Category: RSS Thai

ข้อมูลการแข่งขัน

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง: นิวคาสเซิล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : เซนต์ เจมส์พาร์ค
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD1

ความพร้อมของทั้งสองทีม

นิวคาสเซิล

ทีมของ สตีฟ บรูซ ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในฤดูกาลนี้ด้วยการแพ้ไปเพียงเกมเดียวตลอด 7 นัดในฤดูกาลนี้ มี 7 คะแนนในลีกรั้งอันดับที่ 9 ของตาราง ณ ปัจจุบัน แต่ในเกมสุดสัปดาห์นี้พวกเขาต้องเจอของแข้ง ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มในซีซั่นนี้ค่อนข้างย่ำแย่ แถมดูเหมือนว่าสไตล์การเล่นแบบตั้งรับลึกและรอสวนกลับของเจ้าบ้าน จะเป็นแนวทางที่ ปีศาจแดง ยังคงแก้ไม่ตก ต้องมาลุ้นกันว่า ทัพสาลิกาดง จะสามารถฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากพวกเขาเฉียบขาดกันมากพอในจังหวะเข้าทำก็มีโอกาสที่จะคว้า 3 คะแนนมาครองได้ในเกมวันเสาร์นี้

สภาพที่ ณ ปัจจุบัน ยังมีตัวผู้เล่นบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ ทั้ง มาร์ติน ดูบราฟก้า และ แมทต์ ริทชี ที่จะลงสนามในเกมนี้ไม่ได้แน่นอนแล้ว ส่วนทางด้าน เคียรัน คลาร์ค จามอล คลาสเซิลล์ส จอมอล เลวิส มิเกล อัลไมรอน พอล ดัมเมตต์ และ อังเดร เยดลิน ยังคงต้องรอดูความพร้อมก่อนแกมจะเริ่มอีกครั้ง

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – ดาร์โลว
กองหลัง – คราฟท์, เฟอร์นันเดซ, ชาร์, เลวิส
กองกลาง – เฮนดริค, เชลวีย์, เฮย์เด้น, แซงต์-แม็กซิแม็ง
กองหน้า – โจลินตอน, วิลสัน

แมนฯ ยูไนเต็ด

ทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ฟอร์มยังไม่เข้าที่เข้าทางนักในฤดูกาลนี้ ล่าสุดพึ่งจะเปิดบ้านพ่ายให้กับ สเปอร์ส ไปแบบขาดลอย 1-6 ทำให้หล่นลงมารั้งอันดับที่ 16 ของตาราง มี 3 คะแนนจากการลงเล่น 3 เกม โดยวันเสาร์นี้ ปีศาจแดง มีคิวจะบุกไปเยือน เซนต์ เจมส์พาร์ค เป็นคู่ปิดท้าย ซึ่งเจ้าบ้านถือว่ากำลังทำผลงานได้ค่อนข้างดีในปัจจุบันโดยเฉพาะ อัลล็อง แซงต์ แม็กซิแม็ง ปีกความเร็วสูงที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุด ๆ แถมสไตล์การเล่นแบบตั้งรับลึกและรอสวนกลับของ สตีฟ บรูซ ดูจะเป็นแผนการที่ โซลชา จะไม่ชอบเท่าใดนักเพราะพวกเขามักจะไม่สามารถหาช่องเจาะทีมที่เล่นเกมรับที่มีพื้นที่ให้เล่นน้อย ๆ ได้ ต้องมาลุ้นกันว่า พลพรรคเร้ดเดวิลส์ จะกลับมาคืนฟอร์มเก่งในนัดนี้ได้หรือไม่ ตี 2 คืนวันเสาร์ รู้กัน !

สภาพทีมก่อนลงทำการแข่งขัน จะยังไม่สามารถใช้งาน ฟิล โจนส์ และ เซร์คิโอ โรเมโร ที่มีอาการบาดเจ็บอยู่ได้แน่นอนแล้ว เช่นเดียวกับ อ็องโตนี มาร์กซิยาล ที่ติดโทษแบนจากการโดนใบแดงในเกมก่อน ส่วนในรายของ เอดิสัน คาวานี ที่ยังคงอยู่ระหว่างการกักตัวนั่นจึงทำให้เขาจะพลาดการลงสนามช่วยทีมในเกมนี้เช่นกัน

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง

ผู้รักษาประตู – เด เคอา

กองกลัง – เทลเลส, แม็คไกวร์, ลินเดอเลิฟ, วาน บิสซาก้า

กองกลาง – มาติช, ป็อกบา, บรูโน

กองหน้า – มาต้า, แรชฟอร์ด, กรีนวูด

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 2
04/10/20 พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 1-6 สเปอร์ส
01/10/20 คาราบาว คัพ – ไบรท์ตัน 0-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
26/09/20 พรีเมียร์ลีก – ไบรท์ตัน 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
23/09/20 คาราบาว คัพ – ลูตัน 0-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
19/09/20 พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 1-3 คริสตัล พาเลซ

