การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : ลิเวอร์พูล 4-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน
สนาม : แอนฟิลด์
เกมนี้เป็นนัดแรกของ แอนฟิลด์ ที่อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมได้ราว 2,000 คน ซึ่งนั่นทำให้บรรยากาศของเกมเปลี่ยนไปจากที่มีเพียงสแตนด์โล่ง ๆ ก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เพียงเพราะภาพที่เห็นว่ามีคนดูมานั่งชมเท่านั้น แต่เสียงเชียร์แบบของจริงไม่มีการปรุงแต่งนั้น มันทำให้อรรถรสในการชมฟุตบอลเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
นัดนี้ ลิเวอร์พูล นอกจากจะเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า โอกาสเข้าทำและสกอร์ของเกมต่างออกมาค่อนข้างขาดลอย ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องความมั่นใจและความมุ่งมั่นพวกเขาดูจะเป็นต่อผู้มาเยือนในวันนี้ค่อนข้างชัดเจน เพราะขณะที่ช่วงครึ่งแรกนักเตะ หงส์แดง พยายามหาช่องเจาะเข้าทำอย่างอดทนจนมาได้ความผิดพลาดของคู่แข่งช่วยให้ได้ประตู แต่ฟากผู้มาเยือนกลับสีหน้าท่าทางดูถอดใจอย่างชัดเจนเมื่อทีมโดนยิงประตูที่สองทั้งที่เวลาของพวกเขายังเหลือให้แก้ตัวอยู่อีกราวครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
นัดนี้แม้เกมริมเส้นของ วูล์ฟแฮมป์ตัน จะทำได้หวือหวาและพอจะหาช่องเจาะเข้าสู่พื้นที่อันตรายได้อยู่บ้าง แต่จังหวะจบของพวกเขาต้องบอกว่ายังไม่เฉียบขาดมากพอ แถมการหายไปของ ราอูล ฆิเมเนซ กองหน้าตัวเก่งที่กระโหลกศีรษะร้าวในเกมก่อนที่บุกไปเอาชนะ อาร์เซนอล มานั้น ทำให้มิติในเกมรุกของ ทัพหมาป่า ดูลดความน่ากลัวคงไปพอสมควรเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะลดความทีเด็ดทีขาดในกรอบเขตโทษลงไปแล้ว ทีมยังขาดผู้เล่นที่สามารถพักบอลเก็บบอลในแดนหน้าโดยเฉพาะเวลาที่ต้องเล่นลูกสวนกลับและอาศัยการวางบอลยาวจากกแดนหลังนั่นเอง
เกมนี้เป็นอีกครั้งที่ เนโก้ วิลเลียมส์ เจ้าหนูวัย 19 ปีได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งหลายเกมที่ผ่านมาเจ้าตัวถูกตั้งคำถามอย่างมากในเรื่องของความแน่นอน และมักจะเป็นบ่อให้คู่แข่งเล่นงานได้อยู่เสมอ ๆ กระทั่งวันนี้เจ้าของตำแหน่งอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ หายเจ็บกลับมาฟิตทันพร้อมลงสนาม โดยหลังจากถูกเปลี่ยนลงมาแทยที่ เนโก้ ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย เจ้าตัวก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนทั้งเกมรุกและรับ เพราะนอกจากจะเป็นคนเปิดบอลสุดสวยให้ทีมได้ประตูที่ 4 แล้ว จังหวะป้องกันยังทำได้ค่อนข้างนิ่งและชัวร์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว