พรีวิวพรีเมียร์ลีก, วัน+เวลาการแข่งขัน, คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง และถ่ายทอดสด

เอฟเวอร์ตัน พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พรีวิว พรีเมียร์ลีก ถ่ายทอดสด Everton vs Manchester United Premier League Preview
เอฟเวอร์ตัน พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พรีวิว พรีเมียร์ลีก ถ่ายทอดสด Everton vs Manchester United Premier League Preview

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21 
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : เอฟเวอร์ตัน พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : กูดิสัน พาร์ค
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1, PPTV HD36

ความพร้อมของทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน
ลูก้าส์ ดีญ พ้นจากโทษแบนกลับมามีชื่อช่วยทีมได้ในเกมนี้แต่ คาร์โล อันเชลอตติ จะยังไม่สามารถใช้งาน ริชาร์ลิซอน ที่ได้รับใบแดงมาจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ได้

ฮาเมส โรดริเกวซ คีย์แมนในแดนกลางของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน พลาดการลงเล่นในช่วงสุดสัปดาห์จากปัญหาอาการบาดเจ็บโดยยังต้องรอลุ้นเช็คฟิคจนถึงนาทีสุดท้ายสำหรับเกมหวด ปีศาจแดง

เชมุส โคลแมน ที่มีอาการเดี้ยงก่อนหน้านี้มีชื่อกับทีมชาติ ไอร์แลนด์ ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าเขาจะพร้อมสำหรับการดวลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม อันเดร โกเมส และและ เบ็น ก็อดฟรีย์ มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู : พิคฟอร์ด
กองหลัง : โคลแมน, มินา, คีน, ดีญ
กองกลาง : ดูกูเร, อัลลัน, เดลฟ์
กองหน้า : โรดริเกวซ, คาลเวิร์ต-เลวิน, อิโวบี

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อองโตนี มาร์กซิยาล เพิ่งรับใช้โทษแบน 3 นัดติดต่อกันเสร็จสิ้นเรียบร้อยและสามารถกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้ในเกมนี้ ขณะที่ อเล็กซ์ เตลเลส ยังคงต้องรอไฟเขียวจากการติดเชื้อ โควิด-19 และคาดว่าจะยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้

วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ พลาดการลงเล่นในเกมเมื่อกลางสัปดาห์จากปัญอาการบาดเจ็บที่หลังและยังคงต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง ขณะที่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด และ ปอล ป็อกบา คาดว่าน่าจะสามารกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : เด เคอา
กองหลัง : วาน-บิสซาก้า, ลินเดเลิฟ, แม็คไกวร์, ชอว์
กองกลาง : แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด
กองกลางตัวรุก : กรีนวูด, บรูโน, แรชฟอร์ด
กองหน้า : มาร์กซิยาล

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เอฟเวอร์ตัน – ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
1 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – นิวคาสเซิล 2-1 เอฟเวอร์ตัน
25 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก – เซาแธมป์ตัน 2-0 เอฟเวอร์ตัน
17 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก – เอฟเวอร์ตัน 2-2 ลิเวอร์พูล
30 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก – เอฟเวอร์ตัน 4-2 ไบรท์ตัน
1 ตุลาคม คาราบาว คัพ – เอฟเวอร์ตัน 4-1 เวสต์แฮม

แมนฯ ยูไนเต็ด – ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
5 พฤศจิกายน แชมเปี้ยนส์ลีก – บาซัคเซฮีร์ 2-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
1 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 อาร์เซนอล
29 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 5-0 แอร์เบ ไลป์ซิก
24 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 เชลซี
21 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก – เปแอสเช 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด

เฮดทูเฮด – เอฟเวอร์ตัน ชนะ 1 เสมอ 2 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2
1 มีนาคม 2020 พรีเมียร์ลีก – เอฟเวอร์ตัน 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
15 ธันวาคม 2019 พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เอฟเวอร์ตัน
21เมษายน 2019 พรีเมียร์ลีก – เอฟเวอร์ตัน 4-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
28 ตุลาคม 2018 พรีเมียร์ลีก – แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เอฟเวอร์ตัน
2 มกราคม 2018 พรีเมียร์ลีก – เอฟเวอร์ตัน 0-2 แมนฯ ยูไนเต็ด

[Match Report] ปืน ฮ็อตครึ่งหลัง ! อาร์เซนอล เปิดบ้านรัวถล่ม โมลด์ 4-1 ศึก ยูโรปาลีก

Joe Willock, Bukayo Saka
Arsenal FC v Molde FK: Group B – UEFA Europa League | Julian Finney/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 4-1 โมลด์
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซนอล เก็บชัยชนะในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่มเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันเก็บ 9 คะแนนเต็มหลังผ่าน 3 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่มหลังเปิดบ้านเอาชนะ โมลด์ ผู้มาเยือนจาก นอร์เวย์ ด้วยสกอร์ขาดลอย 4-1

