เก็บตก 4 ประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง คว้าชัยไล่จี้จ่าฝูง

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : ลิเวอร์พูล 4-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน
สนาม : แอนฟิลด์

เกมนี้เป็นนัดแรกของ แอนฟิลด์ ที่อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมได้ราว 2,000 คน ซึ่งนั่นทำให้บรรยากาศของเกมเปลี่ยนไปจากที่มีเพียงสแตนด์โล่ง ๆ ก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เพียงเพราะภาพที่เห็นว่ามีคนดูมานั่งชมเท่านั้น แต่เสียงเชียร์แบบของจริงไม่มีการปรุงแต่งนั้น มันทำให้อรรถรสในการชมฟุตบอลเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

นัดนี้ ลิเวอร์พูล นอกจากจะเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า โอกาสเข้าทำและสกอร์ของเกมต่างออกมาค่อนข้างขาดลอย ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องความมั่นใจและความมุ่งมั่นพวกเขาดูจะเป็นต่อผู้มาเยือนในวันนี้ค่อนข้างชัดเจน เพราะขณะที่ช่วงครึ่งแรกนักเตะ หงส์แดง พยายามหาช่องเจาะเข้าทำอย่างอดทนจนมาได้ความผิดพลาดของคู่แข่งช่วยให้ได้ประตู แต่ฟากผู้มาเยือนกลับสีหน้าท่าทางดูถอดใจอย่างชัดเจนเมื่อทีมโดนยิงประตูที่สองทั้งที่เวลาของพวกเขายังเหลือให้แก้ตัวอยู่อีกราวครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว

นัดนี้แม้เกมริมเส้นของ วูล์ฟแฮมป์ตัน จะทำได้หวือหวาและพอจะหาช่องเจาะเข้าสู่พื้นที่อันตรายได้อยู่บ้าง แต่จังหวะจบของพวกเขาต้องบอกว่ายังไม่เฉียบขาดมากพอ แถมการหายไปของ ราอูล ฆิเมเนซ กองหน้าตัวเก่งที่กระโหลกศีรษะร้าวในเกมก่อนที่บุกไปเอาชนะ อาร์เซนอล มานั้น ทำให้มิติในเกมรุกของ ทัพหมาป่า ดูลดความน่ากลัวคงไปพอสมควรเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะลดความทีเด็ดทีขาดในกรอบเขตโทษลงไปแล้ว ทีมยังขาดผู้เล่นที่สามารถพักบอลเก็บบอลในแดนหน้าโดยเฉพาะเวลาที่ต้องเล่นลูกสวนกลับและอาศัยการวางบอลยาวจากกแดนหลังนั่นเอง

เกมนี้เป็นอีกครั้งที่ เนโก้ วิลเลียมส์ เจ้าหนูวัย 19 ปีได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งหลายเกมที่ผ่านมาเจ้าตัวถูกตั้งคำถามอย่างมากในเรื่องของความแน่นอน และมักจะเป็นบ่อให้คู่แข่งเล่นงานได้อยู่เสมอ ๆ กระทั่งวันนี้เจ้าของตำแหน่งอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ หายเจ็บกลับมาฟิตทันพร้อมลงสนาม โดยหลังจากถูกเปลี่ยนลงมาแทยที่ เนโก้ ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย เจ้าตัวก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนทั้งเกมรุกและรับ เพราะนอกจากจะเป็นคนเปิดบอลสุดสวยให้ทีมได้ประตูที่ 4 แล้ว จังหวะป้องกันยังทำได้ค่อนข้างนิ่งและชัวร์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

[Player Ratings] เมานท์-ก็องเต้ โดดเด่น ! ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านอัด ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : เชลซี 3-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

คะแนนนักเตะ เชลซี

เอดูอาร์ด เมนดี้ – 6.5/10
มีจังหวะได้ออกแรงเซฟอยู่บ้าง แต่มีส่วนต้องรับผิดชอบจากการตัดสินใจออกมาปิดมุมพลาดจนโดน แบมฟอร์ด แตะหลบเข้าไปยิงในช่วงต้นเกม

รีซ เจมส์ – 7/10
วันนี้เล่นได้ค่อนข้างโดดเด่นโดยเฉพาะในเกมรุก ที่มีโอกาสเติมขึ้นสูงค่อนข้างบ่อยโดยเฉพาะในครึ่งแรก แถมทำได้ 1 แอสซิสต์จากลูกเปิดให้กับ ชิรูด์ เป็นประตูตีเสมอให้กับทีมอีกด้วย

ติอาโก ซิลวา – 7/10
ทางบอลและประสบการของเจ้าตัวยังคงช่วยทีมได้มากโดยเฉพาะจังหวะที่ต้องเล่นกับบอลที่วันนี้ทำได้ค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตามอายุที่มากส่งผลต่อความเร็วของเขาเช่นกันโดยเฉพาะจังหวะที่ต้องดวลตัวต่อตัวในเกมวันนี้

