อาถรรพ์ปืนโต ! แคมป์เบลล์ กะไว้แล้ว ปาร์เตย์ ต้องเจ็บหากย้ายมา อาร์เซนอล

Thomas Partey
Arsenal v Aston Villa – Premier League | Visionhaus/Getty Images

เควิน แคมป์เบลล์ อดีตหัวหอกทีม อาร์เซนอล ยืนยันว่าตนเคยทำนายเอาไว้ว่า โธมัส ปาร์เตย์ ที่มีร่างกายแข็งแกร่งสุด ๆ จะได้รับบาดเจ็บหลังย้ายมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

“อาการบาดเจ็บของนักฟุตบอลที่เกิดขึ้นระหว่างเกม มันเป็นเรื่องเศร้าสุด ๆ และผมไม่อยากเห็นเหล่าแข้งรุ่นน้องต้องเจอกับอะไรแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว” แคมป์เบลล์ กล่าวกับ Football Insider หลังเห็น “เฮียเต้” เดี้ยงจนต้องเปลี่ยนตัวออกในเกมพ่าย แอสตัน วิลลา

“ผมเคยคิดเอาไว้อยู่แล้วว่า โธมัส ปาร์เตย์ จะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ อาร์เซนอล แต่ก็เดาไว้อีกเรื่องด้วยว่าเขาคงได้รับบาดเจ็บแน่ ๆ หากย้ายมาค้าแข้งกับเรา”

“สิ่งที่น่าผิดหวังและทำให้ขนลุกซู่ก็คือ สมัยอยู่กับ แอตฯ มาดริด เขาไม่เคยเดี้ยงเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อยู่ในอังกฤษแค่ไม่กี่เดือนก็โดนสอยร่วงไปแล้ว”

“ไม่อยากบอกหรอกนะว่ามันเป็นอาถรรพ์หรือเป็นเพราะปัจจัยอื่น ๆ แต่มันคือปัญหาที่ อาร์เซนอล ต้องรับมือ เพราะคุณในอนาคต คุณจะปล่อยให้ผู้เล่นระดับท็อปที่ซื้อมาด้วยค่าตัวสูงแบบนี้เจ็บต่อเนื่องไม่ได้เด็ดขาด”

เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังความพ่ายแพ้ของ สิงโตคำราม ในศึก ยูฟ่า เนชั่นลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

Jack Grealish, Youri Tielemans
Belgium v England – UEFA Nations League | John Berry/Getty Images

การแข่งขัน : ยูฟ่า เนชันส์ลีก ลีกเอ
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 02.45 น.
คู่แข่งขัน : ทีมชาติเบลเยียม 2-0 ทีมชาติอังกฤษ
สนาม : คิง พาวเวอร์ (เบลเยียม)

ทีมชาติอังกฤษ บุกพ่าย ทีมชาติเบลเยียม 2-0 โดยเจ้าบ้านได้สองประตูในช่วงครึ่งแรกจาก ยูริ ติเลอม็องส์ นาทีที่ 10 และ ดรีส เมอร์เทนส์ นาทีที่ 24 ทำให้จบเกม เบลเยียม คว้า 3 คะแนนนำโด่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป ส่วน อังกฤษ รั้งอันดับที่ 3 มีแต้มห่างจากอันดับ 1 ถึง 5 แต้ม หมดโอกาสเข้าสู่รอบเพลย์ออฟไปเป็นที่เรียบร้อยแม้จะเหลือโปรแกรมอีกหนึ่งนัดก็ตาม

เริ่มเกมในครึ่งแรกเป็นเจ้าบ้านที่ครงเกมบุกได้ชัดเจนกว่า และมาได้ประตูออกนำก่อนจากจังหวะตัดบอลได้ในแดนกลาง  ลูกากู จ่ายต่อให้ ติเลอม็องส์ ยิงไกลนอกกรอบ บอลแฉลบ มิ้งส์ เบียดเสาเข้าไป

จากนั้น 2 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นบ่างจากลูกโหม่งของ เคน บอลผ่านมือ กูร์ตัวส์ ไปแล้วแต่ ลูกากู ยังตามมาโขกออกจากเส้นได้ทัน

แต่แล้วนาทีที่ 24 เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะฟรีคิกและเป็น เมอร์เทนส์ ที่ปั่นด้วยขวาบอลโค้งเสียบหน้าต่างเข้าไป

หลังจากตามหลังสองประตู ผู้มาเยือนพยายามเร่งเกมบุกมากขึ้น แต่ยังทำได้แค่เกือบเท่านั้นโดยเฉพาะจากลูกชาร์จจ่อ ๆ ของ เมานท์ ที่บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

ท้ายครึ่งแรก อังกฤษ มีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะหลุดเข้าเขตโทษของ เคน แต่ยังยิงไปติดเซฟของ กูร์ตัวส์ ที่ออกมาปิดมุมได้ทัน

ทำให้จบ 45 นาทีแรก เบลเยี่ยม ออกนำ 2-0

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง ยังคงเป็นทีมเยือนที่พยายามบุกเข้าใส่อย่างหนักหวังเอาประตูคืนให้ได้ ส่วนเจ้าบ้านถอยลงมาเน้นเกมรับและรอโอกาสในการโต้กลับ

นาทีที่ 57 ทีมเยือนมีโอกาสได้จบบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่ เคน ยังคงยิงไปติดเซฟของ กูร์ตัวส์ อีกครั้ง

ด้านเจ้าถิ่นเกือบมาได้ประตูที่ 3 จากนาทีที่ 76 จากจังหวะชาร์จจ่อ ๆ ของ ลูกากู แต่ พิคฟอร์ด ยังเซฟเอาไว้ได้

ช่วยท้าย ทีมเยือนเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกอยู่แทบจะฝ่ายเดียว แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ที่มีลุ้นได้ และกลับเป็นเจ้าบ้านที่เกือบได้ประตูปิดกล่องจากการสวนกลับแต่ ลูกากู ยังจบได้ไม่คมพอ

ช่วงเวลาทีเหลือทำอะไรกันไม่ได้ทำให้จบ 90 นาที เบลเยียม เปิดบ้านอัด อังกฤษ ไป 2-0

คะแนนผู้เล่นของทั้งสองทีม

อังกฤษ : พิคฟอร์ด(6), วอล์เกอร์(6), ทริปเปียร์(6), ดายเอร์(6), มิ้งส์(6), ชิลเวลล์(5), ไรซ์(6), เมานท์(5.5), กรีลิช(7), เฮนเดอร์สัน(5.5), เคน(7)

