[ข่าวซื้อขาย] ไปแล้วหนึ่ง ! ชิริเบยา ประกาศอำลา ลิเวอร์พูล ย้ายซบทีมลีกเอิง

Pedro Chirivella
Liverpool FC v Shrewsbury Town – FA Cup Fourth Round: Replay | Gareth Copley/Getty Images

ลิเวอร์พูล ว่าที่แชมป์ พรีเมียร์ลีก ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่า เปโดร ชิริเบยา ดาวรุ่งวัย 23 ปี จะอำลาถิ่น แอนฟิลด์ หลังจบฤดูกาลนี้ และเตรียมย้ายไปร่วมทีม น็องต์ ในลีกเอิงฝรั่งเศสฤดูกาลหน้า

โดยสัญญาของดาวรุ่งเลือดกระทิงดุกับทัพ หงส์แดง กำลังจะหมดลงช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากเจ้าตัวใช้เวลากว่า 7 ปีใต้ชายคาของพลพรรคเร้ดแมชีน แต่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้

เกมเดบิวต์ของกองกลางรายนี้บนเวที พรีเมียร์ลีก ในนามทีมชุดใหญ่คือนัดที่พบกับ สวอนซี ในฤดูกาล 2015/16 ซึ่งนั่นเป็นเกมเดียวที่เจ้าตัวมีโอกาสได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษกับสโมสร

ถึงแม้ ชิริเบยา จะมีชื่อเป็น 1 ใน 25 ขุนพลของ เยอร์เกน คล็อปป์ ฤดูกาลนี้ แต่เขาก็มักจะมีโอกาสลงเล่นเพียงแค่ในฟุตบอลถ้วยรายการต่าง ๆ เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยถูกส่งไปให้ทีมในลีกฮอลแลนด์อย่าง โก อเฮด อีเกิลส์ และ วิลเลม ยืมตัวไปใช้งาน แต่ในครั้งนี้เจ้าตัวเลือกจะไปเริ่มต้นใหม่อย่างถาวรในลีกแดนน้ำหอมกับ น็องต์ หลังจากที่สัญญาของเขากับต้นสังกัดหมดลง

[Match Report] โอคัมโปส ซัดโทษ-เฟร์นันโด ปิดท้าย ! เซบียา เปิดบ้านเข่น เรอัล เบติส 2-0 เกมคัมแบ็ค ลา ลีกา นัดแรก

FBL-ESP-LIGA-SEVILLA-BETIS
FBL-ESP-LIGA-SEVILLA-BETIS | CRISTINA QUICLER/Getty Images

เซบียา คว้าชัยชนะในศึก ลา ลีกาสเปน นัดแรกนับตั้งแต่ลีกยุติการแข่งขันชั่วคราวอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นโดยเปิดรัง รามอน ซานเชซ ปิซฆวน เอาชนะ เรอัล เบติส ด้วยสกอร์ 2-0

ลูคัส โอคัมโปส ซัดลูกจุดโทษให้เจ้าถิ่นออกนำตั้งแต่นาทีที่ 56 ก่อนที่เจ้าตัวจะทำแอสซิสต์ให้ เฟร์นันโด พังประตูตอกฝาโลงในอีก 6 นาทีถัดมา

จูลส์ คูนเด้ และ ลุค เดอ ยอง ของเจ้าบ้านเป็นฝ่ายพลาดโอกาสเหน่งๆ จากลูกโขกในเขตโทษ ตามมาด้วยการยิงชนเสาของ โอคัมโปส ในเวลาต่อมา

ฝั่งทีมเยือนไม่สามารถตั้งเกมได้ติดและสร้างสรรค์โอกาสได้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นในเกมนี้ ช็อตที่ได้ลุ้นที่สุดของพวกเขาเกิดขึ้นจากความพยายามปั่นโค้งทำประตูของตัวสำรอง ฆัวกิน ซานเชซ ที่ยิงไปติดบล็อกในกรอบ 6 หลาก่อนบอลจะกระดอนออกไป

ผลจากการแข่งขันในนัดนี้ทำให้ เซบียา ทำแต้มขยับจี้ เรอัล มาดริด ในอันดับที่ 2 เหลือ 6 คะแนนโดยพวกเขารั้งอันดับที่ 3 ของตาราง ขณะที่ เบติส อยู่ในอันดับที่ 12 มี 33 แต้ม

เลือดหงส์มันข้น ! อาเดรียน เปิดใจไม่คิดย้ายหนี ลิเวอร์พูล ก่อนหมดสัญญา

Adrián
Liverpool FC v Atletico Madrid – UEFA Champions League Round of 16: Second Leg | Visionhaus/Getty Images

อาเดรียน นายทวารชาว สเปน วัย 33 ปีสังกัด สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปิดใจกับสื่อในบ้านเกิดระบุว่าตัวเขาไม่มีความคิดที่จะย้ายออกจากถิ่น หงส์แดง ใน ตลาดซื้อขายนักเตะ ก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดลงในซัมเมอร์หน้าแต่อย่างใด

นายทวารแดน กระทิงดุ ย้ายมาร่วมทัพ เร้ดแมชีน แบบไร้ค่าตัวเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาแทนที่การจากไปของ ซิมง มินโญเลต์ และ ลอริส คาริอุส ก่อนที่เจ้าตัวจะพาทีมก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เมื่อช่วงต้นฤดูกาล และแม้จะมีเหตุการณ์ที่น่าผิดหวังในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จนทีมตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายแต่ อาเดรียน ก็ยืนยันว่าทั้งหมดนั้นเป็นช่วงเวลาที่สวยงามและต้องการที่ค้าแข้งกับ หงส์แดง ให้นานที่สุด

