งกับมหาซุปเปอร์สตาร์อย่าง ลีโอเนล เมสซี, อ็องตวน กรีซมันน์, และ หลุยส์ ซัวเรส ใน เอล กลาสิโก้ อีกต่างหาก
ซึ่งเมื่อเทียบกับการอยู่ภายใต้การคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือที่ยังไม่สามารถการันตีเรื่องความสำเร็จอะไรได้ อีกทั้งการไปอยู่กับ ยูไนเต็ด ก็คงไม่ต่างกับอยู่กับ ไก่เดือยทอง เพราะทั้งสองทีมกำลังอยู่ในระหว่างการสร้างทีมใหม่ทั้งคู่
และไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ยูไนเต็ด จะได้นักเตะดังอย่าง ซานโช หรืออีกหลาย ๆ คนมาร่วมทีมอย่างที่พวกเขาต้องการ เพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถการันตีได้เหมือนกันว่าพวกเขาจะผ่านไปเล่นใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ปีหน้าได้หรือไม่
4. รักษาความรู้สึกของแฟนบอล
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เพิ่งออกมาแนะนำดาวยิงรุ่นน้องว่า ตัวอย่างเรื่องการย้ายจาก สเปอร์ส มาเล่นให้กับ แมนยู นั้นมันมีให้เห็นมาแล้วในอดีต ว่าแล้วก็ยกตัวอย่างตัวเองและ เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม เป็นกรณีศึกษา ซึ่งทั้งคู่ก็ประสบความสำเร็จอบ่างมากมายด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และฟุตบอลถ้วย โดยเฉพาะ เชอร์ริงแฮม ที่ช่วยทีมคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างยิ่งใหญ่เมื่อปี 1999
แต่นั่นมันคืออดีต ซึ่งในปัจจุบันนี้อย่างที่เราทราบกันดีว่าทีม ปีศาจแดง ไม่ใช่ทีมที่ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ทุกปีอีกต่อไป พวกเขาลดระดับตัวเองลงมาแค่ลุ้นไปเล่น UCL เท่านั้น ซึ่งตัวอย่างที่ผ่านมาที่น้าเบิร์บยกมานั้นมันไม่อาจจะเทียบเคียงได้
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ เคน ค่อนข้างผูกพันธ์กับ ไก่เดือยทอง เพราะเจ้าตัวอยู่กับสโมสรมาเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี โดยลงเล่นในทีมชุดใหญ่มาแล้ว 6 ปีเต็มและสร้างสถิติเอาไว้มากมายให้กับทีมรวมทั้งยังกลายเป็นสัญลักษณ์และกัปตันทีมของ สเปอร์ส ในยุคปัจจุบัน
ดังนั้นการย้ายไปเล่นให้กับ ยูไนเต็ด จึงอาจเป็นอะไรที่สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอล ดังนั้นการย้ายออกไปเล่นต่างแดนน่าจะเป็นการรักษาน้ำใจเพื่อนร่วมเมืองได้ดีกว่า
5. อุณหภูมิ, เบรคหนีหนาว และฉลองคริสมาสต์
ลีกสเปนก็เหมือนกับลีกอื่น ๆ ในยุโรปที่มีการพักเบรคหนีหนาวช่วงสิ้นปีจนถึงปีใหม่ ซึ่งนั่นจะทำให้ เคน สามารถกลับมาฉลองคริสมาสต์กับครอบครัวได้อย่างเต็มที่ โดยพวกเขาจะมีเวลาในการพักราว ๆ 10 วัน โดยปีที่แล้วเริ่มพักในวันที่ 24 ธันวาคม 2019 และกลับมาเริ่มเตะกันอีกครั้งวันที่ 4 มกราคม 2020
นอกจากนั้นการลงเตะในแดนกระทิงดุยังการันตีเรื่องภูมิอากาศที่อบอุ่นกว่าในอังกฤษมากมาย พวกเขาจะไม่ต้องเจอปัญหาฝนตกพายุหิมะถล่มในวันแข่ง ซึ่งบรรยากาศแบบนี้เป็นที่โปรดปรานของบรรดาดาวดังหลายคนด้วย
แน่นอนว่า เคน อาจจะคุ้นเคยกับการลงเล่นในวันบ็อกซิ่งเดย์และเตะกันอย่างบ้าเลือดในช่วงปลายปี แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อสภาพร่างกายนัก ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็มีอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงในเกมเจอกับ เซาแธมป์ตัน ในเกมเมื่อวันขึ้นปีใหม่ ทำให้ต้องพักยาวจนเกือบจบฤดูกาล
และหากว่ายังจำกันได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วช่วงใกล้ ๆ กันนี้ เคน ก็เคยได้รับบาดเจ็บหนักต้องหายไปหลายเดือนก่อนจะฟิตทันกลับมาลงเล่นในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ลิเวอร์พูล และชวดแชมป์ไปในที่สุด