ตัวสำรอง : ซานโช(5), วิงค์ส(5), ซาก้า(5.5), คาลเวิร์ต เลวิน(5)

เบลเยี่ยม : กูร์ตัวส์(6.5), อัลเดอร์ไวล์เรลด์(7), ดีนาเยอร์(7), แฟร์ตองเก้น(6.5), มูนิเยร์(6.5), วิทเซล(7), ติเลอม็องส์(7.5), อาซาร์(6.5), เดอ บรอยน์(7), เมอร์เทนส์(7), ลูกากู(7.5)

ตัวสำรอง : ปราท(5)

แมน ออฟ เดอะแมทช์ – โรเมลู ลูกากู

แม้อดีตหัวหอกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายนี้ จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำสกอร์ แต่อย่างไรก็ตามเขายังมี 1 แอสซิสต์ติดตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจังหวะสะกัดบอลที่สำคัญสุด ๆ ด้วยการกระโดดมาโหม่งลูกโขกของ แฮร์รี เคน ออกจากเส้นประตูไปได้ มิฉะนั้นทีมคงถูกตีเสมอเป็นที่เรียบร้อยและรูปเกมอาจไม่ออกมาอย่างที่เห็นกันนี้ อีกทั้งตลอดทั้งเกมเจ้าตัวก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความอันตรายในแดนหน้าขนาดไหน ทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง แถมยังเก็บบอลและพักบอลได้ จนสามารถสร้างปัญหาให้กับแผงหลัง อังกฤษ ได้เป็นอย่างดีตลอด 90 นาทีที่อยู่ในสนาม

ประเด็นร้อนหลังเกม

อังกฤษ ไร้ความเฉียบขาดในเกมรุก

วันนี้ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า ทัพสิงโตคำราม เล่นได้ค่อนข้างผิดฟอร์มแตกต่างจากเกมอุ่นเครื่องที่เอาชนะ ไอร์แลนด์ มาได้เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาลิบลับ โดยเฉพาะแนวรุกที่วันนี้ดูจะมีแค่ แฮร์รี เคน และ แจ็ค กรีลิช สองคนนี้เท่านั้นที่ดูพอสร้างความหนักใจให้เกมรับเจ้าถิ่นได้ ส่วนคนอื่น ๆ แทบไม่มีบทบาทกับเกมมากนัก อีกทั้งรูปแบบการเข้าทำยังค่อนข้างแข็งทื่อไร้ไอเดียสร้างสรรค์ โดยเน้นขึ้นเกมจากริมเส้นเป็นหลักซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผลแต่พวกเขาก็ไม่มีไม้เด็ดอื่น ๆ มาเปลี่ยนเกมเลย ที่สำคัญการจบสกอร์ในวันนี้ยังทำได้ค่อนข้างย่ำแย่ทั้งจังหวะโอเพนเพลย์รวมถึงลูกฟรีคิกจุดที่อันตราย ๆ ก็ยังไม่สามารถสร้างความกดดันให้กับเจ้าบ้านได้ และนั่นเองเป็นเหตุผลที่ทำให้ พลพรรคทรีไลออน พลาดท่าพ่ายกลับไปในที่สุด

Harry Kane, Jason Denayer, Thibaut Courtois

พรีวิว ยูฟ่า เนชันส์ลีก, วัน+เวลาการแข่งขัน, ถ่ายทอดสด

Belgium vs England : UEFA Nation League 2020/21
Belgium vs England : UEFA Nation League 2020/21

การแข่งขัน : ยูฟ่า เนชันส์ลีก ลีกเอ
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 02.45 น.
คู่แข่งขัน : ทีมชาติเบลเยียม พบ ทีมชาติอังกฤษ
สนาม : คิง เบาดูอิน
ช่องทางการรับชม : UEFA.tv

ความพร้อมของทั้งสองทีม

เบลเยียม

ทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการนี้ด้วยการชนะ 3 จาก 4 เกมแรก โดยนัดต่อไปพวกเขามีคิวต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ทัพทรีไลออน ที่พึ่งจะคว้าชัยมาเมื่อกลางสัปดาห์ แน่นอนว่า มาร์ติเนซ จะสั่งลูกทีมให้เปิดเกมบุกเข้าใส่ตามที่ถนัด แต่ก็ต้องมาลุ้นกันว่าเกมรุกของพวกเขาจะดีพอที่จะเจาะทะลวงแนวรับอันดุดันของ สิงโตคำราม ในเกมนี้หรือไม่

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – มินโญเลต์
กองหลัง – คาสตานเญ, ดีเนเยอร์, อัลเดอร์ไวเรลด์, แฟร์ตองเก้น
กองกลาง – ติเลอม็อง, วิทเซล, เดอ บรอยน์
กองหน้า – เมอร์เทน, ลูกากู, บัทชัวยี

อังกฤษ

ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ฟอร์มกลับมาร้อนแรงอีกครั้งด้วยการเปิดบ้านถล่ม ไอร์แลนด์ ไปแบบขาดลอย 3-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าเกมนี้ ทัพสิงโตคำราม จะกลับมาส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามเพื่อโอกาสในการคว้า 3 คะแนนอันล้ำค่าของพวกเขามากขึ้น โดยปัจจุบัน อังกฤษ รั้งอันดับที่ 3 มีแต้มห่างจาก เบลเยี่ยม จ่าฝูง 2 คะแนนในขณะที่จะเหลือเกมอีกเพียง 2 นัดเท่านั้นในรอบแบ่งกลุ่มนี้

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – เฮนเดอร์สัน
กองหลัง – เจมส์, มิ้งส์, โคอาดี้์, เเมทเเลนด์-ไนล์ส
กองกลาง – เมานท์, ไรซ์, เมานท์, กรีลิช
กองหน้า – อับราฮัม, คาล์เวิร์ต-เลวิน

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เบลเยียม – ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
12/11/20 กระชับมิตร – เบลเยียม 2-1 ไอร์แลนด์
15/10/20 เนชั่นลีก – ไอซ์แลนด์ 1-2 เบลเยียม
11/10/20 เนชั่นลีก – อังกฤษ 2-1 เบลเยียม
09/10/20 – เบลเยียม 1-1 ฟินแลนด์
09/09/20 เนชั่นลีก – เบลเยียม 5-1 ไอซ์แลนด์