“ในเวลานี้ผมเห็นแค่ภาพตัวเองอยู่กับ ลิเวอร์พูล” อาเดรียน กล่าวให้สัมภาษณ์กับ เรดิโอ เซบียา “ผมยังสามารถเฝ้าเสาได้อีกหลายปี ในอนาคตเราก็จะรู้กัน แต่ตอนนี้ผมยังมีสัญญาเหลือกับสโมสรอีก 1 ปี และยังมีออปชันขยายสัญญาได้อีก 1 ปีอีกด้วย ตอนนี้ผมยังไม่อยากที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรที่ ลิเวอร์พูล รวมทั้งต้องการที่จะสนุกไปกับช่วงเวลานี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลังจากนี้แล้วผมยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ฟุตบอลน่ะมันเต็มไปด้วยความสนุกเสมอ”

“ซัมเมอร์ที่ผ่านมาผมยังเห็นตัวเองว่างอยู่เลยเมื่อความเป็นไปได้ที่จะกลับสู่ เรอัล เบติส ได้อันตรธานหายไป”

“แต่ท้ายที่สุดคุณต้องใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไว้ในอนาคตเราค่อยมาว่ากันอีกที ตอนนี้ผมรู้สึกว่าการจากบ้านเกิดมานั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่เมื่อมองย้อนกลับไปมันก็ทำให้ผมมองเห็นชัดเจนว่าตนเองเติบโตมาเป็นนักเตะมืออาชีพอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้”

ต้องเปลี่ยน ! ยูฟ่า เตรียมปรับเตะ แชมเปี้ยนส์ลีก แบบมินิทัวร์นาเมนต์โดยมี ลิสบอน โปรตุเกส เต็งเจ้าภาพ

FBL-EUR-C1-DRAW
FBL-EUR-C1-DRAW | VALERY HACHE/Getty Images

เมืองลิสบอน ประเทศ โปรตุเกส กลายเป็นสังเวียนเต็งที่จะจัดการแข่งขันมิทิทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายในเดือนสิงหาคมนี้หากได้รับไฟเขียวจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป จากเดิมที่จะแข่งขันแบบเหย้า-เยือนและชิงชนะเลิศที่ อิสตันบูล

ขณะที่การแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรปาลีก นัดชิงชนะเลิศที่กำหนดการเดิมจัดขึ้นที่เมือง กดัญส์ก ประเทศโปแลนด์ มีแววที่จะโยกไปจัดแข่งขันใน เยอรมนี แทนที่ โดยจะได้ข้อสรุปในการประชุมผู้บริหาร ยูฟ่า ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้

รายงานจาก บีบีซี ระบุว่าผลจากการหารือในที่ประชุมของ ยูฟ่า ตลอดไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยข้อเสนอหลากหลาย โดยหนึ่งในนั้นเป็นการเรียกร้องให้จัดแข่งขันในรอบน็อคเอาท์แบบ 2 เลกเหย้า-เยือนตามเดิม อย่างไรก็ตามความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นหลังการประชุมในช่วงหลังมานี้มีแนวโน้มที่จะจัดแข่งภายใต้รูปแบบเดียวกับ ฟีฟ่า คลับเวิลด์คัพ โดยที่ประชุมเห็นว่าเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์กับการถ่ายทอดสดและผู้ชมผ่านหน้าจอโทรทัศน์มากกว่า

หากฝ่ายจัดการแข่งขันไฟเขียวในการจัดรูปแบบดังกล่าวจะทำให้รอบ 8 ทีมสุดท้ายและรอบรองชนะเลิศ รวมไปถึงนัดชิงชนะเลิศจะเกิดขึ้นในแบบมินิทัวร์นาเมนต์ภายใต้สนามปิดแบบไร้แฟนบอล และกำหนดการเบื้องต้นสำหรับ ยูซีแอล นัดชิงชนะเลิศคือวันที่ 23 สิงหาคม ขณะที่นัดชิงฯ ยูโรปาลีก จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคม

รายงานระบุว่า สเปน, เยอรมนี และ รัสเซีย ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเจ้าภาพในมินิทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว แต่ด้วยปัจจัยด้านที่ตั้งและการที่ไม่มีสโมสรใดจาก โปรตุเกส มีชื่อเหลืออยู่ในรายการดังกล่าวทำให้แดน ฝอยทอง ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเต็งในโค้งสุดท้าย

ทั้งนี้ ลิสบอน มีสนามฟุตบอล 2 สนามที่สามารถรองรับการจัดแข่งขันฟุตบอลระดับสูงได้เช่นเดียวกับมีโรงแรมชั้นนำที่สามารถรองรับการเข้าพักของบุคลากรจากสโมสรฟุตบอลที่จะทำการแข่งขันได้ ขณะที่ โปร์ตุกีส พริเมรา ลีกา ได้กลับมาฟาดแข้งกันเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้ถูกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ผลการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมีดังนี้
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-3 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
อตาลันต้า 8-4 บาเลนเซีย
แอตเลติโก มาดริด 4-2 ลิเวอร์พูล
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 0-4 แอร์เบ ไลป์ซิก

ส่วนคู่ที่ยังแข่งขันไม่จบทั้ง 2 เลกมีดังนี้
เรอัล มาดริด (1-2) แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เชลซี (0-3) บาเยิร์น มิวนิค
ลียง (1-0) ยูเวนตุส
นาโปลี (1-1) บาร์เซโลนา

[BEST XI] ย้อนรอยที่สุดแห่งปี 11 ผู้เล่นจากยอดทีมแห่งความทรงจำ : บาร์เซโลนา 2008/09

โดย Saksorn Nenlert | Jun 08 2020

นี่คือซีรีย์ที่เราจะพาผู้อ่านทุกท่านย้อนอดีตไปดู 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ดีที่สุด ในยุครุ่งเรืองของแต่ละสโมสร ที่ว่ากันว่าฟอร์มเทพที่สุด ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเป็นที่กล่าวขานกันมากที่สุดในยุคสมัยนั้น ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละทีมก็มียุคทองที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปพบกับ…