นิวคาสเซิล – ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
04/10/20 พรีเมียร์ลีก – นิวคาสเซิล 3-1 เบิร์นลีย์
30/09/20 คาราบาว คัพ – นิวพอร์ท 1-2 นิวคาสเซิล
27/09/20 พรีเมียร์ลีก – สเปอร์ส 1-1 นิวคาสเซิล
24/09/20 คาราบาว คัพ – มอร์แคมบ์ 0-7 นิวคาสเซิล
20/09/20 พรีเมียร์ลีก – นิวคาสเซิล 0-3 ไบรท์ตัน

เฮดทูเฮท – นิวคาสเซิล ชนะ 2 เสมอ 1 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3
27/12/19 พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 4-1 นิวคาสเซิล
06/10/19 พรีเมียร์ลีก – นิวคาสเซิล 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
03/01/19 พรีเมียร์ลีก – นิวคาสเซิล 0-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
06/10/18 พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 นิวคาสเซิล
11/02/18 พรีเมียร์ลีก – นิวคาสเซิล 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด

ครืสตัล พาเลซ ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก ได้คว้าตัว นาธาเนียล ไคล์น อดีตแบ็คขวาของ ลิเวอร์พูล เข้าทีมด้วยสัญญาถึงเดือนมกราคมแล้วตามรายงานของเว็ปไซต์สโมสร

นักเตะวัย 29 อยู่ในสถานะไร้สังกัดและสามารถเลือกซบทีมไหนก็ได้แบบฟรีๆ หลังจากถูก ลิเวอร์พูล ปล่อยหลังจบฤดูกาลที่แล้ว

โดย ไคล์น ได้ตามหาสโมสรใหม่อยู่ซักพักเนื่องจากยังอยากเล่นใน พรีเมียร์ลีก อยู่และ พาเลซ ก็คือตัวเลือกที่น่าสนใจ

ซึ่ง ไคล์น ก็เคยเป็นตัวหลักของ ลิเวอร์พูล รวมถึงติดทีมชาติอังกฤษหลายนัดก่อนกราฟชีวิตนักฟุตบอลจะตกลงหลังจากบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาวหลายเดือน

ขณะที่การย้ายเข้ารัง พาเลซ ครั้งนี้ก็ไม่ง่ายที่เขาจะเบียดตำแหน่งตัวจริงได้เพราะในทีมก็มีนักเตะที่เล่นแบ็คขวาได้ดีอย่าง โจเอล วอร์ด และ มาร์ติน เคลลี อยู่

การแข่งขัน : ยูฟ่า เนชันส์ลีก ลีกเอ นัดที่ 4
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 14 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 01.45 น.
คู่แข่งขัน : ทีมชาติอังกฤษ พบ ทีมชาติเดนมาร์ก
สนาม : เวมบลีย์
ช่องทางการรับชม : UEFA.tv

ความพร้อมของทั้งสองทีม

อังกฤษ

ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เก็บได้ 7 คะแนนใน 3 เกมแรก โดยนัดล่าสุดพึ่งจะเปิดบ้านเฉือนชนะ เบลเยียม มาได้ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนนเกมกลางสัปดาห์นี้พวกเขาต้องพบกับงานหนักด้วยการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติเดนมาร์ก ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงไม่แพ้กัน แถมยังกินกันไม่ลงเสมอกัน 0-0 ในเกมที่พบกันเมื่อเดือนก่อนอีกด้วย คาดว่า เซาธ์เกต จะสั่งให้ลูกทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่ตามฟอร์มโดยจะใช้ความเร็วของผู้เล่นริมเส้นเล่นงานแนวรับของคู่แข่งเป็นหลักในเกมนัดนี้ แต่สภาพทีมก่อนแข่งจะมีปัญหาเล็กน้อยในตำแหน่งแบ็คซ้ายที่ทั้ง ชิลเวลล์ และ ทริปเปียร์ มีอาการบาดเจ็บและไม่สามารถลงสนามในเกมนี้ได้เป็นที่แน่นอนแล้ว

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – พิคฟอร์ด
กองหลัง – วอล์คเกอร์, แมคไกวร์, ดายเออร์
กองกลาง – เจมส์, ไรซ์, เมานท์, เเมทเเลนด์-ไนล์ส
กองหน้า – แรชฟอร์ด, เคน, ซานโช

เดนมาร์ก

ทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ พึ่งจะคว้าชัยมาได้ในเกมล่าสุดด้วยการบุกไปเอาชนะ ไอซ์แลนด์ มาได้ขาดลอย 0-3 โดยก่อนหน้านั้นพวกเขาเก็บได้เพียง 1 คะแนนจากการเสมอกับ ทีมชาติอังกฤษ ในบ้าน 0-0 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเกมนี้พวกเขาต้องพบศึกหนักด้วยการต้องบุกมาเยือน เวมบลีย์ รังเหย้าของ ทัพทรีไลออน คาดว่า ทีมเยือนจะเน้นการตั้งรับให้รัดกุมเอาไว้ก่อน และอาศัยเกมโต้กลับเล่นงานแผงหลังของเจ้าบ้านในเกมวันนี้