อังกฤษ – ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
13/11/20 เนชั่นลีก – อังกฤษ 3-0 ไอซ์แลนด์
15/10/20 เนชั่นลีก – อังกฤษ 0-1 เดนมาร์ก
11/10/20 เนชั่นลีก – อังกฤษ 2-1 เบลเยียม
09/10/20 กระชับมิตร – อังกฤษ 3-0 เวลส์
09/09/20 เนชั่นลีก – เดนมาร์ก 0-0 อังกฤษ

เฮดทูเฮท – เบลเยียม ชนะ 2 เสมอ 0 อังกฤษ ชนะ 3
11/10/20 เนชั่นลีก – อังกฤษ 1-1 เบลเยียม
14/07/18 ฟุตบอลโลก – เบลเยียม 2-0 อังกฤษ
29/06/18 ฟุตบอลโลก – อังกฤษ 0-1 เบลเยียม
02/06/12 กระชับมิตร – อังกฤษ 1-0 เบลเยียม
10/10/99 กระชับมิตร – อังกฤษ 2-1 เบลเยียม

พรีวิว ยูฟ่า เนชันส์ลีก, ความพร้อม, วัน+เวลาการแข่งขัน, ถ่ายทอดสด

โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส ยูฟ่า เนชันส์ลีก Portugal vs France UEFA Nations League
โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส ยูฟ่า เนชันส์ลีก Portugal vs France UEFA Nations League

การแข่งขัน : ยูฟ่า เนชันส์ลีก
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 02.45 น.
คู่แข่งขัน : ทีมชาติยูเครน พบ ทีมชาติเยอรมนี
สนาม : เอสตาดิโอ ดา ลุซ
ถ่ายทอดสด : UEFA.tv

ทีมชาติโปรตุเกส
แฟร์นานโด ซานโตส เลือกพักตัวหลักยกทีมในการเตะนัดกระชับมิตรกับ อันดอร์รา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าเราจะได้เห็น ชูเอา เฟลิกซ์, คริสเตียโน โรนัลโด้ และ บรูโน แฟร์นันเดส ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้

เปโดร เนโต้ จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ใช้เวลาเพียง 8 นาที เพื่อเบิกประตูแรกของตัวเองในเกมเดบิวต์กับ ทัพฝอยทอง แต่กับเกมนี้เขาอาจจะต้องหลีกทางให้ แบร์นาโด ซิลวา ไปก่อน

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู : ปาทริซิโอ
กองหลัง : เกร์เรโร , เปเป้, ดิอาส, คันเซโล
กองกลาง : คาวัลโญ, เปเรย์รา, แฟร์นานเดส
กองหน้า : โรนัลโด้, เฟลิกซ์, ซิลวา

ทีมชาติฝรั่งเศส
พอล ป็อกบา เล่นได้ไม่ค่อยดีนักในเกมกระชับมิตรที่พวกเขาพ่ายต่อ ฟินแลนด์ 2-0 ดังนั้นสถานะของเขาในเกมนี้เลยยังอะไรที่คาดการณ์ได้ยาก เช่นเดียวกับแผงหลังที่ ดิดิเยร์ เดชองส์ จะสับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดจากเกมล่าสุด

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ตัวรุกของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ผู้จัดการทีมยังลุ้นให้ฟิตกลับมาลงเล่นให้ได้ในเกมสำคัญนี้ โดยมี อองโตนี มาร์กซิยาล รอแสตนด์บายอยู่

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-3-1-2
ผู้รักษาประตู : ยอริส
กองหลัง : ปาวาร์, คิมเพมเบ้, วาราน, เอร์นานเดซ
กองกลาง : ก็องเต้, ราบิโอต์, ป็อกบา
กลางตัวรุก : กรีซมันน์
กองหน้า : มาร์กซิยาล, ชิรูด์

โปรตุเกส – ชนะ 3 เสมอ 2
9 กันยายน เนชันส์ลีก – สวีเดน 0-2 โปรตุเกส
8 ตุลาคม กระชับมิตร – โปรตุเกส 0-0 สเปน
12 ตุลาคม เนชันส์ลีก – ฝรั่งเศส 0-0 โปรตุเกส
15 ตุลาคม เนชันส์ลีก – โปรตุเกส 3-0 สวีเดน
12 พฤศจิกายน กระชับมิตร – โปรตุเกส 7-0 อันดอร์รา

ฝรั่งเศส – ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
9 กันยายน เนชันส์ลีก – ฝรั่งเศส 4-2 โครเอเชีย
7 กันยายน กระชับมิตร – ฝรั่งเศส 7-1 ยูเครน
12 ตุลาคม เนชันส์ลีก – ฝรั่งเศส 0-0 โปรตุเกส
15 ตุลาคม เนชันส์ลีก – โครเอเชีย 1-2 ฝรั่งเศส
12 พฤศจิกายน กระชับมิตร – ฝรั่งเศส 0-2 ฟินแลนด์

เฮดทูเฮด – ฝรั่งเศส ชนะ 3 เสมอ 1 โปรตุเกส ชนะ 1
11 ตุลาคม 2020 เนชันส์ลีก – ฝรั่งเศส 0-0 โปรตุเกส
10 กรกฎาคม 2016 ฟุตบอลยูโร – โปรตุเกส 1-0 ฝรั่งเศส
4 กันยายน 2015 กระชับมิตร – โปรตุเกส 0-1 ฝรั่งเศส
11 ตุลาคม 2014 กระชับมิตร – ฝรั่งเศส 2-1 โปรตุเกส
5 กรกฎาคม 2007 ฟุตบอลโลก – โปรตุเกส 0-1 ฝรั่งเศส

เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกมอุ่นเครื่อง สิงโตคำราม อัด ยักษ์เขียว เมื่อคืนที่ผ่านมา

Jadon Sancho, Jack Grealish
England v Republic of Ireland – International Friendly | Pool/Getty Images

การแข่งขัน : อุ่นเครื่อง / กระชับมิตร

วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2020

เวลาแข่งขัน : 03.00 น.