ไอ้ปืนใหญ่ ออกสตาร์ทด้วยการเป็นฝ่ายครอบครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจนทว่าไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสอย่างถนัดถนี่ได้ กระทั่งมาถูกทีเด็ดของ มาร์ติน เอลลิงเซน ปั่นโค้งด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ บอลกระดอนพื้นผ่านมือ แบร์นด เลโน ไปซุกที่ก้นตาข่ายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของผู้มาเยือนในนาทีที่ 22

อย่างไรก็ตาม ก่อนจบครึ่งแรกเพียงไม่กี่อึดใจ เดอะกันเนอร์ส อาศัยจังหวะสวนกลับเร็วจากลูกเตะมุมและเป็น เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้บอลจาก กรานิท ชาก้า ควบเข้าหากรอบเขตโทษก่อนผ่านเข้ากลางหวังจะให้ โจ วิลล็อค เข้าแท็ปอินแต่ไปติดการสกัดของ คริสตอฟเฟอร์ เฮาเก้น ทว่าบอลเจ้ากรรมไหลสู่ประตูตัวเองโล่งทำให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 ก่อนจบครึ่งแรก

เจ้าบ้านแซงขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 62 โดยเป็นช็อตที่ วิลล็อค ได้บอลหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในกรอบเขตโทษ ก่อนพยายามเปิดยัดกลับมาที่ในกรอบ 6 หลา เชอริฟฟ์ ซินยาน พยายามตัดบอลก่อนไปถึงเสาสองแต่สกัดผิดเหลี่ยม และเป็นประตูของเจ้าถิ่น

ปืนโต ทิ้งห่างเป็น 3-1 อีก 7 นาทีถัดมาเมื่อ บูคาโย ซาก้า หลุดขึ้นไปที่กราบซ้ายสุดเส้นก่อนตบกลับมาที่บริเวณหัวกระโหลกให้ นิโกลาส์ เปเป้ วิ่งเข้ามายิงเลียดด้วยซ้าย ตามด้วยประตูตอกฝาโลง 4-1 ในนาทีที่ 88 จากการแทงคิลเลอร์พาสของ เปเป้ ให้ วิลล็อค หลุดเข้าไปล่อเป้าเหน่งๆ

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
อาร์เซนอล: เลโน, มุสตาฟี, ลุยซ์, ชาก้า, เมตแลนด์-ไนลส์, เซบายอส, วิลล็อค, โคลาซินาช, เปเป้, เอ็นเคเทียห์, วิลเลียน
ตัวสำรอง: รูนาร์สสัน, เมซีย์, เบเยริน, เทียร์นีย์, กาเบรียล, โฮลดิ้ง, เซดริค, ปาร์เคย์, เอลเนนี, ซาก้า, ลากาเซ็ตต์, โอบาเมยอง

โมลด์: ลินเด, วินโก, บยอร์นบัค, เกรเกอร์เซน, เฮาเก้น, เออร์สเนส, ฮุสเซน, เอลลิงเซน, ไอเคร็ม, โบลลี, โอโมยฮวนโฟตัวสำรอง: เครนินซ์, แรนมาร์ค, ริซา, ซินยาน, โฮล์มเกร็น, มอสตรอม, คริสเตนเซน, คนุดท์ซอน, ไบรน์ฮิลด์เซน, เจมส์

[Match Report] สิงห์ ชนะชิล ๆ ! เชลซี เปิดบ้านถล่ม แรนส์ 3-0 เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

Chelsea FC v Stade Rennais: Group E - UEFA Champions League
Chelsea FC v Stade Rennais: Group E – UEFA Champions League | Pool/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รองแบ่งกลุ่ม 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : เชลซี 3-0 แรนส์
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เชลซี เปิดบ้านอัด แรนส์ 10 คน ไปขาดลอย 3-0 โดยได้สองประตูจากจุดโทษของ ติโม แวร์เนอร์ นาทีที่ 10 กับ 41 และ แทมมี อับราฮัม มายิงปิดท้ายนาทีที่ 50 ส่วนทีมเยือนเป็น ดอลเบิร์ท ที่มาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงตั้งแต่นาทีที่ 40 ทำให้จบเกม สิงห์บลู คว้า 3 แต้มได้สำเร็จ รั้งอันดับ 1 ของกลุ่มอี มี 7 คะแนนเท่ากับทีมอันดับสอง เซบีญา ที่ตามมาติด ๆ

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมพยายามตั้งเกมบุกของตัวเอง แต่เป็นเจ้าถิ่นที่มาได้จุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 9 จากการที่ แวร์เนอร์ ถูกทำฟาวล์ล้มลงในกรอบเขตโทษ และเป็นเจ้าตัวที่ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปไม่พลาด