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – ชไมเคิล
กองหลัง – สคอฟ, เคียร์, คริสเตนเซน, เวสส์
กองกลาง – ฮอยจ์เบิร์ก, เดลานีย์, เอริคเซน
กองหน้า – โพลเซน, ดอล์เบิร์ก, คอร์นีเลียส

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

อังกฤษ – ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 0
09/09/20 เนชั่นลีก – อังกฤษ 2-1 เบลเยียม
09/10/20 กระชับมิตร – อังกฤษ 3-0 เวลส์
09/09/20 เนชั่นลีก – เดนมาร์ก 0-0 อังกฤษ
05/09/20 เนชั่นลีก – ไอซ์แลนด์ 0-1 อังกฤษ
18/11/19 ยูโร – โคโซโว 0-4 อังกฤษ

เดนมาร์ก – ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1
12/10/20 เนชั่นลีก – ไอซ์แลนด์ 3-0 เดนมาร์ก
07/10/20 กระชับมิตร – เดนมาร์ก 4-0 หมูเกาะ แฟโร
09/09/20 เนชั่นลีก – เดนมาร์ก 0-0 อังกฤษ
06/09/20 เนชั่นลีก – เดนมาร์ก 0-2 เบลเยียม
19/11/19 ยูโร – ไอร์แลนด์ 1-1 เดนมาร์ก

เฮดทูเฮท – เดนมาร์ก ชนะ 2 เสมอ 1 อังกฤษ ชนะ 2
09/09/20 เนชั่นลีก – เดนมาร์ก 0-0 อังกฤษ
06/03/14 กระชับมิตร – อังกฤษ 1-0 เดนมาร์ก
10/02/11 กระชับมิตร – เดนมาร์ก 1-2 อังกฤษ
18/08/05 กระชับมิตร – เดนมาร์ก 4-1 อังกฤษ
16/11/03 กระชับมิตร – อังกฤษ 2-3 เดนมาร์ก

อาร์เซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีม อาร์เซนอล เผยเหตุที่ไม่เคยกลับไปดูทีมเก่าลงแข่งขันที่ เอมิเรตส์ สเตดียม เลยตั้งแต่ออกจากทีมไปในปี 2018

“มันเหมือนกับการมาถึงจุดสิ้นสุดของคนรักกัน” เวนเกอร์ กล่าวผ่าน The Guardian “และคุณเองก็ไม่สามารถพูดกับคนที่คุณรักได้อีกแล้ว”

“ผมไม่สามารถที่จะไปยังสนามซ้อม, ผมไม่สามารถที่จะไปยังสนามแข่งและทำได้แค่เพียงอยู่ในที่ของตัวเองเท่านั้น”

“มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น หลังจากที่ทำหน้าที่มาตลอด 22 ปีและต้องยุติมันลงในทันที นี่เป็นสิ่งที่ยากลำบากมากๆ”

“แต่ผมเองก็ต้องการตัดความสัมพันธ์กับสโมสรแบบเด็ดขาด เพราะสโมสรเองก็ต้องการแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจจะไม่กลับไปดูเกม แต่ก็ยังเชียร์ อาร์เซนอล ด้วยพาสชั่นเท่าเดิม”

“เมื่อคุณทำงานหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว หลังจากนั้นคุณก็จะไม่เสียใจร้องไห้, จะไม่ก่นด่าและจะสามารถอยู่กับมันได้ ละสิ่งที่ผมเป็นอยู่ก็คือการเจ็บปวดแบบเงียบๆ เท่านั้น”

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมขึ้นมาทันทีหลังจากที่มีข่าวตกเป็นเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 ทีมคู่แข่งใน พรีเมียร์ลีก ตามรายงานจาก มิเรอร์

อดีตผู้จัดการทีม ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ตกเป็นข่าวกับทีม ปีศาจแดง เมื่อสัปดาห์ก่อนหลังจากที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ด้วยการเปิดบ้านพ่ายให้กับ ไก่เดือยทอง ไปด้วยสกอร์ 6-1 ซึ่งเป็นกความพ่ายแพ้เกมที่ 2 จาก 3 นัดแรกของฤดูกาล

อย่างไรก็ตามอีกฟากฝั่งของเมืองก็มีข่าวว่า โปเช็ตติโน ถูกวางไว้เป็นทายาทคนต่อไปของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในช่วงซัมเมอร์นี้หลังจากที่นายใหญ่ชาวคาตาลันยังไม่มีทีท่าว่าจะต่อสัญญาใหม่กับ แมนฯ ซิตี้ ออกไป

กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ถูกทาง สเปอร์ส ไล่ออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่ผ่านมาเนื่องจกผลงานอันย่ำแย่แม้ว่าเขาจะพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อซีซัน 2018-2019 ก็ตาม

โปเช็ตติโน ได้ให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ว่าเขาต้องการที่จะกลับมาคุมทีมใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้งหลังจากที่พักชาร์จแบตไปเกือบปี