ผลการแข่งขัน : ทีมชาติอังกฤษ 3-0 ทีมชาติไอร์แลนด์

สนาม : เวมบลีย์

ทีมชาติอังกฤษ เปิดบ้านอัด ทีมชาติไอร์แลนด์ ขาดลอย 3-0 โดยได้ประตูจาก แฮร์รี แม็คไกวร์ นาทีที่ 18 เจดอน ซานโช นาทีที่ 31 และจุดโทษของ โดมินิค คาลเวิร์ต เลวิน นาทีที่ 56 จบเกม สิงโตคำราม คว้าชัยในบ้านเหนือ ยักษ์เขียว ไปได้สำเร็จ

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กันตั้งแต่เริ่มเกม แต่เป็นเจ้าบ้านที่ดูจะทำได้ดีกว่าเล็กน้อยในช่วง 15 นาทีแรก

กระทั่งนาทีที่ 18 อังกฤษ ขึ้นนำก่อนจากจังหวะเตะมุม บอลหลุดมาถึงนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่ วิ้งค์ส จะโยนกลับเข้าไปลุ้นและเป็น แม็คไกวร์ ที่โฉบมาโหม่งเข้าไป

นาทีที่ 26 เจ้าบ้านมีโอกาสใกล้เคียงอีกครั้งจากลูกโหม่งของ แม็คไกวร์ คนเดิม แต่คราวนี้ไปติดเซฟของ แรนดอล์ฟ ที่ปัดข้ามคานออกไปได้

นาทีที่ 31 เจ้าถิ่นออกนำ 2-0 จากจังหวะที่ กรีลิช จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ซานโช ล็อคเข้าขวาก่อนจะยิงเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม

จากนั้นยังคงเป็น ทีมสิงโตคำราม ที่ครองเกมเอาไว้ได้ แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้มากนัก

ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านมีลุ้นจากลูกยิงไกลของ มิ้งส์ แต่บอลพุ่งเฉียดเสาออกไป ทำให้จบ 45 นาที อังกฤษ ออกนำ ไอร์แลนด์ 2-0

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลังได้เพียง 2 นาที เจ้าถิ่นมีลุ้นจากลูกยิงในกรอบเขตโทษของ แจ็ค กรีลิช แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

จากนั้นไม่กี่นาทีพวกเขามีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะต่อบอลเข้าเขตโทษและเป็น ซาก้า ที่หลุดเดี่ยวเข้าไป แต่กลับยิงไม่ตรงกรอบอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 55 อังกฤษ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซาก้า โดนทำฟาวล์ล้มลงไปในกรอบและเป็น คาลเวิร์ต เลวิน ที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมนำห่าง 3-0

หลังจากออกนำถึงสามประตูเจ้าบ้านก็ดูจะผ่อนเกมลง ทำให้นาทีที่ 72 ทีมเยือนมีโอกาสทำเกมบุกขึ้นมาบ้างและก็มีโอกาสได้ลุ้นประตูครั้งแรกในเกมนี้จากลูกยิงของ อลัน บราวน์ แต่ยังตงไปติดเซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน

นาทีที่ 80 ผู้มาเยือนได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะยิงไกลของ โรนัน เคอร์ติส แต่ เฮนเดอร์สัน ยังบินมาปัดออกไปได้

ท้ายเกมเจ้าถิ่นได้ลุ้นจากลูกโหม่งของ แม็คไกวร์ อีกครั้ง แต่บอลหลุดเสาสองออกไป

ทำให้จบ 90 นาที สิงโตคำราม คว้าชัยในบ้านไปได้แบบสบาย ๆ 3-0

คะแนนนักเตะทีมชาติอังกฤษ

11 ผู้เล่นตัวจริง : โป๊บ(6.5), เจมส์(6.5), แม็คไกวร์(7.5), มิ้งส์(7), คีน(6.5), ซาก้า(6.5), วิ้งค์ส(6.5), เมานท์(6.5), กรีลิช(7.5), ซานโช(7.5), คาลเวิร์ต-เลวิน(7)

ตัวสำรอง : เฮนเดอร์สัน(7), แมดแลนด์-ไนล์ส(6), เบลลิงแฮม(6), โฟเด้น(6),  อับราฮัม(6)

คีย์แมน – แจ็ค กรีลิช

เกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจส่ง แจ็ค กรีลิช เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งจากทีม แอสตัน วิลลา ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงในลีกลงสนามเป็นตัวจริง ซึ่งแม้จะอยู่ในสนามแค่เพียง 60 นาที แต่เจ้าตัวกลับเล่นได้อย่างโดดเด่นบริเวณริมเส้นฝั่งซ้ายที่สามารถสร้างปัญหาให้แนวรับของทีมเยือนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีโอกาสได้ทำเกมสวย ๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีมหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งมี 1 แอสซิสต์ติดตัวในวันนี้จากประตูที่ 2 ที่เป็นคนจ่ายเข้าเขตโทษให้กับ ซานโช ยิงเสียบมุมเข้าไป

ประเด็นร้อนหลังเกม

อังกฤษ สิงห์สนามซ้อม !

เกมนี้หากใครได้มีโอกาสติดตามรับชมจะเห็นได้ชัดเจนว่า ทัพสิงโตคำราม สามารถครองเกมเอาไว้ได้ในกำมือตลอด 90 นาที แถมแผงหลังยังเล่นได้อย่างเหนี่ยวแน่นถึงขนาด 70 นาทีแรกผู้มาเยือนยังไม่มีจังหวะได้สับไกยิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งช่วงท้ายที่พวกเขาผ่อนเกมลง จึงทำให้ทีมเยือนพอจะหาจังหวะจบได้บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นเกมรุกในวันนี้โดยเฉพาะการลำเลียงบอลสู่พื้นที่อันตรายดูจะไหลลื่นกว่าเกมก่อน ๆ ในศึก ยูฟ่า เนชั่นลีก ไม่ว่าจะเป็นสองนัดที่พบกับ เดนมาร์ก หรือแม้แต่กับทีมรองบ่อนอย่าง ไอซ์แลนด์ พวกเขาล้วนแต่หืดจับมาแล้วทั้งสิ้น คงต้องมาลุ้นกันว่าคืนวันอาทิตย์นี้ พลพรรคทรีไลออน จะยังสามารถคงฟอร์มเก่งแบบนี้เอาไว้ในเกมที่ต้องบุกไปเยือน เบลเยียม ถึงถิ่นได้หรือไม่ เพราะหากพลาดท่าก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะไม่ได้ไปต่อในรอบน็อคเอาท์ของ เนชั่นลีก ปีนี้ก็เป็นได้…

[RANKING] 10 ดาวเตะอายุน้อยสุดที่ลงสนามให้กับทีมชาติ อังกฤษ

Michael Owen, Jude Bellingham, Marcus Rashford
Michael Owen, Jude Bellingham, Marcus Rashford

ทีมชาติ อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เพิ่งทำเซอร์ไพรส์เรียกตัว จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์วัย 17 ปีสังกัด โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ติดทัพ สิงโตคำราม แทนที่ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ที่ต้องถอนตัวจากอาการบาดเจ็บสำหรับโปรแกรมทีมชาติ 3 นัดได้แก่ ไอร์แลนด์ (เหย้า, กระชับมิตร), เบลเยียม (เยือน, ยูฟ่า เนชันส์ลีก) และ ไอซ์แลนด์ (เหย้า, ยูฟ่า เนชันส์ลีก)

โดยหาก เบลลิงแฮม ถูกส่งลงสนามในเกมใดเกมหนึ่งจากทั้ง 3 แมตช์ดังกล่าวจะทำให้วันเดอร์คิดค่าย เสือเหลือง รายนี้กลายเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์พลพรรค ทรีไลอ้อนส์ ทันที

90min พาผู้อ่านย้อนรอยดาวเตะ 10 อันดับแรกอายุน้อยสุดที่ลงสนามให้กับทีมชาติ อังกฤษ ดังนี้

แจ็ค วิลเชียร์ เคยมีสถานะเป็นแข้งวันเดอร์คิดที่วงการลูกหนังจับตามเมื่อพุ่งขึ้นมากับ อาร์เซนอล ในปี 2010

วิลเชียร์ เดบิวต์ให้กับ อังกฤษ ในเกมกระชับมิตรที่พวกเขาเอาชนะ ฮังการี 2-1 โดยลงสนามในฐานะตัวสำรองแทนที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด

น่าเสียดายที่หลังจากนั้นอาการบาดเจ็บของเจ้าตัวทำให้ดาวเตะ ไอ้ปืนใหญ่ ไปไม่ถึงฝั่งฝันโดยเขาลงเล่นให้กับพลพรรค ทรีไลอ้อนส์ ไปเพียงแค่ 34 นัดเท่านั้นก่อนจะหายไปจากทีมอย่างถาวรหลังปี 2016

มาร์คัส แรชฟอร์ด เพิ่งจะเดบิวต์ให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อกุมภาพันธ์ 2016 โดย 3 เดือนให้หลังเจ้าตัวก็มีชื่อในทีมชาติ อังกฤษ

แรชฟอร์ด สร้างสถิติกลายเป็นนักเตะ สิงโตคำราม อายุน้อยสุดที่สังหารประตูได้ในเกมเดบิวต์กับ ออสเตรเลีย รวมทั้งยังกลายเป็นแข้ง ทรีไลอ้อนส์ อายุน้อยสุดที่มีชื่อในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์หลังเจ้าตัวติดทีมชุดลุยศึก ยูโร 2016

หลังจากทำผลงาน 1 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จากการลงสนาม 4 นัดให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในซีซัน 2017/18 สายตาทุกคู่ในวงการลูกหนัง ยุโรป ก็จับตาไปที่ เจดอน ซานโช ก่อนที่ฤดูกาลถัดมาเขาจะออกสตาร์ทด้วยสถิติ 6 แอสซิสต์จากการลงเล่น 7 นัด

ผลงานดังกล่าวทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเรียกอดีตลูกหม้อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี่ติดธงในเดือนตุลาคม 2018 โดยเจ้าตัวเดบิวต์กับทีมชาติในเกมที่เสมอกับ โครเอเชีย 0-0 ศึก ยูฟ่า เนชันส์ลีก

ย้อนกลับไปในปี 1955 ในขณะที่ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส มีสถานะเป็นวันเดอร์คิดแห่ง แมนฯ ยูไนเต็ด โดยตำนาน ปีศาจแดง รายนี้ได้กลายเป็นแข้งทีมชาติ อังกฤษ อายุน้อยที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเดบิวต์เกมที่พลพรรค ทรีไลอ้อนส์ ถล่มเอาชนะ สกอตแลนด์ 7-2

น่าเสียดายที่ เอ็ดเวิร์ดส ลงสนามให้กับ สิงโตคำราม ไปเพียงแค่ 18 นัดเท่านั้นก่อนที่โศกนาฎกรรม มิวนิค จะพรากชีวิตเขาไปจากโลกนี้ด้วยวัย 21 ปี

ไมก้าห์ ริชาร์ดส อดีตแบ็คขวา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยทำลายสถิติกองหลังอายุน้อยสุดที่ลงสนามให้กับทีมชาติ อังกฤษ ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เมื่อเจ้าตัวเดบิวต์กับพลพรรค สิงโตคำราม เดือนพฤศจิกายน 2006 กับ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งจบลงด้วยผลสกอร์ 1-1

น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่อาจพัฒนาฝีเท้าได้อย่างที่คาดหวังโดยตัวเลขการลงเล่นในนามทีมชาติของ ริชาร์ดส หยุดลงที่เพียงแค่ 13 นัดเท่านั้น

หนึ่งในการติดธงสุดเซอร์ไพรส์ของทีมชาติ อังกฤษ เมื่อ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย มีชื่อกับทัพ สิงโตคำราม ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่เคยลงสนามให้กับ เชลซี บนเวที พรีเมียร์ลีก เลยแม้แต่นัดเดียว

แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวเขามาร่วมทีม ทรีไลอ้อนส์ หลังจาก ฮัดสัน-โอดอย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก โดยเจ้าตัวลงสนามเป็นตัวสำรองแมตช์ที่เอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก 5-0 ในรายการ ยูฟ่า เนชันส์ลีก

หลังจากที่ ไมเคิล โอเวน ก้าวขึ้นมามีฤดูกาลมหัศจรรย์กับ ลิเวอร์พูล ในซีซัน 1997/98 ช่วงซัมเมอร์ดังกล่าวก็เป็นโอกาสของเขาในทีมชาติ อังกฤษ เมื่อ เกล็น ฮ็อดเดิ้ล หนีบเจ้าตัวร่วมโม่แข้งในศึก ฟุตบอลโลก 1998

โดย โอเวน เดบิวต์ให้กับ สิงโตคำราม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกันกับเกมที่ปราชัยต่อ ชิลี 2-0 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นแข้งอายุน้อยสุดที่ทำประตูได้ในยูนิฟอร์ม ทรีไลอ้อนส์ เมื่อมีชื่อบนสกอร์บอร์ดในเกมกับ โมร็อคโก ซึ่งสถิติดังกล่าวของ เบบี้โกล ยาวนาน 5 ปีก่อนจะถูกทำลายลงหลังจากนั้นด้วยผู้เล่นรายอื่นในลิสต์นี้

เป็นที่น่าเสียดายไม่น้อยสำหรับเกมเดบิวต์ของ ราฮีม สเตอร์ลิง กับ อังกฤษ ไม่ได้เป็นที่น่าจดจำนักเมื่อเจ้าตัวมีชื่อในเกมพ่าย สวีเดน 4-2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 เกมเดียวกับที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช พังประตูด้วยลูกจักรยานอากาศระยะไกลซึ่งยังตราตรึงจนถึงทุกวันนี้