หลังจากขึ้นนำ สิงห์บลู ยังคงพยายามบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังหาโอกาสลุ้นเข้าทำไม่ได้ ส่วนทีมเยือนเองก็เปิดเกมบุกแลกกับเจ้าบ้านได้ดีแต่ยังคงไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูเช่นกันในช่วง 30 นาทีแรก

กระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษอีกครั้งจากจังหวะแฮนด์บอล และนั่นทำให้ ดอลเบิร์ท โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป จากนั้นเป็น แวร์เนอร์ คนเดิมที่สังหารเข้าไปในนาทีที่ 41

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลังไปได้เพียง 5 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะที่ เจมส์ หลุดมาทางกราบขวาก่อนตบเข้ากลางให้ อับราฮัม ชาร์จจ่อ ๆ เข้าไป

หลังจากนั้นก็เป็นเจ้าบ้านที่สามารถคุมเกมเอาไว้ในกำมือได้ทั้งหมด และเกือบมีจังหวะได้ประตูที่ 4 จากการเปิดของ เจมส์ มาให้กับ แวร์เนอร์ แต่ถูกสะกัดเปลี่ยนทางออกไปได้อย่างหวุดหวิดในนาทีที่ 67

จากนั้นไม่นานทีมเยือนมีลุ้นบ้างจากลูกยิงในกรอบของ โดกู แต่ยังยิงไปตรงตัวของ เมนดี้

นาทีที่ 73 สิงห์บลู ได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะตัดบอลได้หน้าเขตโทษ เจมส์ จ่ายต่อให้ ชิรูด์ หลุดดี่ยว แต่กลับยิงไปติดเซฟของ โกมิส อย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 83 ผู้มาเยือนได้ลุ้นบ้างจาก เกรนิแยร์ แต่ยังยิงไปติดเซฟของ เมนดี้ อีกครั้ง

ช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านยังคงหาโอกาสเข้าทำอย่างต่อเนื่องและเกือบทำประตูได้จากลูกโหม่งโล่ง ๆ ของ ชิรูด์ แต่บอลหลุดกรอบออกไป

ทำให้จบเกม เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ แรนส์ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนไปได้แบบสบาย ๆ 3-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี : เมนดี้, เจมส์, ซิลวา, ซูมา, ชิลเวลล์, จอร์จินโญ, ก็องเต้, เมานท์, ซิเยค, อับราฮัม, แวร์เนอร์

ตัวสำรอง : กาบาเยโร, ซิเกอร์, อลอนโซ, คริสเตนเซน, อัซปิลิกวยต้า, เอเมอร์สัน, โทโมรี, โควาชิช, โอดอย, ชิรูด์

แรนส์ : โกมิส, ตราโอเร, ดา ซิลวา, อากูอาร์ด, ดอลเบิร์ท, บูริกัวด์, เอ็น ซอนซี, ลีอา ซิลิกี, กาโบโฮ, กุยราสซี, เทอร์ริแอร์

ตัวสำรอง : โบเน็ต, ซาลิน, อัสซิกนอน, คาสติลโล, โดกู, เกรนิแยร์, ฮูนู, แยมซี, โอมารี, รัตเทอร์, ทรัฟเฟิร์ต, อูโกชูควู

[Player Ratings] โจต้า แฮททริก ! ตัดเกรดแข้ง ลิเวอร์พูล เกมบุกยำ อตาลันต้า 0-5 เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนวาน

Diogo Jota
Atalanta BC v Liverpool FC: Group D – UEFA Champions League | Emilio Andreoli/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : อตาลันต้า 0-5 ลิเวอร์พูล
สนาม : เกวิสส์ สเตเดี้ยม

คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล

อลิสซอน เบ็คเกอร์ – 7/10
แม้จะไม่เจอกดดันมากนัก แต่ก็มีจังหวะเซฟสวย ๆ ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูในเกมนี้อยู่บ้าง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังที่ ซาปาต้า ได้โอกาสลองส่องหลายครั้ง แต้ยังป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ – 7.5/10
หนักไปทางเกมรับในเกมวันนี้ และแทบไม่มีจังหวะได้เติมเกมขึ้นสูงบ่อยนัก อย่างไรก็ตามวันนี้ทำได้ 1 แอสซิสต์ จากประตูแรกที่วางยาวให้ โจต้า หลุดเข้าไปยิงตั้งแต่นาทีที่ 16

โจ โกเมซ – 7/10
วันนี้ถือว่าทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดีจนพาทีมเก็บคลีนชีทเอาไว้ได้ แต่ก็ยังดูจะมีปัญหาในการรับมอ ซาปาต้า หัวหอกของเจ้าบ้านโดยเฉพาะในครึ่งหลังที่มักจะเอาไม่อยู่ในการดวลตัวต่อตัว

รีส วิลเลียมส์ – 7/10
ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ดูจะนิ่งพอสมควรในจังหวะเข้าสะกัด รวมถึงลูกกลลางอากาศ ซึ่งก็ไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ ให้เห็นในวันนี้