บาร์เซโลนา ปี 2008/09

หลังจาก แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ผู้จัดการทีมฝีมือดีอำลาถิ่น คัมป์ นู ไปในปี 2008 เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือจากทีมชุดบี ก็ถูกดันขึ้นมาแทนที่ และแน่นอนเขาได้นำปรัชญาการเล่นแบบ “โททัลฟุตบอล” ในยุคก่อนมาผสานกับฟุตบอลเพรสซิ่งสไตล์จนออกมาเป็น “ติกิ ตาก้า” ที่ยังคงถึงว่าเป็นแผนการเล่นขั้นสูงแห่งโลกฟุตบอลตราบจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งนั่นทำให้แม้ทีมจะเสียสตาร์ดังอย่าง เดโก้ ซัมบรอตต้า เอ็ดมิลสัน หรือแม้แต่ ตำนานของทีมอย่าง โรนัลดินโญ ออกจากทีมไปในซัมเมอร์เดียวกันนั้น ก็ไม่ทำให้ความน่ากลัวของพวกเขาลดลงไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับทวีศักยภาพมากขึ้นจนผงาดคว้าทริปเบิลแชมป์ในปีนั้นได้สำเร็จพร้อมกับฉายา “ทีมต่างดาว” ที่เปรียบความเก่งกาจที่ดูจะเก่งเกินมนุษย์และมาจากโลกอื่นยังไงอย่างงั้น

และแน่นอน 11 ขุนพลระดับตำนานผู้อยู่เบ้องหลังความสำเร็จในปีแรกของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา หลายคนคงรู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ทั้ง…

1. ผู้รักษาประตู – บิคตอร์ บัลเดส

นายทวารลูกหมอของทีมที่เกิดและเติบโตในแคว้นคาตาลัน บัลเดส ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญตั้งแต่ปี 2002 และในซีซั่นต่อมาก็สามารถยึดมือหนึ่งในถิ่น คัมป์ นู มาครองได้สำเร็จ จนกระทั่งย้ายออกไปในปี 2014 แม้ว่าช่วงที่อยู่ บาร์ซ่า เขามักจะถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนของทีมอยู่เสมอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประตูทีมชาติสเปนรายนี้เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ เจ้าบุญทุ่ม ในยุคนั้นอย่างแท้จริง

2. แบ็คขวา – แดเนียล อัลเวส

แบ็คจอมบุกชาวบราซิล พึ่งจะย้ายจาก เซบียา มาร่วมทีมในเป็นปีแรก แต่เจ้าตัวกลับสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ในที่สุด หลังจากนั้นเขาก็ทุกยกให้เป็นหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคเลยทีเดียว อัลเวส ค้าแข้งอยู่กับทีมถึง 8 ปีเต็ม กวาดแชมป์รายการต่าง ๆ มามากมายกระทั่งย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ในปี 2016 ที่ผ่านมา

3. เซ็นเตอร์แบ็ค – คาเลส ปูโยล

ยอดกัปตันทีม “วันคลับแมน” ที่เกิดและเติบโตในรังของ บาร์เซโลนา แห่งนี้ ปูโยล ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 1999 ผ่านร้อนผ่านหนาวกับทีมมาอย่างโชกโชน รวมทั้งประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งกับสโมสรและทีมชาติ กระทั่งเจ้าตัวเลือกที่จะยุติชีวิตการค้าแข้งไปในปี 2014 ปิดฉากตำนานรุ่นใหญ่ผู้ทั้งอ่อนโยนและน่าเกรงขามไปอย่างงดงามนับตั้งแต่นั้น

4. เซ็นเตอร์แบ็ค – เคร์ราร์ด ปิเก้

หลังจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา เข้ามาคุมทีม เขาก็รีบจัดการสั่งให้ทีมดึงตัวปราการหลังผู้เติบโตมาจาก ลามาเซีย รายนี้กลับมาสู่ทีมในทันทีหลังไม่สามารถแจ้งเกิดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ ซึ่งจากนั้น ปิเก้ ก็ตอบแทนความไว้ใจของ เป็ป ด้วยการพัฒนาฝีเท้าขึ้นมายืนเคียงข้างกับ ปูโยล และพาทีมไปถึงจุดสูงสุดได้สำเร็จจนกระทั่งถึงทุกวันนี้เลยทีเดียว

5. แบ็คซ้าย – เอริค อบิดัล

แบ็คซ้ายดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส พึ่งจะย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง เพียงหนึ่งปีก่อนหน้านั้น แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงไว้ใจและมอบตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงในทีมชุดดรีมทีมของเขาให้กับ อบิดัล เสมอมา แม้เจ้าตัวจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพในระยะหลัง แต่โดยรวมแล้วก็จัดว่าเขาเป็นกำลังหลักในยุคเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ของทีม แถมยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในถิ่น คัมป์ นู ร่วมกับทีมอีกด้วย

6. กองกลาง – เซร์คิโอ บุสเกตส์

หัวใจสำคัญในแดนกลางของทีมอีกหนึ่งราย ที่เติมโตมาจาก ลามาเซีย และยังคงอยู่กับทีมมาจนถึงทุกวันนี้ บุสเกตส์ เล่นให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาตั้งแต่ทีมชุดเล็ก กระทั่งถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่พร้อม ๆ กันในปี 2008 ซึ่ง เป๊ป ก็ไว้ใจให้เขาเป็นตัวหลักของทีมตั้งแต่ซีซั่นแรกที่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เลยทีเดียว กระทั่ง 12 ปีต่อมา เขายังคงสามารถยืนระยะเป็นตัวจริงให้กับทีมมาตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