เคิร์ท ซูมา – 7.5/10
มีส่วนต้องรับผิดชอบกับประตูแรกที่ปล่อยให้ ฟิลลิปส์ จ่ายตัดหลังไปง่าย ๆ แต่หลังจากนั้นก็แทบไม่มีจังหวะพลาดให้เห็นเลย แถมยังคงเล่นลูกหลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยมจนทำได้ 1 ประตูเป็นประตูอออกนำ 2-1 ในช่วงครึ่งหลัง

เบน ชิลเวลล์ – 7/10
วันนี้จัดว่าเล่นได้ตามมาตรฐาน มีส่วนกับเกมรุกทางกราบซ้ายพอสมควร

เอ็นโกโล ก็องเต้ – 7.5/10
เรียกได้ว่าเป็นคนที่เห็นในหน้าจอบ่อยที่สุดคนหนึงในเกมนี้ ด้วยความขยันไล่บอลจากที่เล่นในตำแหน่งตัวรับ แถมวันนี้เจ้าตัวยังเติมเกมขึ้นมาช่วยทีมต่อบอลเชื่อมเกมได้หลายครั้ง

เมสัน เมาทน์ – 8/10
เป็นอีกนัดที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในการสร้างสรรค์เกมนอกกรอบเขตโทษ แถมยังขยันวิ่งทำทางเปิดพื้นที่ว่างให้เพื่อนร่วมทีม อีกทั้งยังทำได้ 1 แอสซิสต์ในวันนี้อีกด้วย

ไค ฮาเวิร์ตซ์ – 5.5/10
ยังคงเล่นไม่ออกตามเคย แถมวันนี้ยังดูแข้งขาอ่อนปวกเปียกยิ่งกว่าเดิม ไม่สามารถสร้างความอันตรายได้มากนักเมื่อมีบอลอยู่กับตัว

ฮาคิม ซิเยค – 5.5/10
ลงเล่นได้เพียง 30 นาทีก็มีอาการบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป แต่ช่วงระหว่างนั้นก็มีโอกาสลุ้นทำประตูให้ทีมได้บ้างเหมือนกัน

ติโม แวร์เนอร์ – 7/10
แม้จะเล่นได้ค่อนข้างโดดเด่นในแดนหน้าจากความเร็วและพละกำลังอันเหลือเฟือ แต่ต้องบอกว่าวันนี้เจ้าตัวใช้โอกาสเปลืองมาก ๆ จากโอกาสลุ้นที่ควรจะได้ประตูหลายต่อหลายครั้ง อย่างไรก็ตามยังมี 1 แอสซิสต์ติดมือออกมาในเกมวันนี้

โอลิวิเยร์ ชิรูด์ – 7.5/10
ทำประตูได้อย่างต่อเนื่องในเกมนี้ แถมยังพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีประโยชน์ในแดนหน้ามากขนาดไหนทั้งเก็บบอลพักบอล แถมเล่นลูกกลางอากาศได้ดีอีกด้วย

ตัวสำรอง

คริสเตียน พูลิซิช (ลงสนามนาทีที่ 30) – 6.5/10
ลงมาแทนที่ ซิเยค ฟอร์มอาจจะยังไม่เปรียงปร้างมากนักเพราะพึ่งหายเจ็บกลับมาแต่วันนี้ก็ทำได้ 1 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

มาเตโอ โควาชิช – (ลงสนามนาทีที่ 67) – 6/10
ลงมาช่วยไล่บอลและสร้างมิติในเกมรุกแดนกลาง

แทมมี อับราฮัม – (ลงสนามนาทีที่ 79) – 5.5/10
มีโอกาสได้เล่นกับบอลอยู่บ้าง แต่ก็ยังสร้างความแตกต่างไม่ได้มากนัก

พรีวิว พรีเมียร์ลีก, วัน+เวลาการแข่งขัน, คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง และถ่ายทอดสด

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21

วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : เชลซี พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1

ความพร้อมของทั้งสองทีม

เชลซี

สิงโตน้ำเงินคราม ทีมอันดับ 3 ในตารางไม่แพ้ใครมาแล้ว 12 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ แถมล่าสุดพึ่งจะบุกไปถล่ม เซบีญา ขาดลอยถึง 4-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาลอยลำเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นที่แน่นอนแล้ว โดยเกมลีกวันนี้ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด มีคิวเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 12 แถมยังเป็นน้องใหม่ที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมรุกอันดุดัน อย่างไรก็ตามดูเหมือน ทีมยุงทอง ชุดนี้จะยังมีจุดอ่อนอยู่ที่เกมรับ เพราะฉนั้นต้องมาลุ้นกันว่าแนวรุกของ สิงห์บลู จะสามารถบุกเจาะตาข่ายรวมถึงป้องกันเกมรุกสุดอันตรายของทีมเยือนในเกมนี้ได้หรือไม่