คาดกันว่าหากทั้ง 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ต้องการตัวผู้จัดการทีมวัย 48 ปีพวกเขาจะต้องทุ่มเงินมหาศาลให้พิจารณาต่อไป

การแข่งขัน : ยูฟ่า เนชันส์ลีก ลีกเอ นัดที่ 3
วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 23.00 น.
คู่แข่งขัน : ทีมชาติอังกฤษ vs ทีมชาติเบลเยียม
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
ช่องทางการรับชม : UEFA.tv

ความพร้อมของทั้งสองทีม

อังกฤษ

ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เก็บได้ 4 คะแนนใน 2 เกมแรกชนิดที่ฟอร์มการเล่นยังดูไม่ลงตัวนัก แต่ในนัดล่าสุดพวกเขาสามารถเอาชนะ เวลส์ ในเกมอุ่นเครื่อง 3-0 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสุดสัปดาห์นี้พวกเขาต้องพบกับงานหนักด้วยการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมอันดับหนึ่งของโลกอย่าง เบลเยียม ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง ด้วยการคว้าชัยชนะ 2 นัดรวดรายการนี้ คาดว่า เซาธ์เกต จะเน้นตั้งรับอย่างรัดกุมเอาไว้ก่อนจากนั้นอาศัยพื้นที่ว่างในแดนหลังของคู่แข่งและใช้ความเร็วของแนวรุกทั้งสองฝั่งเล่นงานแผงหลังของผู้มาเยือนในคืนวันอาทิตย์นี้

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – พิคฟอร์ด
กองหลัง –มิ้งส์, ไรซ์, ดายเออร์
กองกลาง -วอล์คเกอร์, วอร์ด-พราวส์, กรีลิช, ทริปเปียร์
กองหน้า – สเตอร์ลิง, เคน, ซานโช

เบลเยียม

ทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการนี้ด้วยการชนะ เดนมาร์ก 0-2 ในนัดแรกและถล่ม ไอซ์แลนด์ 5-1 ในเกมที่สอง แม้นัดล่าสุดพวกเขาจะทำได้แค่เสมอกับ ไอวอรี่ โคสต์ 1-1 ในเกมอุ่นเครื่องก็ตาม โดยนัดต่อไปพวกเขามีคิวต้องบุกไปเยือน ทัพทรีไลออน ทีมอันดับ 4 ของโลก แน่นอนว่า มาร์ติเนซ จะสั่งลูกทีมให้เปิดเกมบุกเข้าใส่ตามที่ถนัด แต่ก็ต้องมาดูกันว่าเกมรุกของพวกเขาจะดีพอที่จะเจาะทะลวงแนวรับอันดุดันของ สิงโตคำราม ในเกมนี้หรือไม่

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – มินโญเลต์
กองหลัง – คาสตานเญ, ดีเนเยอร์, อัลเดอร์ไวเรลด์, แฟร์ตองเก้น
กองกลาง – ติเลอม็อง, วิทเซล, เดอ บรอยน์
กองหน้า – เมอร์เทน, ลูกากู, เอเดน อาซาร์

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

อังกฤษ – ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 0
09/10/20 กระชับมิตร – อังกฤษ 3-0 เวลส์
09/09/20 เนชั่นลีก – เดนมาร์ก 0-0 อังกฤษ
05/09/20 เนชั่นลีก – ไอซ์แลนด์ 0-1 อังกฤษ
18/11/19 ยูโร – โคโซโว 0-4 อังกฤษ
15/11/19 ยูโร – อังกฤษ 7-0 มอนเตเนโกร

เบลเยียม – ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 0
09/10/20 กระชับมิตร – เบลเยียม 1-1 ไอวอรี่ โคสต์
09/09/20 เนชั่นลีก – เบลเยียม 5-1 ไอซ์แลนด์
06/09/20 เนชั่นลีก – เดนมาร์ก 0-2 เบลเยียม
20/11/19 ยูโร – เบลเยียม 6-1 ไซปรัส
17/11/19 ยูโร – รัสเซีย 1-4 เบลเยียม

เฮดทูเฮท – อังกฤษ ชนะ 3 เสมอ 0 เบลเยียม ชนะ 2
14/07/18 ฟุตบอลโลก – เบลเยียม 2-0 อังกฤษ
29/06/18 ฟุตบอลโลก – อังกฤษ 0-1 เบลเยียม
02/06/12 กระชับมิตร – อังกฤษ 1-0 เบลเยียม
10/10/99 กระชับมิตร – อังกฤษ 2-1 เบลเยียม
27/06/90 ฟุตบอลโลก – อังกฤษ 1-0 เบลเยียม

รายชื่อนักเตะที่ติดทีมชาติทั้งหมดของทั้งสองทีม

อังกฤษ

ผู้รักษาประตู – เฮนเดอร์สัน (แมนฯ ยูไนเต็ด) / พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน) / โป๊ป (เบิร์นลีย์)

กองหลัง – อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) / ดายเออร์ (สเปอร์ส) / โกเมซ (ลิเวอร์พูล) / คีน (เอฟเวอร์ตัน) / มิ้งส์ (วิลลา) / ทริปเปียร์ (แอตฯ มาดริด) / วอร์คเกอร์ (แมนฯ ซิตี้) / โคอาดี้ (วูล์ฟส์) / ชิลเวลล์ (เชลซี) / เจมส์ (เชลซี)