7. กองกลาง – ชาบี เฮอร์นันเดส

ว่ากันว่าเขาคนนี้แหละที่เป็นแกนกลางของระบบ “ติกิ ตาก้า” ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ชาบี เกิดและเติบโตมากับทีมจนกระทั่งพัฒนาฝีเท้าสู่การเป็นระดับโลกได้สำเร็จ ด้วยทักษะความคล่องตัว รวมถึงความสามารถเฉพาะตัวที่เหนือคำบรรยาย ทำให้ชายคนนี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกในยุคนั้นเลยก็ว่าได้

8. กองกลาง – อันเดรส อิเนียสต้า

เพลย์เมกเกอร์ที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวรุกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเมื่อได้เล่นร่วมกับ ชาบี ในแดนกลาง พวกเขาก็สามารถรังสรรค์ความงดงามของเกมฟุตบอลให้ประจักษ์สู่สายตาคนทั้งโลกได้สำเร็จ อิเนียสต้า ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งกับสโมสรและทีมชาติ กระทั่งย้ายออกจากทีมไปเมื่อปี 2018 และไปหาความท้าทายใหม่ใน เจลีก กับ วิสเซล โกเบ มาจนถึงทุกวันนี้

9. กองหน้า – ลิโอเนล เมสซี

คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความสำหรับยอดนักเตะผู้มาจากต่างดาวคนนี้ ที่แฟน ๆ บาร์เซโลนา ต่างพร้อมใจกันยกให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา เมสซี รับหน้าที่หมายเลข 10 ต่อจาก โรนัลดินโญ ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร ซึ่งจนถึงตอนนี้เจ้าตัวยังคงความเทพเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นเดอะแบกตัวจริงที่ทีมจะขาดไปไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียวในปัจจุบัน

10. กองหน้า – ซามูเอล เอโต้

ดาวยิงชาวแคเมอรูน ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นมาได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในปี 2004 แม้ว่า ทัพเจ้าบุญทุ่ม จะเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ในปี 2008 แต่เขายังคงได้รับความไว้วางใจจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ให้ทำหน้าที่สังหารประตูต่อไป ซึ่ง เอโต้ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการซัดไปเหนาะ ๆ 36 ประตูในฤดูกาลนั้น พาทีมคว้าทริปเบิลแชมป์มาครองได้สำเร็จ กระทั่งถูกนำไปเป็นหนึ่งในข้อเสนอซื้อตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ อินเตอร์ มิลาน ในปีต่อมา

11. กองหน้า – เธียร์รี อองรี

ตำนานดาวยิงของ อาร์เซนอล ที่ถูก บาร์เซโลนา ดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2007 กระทั่งการมาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา อองรี ก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญในทีม ช่วยให้ทัพเจ้าบุญทุ่ม เดินหน้าคว้า 3 แชมป์มาครองได้สำเร็จพร้อมผลงาน 26 ประตูในฤดูกกาลนั้น ในปี 2010 ตำนานดาวยิงปืนใหญ่รายนี้ หมดสัญญาในถิ่น คัมป์ นู และย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับ นิวยอร์ค เร้ดบูลล์ ในเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา

[OPINION] มีอนาคตของทีมเป็นเดิมพัน ! ปฏิบัติการชิงตัว แวร์เนอร์ แบบสายฟ้าแลบของ เชลซี

เล่นเอาบรรดากูรูหลายสำนักต้องหน้าแหกไปตาม ๆ กันเมื่อมีข่าวเล็ดลอดออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่า ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าของ แอร์เบ ไลป์ซิก นั้นตกลงย้ายไปเล่นให้กับ เชลซี ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงในศึก พรีเมียร์ลีก อย่างที่คาดการณ์กันมาร่วมเดือน ด้วยค่าฉีกสัญญาที่ไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไปในราคา 53 ล้านปอนด์ ทำให้ดาวยิงทีมอินทรีเหล็กผู้นี้ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรชั้นนำโดยนอกจาก 2 ทีมที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาเยิร์น มิวนิค ที่ให้ความสนใจ แม้จะมีความสนใจจากยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ…

คือคนที่ใช่สำหรับ เรอัล มาดริด และ ซีเนอดีน ซีนดาน จริงหรือ ?

FBL-EUR-C1-REAL MADRID-MAN CITY
FBL-EUR-C1-REAL MADRID-MAN CITY | OSCAR DEL POZO/Getty Images

เมื่อไม่กี่วันก่อนมีข่าวที่อาจจะทำให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 ครั้งหลังสุดต้องใจหายแวบ เมื่อมีรายงานจาก อินดิเพนเด้นท์ สื่อใหญ่ในอังกฤษระบุว่า ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกของ เรือใบสีฟ้า ตกเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อนคู่แค้นร่วมเมือง

สาเหตุของข่าวนี้เดาไม่ยาก เพราะมีแนวโน้มว่า ซิตี้ จะโดนแบนการจากลงเล่นในฟุตบอลยุโรปเป็นเวลา 2 ซีซัน หลังจากที่พวกเขาโดนจับได้ว่าไปทำการปลอมแปลงเอกสารการเงินเพื่อให้เข้าเงื่อนไขของกฎฟีฟ่าแฟร์เพลย์

เรื่องรายละเอียดคงมีหลายสื่อกล่าวไว้มากมายพอสมควร แต่เรื่องการย้ายทีมของ สเตอร์ลิง นั้นกลายเป็นกระเด็นขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตามไม่ได้มีแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่มีข่าวให้ความสนใจในตัวปีกวัย 25 ปี หนึ่งยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่พร้อมพัวพันกับสตาร์ดังทุกเมื่ออย่าง เรอัล มาดริด ก็โผล่ขึ้นมามีชื่อด้วย