สภาพทีมก่อนลงทำการแข่งขัน สิงโตน้ำเงินคราม ไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บ ณ เวลานี้ โดยตัวหลักของทีมที่บาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้อย่าง คริสเตียน พูลิซิช และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ กลับมาฟิตเต็มร้องพร้อมเป็นตัวเลือกให้กับ แลมพาร์ด ในเกมวันนี้ทั้งหมด

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – เมนดี้
กองกลัง – เจมส์, ซิลวา, ซูมา, ชิลเวลล์
กองกลาง – ก็องเต้, โควาซิช, เมานท์
กองหน้า – ซิเยค, ชิรูด์, พูลิซิช

ลีดส์ ยูไนเต็ด

ทีมของ มาร์เซโล บิเอลซา ทำผลงานได้ดีใน 2 นัดหลังด้วยการยันเสมอ อาร์เซนอล 0-0 และบุกไปเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน มาได้ 0-1 เมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้ขยับขึ้นมรั้งอับดับ 12 ของตาราง ณ ขณะนี้ อย่างไรก็ตามวันนี้ ทัพยุงทอง ยังคงต้องพบกับงานหนักอย่างต่อเนื่องด้วยการบุกไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ รังเหย้าของ เชลซี ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง ต้องมาลุ้นกันว่าพวกเขาจะต้านทานเกมรุกอันดุดันของเจ้าบ้านในเกมนี้จนสามารถมีแต้มติดมือกลับบ้านไปได้หรือไม่

ความพร้อมก่อนเกม จะยังไม่สามารถใช้งาน อดัมส์ ฟอร์ชอว์ เกตาโน เบราร์ดี้ ได้ในเกมนี้แน่นอนแล้ว ส่วนในรายของ ปาโบล เฮร์นันเดซ และ ดิเอโก้ ยอเรนเต้ ยังต้องรอเช็คความฟิตก่อนแข่งอีกครั้ง

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง

ผู้รักษาประตู : เมสลิเอร์

กองกลัง : ไอย์ลิง, ค็อด, คูเปอร์, ดัลลัส

กองกลาง : ราฟินญา, คลิช, ฟิลลิปส์, คอสต้า, แฮร์ริสัน

กองหน้า : แบมฟอร์ด

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เชลซี – ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 0

3 ธันวาคม แชมเปี้ยนส์ลีก – เซบีญา 0-4 เชลซี
29 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – เชลซี 0-0 สเปอร์ส

25 พฤศจิกายน แชมเปี้ยนส์ลีก – แรนน์ส 1-2 เชลซี

21 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – นิวคาสเซิล 0-2 เชลซี

8 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – เชลซี 4-1 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

ลีดส์ ยูไนเต็ด – ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2

29 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – เอฟเวอร์ตัน 0-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด

22 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – ลีดส์ 0-0 อาร์เซนอล
7 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – คริสตัล พาเลซ 4-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด

3 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก – ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-4 เลสเตอร์ ซิตี้

24 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก – แอสตัน วิลลา 0-3 ลีดส์ ยูไนเต็ด

เฮดทูเฮด – เชลซี ชนะ 3 เสมอ 1 ลีดส์ ชนะ 1

20/12/20 คาราบาว คัพ – ลีดส์ 1-5 เชลซี

15/05/04 2012 พรีเมียร์ลีก – เชลซี 1-0 ลีดส์

06/12/03 2011 พรีเมียร์ลีก – ลีดส์ 1-1 เชลซี

29/01/03 2011 พรีเมียร์ลีก – เชลซี 3-2 ลีดส์
28/12/02 2004 พรีเมียร์ลีก – ลีดส์ 2-0 เชลซี

[Match Report] ปืน ถล่มเละ ! อาร์เซนอล เปิดบ้านอัด ราปิด เวียนนา ขาดลอย 4-1 ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก เมื่อคืนวาน

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : อาร์เซนอล 4-1 ราปิด เวียนนา
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซนอล เปิดรังคว้าชัยเหนือ ราปิด เวียนนา 4-1 โดยได้ประตูจาก อเล็กซองเดร์ ลากาเซ็ตต์ นาทีที่ 10 ปาโบล มารี นาทีที่ 18 เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ นาทีที่ 44 และ เอมิล สมิธ โรล นาทีที่ 66 ส่วนผู้มาเยือนมาได้หนึ่งประตูจาก โคยะ คิตากาวะ นาทีที่ 47 ทำให้จบเกม ปืนใหญ่ คว่า 3 คะแนนเต็มลอยลำเข้าสู่รอบต่ไปเป็นที่เรียบร้อย