กองกลาง – เมานท์ (เชลซี) / ฟิลลิปส์ (ลีดส์) / ไรซ์ (เวสต์แฮม) / วอร์ด-พราวส์ (เซาต์แธมป์ตัน) / เมทแลนด์-ไนล์ส (อาร์เซนอล) / กรีลิช (วิลลา) / บาร์นส์ (เลสเตอร์) / เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล) / ซาก้า (อาร์เซนอล) / วิงค์ส (สเปอร์ส)

กองหน้า – อับราฮัม (เชลซี) / อิงส์ (เซาต์แธมป์ตัน) / เคน (สเปอร์ส) / ซานโช (ดอร์ทมุนด์) / คาล์เวิร์ต-เลวิน (เอฟเวอร์ตัน) / แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

เบลเยียม

ผู้รักษาประตู – กูร์ตัวส์ (เรอัล มาดริด) / มินโญเลต์ (อันเดอร์เลชท์) / ฟาน ครอมบรูจจ์ (อันเดอร์เลทช์) / คาสตีลส์ (โวล์ฟบวร์ก)

กองหลัง – อัลเดอร์ไวเรลด์ (สเปอร์ส) / ดีนาเยอร์ (ลียง) / แฟร์ตองเก้น (เบนฟิก้า) / คาสตานเญ (เลสเตอร์) / มิเคเล (คลับ บรูจจ์) / ฟานฮาวเซน (สตองดาร์ด) / บอร์นาว (โคโลญจน์) / โบยาต้า (แฮร์ธา) / มูนิเยร์ (ดอร์ทมุนด์)

กองกลาง – วิทเซล (ดอร์ทมุนด์) / เดนดองเคอร์ (วูล์ฟส์) / เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้) / ติเลอม็อง (เลสเตอร์) / วานาเคน (คลับ บรูจจ์) / เวอร์สเชเรน (อันเดอร์เลทช์) / ปราต (เลสเตอร์) / เซเลเมเกอร์ (มิลาน) / คาเยมเบ้ (ชาร์เลอรัว) / ชาดลี (บาซักเซฮีร์)

กองหน้า – ลูกากู (อินเตอร์) / เอเดน อาซาร์ (เรอัล มาดริด) / คาร์ราสโก้ (แอตฯ มาดริด) / ดูกู (อันเดอร์เลทช์) / เมอร์เทน (นาโปลี) / ทรอสซาร์ด (ไบรท์ตัน) / บัทชัวยี (คริสตัล พาเลซ) / เบนเตเก้ (คริสตัล พาเลซ) / โอริกี้ (ลิเวอร์พูล) / ลูเก้บาคิโอ (แฮร์ธา)

การแข่งขัน : ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหสับดีที่ 8 ตุลาคม 2020
ผลการแข่งขัน : อังกฤษ 3-0 เวลส์
สนาม : เวมบลีย์

โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน สังหารประตูในเกมเดบิวต์ทีมชาติ อังกฤษ พาพลพรรค ทรีไลอ้อนส์ เปิดรัง เวมบลีย์ ไล่ถล่ม เวลส์ 3-0

หัวหอกฟอร์มฮ็อตจาก เอฟเวอร์ตัน แห่งศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ พังประตูที่ 10 ในฤดูกาลนี้หลังเกมผ่าน 26 นาทีจากการแอสซิสต์ของ แจ็ค กรีลิช เป็นประตูเบิกร่อง

กรีลิช ยังมีส่วนร่วมกับการได้ประตู 2-0 เมื่อเป็นคนเรียกฟาวล์ให้กับ สิงโตคำราม นาทีที่ 53 ที่บริเวณริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่ คีแรน ทริปเปียร์ จะเปิดฟรีคิกไปที่เสาสองเข้าเท้าของ คอเนอร์ โคอาดี้ เข้าชาร์จตุงตาข่าย ก่อนที่ แดนนี อิงส์ จะจักรยานอากาศลูกโหม่งชงของ ไทโรน มิงส์ เป็นประตูปิดกล่อง 3-0 ในอีก 10 นาทีให้หลัง

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
อังกฤษ : โป๊บ; โกเมซ (มิงส์ 58′), โคอาดี้, คีน; ทริปเปียร์ (เจมส์ 58′), ฟิลลิปส์, วิงค์ส (วอร์ด-เพราส์ 75′), ซาก้า (เมตแลนด์-ไนลส์ 76′); อิงส์, คาลเวิร์ต-เลวิน (เมาท์ 58′), กรีลิช (บาร์นส 75′)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน : อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฮนเดอร์สัน, แม็คไกวร์, พิคฟอร์ด, แรชฟอร์ด, ไรซ์