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – 7/10
เช่นเดียวกับ เทรนต์ ที่วันนี้หนักไปทางเล่นเกมรับมากกว่าที่จะได้เติมเกมขึ้นสูง ซ฿่งก็ถือว่าทำได้ดีในการป้องกันเกมรุกทางกราบซ้ายตลอดเวลาที่อยู่ในสนามวันนี้

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – 7/10
คอยคุมจังหวะเกมในแดนกลาง มีส่วนสำคัญกับเกมกลางสนามโดยเฉพาะช่วงครึ่งเวลาแรกที่ทีมยังต้องเล่นเกมบุกเพื่อหวังเอาประตูออกนำ

เคอร์ติส โจนส์ – 7/10
แม้จะดูไม่มีบทบาทกับเกมมากมายอะไรนัก แต่วันนี้ดูเหมือนจะวางบอลยาวค่อนข้างแม่นยำ จนทำได้ 1 แอสซิสต์ ในครึ่งหลังที่โยนยาวไปให้ ซาลาห์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงนั่นเอง

จินี ไวจ์นัลดุม – 7/10
เล่นได้อย่างแข็งแกร่งในเกมแดนกลาง คอยพักบอลเก็บบอลกลางสนามได้ดี นอกจากนี้ยังลงมาช่วยไล่บอลในเวลาที่ทีมจำเป็นต้องเกมรับอีกด้วย

ดิโอโก้ โจต้า – 9/10
แฮททรอกฮีโร่ของทีม ที่นอกจากจะมีความเร็ว ความคล่องตัว และไปกับบอลได้ดีแล้ว ความเฉียบคม ยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเขาในเกมวันนี้ จนสามารถสร้างปัญหาให้กับแผงหลังของเจ้าบ้านได้อย่างดีเยี่ยม

ซาดิโอ มาเน – 8/10
ยิงหนึ่ง จ่ายหนึ่ง ในค่ำคืนนี้ แถมความเร็วของเขายังมีประโยชน์อย่างมากในการเล่นเกมสวนกลับ ที่กองหลังคู่แข่งมักจะเอาไม่อยู่ รวมถึงวันนี้ยังมีจังหวะจ่ายบอลสวย ๆ ให้ โจต้า ได้หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวในช่วงครึ่งหลังอีกด้วย

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 8/10
เช่นเดียวกับ มาเน ที่สามารถใช้ความเร็วในการปั่นป่วนคู่แข่งและเล่นเกมสวนกลับได้ค่อนข้างดี จนวันนี้ทำได้ 1 ประตูจากจังหวะหลุดเดี่ยวช่วงต้นครึ่งหลัง และอีก 1 แอสซิสต์จากการจ่ายทะลุช่องสุดสวยให้ มาเน ยิงเข้าไปนั่นเอง

ตัวสำรอง

โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน (ลงสนามนาทีที่ 65) – 6/10
ลงสนามมาพอจะมีโอกาสได้สร้างสรรค์เกมรวมถึงได้ลุ้นจบสกอร์อยู่บ้าง แต่ยังทำได้ไม่ดีพอ

นาบี เกอิต้า (ลงสนามนาทีที่ 65) – 6/10
มีส่วนร่วมกับเกมในแดนกลางพอสมควรในช่วงเวลาที่ลงสนาม

เจมส์ มิลเนอร์ (ลงสนามนาทีที่ 65) – 6/10
ลงมาคอยช่วยไล่บอลในแดนของตัวเอง

เนโก้ วิลเลียมส์ (ลงสนามนาทีที่ 82) – N/A
ยังไม่มีบทบาทมากนักในช่วงเวลาที่ลงสนามมา

คอสตาส ซิมิคาส (ลงสนามนาทีที่ 82) – N/A
เน้นไปที่เกมรับ แต่ก็ยังไม่มีส่วนช่วยมากนักในช่วง 10 นาทีสุดท้าย

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, วัน+เวลาการแข่งขัน, คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง และถ่ายทอดสด

อตาลันต้า พบ ลิเวอร์พูล พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถ่ายทอดสด Atalanta vs Liverpool UEFA Champions League Preview
อตาลันต้า พบ ลิเวอร์พูล พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถ่ายทอดสด Atalanta vs Liverpool UEFA Champions League Preview

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รองแบ่งกลุ่ม 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : อตาลันต้า พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : เกวิสส์ สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : beIN Sports Connect

ความพร้อมของทั้งสองทีม

อตาลันต้า
อเลฆานโดร โกเมซ และ หลุยส์ มูเรียล ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเพื่อพักในเกมเมื่อกลางสัปดาห์และคาดว่าทั้งคู่จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแมตช์นี้แต่พวกเขาจะพลาดการใช้งาน มาร์เท เดอ รูน กับ มัตเตีย คัลดารา อย่างแน่นอนจากปัญหาอาการบาดเจ็บ