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกเป็นเจ้าบ้านที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ตามฟอร์ม และมาได้ประตูออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 10 จากจังหวะตัดบอลได้กลางสนามก่อนที่ ลากาเซ็ตต์ จะยิงไกลบอลส่ายหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไป

3 นาทีต่อจากนั้นเจ้าถิ่นมีโอกาสใกล้เคียงอีกรอบจากลูกโหม่งของ มุสตาฟี แต่บอลหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 18 ปืนใหญ่ บวกประตูที่สองจากจังหวะเตะมุม เนลสัน โยนเข้ามาให้ มารี โหม่งโล่ง ๆ บอลเสียบเสาสองเข้าไป

นาทีที่ 26 ลากาเซ็ตต์ ได้โอกาสส่องโล่ง ๆ อีกครั้ง แต่บอลพุ่งไปชนเสาเหลี่ยมนอกกระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไปดูเจ้าบ้านจะผ่อนเกมลง และปล่อยให้ทีมเยือนได้ครองบอลบุกขึ้นมาบ้างแต่ยังคงทำอะไรได้ไม่มากนัก

กระทั่งนาทีที่ 44 เจ้าถิ่นนำห่าง 3-0 จากจังหวะต่อบอลขึ้นมาอย่างสุดสวย เปเป้ หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนตบกลับเข้ากลางให้ เนลสัน เคาะต่อให้ เอ็นเคเทียห์ ได้ซัดบอลได้ติดเซฟแต่ยังกระดอนมาเข้าทางเจ้าตัวโหม่งซ้ำเข้าไป

ทำให้จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล ออกนำ 3-0

เริ่มครึ่งเวลาหลังได้เพียง 2 นาที ทีมเยือนมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ เดเมียร์ หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนจะกดมุมแคบ รูนาร์สสัน ยังปัดออกมาได้และเป็น อราเซ ที่ได้ซ้ำสองจังหวะติดต่อกันแต่ยังไปติด โคลาซินาค กระทั่งบอลมาเข้าทาง คิตากาวะ ได้วอลเล่โล่ง ๆ เข้าไป

จากนั้นทั้งสองทีมต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กันมากขึ้น โดยเป็นเจ้าบ้านที่มีโอกาสใกล้เคียงจาก ลากาเซ็ตต์ ที่ยิงบริเวณเส้นกรอบเขตโทษแต่ยังไปติดเซฟของ ผู้รักษาประตู

จากนั้นนาทีที่ 59 เมตแลนด์-ไนลส์ ได้ลุ้นยิงจ่อ ๆ แต่ยังคงไม่ผ่านมือของ สเตรบิงเกอร์ ไปได้

กระทั่งนาทีที่ 66 เจ้าถิ่นออกนำ 4-1 จากจังหวะตัดบอลในแดนคู่แข่งได้ และเป็น เมตแลนด์-ไนลส์ ที่หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนตบกลับให้ สมิธ โรว ยิงเข้าไปง่าย ๆ

แม้จะนำห่างถึง 4 ประตูแต่ พลพรรคปืนใหญ่ ยังคงพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนักและมีโอกาสได้ลุ้นหลายต่อหลายครั้งทั้งลูกยิงของ วิลเลียน และฟรีคิกของ เซบาญอส แต่ยังคงทำได้แค่เกือบเท่านั้น ส่วนทีมเยือนถอยลงมาตั้งรับและรอโอกาสในการเล่นเกมสวนกลับ

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครบวกสกอร์กันเพิ่มได้ ทำให้จบ 90 นาที อาร์เซนอล คว้า 3 คะแนนลอยลำเข้าสู่รอบตอไปแบบสบาย ๆ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

อาร์เซนอล : รูนาร์สสัน, มุสตาฟี, มารี, โคลาซินาช, เซดริค, เอลเนนี, เมตแลนด์-ไนลส์, เนลสัน, เปเป้, ลากาเซ็ตต์, เอ็นเคเทียห์

ตัวสำรอง
: เมซีย์, เลโน, แชมเบอร์ส, โฮลดิง, เทียร์นีย์, เซบาญอส, ซาก้า, วิลล็อค, วิลเลียน, อาซีซ, บาโลกัน, สมิธ โรว

ราปิด เวียนนา : สเตรบิงเกอร์, ซอนน์ไลต์เนอ, ฮอฟมันน์, เกเมิล, อราเซ, เดอเมียร์, ชูสเตอร์, อุลล์มันน์, ริตส์ไมเออร์, อาลาร์, คิตากาวะ

ตัวสำรอง : เฮเดิล, การ์ตเลอร์, บารัค, อิบราฮิโมกลู, กราโฮวัช, นาสมูลล์เนอร์, คารา, สตอยโควิช, ชิค, ซัลซ์บัคเกอร์