เวลส์ : เฮนเนสซี; โรเบิร์ตส (กันเทอร์ส 73′), โรดอน (คาบังโก้ 46′), อัมปาดู (วอลค์ส 62′), เดวีส์; มอร์เรลล์ (เลวิตต์ 46′), เมปแฮม, วิลเลียมส์ (สมิธ 73′); โรเบิร์ตส , มัวร์ (วิลเลียมส์ 40′), มาทอนโด้
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน : เดวีส์, เจมส์, จอห์นสัน, นอร์ริงตัน-เดวีส์, วอร์ด, วูดเบิร์น

การแข่งขัน : ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ

วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2020

เวลาแข่งขัน : 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย

ผลการแข่งขัน : เยอรมัน 3-3 ตุรกี
สนาม : รีนเอเนอร์จี้ สตาดิโอน

ทีมชาติเยอรมัน เปิดบ้านเสมอกับ ตุรกี สุดมัน 3-3 โดยได้ประตูจาก ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ นาทีที่ 45 ฟาเรียน นูเฮาส์ นาทีที่ 58 และ จิอันลูก้า วัลด์ชมิดท์ นาทีที่ 81 ส่วนทีมเยือนได้ประตูจาก โอซาน ตูฟาน นาทีที่ 50 อีฟีชาน คาราก้า นาทีที่ 67 และ คานัน คารามัน มายิงตีเสมอในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+5 จบเกม อินทรีเหล็ก ทำได้แค่เสมอกับ ทัพไก่งวง 3-3

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เยอรมัน เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกได้ค่อนข้างชัดเจนกว่า และมีโอกาสส่งบอลไปตุงตะข่ายได้ก่อนในนาทีที่ 6 จากจังหวะซ้ำจ่อ ๆ ของ ดรักซ์เลอร์ แต่ถูกจับล้ำหน้าไป

นาทีที่ 11 ตุรกี มีโอกาสลุ้นบ้านจากลูกฟรีคิกทางกราบขวาและเป็น คาราก้า ที่เก็บตกได้ซัดในกรอบเขตโทษ แต่ยังยิงไปติดบล็อคของกองหลังเจ้าถิ่น

นาทีที่ 14 เจ้าบ้านได้ลุ้นจากลูกยิงไกล นูเฮาส์ ยิงไกลนอกกรอบแต่ยังไปตรงตัวผู้รักษาประตู

นาทีที่ 18 ทีมเยือนได้ลองส่องไกลจาก ยูซุฟ ยาซิซี แต่ เลโน ยิงบินมาเซฟเอาไว้ได้

เจ้าถิ่นได้โอกาสจบอีกครั้งจากการเลี้ยงลุยทางกราบขวาของ ชาน ก่อนเปิดมาให้ ชูลซ์ แต่งบอล 1 จังหวะก่อนยิงเต็มข้อหลุดเสาออกไปในนาทีที่ 22

นาทีที่ 26 ทัพอินทรีเหล็ก เหือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะยิงของ ยูเลียน บรันดท์ แต่เป็นอีกครั้งที่ กูนอค ยังเซฟเอาไว้ได้

ผ่าน 30 นาทีแรกยังคงเป็น เยอรมัน ที่ครองบอลได้มากกว่า ส่วนทีมเยือนตุรกี ก็พอจะหาจะหวะลุ้นได้จากการโต้กลับ

ช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านได้จังหวะยิงบริเวณเส้นกรอบเขตโทษของ ลูก้า วัลด์ชมิดท์ แต่ยังไปติดเซฟของนายทวารตุรกีอีกครั้ง

เกมทำท่าจะจบครึ่งแรกด้วยผลเสมอแต่แล้วช่วงทดเวลา เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะตัดบอลได้กลางสนามก่อนที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จะจ่ายต่อให้กับ ดรักซ์เลอร์ หลุดเข้าไปยิงสวนตัว กูนอค เข้าไป

ทำให้จบ 45 นาทีแรก อินทรีเหล็ก ออกนำ 1-0

เริ่มเกมในครึ่งหลังได้เพียง 5 นาที ผู้มาเยือนตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะปั่นนอกกรอบของ โอซาน ตูฟาน บอลโค้งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างงดงาม

ไม่กี่นาทีต่อมา ตุรกี ได้ลุ้นขึ้นนำจากจังหวะยิงของ อุนเดอร์ ตัวสำรอง แต่ เลโน ยังเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้

หลังจากนั้นเจ้าถิ่นพยายามบุกเข้าใส่อย่างหนักและขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีที่ 58 จากจังหวะต่อบอลเข้าเขตโทษ ฮาเวิร์ตซ์ จ่ายต่อให้ นูเฮาส์ ยิงโล่ง ๆ เข้าไป

ไม่กี่นาทีต่อจากนั้น เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูที่สามจากจังหวะยิงบริเวณจุดโทษของ ฮาเวิร์ตซ์ แต่ยังไปติดเซฟของผู้รักษาประตู