อันที่จริงแล้ว สเตอร์ลิง กับ มาดริด ก็เคยมีข่าวเฉียดกันไปมาหลายครั้งเหมือนกัน แต่ครั้งนี้น่าจะเป็นอะไรที่น่ารักน่าลุ้นเป็นอย่างมาก เพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่มัน ‘เอื้อ’ ให้เกิดดีลทะลุโลกนี้ขึ้นมาได้

จะว่าไป ราชันชุดขาว ก็มีข่าวกับสตาร์ดังมาตั้งแต่ ซาดิโอ มาเน, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ รวมไปถึง เนย์มาร์ จูเนียร์ แต่ทั้ง 3 รายข้างต้นนั้นดูจะต้องออกแรงกันหนักหน่วงพอสมควรหากต้องการทำให้ฝันเป็นจริง ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แต่เรื่องของสโมสรต้นสังกัดก็มีส่วนอยู่มากเช่นกัน

แต่กับ สเตอร์ลิง นั้นด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ แมนฯ ซิตี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะโดนจับมาเชื่อมโยงกับทีมนั้นทีมนี้ แถมยังมีบทสัมภาษณ์ของนักเตะเมื่อหลายเดือนก่อนที่เคยบอกว่า ‘ผมอยากลองไปเล่นในต่างแดนซักครั้ง’ มันยิ่งทำให้ฝันของ ฟลอรนติโน เปเรซ และ ซีเนดีน ซีดาน มีสิทธิเป็นจริงขึ้นมาได้

พออะไร ๆ มันดูจะเป็นใจขึ้นมา สื่อก็พากันคาดเดากันยกใหญ่ว่า ถ้าปีกทีมชาติอังกฤษย้ายไปเล่นใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว แล้วมันจะเป็นอย่างไร?

เป็นที่ทราบกันดีว่านักเตะริมเส้นรายนี้เป็นผู้เล่นที่ฝีเท้าจัดจ้าน มีความเร็ว เทคนิคเยี่ยม และความเข้าใจเกมสูงมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวอาจจะดูเหมือนเป็นดาวรุ่งทั่ว ๆ ไปมากกว่าก่อนจะมาพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งผู้เล่นระดับท็อปยุโรปไปแล้ว ณ เวลานี้

กุนซือชาวคาตาลันปั้น สเตอร์ลิง ให้เป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในเกมรุก เจ้าตัวเริ่มจากริมเส้นฝั่งขวาเป็นอันดับแรก แต่พอฝีเท้ากล้าแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ก็สามารถโยกมาเล่นด้านซ้ายได้อย่างไม่มีปัญหา พร้อมยังถูกจับไปรับบท ‘False 9’ ในช่วงหลัง ด้วยการยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าและลงมาล้วงมาเอาบอลขึ้นไปทำเกมเองก็ไม่เคอะเขิน

ตอนที่แจ้งเกิดกับ ลิเวอร์พูล นั้น ราฮีม เป็นนักเตะริมเส้นที่มักเอาชนะกองหลังด้วยความเร็วและการเร่งสปีด ส่วนใหญ่เขาจะใช้วิธีตัดเข้าด้านในแล้วเลี้ยงผ่านกองหลังที่คอยตามประกบ แต่สไตล์แบบนี้นาน ๆ เข้าก็เริ่มโดนจับทางได้ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีเล่นเล็กน้อยด้วยการเลี้ยงตัดเข้าในแล้วยิงประตูเลย ซึ่งมันช่วยให้เขาเป็นปีกที่ยิงประตูได้มากมายในช่วงหลัง

59 ประตูจากการลงเล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ 155 นัด เป็นครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี และทำให้เขาได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงของทีมในช่วง 5 ปีหลังอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากพัฒนาการเรื่องของการยิงประตูแล้ว เขายังกลายเป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสถิติเลี้ยงบอล 1.8 ครั้งต่อเกม พร้อมกับมีโอกาสสับไก 3 ครั้งต่อเกม แต่ด้วยการเล่นในตำแหน่งริมเส้นซึ่งแน่นอนว่าในอังกฤษนั้นแฟนบอลมักจะคาดหวังให้ผู้เล่นครอสบอลสวย ๆ เข้าไปหน้าโกล ซึ่งเรื่องนี้อาจจะดูว่า สเตอรืลิง ไม่ได้โดดเด่นนักแต่ก็มีพัฒนาการที่น่าสนใจด้วยการสถิติการครอสบอล 0.3 ครั้งต่อเกม

เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด จึงไม่ต้องแปลกใจว่าหากเขาย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ก็น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงของทีมได้ไม่ยาก

และเมื่อพูดถึงคุณสมบัติส่วนตัวไปแล้ว มาดูกันว่าหากเติม สเตอร์ลิง เข้าไปในแท็คติกของ ซีเนดีน ซีดาน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ในทีม ลอส บลังโกส นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสมักจับเอา เอเด็น อาซาร์ เล่นริมเส้นฝั่งซ้าย ซึ่งเมื่อดูจากความถนัดแล้วอดีตผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ที่มีเกมฝั่งขวาที่ยอดเยี่ยมก็สามารถกลายเป็นคู่หูริมเส้นกับสตาร์เบลเยียมได้ หากเป็นเช่นนั้นทั้งคู่ก็พร้อมกับนำความหายนะมาสู่คู่แข่งใน ลาลีก้า ได้ทุกเมื่อ

สไตล์ของ อาซาร์ นั้นคือนักเตะที่ชอบเก็บบอลไว้กับตัวแล้วค่อย ๆ เลี้ยงผ่านกองหลังขึ้นหน้าอย่างช้า ๆ เพื่อสร้างสรรค์เกม ส่วน สเตอร์ลิง นั้นมีสไตล์ตรงกันข้าม เขามีความเร็ว สปีดต้นที่ดุจดั่งสายฟ้าฟาด และความแข็งแกร่งตามแบบฉบับของนักเตะเมืองผู้ดี ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ ซีดาน ได้ปีก 2 ข้างที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน ช่วยทำให้แท็คติกในเกมรุกของทีมมีความหลากหลายขึ้น และปั่นป่วนคู่แข่งได้เป็นอย่างดี