ลุ้นจนเฮือกสุดท้าย ! สรุปเงื่อนไข แมนฯ ยูไนเต็ด เข้ารอบน็อคเอาท์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังพ่าย เปแอสเช 1-3

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงต้องลุ้นหนักกับโอกาสในการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปราชัยคารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-3 ต่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในการแข่งขันเกมที่ 5

ประตูจาก เนย์มาร์ พาทีมเยือนออกสตาร์ทด้วยการขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะพังประตูตีเสมอสำเร็จในครึ่งแรก ทว่าประตูจาก มาร์ควินญอส ในครึ่งหลังรวมไปถึงการถูกใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนามของ เฟร็ด ทำให้ ผีแดง ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ยากลำบาก่อนจะถูกตอกฝาโลงจากประตูของ เนย์มาร์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

โดย แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวเตะนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มโดยการออกไปเยือน แอร์เบ ไลป์ซิก ที่ เร้ดบูลล์ อารีนา ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ เปแอสเช จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์

กรณี ปีศาจแดง เอาชนะ ไลป์ซิก – ลูกทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที

กรณี ปีศาจแดง เสมอกับ ไลป์ซิก – พวกเขาจะยังสามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้เช่นกันเมื่อมีผลการแข่งขันเฮดทูเฮดดีกว่าทีมจาก เยอรมนี (ชนะในการแข่งขันนัดแรกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 5-0)

กรณี ปีศาจแดง ปราชัย ไลป์ซิก – แมนฯ ยูไนเต็ด จะร่วงสู่อันดับที่ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มทันทีและจะได้เล่นในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก แทนที่

ลิเวอร์พูล 1-0 อาแจ็กซ์ : สรุปทุกประเด็นร้อนหลัง หงส์แดง ฉลุย แชมเปี้ยนส์ลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2020
ผลการแข่งขัน : ลิเวอร์พูล 1-0 อาแจ็กซ์
สนาม : แอนฟิลด์

ลูกหม้อ หงส์แดง วัย 19 ปีรับบทพระเอกในเกมนี้เมื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเคียงข้างกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จินี ไวนัลดุม

โจนส์ สามารถประสานงานกับรุ่นพี่ในทีมได้อย่างเนียนตาทั้งเกมรับ (เอาชนะลูกกลางอากาศมากที่สุดเท่า ซาลาห์ 4 ครั้ง) และเกมรุก (สับไกยิงมากที่สุดในสนามที่ 4 ครั้ง) ก่อนที่เจ้าตัวจะเติมขึ้นไปจบลูกครอสของ เนโก้ วิลเลียมส์ กลายเป็นประตูชัยให้กับทีมในเกมนี้

กลายเป็นความหวั่นใจของ เดอะค็อป เล็กน้อยเมื่อ เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ มือกาววัย 22 ปีมีชื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเฝ้าเสาแทนที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงก่อนเริ่มเกม

อย่างไรก็ตาม นายทวารชาว ไอร์แลนด์ สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเมื่อหยุดลูกยิงของบรรดาผู้เล่นทีมเยือนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับช็อตเซฟมหัศจรรย์โอกาสระยะเผาขนของ คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ ในช่วงท้ายเกม

อีกหนึ่งแข้งวัยกระเตาะของ หงส์แดง กับ เนโก้ วิลเลียมส์ แบ็คขวาวัย 19 ปีซึ่งได้ลงสนามประจำการในตำแหน่งแบ็คขวาแทน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ

วิลเลียมส์ ถูกทดสอบอย่างต่อเนื่องเมื่อ อาแจ็กซ์ เน้นขึ้นเกมในพื้นที่ซึ่งเจ้าตัวรับผิดชอบและน่าหวั่นใจในการดวลกับ เดวิด เนเรส แม้จะมีช็อตน่าหวาดเสียวให้เห็นอยู่บ้างแต่โดยรวมนับว่าเจ้าตัวทำได้ตามมาตรฐาน ช่วยทีมเก็บคลีนชีทพร้อมโบนัสกับการทำแอสซิสต์ให้ โจนส์ ในครึ่งหลัง

ผลจากชัยชนะในเกมนี้ของ เร้ดแมชีน ทำให้พวกเขากรุยทางสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแม้จะเหลือการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มอีก 1 นัดก็ตามซึ่งจะทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ สามารถโรเตชันผู้เล่นได้อย่างไร้กังวลในเกมที่จะดวลกับ มิดทิลแลนด์ ที่ เดนมาร์ก กลางสัปดาห์หน้า โดยมีเกมกับ วูล์ฟส และ ฟูแลม บนศึก พรีเมียร์ลีก ขนาบในช่วงสุดสัปดาห์

ยังเชื่อมั่น ! ส.บอล เยอรมนี ยืนยัน โจอาคิม เลิฟ นั่งแท่นกุนซือ อินทรีเหล็ก จนจบ ยูโร 2020 แม้ฟอร์มบู่