แมตช์ดังกล่าวยังเป็นการประเดิมสนามในนามทีมชาติของแข้งอย่าง สตีเวน คอล์เกอร์, ลีออน ออสแมน,​ ไรอัน ชอว์ครอสส์, คาร์ล เจนกินสัน และ วิลฟรีด ซาฮา อีกด้วย

เวย์น รูนีย์ เจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ อังกฤษ เริ่มต้นเส้นทางทีมชาติในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2003 เมื่อเจ้าตัวมีอายุได้เพียง 17 ปีโดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนามหลังพักครึ่งเกมที่ สิงโตคำราม ปราชัยต่อ ออสเตรเลีย 3-1 ซึ่งเจ้าหนูรูนในเวลาดังกล่าวปักหลักแดนหน้าเคียงข้างกับนักเตะอย่าง ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส และ ดาริอุส วาสเซลล์

เดือนกันยายนของปีเดียวกัน รูนีย์ ได้ทำลายสถิติแข้งอายุน้อยสุดที่ทำประตูให้พลพรรค ทรีไลอ้อนส์ ในเกมกับ มาซิโดเนีย

ให้หลังจากที่ ธีโอ วัลค็อตต์ ประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ เซาแธมป์ตัน ด้วยวัยเพียง 16 ปี เจ้าตัวก็กลายเป็นหนึ่งในแข้งที่ได้รับการจับตาไปทั้งวงการลูกหนังแดนผู้ดีก่อนจะบรรลุข้อตกลงย้ายไปร่วมทัพ อาร์เซนอล ในเดือนมกราคม 2006

วัลค็อตต์ ได้มีส่วนร่วมกับ สิงโตคำราม ก่อนที่เขาจะลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ เดอะกันเนอร์ส ด้วยซ้ำเมื่อ สเวน โกรัน-อีริคส์สัน ส่งเขาลงสนามในเกมอุ่นเครื่องที่เอาชนะ ฮังการี 3-1ก่อนจะเรียกเจ้าตัวติดทีมชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2006 แม้ว่าเจ้าหนูวัย 17 ปีในเวลานั้นจะไม่ได้ลงสนามโชว์ฟอร์มในรายการ เวิลด์คัพ ปีดังกล่าวแม้แต่นาทีเดียว

สัปดาห์ทีมชาติ ! ส่องโปรแกรม ยูฟ่า เนชันส์ลีก กระชับมิตรทีมชาติ และการถ่ายทอดสดตลอดสัปดาห์

Memphis Depay, Harry Kane, Sarach Yooyen
Memphis Depay, Harry Kane, Sarach Yooyen

สำรวจทุกโปรแกรมทีมชาติที่น่าสนใจตลอดสัปดาห์นี้ทั้งเกมกระชับมิตร, คิวเตะ ยูฟ่า เนชันส์ลีก รวมไปถึงกำหนดการอุ่นเครื่องของ ทีมชาติไทย และช่องทางถ่ายทอดสด

02:45 น. กระชับมิตร เยอรมนี พบ สาธารณรัฐเช็ก
02:45 น. กระชับมิตร เนเธอร์แลนด์ พบ สเปน
02:45 น. กระชับมิตร เบลเยียม พบ สวิตเซอร์แลนด์
02:45 น. กระชับมิตร อิตาลี พบ เอสโตเนีย

เปิดหัวสัปดาห์ทีมชาติในคืนวันพุธ (เช้ามืดของวันพฤหัสบดี) ด้วยคิวเตะอุ่นเครื่องก่อนศึก ยูฟ่า เนชันส์ลีก โดยมีบิ๊กแมตช์ ยักษ์ชนยักษ์พลรรค กังหันลม จะเล่นใน โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา ต้อนรับการมาเยือนของทัพ กระทิงดุ ขณะที่ อินทรีเหล็ก มีคิวกระชับมิตรกับ เช็ก ในวันและเวลาเดียวกัน

03:00 น. กระชับมิตร อังกฤษ พบ ไอร์แลนด์

พลพรรค สิงโตคำราม มีคิวเตรียมความพร้อมกับเพื่อนบ้าน ยักษ์เขียว ในคืนวันพฤหัสบดีนี้ก่อนที่ทัพ ทรีไลอ้อนส์ จะหวกกับ เบลเยียม และ ไอซ์แลนด์ ในรายการ ยูฟ่า เนชันส์ลีก เป็นลำดับถัดไป

21:15 น. กระชับมิตร ญี่ปุ่น พบ ปานามา

ทัพ ซามูไรบลู ภายใต้การคุมทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสึ เลือกที่จะฟาดแข้งใน ยุโรป ณ สนาม ลิเบอนัวร์ สตเดี้ยม ใน ออสเตรีย เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในมาตรการคุมเข้มการเดินทาง โดยขงเบ้งแดนปลาดิบยังเลือกที่จะใช้ผู้เล่นทั้งหมดที่ค้าแข้งใน ยุโรป ในทีมชุดนี้อีกด้วย นำโดย ทาคูมิ มินามิโนะ จาก ลิเวอร์พูล, ทาเคฟูสะ คูโบะ จาก บียาร์เรอัล, ทาคูมะ อาซาโน สังกัด ปาร์ติซาน เบลเกรด, ยูโตะ นากาโตโมะ สังกัด มาร์กเซย์ และ มายะ โยชิดะ แห่ง ซามพ์โดเรีย เป็นต้น

16:00 น. กระชับมิตร ทีมชาติไทย พบ ออลสตาร์ไทยลีก ถ่ายทอดสด ไทยรัฐทีวี ช่อง 32
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก เยอรมนี พบ ยูเครน ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก สวีเดน พบ โครเอเชีย ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก สวิตเซอร์แลนด์ พบ สเปน ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
03:00 น. กระชับมิตร เม็กซิโก พบ เกาหลีใต้

เริ่มต้นสุดสัปดาห์ด้วยโปรแกรมอุ่นเครื่องทัพ ช้างศึก ภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ ที่แม้จะไร้แข้งดังจากศึก เจลีก แต่ยังมีสตาร์อย่าง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, มานูเอล ทอม เบียรห์, ทริสตอง โด และ ฟิลิป โรลเลอร์ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสโชว์ฝีเท้าของ 5 แข้งใหม่ในนามทีมชาติอย่าง ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม, สิทธิโชค ภาโส, ธณชัย หนูราช, เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม และ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์