ในด้านเกมรับ แม้ว่า สเตอร์ลิง ไม่ใช่นักเตะเกมรุกที่ชอบลงไปช่วยป้องกันการบุกของฝ่ายตรงข้ามซักเท่าไหร่ ดูจากสถิติกการแย่งบอลที่เจ้าตัวทำได้เพียง 0.5 ครั้งต่อเกม หรือทำได้ 1 ครั้งต่อ 2 เกม ซึ่งน้อยมาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อีกทั้งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับทีมของ ซิซู แต่อย่างใด เพราะพวกเขามี ลูก้า โมดริช และ โทนี โครส ที่ยืนจับคู่กันกลางสนามช่วยเบรคเกมของคู่ต่อสู้มาหลายปีดีดัก ดังนั้นดาวเตะวัย 25 ปีจึงไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้มากนัก

ประโยชน์ของ ราฮีม อีกอย่างก็คือ เขาอาจจะเป็นคนเรียกศักยภาพของ ลูก้า โยวิช ดาวยิงของทีม ราชันชุดขาว ที่ตอนนี้ยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มเหมือนตอนที่อยู่ใน บุนเดสลีกา ได้

เชื่อกันว่าเกมริมเส้นของ สเตอร์ลิง สามารถเข้ามาประสานงานกับดาวเตะวัย 22 ปีและอาจจะทำให้เขากลับมายิงระเบิดระเบ้อได้อีกครั้ง โดยที่ ฟลอเรนติโน เปเรซ อาจไม่ต้องควักเงินซื้อกองหน้าตัวใหม่เข้ามาเสริมทัพเลยก็ได้

ถ้าไม่เชื่อลองเช็คผลงานการถล่มประตูของ เซร์คิโอ อเกวโร หรือ กาเบรียล เชซุส ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูก็น่าจะได้คำตอบเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น เพราะกว่าตลาดซื้อขายรอบต่อไปจะเปิดก็คงเป็นช่วงหลังเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป แถมคำร้องอุทธรณ์ที่ แมนฯ ซิตี้ ยื่นไปยัง อนุญาโตตุลาการด้านกีฬานั้นก็ยังไม่มีผลการพิจารณาออกมา

ดังนั้นจากนี้จนถึงช่วงตลาดซัมเมอร์เปิดทำการ เราอาจจะได้เห็นอะไรที่พลิกไปพลิกมาอีกหลายตลบก็เป็นได้

เรียกพี่ว่าเสี่ยโด้ ! ฟอร์บส เผย โรนัลโด้ เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่มีรายได้รวมแตะ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

Cristiano Ronaldo arrival
Cristiano Ronaldo arrival | Soccrates Images/Getty Images

คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะทีมชาติ โปรตุเกส วัย 35 ปีสังกัด ยูเวนตุส แห่งศึก กัลโช เซเรีย อา กลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ที่มีรายได้แตะหลัก 1 พันล้านดอลลาร์จากการจัดอันดับคนดังที่มีรายได้มากที่สุดในโลกประจำปี 2020 โดย ฟอร์บส

ซีอาร์เซเว่น มีรายได้ก่อนหักภาษีในรอบปีที่ผ่านมาสูงถึง 105 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 82.6 ล้านปอนด์) ทำให้เจ้าตัวเป็นคนดังที่มีรายได้สูงที่สุดในรอบปีเป็นลำดับที่ 4 ต่อจาก ไคลี เจนเนอร์, คานเย เวสต์ และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์

การจัดอันดับดังกล่าวของ ฟอร์บส ยังมี ไทเกอร์ วูดส์ และ ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ 2 นักกีฬาชื่อดังที่มีรายได้รวมเทียบเท่ากับสตาร์สังกัดทัพ ม้าลาย นอกจากนี้เขายังเป็นนักกีฬาประเภททีมคนแรกที่ทำรายได้แตะหลักพันล้านดังกล่าว คิดเป็นรายได้จากค่าเหนื่อยทั้งสิ้น 650 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 511 ล้านปอนด์) จากตลอดเส้นทางค้าแข้งอาชีพ 17 ปีที่ผ่านมา

รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่าเจ้าตัวจะได้รับค่าเหนื่อยแตะมูลค่า 765 ล้านเหรียญ (ราว 602 ล้านปอนด์) เมื่อมดสัญญาฉบับปัจจุบันกับ ยูเว่ ในปี 2022 ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี มีายได้รวมทั้งสิ้น 605 ล้านดอลลาร์ (ราว 475 ล้านปอนด์) จากการค้าแข้งอาชีพนับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา

แวร์เนอร์หักอกลิเวอร์พูลจ่อซบเชลซี, ผช.ห้างยาแย้มฮาแวร์ตซ์จ่อย้าย : สรุปข่าวฟุตบอลประจำวันที่ 4 มิถุนายน

โดย Tomorn Nuanprasert | Jun 04 2020

Kai Havertz, Timo Werner, Gareth Bale
Kai Havertz, Timo Werner, Gareth Bale

สรุปทุกประเด็นข่าวที่สำคัญในแวดวงฟุตบอลที่เกิดขึ้นในรอบวันของ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, และบรรดาบิ๊กทีมในศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ, ข่าวซื้อขายนักเตะ และวงการฟุตบอลทั่วโลก

ติดตามสรุปข่าวย้อนหลังได้ที่ : ลิเวอร์พูล กระหายได้ตัวสตาร์ลียง, เบซิคตัส สนใจดาวรุ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด : สรุปข่าวฟุตบอลประจำวันที่ 3 มิถุนายน