ทั้งนี้ฟอร์มของ โจซิป อิลิซิช ไม่ค่อยสม่ำเสมอนักในช่วงหลังซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะหลุดจาก 11 ผู้เล่นตัวจริง

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 3-4-2-1

ผู้รักษาประตู : สปอร์ติเอลโล
กองหลัง : โตลอย, โรเมโร, ปาโลมิโน
กองกลาง : ฮาเทบัวร์, พาซาลิช, ฟรอยเลอร์, โกเซนส์
กองกลางตัวรุก : มาลินอฟสกี้, โกเมซ
กองหน้า : ซาปาตา

ลิเวอร์พูล
เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า โจเอล มาติป หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ได้แล้วเช่นเดียวกับ นาบี เกอิต้า หลังพวกเขาเพิ่งเสีย ฟาบินโญ จากโรคเดี้ยงไปในช่วงก่อนหน้านี้ร่วมกับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ขณะที่ แนท ฟิลลิปส์ ที่เพิ่งลงสนามให้กับ หงส์แดง ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ไม่ได้มีชื่ออยู่ในทีมชุดลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เซอร์ดาน ชากิรี และ ดิโอโก้ โชต้า ทำผลงานได้ดีในฐานะตัวสำรองตลอดไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีสิทธิ์ลุ้นออกสตาร์ทในเกมนี้เมื่อพวกเขามีบิ๊กแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รออยู่ในช่วงสุดสัปดาห์

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : อลิสซอน
กองหลัง : อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, วิลเลียมส์, โกเมซ, โรเบิร์ตสัน
กองกลาง : เฮนเดอร์สัน, ไวนัลดุม
กองกลางตัวรุก : มาเน, ฟิร์มิโน, โชต้า
กองหน้า : ซาลาห์

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

อตาลันต้า – ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 
31 ตุลาคม เซเรีย อา – โครโตเน 1-2 อตาลันต้า
28 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก – อตาลันต้า 2-2 อาแจ็กซ์
24 ตุลาคม เซเรีย อา – อตาลันต้า 1-3 ซามพ์โดเรีย
22 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก – มิดทิลแลนด์ 0-4 อตาลันต้า
17 ตุลาคม เซเรีย อา – นาโปลี 4-1 อตาลันต้า

ลิเวอร์พูล – ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 0
1 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – ลิเวอร์พูล 2-1 เวสต์แฮม
28 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก – ลิเวอร์พูล 2-0 มิดทิลแลนด์
25 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก – ลิเวอร์พูล 2-1 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
22 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก – อาแจ็กซ์ 0-1 ลิเวอร์พูล
17 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก – เอฟเวอร์ตัน 2-2 ลิเวอร์พูล

เฮดทูเฮด – ทั้ง 2 ทีมไม่เคยพบกันมาก่อน

– อตาลันต้า ยังไร้พ่ายในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลนี้ซึ่งนับเป็นการโม่แข้งในถ้วยบิ๊กเอียร์เพียงครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขาเท่านั้น (ชนะ 1 เสมอ 1) ทั้งนี้พลพรรรค ลา เดีย มีสถิติ ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 ในการดวลกับทีมจาก อังกฤษ บนเวที ยุโรป

– 7 จาก 9 เกมการแข่งขันใน แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลก่อน อตาลันต้า สามารถยิงประตูเฉลี่ย 3.89 ลูกต่อเกม

– ลิเวอร์พูล มีปัญหาในตัวเลือกที่แดนหลังโดยพวกเขามีสถิติเสียประตูเฉลี่ย 1.38 ลูกต่อเกมในการแข่งขัน 6 นัดหลังสุดเมื่อรวมทุกรายการ (ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1) ทว่า หงส์แดง ยังสามารถเก็บชัยชนะได้ 4 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว

– พลพรรค เร้ดแมชีน ยังมีสถิติคว้าชัยในเกมเยือน แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 3 นัดติดต่อกันจนถึงเวลานี้แต่ในทางเดียวกัน พวกเขาก็มีสถิติปราชัยนอกบ้านเมื่อดวลกับทีมจาก อิตาลี 3 นัดรวดในรายการยุโรป

– ผู้เล่นที่น่าจับตา : ดูวาน ซาปาตา พัง 3 ประตูให้กับ อตาลันต้า ในการลงเล่น 2 เกมแรกของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่ ดิโอโก้ โชต้า มีสถิติซัลโวในครึ่งหลังให้กับ ลิเวอร์พุล 3 เกมติดต่อกันเมื่อรวมทุกรายการเข้าไปแล้ว

เพื่ออนาคต ! ฮากรีฟส์ แนะ วิลล็อค ย้ายออกจาก อาร์เซนอล ด้วยสัญญายืมตัว

Joe Willock
Leicester City v Arsenal – Carabao Cup Third Round | James Williamson – AMA/Getty Images