นาทีที่ 67 ทีมเยือนตีเสมอเป็น 2-2 ได้อีกครั้ง จากจังหวะตัดบอลได้หน้าเขตโทษทำให้ คาราก้า หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ เลโน ก่อนจะยิงเล่นทางเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าบ้านพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้นหวังเอาประตูขึ้นนำอีกครั้งและก็ทำได้สำเร็จในนาทีที่ 82 จากจังหวะที่แนวรับทีมเยือนสะกัดบอลไม่ขาดโหม่งไปเข้าทาง วัลด์ชมิดท์ พักบอลก่อนวอลเล่ด้วยขวา บอลพุ่งแรงทำให้ผู้รักษาประตูปัดไม่พ้นเข้าประตูไป

ท้ายเกมทีมเยือนเกือบตีเสมอได้ จากจังหวะตัดบอลได้หน้าเขตโทษเจ้าบ้าน แต่ คารามัน กลับซัดไปชนคานอย่างจังพลาดโอกาสได้ประตูที่สามไป

เกมเหมือนจะจบด้วยชัยชนะของ ทัพอินทรีเหล็ก แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ผู้มาเยือนตีเสมอเป็น 3-3 ได้สำเร็จจากจังหวะต่อบอลเข้าเขตโทษ และเป็น โอมัวร์ เคาะคืนมาที คารามัน ได้ยิงโล่ง ๆ เข้าไป

ทำให้จบเกม เยอรมัน เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ ตุรกี ไป 3-3

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

เยอรมัน : เลโน, คอช, รือดิเกอร์, ชาน, เฮนริชส์, ชูลซ์, นูเอาส์, บรันดท์, ฮาเวิร์ตซ์, ดรักซ์เลอร์, วัลด์ชมิดท์

ตัวสำรอง : แทรปป์, ฮอฟมันน์, กูเซนส์, กินเทอร์, ทาห์, โคลสเตอร์มันน์, ดาฮูด, สตาร์ค, อามิรี

ตุรกี : กูนอค, ซานกาเร, อยาน, เดมิรัล, คัลดิริม, โยกูสลู, ตูฟาน, คาราก้า, ยาซิซี, คิลลินค์, อูนัล

ตัวสำรอง : อัคคาน, คาเคอร์, คาบัค, คารามัน, ค็อคคู, คูตูคู, เมราส, มูลดูร์, โอมัวร์, เทคเดอเมียร์

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ใช้เวลาทั้งช่วง ตลาดซื้อขายนักเตะ ซัมเมอร์ไล่ล่าตัว เจดอน ซานโช จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่แม้ว่าทัพ เสือเหลือง จะแสดงท่าทีชัดเจนถึงมูลค่าข้อเสนอระดับที่พวกเขาต้องการแต่จนแล้วจนรอดดีลดังกล่าวก็ไม่ใกล้ความจริงแม้แต่น้อย

ทัพ ปีศาจแดง ได้โฟกัสไปที่การพยายามคว้าตัว ซานโช มาร่วมทัพโดยลดระดับความสำคัญของดีลอื่นทั้งหมด (นอกเสียจากการคว้า ดอนนี ฟาน เดอ เบค จาก อาแจ็กซ์) รวมทั้งใช้ทรัพยากรที่มีทั้งหมดของพวกเขาในการตั้งโต๊ะเจรจาร่วมกับพวกเขา

รายงานจาก ดิแอธเลติก ระบุว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา ได้โน้มน้าว เอ็ด วูดเวิร์ด รองผู้อำนวยการพลพรรค เร้ดเดวิลส์ ถึงความสำคัญของดีล ซานโช อย่างต่อเนื่อง แต่แนวทางในการเสริมทัพของพวกเขาทำให้ ปีศาจแดง ไม่สามารรถปิดดีลดังกล่าวได้แต่อย่างใด

แม้กระทั่งเมื่อถึงเวลาที่ตลาดนักเตะได้เปิดเป็นที่เรียบร้อย ยูไนเต็ด ได้เดินหน้าติดต่อกับ ดอร์ทมุนด์ และได้รับคำตอบว่าวันเดอร์คิดวัย 20 ปีทีมชาติ อังกฤษ มีมูลค่า 108 ล้านปอนด์ โดย แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่าพวกเขาสามารถเจรจาประนีประนอมมูลค่าดังกล่าวลงมาได้ รวมทั้งยังแสดงท่าทีชัดเจนต่อแหล่งข่าวว่าจะบรรลุข้อตกลงคว้า ซานโช มาร่วมทัพได้ในที่สุด

ทัพ ผีแดง เชื่อเองว่าพวกเขาจะสามารถกดดันให้ ดอร์ทมุนด์ ตอบรับข้อเสนอต่ำกว่ามูลค่าที่พวกเขาต้องการได้แต่ยักษ์แห่งศึก บุนเดสลีกา ไม่เคยให้การตอบรับถึงข้อเสนอใดๆ ที่ต่ำกว่า 108 ล้านปอนด์อย่างชัดเจน