หลังจากนั้นในช่วงกลางดึกจะเป็นคิวศึก ยูฟ่า เนชันส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มโดยมีบิ๊กแมตช์ทัพ ฝอยทอง ดวลกับพลพรรค ตราไก่ แย่งตำแหน่งแชมป์กลุ่ม 3

00:00 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก เนเธอร์แลนด์ พบ บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกเวเนีย ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก เบลเยียม พบ อังกฤษ ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก อิตาลี พบ โปแลนด์ ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี

สถานการณ์ในกลุ่ม เอ1 กลายเป็น โปแลนด์ ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มอย่างเซอร์ไพรส์ นำหน้าทั้ง อิตาลี และ เนเธอร์แลนด์ ส่งผลให้พลรรค อัซซูรี และทัพ กังหันลม ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ ขณะที่ สิงโตคำราม ในสถานะอันดับที่ 3 ของกลุ่ม เอ2 จะดวลกับ ปีศาจแดงดำ ในฐานะจ่าฝูงของกลุ่ม

02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก ฝรั่งเศส พบ สวีเดน ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก สเปน พบ เยอรมนี ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
03:00 น. กระชับมิตร ญี่ปุ่น พบ เม็กซิโก

บิ๊กแมตช์สำหรับคืนวันอังคารอยู่ที่การพบกันระหว่างทัพ ลา โรฆา ที่มีคิวดวลกับพลพรรค ดิ มานชาฟท์ สำหรับการแย่งตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม 4 ขณะที่ ตราไก่ จะลงหวดนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มกับทัพ ไวกิ้ง

02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก อังกฤษ พบ ไอซ์แลนด์ ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี
02:45 น. ยูฟ่า เนชันส์ลีก บอสเนีย พบ อิตาลี ถ่ายทอดสด ยูฟ่าดอททีวี

ส่งท้ายสัปดาห์ทีมชาติกับคิวเตะของทัพ สิงโตคำราม ที่ต้องดวล เนชันส์ลีก นัดสุดท้ายกับ ไอซ์แลนด์ ขณะที่พลพรรค อัซซูรี ต้องออกไปเยือน บอสเนีย

[RANKING] ยังรอโอกาส ! 5 นักเตะอังกฤษฟอร์มดี ที่ยังไม่เคยถูกเรียกไปติดทีมชาติชุดใหญ่ ณ ปัจจุบัน

แบ็คขวาวัย 22 ปีของ เลสเตอร์ ซิตี้ ผู้ที่ฤดูกาลนี้ถูกจับมายืนเป็นแบ็คซ้ายแทนที่ เบน ชิลเวลล์ แต่กลับทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ จิ้งจอกสยาม ตลอด 8 นัดแรก จนสามารถพาทีมทะยานขึ้นเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จ ณ ปัจจุบัน

จัสติน เคยเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี แต่ด้วยอายุที่เกินมา ทำให้เจ้าตัวต้องรอโอกาสในการรับใช้ชาติต่อไป แต่ด้วยฟอร์มที่ดีวันดีคืนนี้เชื่อว่าอีกไม่นาน แกเรธ เซาธ์เกต คงจะเรียกตัวเข้าสู่แคมป์เป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน

แบ็คจอมบุกวัย 20 ปีของ ไบรท์ตัน ที่แจ้งเกิดกับทีมได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ โชวฟอร์มได้โดดเด่นสุด ๆ กับทัพนกนางนวล ตลอด 8 เกมแรก แถมยังทำไปแล้ว 1 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์อีกด้วย โดยจุดเด่นของเขาอยู่ที่ความเร็วอันจัดจ้านแถมยังไปกับบอลได้ดี บวกกับความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมกล้าเล่นกล้าเลี้ยง จนฝีเท้าไปเตะตายักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีม ณ ปัจจุบัน

ส่วนสถานการณ์ในทีมชาตินั้น แลมพ์ตีย์ เล่นให้กับทัพทรีไลออนมาแล้วแทบทุกรุ่น เหลือแค่เพียงชุดใหญ่เท่านั้น ซึ่งหากเขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นและพัฒนาต่อไปได้ บอกได้เลยว่าอนาคตทีมชุดใหญ่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

แข้งสารพัดประโยชน์วัย 30 ปีที่ถูกจับมายืนเป็นหัวหอกตัวเป้าในฤดูกาลก่อนและโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น อันโตนิโอ เป็นหนึ่งในนักเตะสไตล์ที่กองหลังหลาย ๆ คนเข็ดขยาด เพราะมีทั้งความแข็งแกร่ง ชนไม่มีล้ม รวมถึงสปีดที่หากได้ออกตัวก็ยากที่จะไล่ทัน ดูได้จากหลาย ๆ เกมก่อน ที่แม้แต่ทีมใหญ่ ๆ ยังถูกเจ้าตัวเล่นงานมาแล้วทั้งสิ้น เสียดายที่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้รับโอกาสในการรับใช้ชาติเลยแม้แต่เกมเดียว

หัวหอกวัย 24 ปีที่ แอสตัน วิลลา ทุ่มเงินเกือบ 30 ล้านปอนด์ดึงตัวมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งมาแจ้งเกิดได้สำเร็จจากการยิงแฮททริกใส่ ลิเวอร์พูล ในเกมที่เอาชนะไปได้ 7-2 เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน แถมตลอด 10 นัดรวมทุกรายการในปีนี้เขาซัดไปแล้วถึง 8 ประตูให้กับทีมสิงห์ผงาด น่าสนใจว่าด้วยฟอร์มอันร้อนแรงตลอด 2 ซีซั่นที่ผ่านมา เซาธ์เกต จะเริ่มหันมาสนใจในตัวเขาเหมือนกับที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง แจ็ค กรีลิช พึ่งจะถูกเรียกไปติดทีมชาติเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่

หัวหอกทีมยุงทองวัย 27 ปีผู้ที่เคยเป็นเด็กปั้นของ เชลซี มาก่อน แบมฟอร์มระเบิดฟอร์มเก่งพา ลีดส์ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จด้วยผลงาน 16 ประตูในปีก่อน แถมในซีซั่นนี้ยังสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นด้วยการซัดไปแล้วถึง 7 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์จาก 8 นัดใน พรีเมียร์ลีก อีกด้วย

ในนามทีมชาติ แบมฟอร์ด เคยติดทัพสิงโตคำรามในชุดเล็กมาแล้ว แต่ด้วยฟอร์มแบบนี้รวมถึงสไตล์การเล่นของเขาก็มีโอกาสที่ เซาธ์เกต อาจลองเรียกตัวไปใช้งานอยู่บ้างเร็ว ๆ นี้