โอเวน ฮากรีฟส์ อดีตกลางรับทัพเสือใต้ ให้คำแนะนำแก่ โจ วิลล็อค ตัวรุกดาวโรจน์ของ อาร์เซนอล ว่าควรย้ายออกด้วยสัญญายืมตัวเพื่อหาโอกาสลงสนามมากกว่านี้

“ผมคิดว่า วิลล็อค เป็นนักฟุตบอลที่เก่งมากและจะได้ก้าวขึ้นเป็นตัวสำคัญของ อาร์เซนอล ในอนาคตแน่ โดยเฉพาะฟอร์มจากเกม ยูโรปาลีก ช่างน่าประทับใจเหลือเกิน” ฮากรีฟส์ กล่าวกับ BT Sport

“ถ้าคุณเป็นโค้ชแล้วมอบหมายให้เขาเติมเข้าไปเล่นในกรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้ามมากกว่าปกติแค่นิดหน่อย วิลล็อค จะตอบแทนให้ทีมด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมเสมอ”

“เด็กคนนี้มีคุณสมบัติครบถ้วน แถมยังมาพร้อมสัญชาตญาณอันคมกริบ อ่านกระแสเกมขาด, มีความกล้าหาญ, เล่นร่วมกับผู้อื่นได้เนียนตา เรียกว่ามีประโยชน์รอบด้านเลยทีเดียว”

“อย่างไรก็ตาม เด็กที่เก่งขนาดนี้ แม้จะอายุน้อยอยู่แต่ก็ควรได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น ฉะนั้นหากเป็นไปได้ การย้ายออกไปอยู่กับทีมอื่น ๆ ด้วยสัญญายืมตัว น่าจะดีต่อทุกฝ่ายมากกว่า”

[Match Report] หงส์ หืดจับ ! ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพลิกแซงชนะ เวสต์แฮม 2-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก คู่ดึกคืนวันเสาร์

Aaron Cresswell, Mohamed Salah
Liverpool v West Ham United – Premier League | Chloe Knott – Danehouse/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 00.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : ลิเวอร์พูล 2-1 เวสต์แฮม
สนาม : แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล ยิง 2 ประตูรวด พลิกเอาชนะ เวสต์แฮม 2-1 โดยทีมเยือนออกนำก่อนจาก ปาโบล ฟอนัลส์ นาทีที่ 10 แต่ หงส์แดง มายิง 2 ลูกรวดจากจุดโทษของ โม ซาลาห์ นาทีที่ 42 และ ดิเอโก้ โจต้า นาทีที่ 85 ช่วยให้ทีมคว้า 3 คะแนนในบ้านได้สำเร็จ ขยับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวแล้ว

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลบุกใส่ได้มากกว่า ส่วนทีมเยือนถอยลงมาตั้งรับต่ำและรอโอกาสในการโต้กลับ

แต่แล้วในนาทีที่ 10 เวสต์แฮม ออกนำก่อนจากจังหวะเปิดเข้ามาลุ้นของ มาซูอากู แต่ โกเมซ โหม่งสะกัดไปเข้าทาง ฟอนัลส์ ได้บรรจงยิงเบียดเสาเข้าไป

หลังจากนั้นเจ้าถิ่นพยายามเปิดเกมบุกหวังเอาประตูคืนแต่ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้เลยตลอด 20 นาทีแรก

นาทีที่ 24 หงส์แดง มีโอกาสลุ้นครั้งแรกจากลูกยิงไกลของ เฮนเดอร์สัน แต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

เจ้าบ้านเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ยังคงไม่มีจังหวะได้จบที่มีลุ้นเป็นประตูตีเสมอเท่าใดนัก

กระทั่งนาทีที่ 42 เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ ซาลาห์ ถูกทำฟาวล์ล้มลงไปในกรอบเขตโทษ และเป็นเจ้าตัวที่ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปไม่พลาด

ทำให้จบครึ่งแรก เสมอกันไป 1-1

เริ่มเกมในครั้งเวลาหลัง ยังคงเป็น ลิเวอร์พูล ที่พยาเปิดเกมบุกเข้าใส่ และมีโอกาสก่อนจากลูกโหม่งของ ซาลาห์ แต่บอลไม่มีน้ำหนัก ทำให้ ฟาเบียนสกี้ รับสบาย

ส่วนทีมเยือนเองก็มีลุ้นจากลูกสวนกลับหลังจากนั้น มาซูอากู ได้โอกาสเติมขึ้นมาเปิดทางกราบซ้ายและเป็น ฟอนัลส์ ที่สไลด์เข้ามาชาร์จแบบสุดเหยียดแต่ อลิสซอน ยังรับเอาไว้ได้

นาทีที่ 65 ผู้มาเยือนมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะหลุดเข้าเขตโทษของ ฟอนัลส์ แต่ยังยิงไปติดบล็อคของผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล

นาทีที่ 73 เจ้าถิ่นได้โอกาสบ้างจากจังหวะยิงในกรอบเขตโทษของ ซาลาห์ แต่บอลหลุดกรอบออกไปไม่ได้ลุ้น

แต่แล้วนาทีที่ 77 หงส์แดง ทำประตูได้จังหวะซ้ำจ่อ ๆ ของ โจต้า ตัวสำรอง แต่ถูก VAR จับเป็นลูกฟาวล์ไปก่อน ทำให้พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำไป

กระทั่งนาทีที่ 85 เจ้าบ้านพลิกขึ้นนำ 2-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะต่อบอลหน้าเขตโทษ ชากิรี แทงทะลุช่องให้ โจต้า หลุดเดี่ยวก่อนยิงเสาแรกเข้าไป

ท้ายเกมผู้มาเยือนพยายามเปิดเกมบุกอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่มีจังหวะเข้าทำที่หวังผลได้ในช่วงเวลาที่เหลือ

ทำให้จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพลิกเอาชนะ เวสต์แฮม ไปได้ 2-1

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : อลิสซอน, อเล็กซานเดอร์ อาร์โนล์ด, ฟิลลิปส์, โกเมส, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน, ไวจ์นัลดุม, โจนส์, มาเน, ซาลาห์ , ฟิร์มิโน

ตัวสำรอง : อาเดรียน, มิลเนอร์, มินามิโนะ, โจต้า, ชากิรี, วิลเลียมส์, เนโก้

เวสต์แฮม : ฟาเบียนสกี้, คูฟาล, บัลบูเอนา, อ็อกบอนา, เครสเวลล์, มาซูอากู, ไรซ์, ซูเชค, ฟอร์นัลส์, โบเวน, อัลแลร์

ตัวสำรอง : แรนดอล์ฟ, ดิยอป, เฟรเดอริคส์, ยาร์โมเลนโก้, สน็อดกราสส์, ลานซินี, เบนราห์มา

มันต้องอย่างนี้ ! โซลชา ปลื้มแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเล่นเข้าขากันสุด ๆ

Ole Gunnar Solskjær
Manchester United v RB Leipzig: Group H – UEFA Champions League | DeFodi Images/Getty Images

โอเล กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังในศึก พรีเมียร์ลีก กล่าวว่าชื่นชมฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของลูกทีมหลังจากที่สามารถเก็บชัยชนะเหนือ อาร์เบ ไลป์ซิก ได้อย่างเด็ดขาดด้วยสกอร์ 5-0 ตามรายงานจาก เอ็กซ์เพรส

ขุนพล เร้ดเดวิลส์ เปิดบ้านต้อนรับจ่าฝูงแห่งศึก บุนเดสลีกา ในการแข่งขัน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มและพวกเขาก็สามารถเก็บชัยชนะได้เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ระเบิดแฮททริคของตัวเองได้ในนัดนี้

โซลชา ได้กล่าวถึงรูปเกมและฟอร์มของลูกทีมว่า “มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกเปลี่ยนตัวลงมาและทำผลงานได้ดีแต่โดยพื้นฐานแล้วมาจากกฟอร์มการเล่นของทั้งทีม ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คุณต้องการจากผู้เล่นตัวสำรอง ลูกชิพของเขาสวยงามมาก ไลป์ซิก เล่นดันขึ้นสูงและดูกระตือรือล้น ซึ่งทำให้เราต้องลงไปตั้งรับลึก”

“เราจำเป็นต้องพักผู้เล่นส่วนหนึ่งเพราะซีซันนี้มันหนักหนาสาหัสมาก ซึ่งเราจะใช้นักเตะที่มีอยู่ในทีม ผู้เล่นกลุ่มนี้กำลังเล่นกันอย่างเข้าขา ยิ่งคุณมีคุณภาพและสปิริตที่มากขึ้นก้ยิ่งจะทำให้โชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นด้วย” นายใหญ่ไวกิ้ง กล่าว

[Match Report] ปืนใหญ่ กินขาด ! อาร์เซนอล เปิดบ้านถล่ม ดันดอล์ค 3-0 ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

Nicolas Pepe
Arsenal FC v Dundalk FC: Group B – UEFA Europa League | Mike Hewitt/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : อาร์เซนอล 3-0 ดันดอล์ค
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซนอล เปิดบ้านถล่ม ดัลดอล์ค ทีมจากไอร์แลนด์ขาดลอย 3-0 โดยได้ประตูจาก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ นาทีที่ 42 โจ วิลล็อค นาทีที่ 44 และ นิโกลาส เปเป้ นาทีที่ 46 คว้า 3 คะแนนในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้มี 6 คะแนนเต็มนำเป็นจ่าฝูงอยู่ในตอนนี้

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกเป็น เจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ได้ชัดเจนกว่า แต่แม้จะหาจังหวะจบได้หลายครั้งแต่ยังไม่มีครั้งใดที่ยิงเข้ากรอบเลยตลอด 20 นาทีแรก