สมาคมฟุตบอลเยอรมนี แสดงความเชื่อมั่นในตัว โจอาคิม เลิฟ และทีมงานสต๊าฟฟ์ทำหน้าที่ในทัพ อินทรีเหล็ก ต่อเนื่องอย่างน้อยจนกว่าจะจบทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 รอบสุดท้ายที่จะฟาดแข้งกันในซัมเมอร์ 2021 นี้

พลพรรค ดิ มานชาฟท์ เพิ่งพบกับความพ่ายแพ้ยับเยินต่อทีมชาติ สเปน 6-0 ในศึก ยูฟ่า เนชันส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาตามหลังความผิดหวังในศึก ฟุตบอลโลก 2018 ที่ เยอรมนี ภายใต้การคุมทีมของ เลิฟ กระเด็นตกรอบแรก ไปจนถึงอันดับ ฟีฟ่า แรงกิ้ง ที่ร่วงไปรั้งอันดับที่ 13 ในเวลานี้

ท่ามกลางกระแสความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนจากแฟนบอลแต่ เลิฟ และบรรดาทีมงานสต๊าฟฟ์ซึ่งทำหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2006 ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก เดเอฟเบ ต่อไปตามการแถลงล่าสุดผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขา

ใจความแถลงดังกล่าวระบุว่า เดเอฟเบ ไม่ต้องการที่จะตัดสินอนาคตของ เลิฟ และทีมงานด้วยผลการแข่งขันเพียง 1 นัด (แพ้ สเปน 6-0) โดยพวกเขายังแสดงความมั่นใจในฝีมือของบรรดาทีมงานและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพวกเขาและบรรดานักเตะ

ทั้งนี้ ส.บอล เยอรมนี เชื่อว่าทีมได้คว้าความสำเร็จอันได้แก่การผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบสุดท้าย, การรั้งอันดับใน ยูฟ่า เนชันส์ลีก ลีกเอ รวมทั้งยังคงเป็นทีมวางในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนยุโรปที่จะจับสลากกันในเดือนธันวาคมนี้

ทั้งนี้ สัญญาฉบับปัจจุบันของ เลิฟ กับทีมชาติ เยอรมนี จะสิ้นสุดลงในปี 2022 โดย เดเอฟเบ ยืนยันว่าจะประเมินผลงานของกุนซือรายนี้อีกครั้งหลังจบแต่ละทัวร์นาเมนต์

อาร์เซนอล 1-2 วูล์ฟส : ชำแหละทุกประเด็นร้อนหลังศึก พรีเมียร์ลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21 

วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2020
ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 1-2 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

เกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ออกสตาร์ทด้วยช็อตหวาดเสียวเมื่อ ดาวิด ลุยซ์ เข้าปะทะกับ ราอูล ฆิเมเนซ จนทั้งคู่ลงไปนอนกับพื้นท่ามกลางความเป็นห่วงของบรรดานักเตะทั้ง 2 ทีม

ฝั่ง ลุยซ์ ยังเล่นต่อไหวกระทั่งจบครึ่งแรกก่อนที่ มิเคล อาร์เตต้า จะเปลี่ยนตัวเขาออกจากสนามหลังจบพักครึ่ง ขณะที่ ฆิเมเนซ ดูจะอาการหนักกว่านั้นโดยถูกทีมแพทย์หามขึ้นเปลออกจากสนามหลังปฐมพยาบาลอยู่ราว 10 นาที

อาร์เซนอล ดูจะมีปัญหาในการประสานงานของผู้เล่นในแนวรุก รวมไปถึงการรักษาความสม่ำเสมอของบรรดาแข้งดาวรุ่ง

แม้ทั้ง บูคาโย ซาก้า, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง และ วิลเลียน จะมีช็อตวูบวาบให้เห็นแต่พวกเขาไม่อาจรักษาโมเมนตัมดังกล่าวกดดันทีมเยือนได้ตลอดทั้งเกม ขณะที่ โจ วิลล็อค ที่ได้ออกสตาร์ทในบทบาทกองกลางหมายเลข 10 แทบจะถูกตัดออกไปจากเกม

ผลจากความพ่ายแพ้ของ เดอะกันเนอร์ส ในเกมนี้ทำให้พวกเขาเก็บได้เพียง 13 แต้มหลังผ่านการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก 10 นัด นับเป็นการเก็บคะแนนที่น้อยที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ฤดูกาล 1981/82

นอกจากนี้ ไอ้ปืนใหญ่ ยังปราชัยในเกมเหย้าบนลึกสูงสุด 3 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้วอีกด้วย