เด็กผีเอาป่ะ ! ดอยล์ คอนเฟิร์ม นูโน เหมาะคุม แมนฯ ยูไนเต็ด แทนที่ โซลชาร์

FBL-ENG-FACUP-MAN UTD-WOLVES
FBL-ENG-FACUP-MAN UTD-WOLVES | PAUL ELLIS/Getty Images

เควิน ดอยล์ อดีตแข้งดาวดังของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ยืนยันว่ากุนซือทัพหมาป่าคนปัจจุบันอย่าง นูโน เอสปิริโต ซานโต เหมาะคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทนที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ มากกว่าใครเพื่อน

“สิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้อาจทำให้แฟนบอล วูล์ฟแฮมป์ตัน ขุ่นเคืองใจ แต่ต้องยอมรับแหละว่า นูโน เอสปิริโต ซานโต เหมาะคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อจาก โซลชาร์ จริง ๆ” ดอยล์ กล่าวกับ Ladbrokes

“แน่นอนว่าหลายคนเล็ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เอาไว้เป็นเบอร์หนึ่งในดวงใจหากเกิดการปลด โซลชาร์ ออกจากตำแหน่งกลางอากาศ แต่โดยส่วนตัวมองว่า นูโน เวิร์คกว่าชัดเจน”

“คือต้องบอกก่อนว่าผมเองก็เป็นสาวกปีศาจแดงระดับเดนตายคนหนึ่งเช่นกัน และเชื่อว่า นูโน มีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทีมเค้นศักยภาพออกมาได้สูงสุด ซึ่งนี่คือสิ่งที่ โซลชาร์ ขาดไปมาก”

“ฉะนั้นหาก บอร์ดฯ แมนฯ ยูไนเต็ด คิดจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ในเร็ว ๆ นี้ล่ะก็ ผมอยากแนะนำให้ตั้ง นูโน เอาไว้เป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ เพราะเขาเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง”

เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก สิงห์บลู ฟอร์มโหดอัด ดาบคู่ ยับเยิน

Edouard Mendy, Reece James
Chelsea v Sheffield United – Premier League | Pool/Getty Images

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 00.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : เชลซี 4-1 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เกมนี้แม้ทีมเยือนจะพลิกล็อคขึ้นนำก่อนจากลูกสูตรเตะมุมอันยอดเยี่ยมที่ยากจะรับมือตั้งแต่ 10 นาทีแรก แต่หลังจากโดดนำ พลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม ก็ไม่ได้ตื่นตูมที่จะเร่งเกมหวังเอาประตูขึ้นแบบทันควัน แต่พวกเขายังคงเล่นในสไตล์ของตัวเองค่อย ๆ นวด จนมีช่องทางให้เข้าทำได้และสามารถยิงแซงนำได้สำเร็จตั้งแต่ก่อนหมดครึ่งเวลาแรก แน่นอนหลังจากสกอร์เป็นรอง ผู้มาเยือนจำเป็นต้องเปลี่ยนไปเล่นเกมบุกมากขึ้น ซึ่งนั่นทำให้เกมรับของพวกเขาย่อหย่อนลงไป จึงเป็นที่มาของอีก 2 ประตูของเจ้าถิ่นในครึ่งหลัง

อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่พวกเขาก็หยุดสถิติคลีนชีทรวมทุกรายการเอาไว้ที่ 5 นัดติดต่อกัน แถมประตูของ แม็คโกลดริค ในวันนี้ ยังเป็นประตูแรกที่ เอดูอาร์ด เมนดี้ โดยยิงในการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ให้กับต้นสังกัดใหม่อีกด้วย

หลายเกมในช่วงเปิดฤดูกาลเราจะเห็นได้ชัดเจนว่าวิธีการเล่นรวมถึงฟอร์มโดยรวมของทีมที่ออกมา แตกต่างจากรูปเกมในปัจจุบันพอสมควร ซึ่งหนึ่งในสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนั่นก็มาจากการที่ ฮาคิม ซิเยค หายเจ็บกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้แล้วนั้นเอง

ปีกขวาฉายาซ้ายชั่งทองรายนี้ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการปรับตัวให้เข้ากับแผนการเล่นของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เน้นเกมรุกจากริมเส้นเป็นหลักมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ซึ่งการกลับมาลงสนามได้ของของปีกชาวโมร็อกโกรายนี้ทำให้ทีมมีผู้เล่นที่สามารถวางบอลได้ แถมยังมีความเร็วไปกับบอลได้ดี มีทักษะในการเลี้ยงทะลุทะลวงในยามจำเป็นได้ ซึ่งเปรียบเหมือนทีมได้ วิลเลียน ในอีกเวอร์ชั่นเข้ามาทดแทน โดยในเกมนี้เจ้าตัวก็ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ แถมยังมีจังหวะจ่ายบอลสั้นและวางบอลยาวอีกหลายครั้งที่ดูมีจินตนาการและวิสัยทัศน์พอสมควร น่าสนใจว่าหากเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับ พรีเมียร์ลีก ได้เมื่อไหร่ อาจไม่ใช่เรื่องยากที่จะสามารถทำได้ฤดูกาลละ 20 แอสซิสต์ เหมือนสมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ อาแจ๊กซ์ ก็เป็นได้

3 แต้มในเกมนี้ของ พลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม ทำให้พวกเขามี 15 คะแนนจากการลงสนาม 8 เกม ทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ชั่วคราว เป็นรองเพียง ลิเวอร์พูล ที่ยังแข่งน้อยกว่าพวกเขา 1 นัดและ เซาแธมป์ตัน จ่าฝูงเพียง 1 คะแนนเท่านั้น แถม หงส์แดง ยังมีคิวต้องบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ในวันพรุ่งนี้ รวมถึง เลสเตอร์ ทีมอันดับ 4 ยังต้องไปอัดกับ วูล์ฟส์ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงไม่แพ้กันอีกด้วย

นี่จึงเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะสามารถยึดพื้นที่หัวตารางลุ้นแชมป์เอาไว้ได้ก่อนช่วงฟีฟ่าเดย์ในสัปดาห์ต่อไป แต่ก็หวังว่าหลังจากกลับมาลงเล่นกันใหม่แล้ว ฟอร์มอันร้อนแรงของพวกเขาจะยังงคงต่อเนื่องไม่หยุดพักเหมือนโปรมเกมเกมลีกที่ต้องหยุดยาวไปอีก 2 อาทิตย์เพื่อหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาตินั่นเอง