นาททีที่ 33 เจ้าถิ่นเกือบขึ้นนำจากจังหวะที่ วิลล็อค ลุยเข้ากรอบเขตโทษก่อนเปิดไปเสาสองให้ โคลาซินาค โหม่งโล่ง ๆ แต่ยังไปติดเซฟของ โรเจอร์ส ผู้รักษาประตูของทีมเยือน

นาทีที่ 38 ปืนใหญ่ ได้โอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะเก็บตกยิงไกลของ เปเป้ บอลไปแฉลบผู้เล่นทีมเยือนมาเข้าทาง เอ็นเคเท็ยห์ แต่เจ้าตัวกลับยิงหลุดออกนอกกรอบไป

กระทั่งนาทีที่ 42 เจ้าบ้านออกนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุม ผู้เล่น ดันดอล์ค สะกัดไม่ขาดไปเข้าทาง เอ็นเคเทียห์ วิ่งมาซัดจ่อ ๆ เข้าไป

จากนั้นอีกเพียง 2 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สองจากจังหวะโต้กลับ เปเป้ ยิงไปติดบล็อคกระดอนมาเข้าทาง วิลล็อค ได้ยิงโล่ง ๆ เสียบตานเข้าไป

ทำให้จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล ออกนำ 2-0

เริ่มเกมในครึ่งหลังได้เพียง 1 นาที เจ้าถิ่นออกนำ 3-0 จากจังหวะที่ วิลล็อค จ่ายกลับมาหน้ากรอบเขตโทษและเป็น เปเป้ ที่แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนปั่นด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยมเข้าไป

จากนั้นยังคงเป็นเจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว แต่ยังไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้

นาทีที่ 70 ทีมปืนใหญ่ ได้ลุ้นจากจังหวะตัดบอลกลางสนาม และเป็น เมตแลนด์-ไนลส์ ที่ลากเดี่ยวขึ้นมาก่อนจะสับไกยิงไปติดเซฟของผู้รักษาประตู

จากนั้น 3 นาที เจ้าบ้านได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะลุยเข้าเขตโทษของ วิลล็อค ก่อนจะจ่ายต่อให้ เอ็นเคเทียห์ ยิงโล่ง ๆ แต่กลับข้ามคานออกไป

ช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นมีโอกาสได้จบหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้

ทำให้จบเกม อาร์เซนอล เปิดบ้านเอาชนะ ดันดอล์ค ไปได้แบบสบาย ๆ 3-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซนอล: รูนาร์สสัน, โคลาสินาค, มุสตาฟี, เซดริก, เมตแลนด์-ไนลส์, วิลล็อค, เอลเนนี,​ เปเป้, เนลสัน, เอ็นเคเทียห์

ตัวสำรอง :เลโน,เบเยริน, กาเบรียล, เซบายอส, โอบาเมยอง, เทียร์นีย์, เฺฮน, โคลาซินาช, โธมัส, วิลเลียน, ซาก้า, ลากาเซ็ตต์, บาโลกัน

ดันดาล์ค :โรเจอร์ส, การ์แลนด์, บอยล์, เคลียรี, มอน์ทนีย์, เมอร์เรย์, ชิลด์, แมคเอลนีย์, ดัมมิแกน, โฮแบน, ดัฟฟี

ตัวสำรอง :คอร์โคแรน, โคโลวิช, ฟลอเรส, แกนนอน, ฮาวเร, เคลลี, ลีอี้, แมคคาเรย์, แมคมิล์แลน, โอดูวา, สลอกเก็ตต์

งานเข้า ! แมนฯ ยูไนเต็ด ยืนยัน อเล็กซ์ เตลเลส ติดโควิด-19

Alex Telles
Newcastle United v Manchester United – Premier League | Alex Pantling/Getty Images

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยืนยันผ่านแอคเคาท์ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของพวกเราระบุว่า อเล็กซ์ เตลเลส ติดเชื้อโควิด-19

แบ็คซ้ายทีมชาติ บราซิล วัย 27 ปีเพิ่งย้ายมาจาก ปอร์โต้ ร่วมทัพ ปีศาจแดง ในวันเส้นตาย ตลาดซื้อขายนักเตะ ซัมเมอร์ที่ผ่านมาและไม่ได้มีส่วนร่วมในเกม เร้ดเดวิลส์ เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถล่มเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 5-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

โดย โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาระบุว่าเจ้าตัวไม่ได้แสดงอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใดและอยู่ระหว่างการแยกกักตัวเป็นเวลา 10 วัน

ทั้งนี้ เตลเลส เพิ่งจะออกสตาร์ทเดบิวตให้กับต้นสังกัดใหม่ในเกมที่พา ปีศาจแดง บุกไปเข่นเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ ปาร์ก เดส์ แปรงซ์ ในถ้วยบิ๊กเอียร์ 2-1 เมื่อกลางสัปดาห์ก่อน