[Match Report] หงส์ ฟอร์มบู่ ! ลิเวอร์พูล บุกเสมอ ไบรท์ตัน 1-1 เกม พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน
เวลาแข่งขัน : 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : ไบรท์ตัน 1-1 ลิเวอร์พูล
สนาม : ดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส สเตเดี้ยม

ลิเวอร์พูล บุกมาทำได้เพียงแบ่งแต้มกับ ไบรท์ตัน ชนิดที่โดนเจ้าถิ่นมายิงประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกจุดโทษของ ปาสกัล กรอสส์ นาทีที่ 90+3 ส่วนทีมเยือนมาได้ประตูออกนำในนาทีที่ 60 จาก ดีโอโก้ โจต้า ทำให้จบเกม หงส์แดง เก็บได้เพียง 1 คะแนนในเกม พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 10 ของฤดูกาล

ช่วงต้นเกมเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าตามฟอร์ม แต่โอกาสที่ใกล้เคียงครั้งแรกเป็นของเจ้าบ้านจากลูกหลุดเดี่ยวของ คอนนอลลี แต่เจ้าตัวกลับยิงหลุดกรอบออกไปในนาทีที่ 10

นาทีที่ 19 เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษของจังหวะที่ คอนนอลลี ถูกสะกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ นีล โมเปย์ กลับยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย

แม้ผู้มาเยือนจะพยายามบุกอย่างหนักหลังจากนั้นแต่ก็ยังแทบไม่มีโอกาสได้จบสกอร์เลยตลอด 30 นาทีแรก อีกทั้งนาทีที่ 33 ไบรท์ตัน ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะปั่นของ ทรอสซาร์ แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

ไม่กี่อึกใจต่อมา ลิเวอร์พูล เหมือนจะได้ประตูออกนำ 0-1 ในนาทีที่ 34 จากจังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงของ โม ซาลาห์ แต่สุดท้ายยังคงเป็น VAR ที่จำล้ำหน้าเอาไว้ได้ทัน

ทำให้จบ 45 นาทีแรก หงส์แดง ยังเสมกับ ทัพนกนางนวล 0-0

ครึ่งเวลาหลัง ยังคงเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าและมาได้ประตูออกนำตั้งแต่ 10 นาทีแรกจากจังหวะลากเดี่ยวของ โจต้า ก่อนจะยิงหักข้อเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น และก็พอจะมีโอกาสบ้างจากลูกยิงของ เว็บสดอร์ และ เวลเบ็ค ส่วนเจ้าบ้านเป็นคนเน้นของบอล

กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ไบรท์ตัน มาได้จุดโดษจากจังหวะที่ เวลเบ็ค โดนทำฟาวล์ในกรอบ และเป็น กรอสส์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด

จนจบ 90 นาที่ ลิเวอร์พูล บุกทำได้เพียงแบ่งแต้ม กับ ไบรท์ตัน ไป 1-1

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

ไบรท์ตัน : ไรอัน, ไวท์, เว็บสเตอร์, ดังค์, คอนนอลลี, บิสซูมา, โมเปย์, กรอสส์, เวลเบ็ค, มาร์ช, เวลต์แมน

ตัวสำรอง : สตีล, ทรอสซาร์, ลัลลานา, ญาฮันบัคช์, อัลเซเต้, เบิร์น, โมลุมบาย

ลิเวอร์พูล : อลิสซอน, น. วิลเลียมส์, ฟิลลิปส์, ฟาบินโญ, โรเบิร์ตสัน, มิลเนอร์, ไวนัลดุม, มินามิโนะ, โชต้า, ซาลาห์, ฟิร์มิโน

ตัวสำรอง : อาเดรียน, มาเน, เฮนเดอร์สัน, โจนส์, ซิมิคาส, โอริกี, ร. วิลเลียมส์

[OPINION] ย้อนรอย 5 อันดับการซื้อตัวยอดเยี่ยมของ เชลซี ยุค โจเซ มูรินโญ

ยอดกุนซือผู้ผ่านจุดสูงสุดกับการคุมทีม ปอร์โต้ จนในช่วงหน้าร้อนปี 2004 เชลซี ที่ขณะนั้นเป็นปีที่สองหลังจาก โรมัน อับราโมวิช เข้ามาซื้อทีม ได้จัดการกระชากตัวนายใหญ่ชาวโปรตุเกสรายนี้มาร่วมงานหลังจากแยกทางกับ เคลาดิโอ รานิเอรี

เป็นที่ทราบบกันดีว่า เฮียมู เคยเข้ามานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีม สิงโตน้ำเงินคราม ถึง 2 ครั้งด้วยกันตั้งแต่ปี 2004-2007 และ ปี 2013 ถึง 2015 คว้าแชมป์ลีกร่วมกับทีม 3 สมัย เอฟเอ คัพ 1 สมัย และ อีเอฟแอล คัพ อีก 3 สมัยด้วยกัน นอกจากนี้ในยุคที่เขาทำทีมมีนักเตะมากหน้าหลายตาย้ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสร วันนี้เราจึงคัดสรร 5 ดีลที่คิดว่าเป็นที่สุดของ เชลซี ในยุคที่มีกุนซือนามว่า โจเซ มูรินโญ…