1. ข่าวเชลซี – สื่อ เยอรมนี คอนเฟิร์ม สิงห์บลู ปิดดีล แวร์เนอร์

รายงานจาก บิลด์ สื่อใน เยอรมนี เปิดเผยว่า สโมสรฟุตบอลเชลซี ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการคว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกทีมชาติ เยอรมนี สังกัด แอร์เบ ไลป์ซิก ได้เรียบร้อยหลัง สิงห์บลู ยื่นข้อเสนอฉีกสัญญาที่มูลค่าราว 60 ล้านยูโร (ราว 54 ล้านปอนด์)

โดยสื่อดังกล่าวรายงานว่าแม้กองหน้าวัย 24 ปีจะตกเป็นข่าวหนาหูกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงก่อนหน้านี้แต่ทัพ หงส์แดง แสดงท่าทีไม่ต้องการยื่นข้อเสนอฉีกสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด

2. ข่าวพรีเมียร์ลีก – EPL ไฟเขียวเปลี่ยนตัว 5 คน

ฝ่ายจัดการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าพวกเขาจะอนุญาตให้สโมสรสามารถเปลี่ยนตัวนักเตะได้ 5 รายและเพิ่มรายชื่อตัวสำรองจากเดิม 7 คนเป็น 9 คนในโปรเจ็คท์รีสตาร์ทที่กำลังจะเริมต้นกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งในอีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า

3. ข่าวพรีเมียร์ลีก – เอเยนต์ยัน เบล ไม่อยากกลับ พรีเมียร์ลีก

โจนาธาน บาร์เน็ตต์ เอเยนต์ของ แกเร็ธ เบล ดาวเตะทีมชาติ เวลส์ วัย 30 ปีสังกัด เรอัล มาดริด เผยว่าลูกค้าในความดูแลของเขาแม้ว่าเจ้าตัวจะตกเป็นข่าวหนาหูกับทั้ง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ นิวคาสเซิล ในช่วงไม่นานมานี้พร้อมกับยืนยันว่า เบล ยังมีความสุขดีที่ มาดริด

4. ข่าวสเปอร์ส – สมาชิก ไก่เดือยทอง มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ได้ออกมาประกาศว่า 1 รายที่มีผลเลือดเป็นบวกนั้น มาจากทีมของพวกเขา แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร

ทัพไก่เดือยทอง ยังกล่าวอีกว่า ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวนั้น ไม่แสดงอาการใด ๆ แต่หลังจากนี้ จะทำการกักตัวเพื่อดูอาการก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันก่อนหน้านี้มีการตรวจคัดกรองตามมาตรการ “โปรเจค รีสตาร์ท” มาแล้ว 4 ครั้งด้วยกัน พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 12 ราย ในจำนวนนั้นมีชื่อของ อาเดรียน มารีอัปปา กองหลังของ วัตฟอร์ด และ อารอน แรมส์เดล นายทวารของ บอร์นมัธ ที่ถูกตรวจพบว่ามีเชื้อด้วยเช่นกัน

5. ข่าวลิเวอร์พูล – เฟร์ราน ตอร์เรส ยังแฮปปี้กับ บาเลนเซีย

เฟร์ราน ตอร์เรส ตัวรุกริมเส้นวัย 20 ปีชาว สเปน สังกัด บาเลนเซีย ให้สัมภาษณ์กับ คลับ เดล เดปอร์ติสต้า สื่อแดนกระทิงดุเปิดเผยล่า ลา ลีกา สเปน เป็นลีกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักเตะอายุน้อย รวมทั้งยังระบุว่าตัวเขายังมีความสุขดีกับการค้าแข้งให้ทัพ ไอ้ค้างคาว แม้ว่าจะตกเป็นข่าวโยงกับ หงส์แดง อย่างหนาหูตลอดช่วงที่ผ่านมาก็ตาม

6. ข่าวลิเวอร์พูล – หงส์แดง ยังไม่ยื่นยืมตัว เดมเบเล

อีฟนิงสแตนดาร์ด สื่อในอังกฤษรายงานว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้ยื่นข้อเสนอยืมตัว อุสมาน เดมเบเล ตัวรุกริมเส้นชาว ฝรั่งเศส วัย 23 ปีจาก บาร์เซโลนา แต่อย่างใดแม้จะมีกระแสข่าวปูดมาก่อนหน้านี้ว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้พิจารณาความเป็นไปได้ถึงการคว้าสตาร์เฟรนช์แมนรายดังกล่าวมาร่วมทัพ หงส์แดง ก็ตาม

7. ข่าวลิเวอร์พูล – ราชัน ปัดดีล หงส์ หวังสอย วินิซิอุส

รายงานจาก สปอร์ต สื่อใน สเปน ระบุว่า เรอัล มาดริด ได้ปัดตกข้อเสนอกระชากตัว วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าวัย 19 ปีทีมชาติ บราซิล ของ ลิเวอร์พูล เป็นที่เรียบร้อยโดยทัพ ราชันชุดขาว แสดงท่าทีต้องการที่จะใช้ วินิซิอุส เป็นกำลังหลักสำคัญสู้ศึกฤดูกาลหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดในข้อเสนอดังกล่าวแต่อย่างใด

8. ข่าวแมนฯ ยูไนเต็ด – ผีแดง จ่อปิดดีล ‘นิวเมสซี’

โตโด้ ฟิคาเฆส สื่อใน สเปน รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงคว้าตัว ติอาโก้ อัลมาด้า ตัวรุกริมเส้นวัย 19 ปีชาว อาร์เจนตินา จาก เบเลซ ซาร์สฟิลด์ เต็มทีเมื่อการเจรจาคืบหน้าไปมาก รวมทั้งยังชี้ว่าพวกเขาจะยังคงเดินหน้าในดีล เจดอน ซานโช เช่นเดิมแม้ว่าจะคว้าดาวเตะเจ้าของฉายา นิวเมสซี รายนี้ไปร่วมทัพได้