ถึงเวลานี้ ดอร์ทมุนด์ เริ่มที่จะหัวเสียต่อการดำเนินการเจรจาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่ยอมจ่ายค่าตัวของ ซานโช อย่างที่พวกเขาต้องการ โดยเมื่อ เสือเหลือง ประกาศออกสื่อเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมว่า ยูไนเต็ด ล้มเหลวที่จะยื่นข้อเสนอในมูลค่าดังกล่าวก่อนเส้นตายที่พวกเขากำหนดขึ้นก่อนแคมป์ฝึกซ้อมช่วงปรีซีซัน และดาวเตะวัยกระเตาะจะค้าแข้งกับต้นสังกัดต่อไป นั่นทำให้ ปีศาจแดง ได้ต่อสายตรงไปยัง ดอร์ทมุนด์ ถึงความเป็นมาในประเด็นดังกล่าวก่อนที่พวกเขาจะตกตะลึงเมื่อท่าทีดังกล่าวของ เสือเหลือง ผ่านสื่อเป็นความจริง

บทความดังกล่าวโดย แอธเลติก ประเทศ อังกฤษ ชี้ว่าหลังจากผ่านเส้นตายที่ ดอร์ทมุนด์ ผ่านไปแล้วนั้นยังมีการหารือพูดคุยระหว่างทั้ง 2 สโมสรอยู่บ้างโดยที่ได้ว่าจ้างตัวกลางคอยประสานงานระหว่างพวกเขา ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่า ดอร์ทมุนด์ ต้องการแสดงท่าทีผ่านสื่อว่าพวกเขาไม่ต้องการเจรจาลดระดับค่าตัว ซานโช แต่อย่างใด โดยที่ เสือเหลือง ตอบโต้ปฎิเสธพร้อมกับชี้ว่าพวกเขาต้องการตั้งโต๊ะเจรจาแบบเห็นหน้ากันมากกว่าพูดคุยผ่านช่องทางอื่น

หนึ่งในข้อเสนอที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยื่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผ่านคนกลางเป็นดีลมูลค่าราว 80 ล้านปอนด์ซึ่งได้รับการปฎิเสธอย่างไม่ใยดี ทำให้ตัว ซานโช เองเริ่มมีความรู้สึกว่า ปีศาจแดง ประเมินคุณค่าเขาต่ำเกินไปแม้ว่าทีมของ โซลชา จะใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าตัวมูลค่ามหาศาลเท่านั้น

สำนักข่าวดังกล่าวอธิบายเพิ่มว่าแม้ท้ายที่สุด ยูไนเต็ด จะยื่นข้อเสนอระดับ 108 ล้านปอนด์อย่างที่ ดอร์ทมุนด์ ต้องการแต่ตัว ซานโช เองจะรู้สึกสับสนว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงไม่พยายามคว้าตัวเขาให้เร็วกว่านี้

ซานโช มีท่าทีต้องการย้ายไปเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ไม่ถึงในระดับที่จะแตกหักกับต้นสังกัดอย่างที่ ยูไนเต็ด เชื่อว่าเขารู้สึกเช่นนั้น ทัพ เร้ดเดวิลส์ เปิดเผยกับสื่อในฉากหลังว่า ซานโช พร้อมที่จะมุ่งสู่ โรงละครแห่งความฝัน แต่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกขนาดนั้นแต่อย่างใด

ดอร์ทมุนด์ ใช้เวลาทั้งซัมเมอร์หัวเสียกับท่าทีของ แมนฯ ยูไนเต็ด และแทบจะไม่ตอบรับสายโทรศัพท์ของ ปีศาจแดงเลย พร้อมกับยืนยันถึงความต้องการของพวกเขาตั้งแต่ต้นก่อนที่ เอ็ด วูดเวิร์ด และพรรคพวกจะรู้สึกตัวก็ถึง 2 วันสุดท้ายของตลาดนักเตะเป็นที่เรียบร้อยเมื่อพวกเขาเบนเข็มไปที่นักเตะอย่าง อุสมาน เดมเบเล และ อิสไมลา ซาร์

อาร์เซนอล ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก ประกาศคว้าตัว โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางตัวรับชาวกานาวัย 27 ปีจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าฉีกสัญญาราว 45 ล้านปอนด์เป็นที่เรียบร้อย

หลังจากประสบความสำเร็จมาพอสมควรในการค้าแข้งที่ ลาลีกา ทั้งกับ มายอร์ก้า อัลเมเรีย และ แอตเลติโก มาดริด ในที่สุดกองกลางวัย 27 ปีรายนี้ก็เลือกจะย้ายมาหาความท้าทายใหม่ในเกาะอังกฤษ

โดย ปาร์เตย์ จะเซ็นสัญญาในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นเวลา 4 ปีด้วยกัน และจะสวนเสือ้หมายเลข 18 ลงเล่นให้กับ ทีมปืนใหญ่ ในฤดูกาลนี้

มิเกล อาร์เตต้า กล่าวถึงดีลนี้ว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เราจับตาดูเขามาเป็นเวลานานพอสมควร และเขาคือกองกลางระดับโลกที่เรากำลังตามหา ทั้งพละกำลัง ความดุดัน รวมถึงทัศนคติ ผมหวังว่าเขาจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นและสร้างประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกับสโมสรได้ในอนาคต”