หลังจากเข้ามาคุมทีมได้ 1 ปี มูรินโญ จัดการคว้าตัวกองกลางตัวรับชาวกานารายนี้จาก โอลิมปิก ลียง มาร่วมทีมด้วยค่าตัวกว่า 34 ล้านปอนด์ ซึ่งระหว่างที่ค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ช่วงแรกเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนถูกยกให้เป็นหนึ่งใน Box to Box ที่ดีที่สุดในโลก กระทั่งถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักจนไม่สามารถคืนฟอร์มเดิมได้อีกเลยในช่วงหลัง

สถิติลงสนามให้ทีม 256 นัด ทำได้ 25 ประตู 18 แอสซิสต์

ในปี 2014 ช่วงที่ มูรินโญ เข้ามาคุม ทัพสิงห์บลู เป็นครั้งที่สองนั้น นายใหญ่ชาวโปรตุเกสตัดสินใจกระชากตัว เชส ฟาเบรกาส จาก บาร์เซโลนา มาร่วมทีม โดยอดีตกัปตันทีม อาร์เซนอล รายนี้ ย้ายมาเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางให้กับทีมในปีนั้น แถมยังทำได้มากถึง 24 แอสซิสต์ตลอดทั้งฤดูกาล พาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

สถิติลงสนามให้ทีม 198 นัด ทำได้ 22 ประตู 57 แอสซิสต์

อีกหนึ่งนักเตะผู้ที่แจ้งเกิดกับทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง อาร์เซนอล ตัดสินใจย้ายมาเล่นให้กับ เชลซี ในปี 2006 ชนิดที่ถูกแฟน ปืนใหญ่ สาปแช่งมาจนถึงทุกวันนี้ ช่วงแรก โคล ดูจะยังไม่สามารถสอดขึ้นมาเป็นตัวหลักแบบเต็มตัวได้ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ กระทั่งเวลาผ่านไปเขาก็ค่อย ๆ ปรับตัวจนก้าวมาเป็นตัวหลักให้กับ สิงห์บลู และ ทีมชาติอังกฤษ จนหมดสัญญาไปเมื่อปี 2014 ก่อนจะย้ายไปหาความท้าทายใหม่ ๆ กับ โรมา และ แอลเอ กาแลกซี ในเวลาต่อมา

สถิติลงสนามให้ทีม 338 นัด ทำได้ 7 ประตู 38 แอสซิสต์

ยอดนายทวารที่ เชลซี ดึงตัวมาจาก แรนส์ ทีมใน ลีกเอิงฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวกว่า 11 ล้านปอนด์ ซึ่งซีซั่นแรกในสีเสื้อ สิงโตน้ำเงินคราม เช็ค โชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวหนึบจนพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ทันที เช่นเดียวกับปีต่อ ๆ มา ที่ฟอร์มของเขายังคงไว้วางใจได้เสมอจนถูกขนานนาวว่าเป็นนายทวารที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกยุคนั้นเลยทีเดียว แม้ในปี 2006 เจ้าตัวจะได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจนหายหน้าไปกว่าครึ่งฤดูกาลพร้อมกับต้องใส่หมวกป้องกันตลอดเวลา แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผลงานของเขาด้อยลงไปแม้แต่น้อย เช็ค ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ เชลซี กระทั่งการมาของ กูร์ตัว ทำให้เขาตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ อาร์เซนอล ในปี 2015 ที่ผ่านมา

สถิติลงสนามให้ทีม 494 นัด เสีย 393 ประตู เก็บได้ 228 คลีนชีท

ดาวยิงเลือด ไอวอรีโคสต์ ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาร่วมทีมในปี 2004 แม้ช่วงแรกฟอร์มการถล่มประตูของเขาอาจจะยังไม่เปรี้ยงปร้างนัก แต่จุดเด่นที่ความแข็งแกร่งถึกทนกลับถูกใจ มูรินโญ เป็นอย่างมาก ซึ่งปีต่อ ๆ มาเจ้าตัวสามารถระเบิดฟอร์มเก่งได้สำเร็จพาทีมความแชมป์มาแล้วแทบจะทุกรายการ พร้อมกับตำแหน่งดาวซัลโวของลีกเมื่อฤดูกาล 2009/10 รวมถึงสวมบทพระเอกซัดจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปส่งท้ายก่อนจะย้ายทีมไปในปี 2012

สถิติลงสนามให้ทีม 381 นัด ทำได้ 164 ประตู 86 แอสซิสต์