9. ข่าวแมนฯ ยูไนเต็ด – สมอลลิง หวัง ผีแดง ปล่อย โรมา ยืมต่อเนื่อง

คริส สมอลลิง แสดงท่าทีต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการให้ต้นสังกัดไฟเขียวที่จะปล่อยเขาออกจากทีมในฤดูกาล 2020/21 ด้วยสัญญายืมตัวต่อไปจากการรายงานของ คอร์ริเอเร เดลโล สปอร์ต สื่อใน อิตาลี หลังจากที่เจ้าตัวถูกส่งให้ทัพ หมาป่า แห่งกรุงโรม ยืมตัวไปใช้งานตั้งแต่ซัมเมอร์ 2019 ที่ผ่านมา

10. ข่าวแมนฯ ยูไนเต็ด – ผู้ช่วยโค้ช ห้างขายยา ปูด ฮาแวร์ตซ์ อาจบอกลาทีมหลังขบซีซัน

มาร์เซล ดอม ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ให้สัมภาษณ์กับ ทอล์คสปอร์ต ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ สตาร์วัย 2 ปีชาว เยอรมัน ของทัพ ห้างขายยา จะย้ายออกจากทีมในตลาดนักเตะรอบที่จะถึงนี้ท่ามกลางการจับตาของบิ๊กทีมทั่วยุโรปอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล

[ข่าวซื้อขาย] แมนฯ ยูไนเต็ดจัดหนัก ! อินดีเพนเดนท์เผย ผีแดง เร่งเครื่องดีล ซานโช, กรีลิช และ​ โรดอน

Jadon Sancho
SC Paderborn 07 v Borussia Dortmund – Bundesliga | Lars Baron/Getty Images

รายงานจาก ดิอินดีเพนเดนท์ สื่อใน อังกฤษ ระบุว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ทำงานอย่างหนักตลอดช่วงปิดเมืองที่ผ่านมาด้วยการดูวิดีโอเช็คฟอร์มนักเตะเป้าหมายและสื่อดังกล่าวได้ระบุชื่อนักเตะที่อยู่ในข่ายซึ่งได้แก่ เจดอน ซานโช, แจ็ค กรีลิข และ โจ โรดอน

ปีศาจแดง มีประวัติการเสริมทัพที่ฟอร์มการเล่นของนักเตะใหม่ไม่เป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับมูลค่าที่พวกเขาต้องจ่ายออกไปในช่วงหลังแต่จากสถานการณ์ใน ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่พิษเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อสโมสรฟุตบอลจนมีความเป็นไปได้สูงที่มูลค่าของแข้งเป้ามหายในตลาดนักเตะรอบนี้จะลดลงต่ำกว่าที่เคยเป็นโดยเฉพาะในกรณีของ แจ็ค กรีลิช ที่ต้นสังกัดอย่าง แอสตัน วิลลา สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นจาก พรีเมียร์ลีก

สื่อดังกล่าวคาดการณ์ว่า เร้ดเดวิลส์ จะได้ทุนคืนจากการปล่อยตัว ปอล ป็อกบา ออกจากทีมและเป็นหนึ่งในเหตุผลที่พวกเขาจะสามารถเดินหน้าเสริมทัพแข้งรายใหม่ได้อย่างไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวยังขึ้นอยุ่กับแนวทางการทำทีมของ โซลชา เมื่อ ผีแดง มี บรูโน เฟอร์นันเดส แข้งใหม่ที่สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในบทบาทกองกลางจอมทัพ แม้ว่าจะเพิ่งย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็ตาม แต่พวกเขาเชื่อว่า ยูไนเต็ด ยังมี กรีลิช และ ซานโช เป็นเเป้าหมายลำดับต้นๆ ในตลาดนักเตะรอบนี้

พวกเขาเปิดเผยโดยอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิด ปีศาจแดง โดยไม่เปิดเผยชื่อระบุว่าทีมได้เดินหน้าเต็มที่ในดีล ซานโช และเป็นทีมที่มีโอกาสคว้าตัวเขามาได้มากที่สุดโดยมีความเป็นไปได้สูงกว่าทั้งดีล กรีลิช และ โรดอน ด้วยซ้ำ

นอกจากนั้นทีมยังคงเล็งเซ็นเตอร์แบ็คอายุน้อยโดยมีเป้าหมายลำดับต้นๆ เป็น ดาโยต์ อูมาเมคาโน ของ แอร์เบ ไลป์ซิก และ คาลิดู คูลิบาลี สังกัด นาโปลี และยังมีข้อมูลเซอร์ไพรส์ที่ทีมแมวมองของพวกเขาได้ทำการวิเคราะห์และเสนอชื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง จากคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเป้าหมายอีกด้วย

โดย ปีศาจแดง หวังที่จะใช้โอกาสจากการที่ แมนฯ ซิตี้ อาจถูกโทษแบนห้ามแข่งขันในรายการ ยุโรป หากคำอุทธรณ์ของ เรือใบสีฟ้า ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา ไม่เป็นผลซึ่งผลพวงจากสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ สเตอร์ลิง พิจารณาความเป็นไปได้อื่นๆ ในเส้นทางค้าแข้งโดยมี เรอัล มาดริด จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน

อินดีเพนเดนท์ ยังเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกทีระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ เจสซี ลินการ์ด จะย้ายออกจากทีมตามรอย คริส สมอลลิง และ แอชลีย์ ยัง เมื่อเจ้าตัวได้ติดต่อสอบถามความเป้นไปกับอดีตเพื่อนร่วมทีมใน อิตาลี เป็นระยะตลอดช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางความสนใจจาก เอซี มิลาน