[OPINION] คืนชีพเจ้าชายอียิปต์ ความหวังใหม่หน้าเก่าของ อาร์เซนอล : โมฮาเหม็ด เอลเนนี

Mohamed Elneny, Mikel Arteta
Fulham v Arsenal – Premier League | Pool/Getty Images

ย้อนกลับไปในช่วงฤดูกาลก่อน หากเอ่ยถึงชื่อของ โมฮาเหม็ด เอลเนนี แฟน ๆ ปืนใหญ่ หรือแม้แต่แฟนฟุตบอลอังกฤษ อาจลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขายังคงมีชื่อในสังกัดของ อาร์เซนอล เพราะตั้งแต่ อาร์แซน เวงเกอร์ ดึงตัวกองกลางชาว อิยิปต์ รายนี้มาร่วมทีมจากสโมสร บาเซิล ทีมดังในลีกสวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือนมกราคมปี 2016 ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ บทบาทของเขาจากที่ได้เป็นกำลังหลักในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็ดูจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ กระทั่งแทบจะหมดอนาคตกับทีมในยุคของ อูไน เอเมรี จนต้องยอมย้ายออกจากทีมด้วยสัญญายืมตัวไปเล่นกับ เบซิกตัส ทีมดังแดนไก่งวงในฤดูกาลที่ผ่านมา

กระทั้งหลังจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงย้ายในการย้ายไปเล่นในลีกสูงสุดของตุรกีอย่างถาวรได้ ทำให้เจ้าตัวต้องจำใจกลับสู่อ้อมอกต้นสังกัดเดิมในเมืองผู้ดี แต่การกลับมาในครั้งนี้หลายอย่างดูจะเปลี่ยนแปลงไปมากนับจากตอนที่เขาจากมา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจาก อูไน เอเมรี ที่แทบไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตามาเป็น มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มไฟแรงที่ผลงานดูดีพอมีลุ้นกันแบบยาว ๆ โดยเฉพาะในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา

ไม่เพียงแค่นั้น หลายสิ่งในสโมสรเหมือนจะเริ่มเป็นใจให้เข้าได้มีโอกาสชุบชีวิตตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งการที่ทีมกำลังประสบปัญหาในตำแหน่งกองกลาง ที่ทั้ง เมซุต เออซิล และ มัตเตโอ เกนดูซี ดูจะมีปัญหาผิดใจกับนายใหญ่เลือดกระทิงดุรายนี้ อีกทั้ง ลูคัส ตอร์เรย์รา ก็ไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีจนมีข่าวว่าต้องการจะย้ายกลับอิตาลี ดานี เซบาญอส ก็พึ่งจะเก็บกระเป๋ากลับมาด้วยสัญญายืมตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แถมกองกลางที่ตกเป็นข่าวกับทีมอย่าง โธมัส ปาร์เตย์ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ย้ายมาร่วมทีมตามที่เป็นข่าว นั่นจึงเป็นเหตุให้ อาร์เตต้า มีทางเลือกในตำแหน่งมิดฟิลด์ไม่มากนักในช่วงต้นฤดูกาล รวมถึงการปรับมาใช้แผน 3-4-3 ที่กองกลาง 2 คนจำเป็นต้องเล่นเกมรับได้ค่อนข้างดี จึงทำให้โอกาสของ เอลเนนี ในการที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากทุกคนกลับมาได้เปิดขึ้นอีกครั้ง

จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว 2 เกมอย่างเป็นทางการที่ เอลเนนี ได้ลงสนามในฐานะตัวจริงทั้งในศึก คอมมูนิตี้ ชิลด์ ที่เอา อาร์เซนอล เฉือนเอาชนะแชมป์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล ในการดวลจุดโทษไปได้ รวมถึงเกม พรีเมียร์ลีก ที่พวกเขาถล่ม ฟูแลม น้องใหม่ขาดลอย 0-3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะพอพิสูจน์อะไรบางอย่างเห็นได้แล้ว ทั้งเรื่องความไว้วางใจ ที่ดูเหมือน อาร์เตต้า จะเชื่อใจให้เขารับหน้าที่คุมเกมในแดนกลางอยู่พอสมควร ถึงขนาดยอมให้ลงเล่นเต็มเกมครบ 90 นาทีทั้งสองนัด ในขณะที่คู่ขาอย่าง กรานิท ชาก้า กลับเป็นฝ่ายที่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปแทนในยามที่ทีมต้องการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น

ที่สำคัญ เรื่องฝีเท้าดูจะเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์พอสมควร เพราะ 2 นัดที่ผ่านมาที่ได้รับโอกาสลงสนาม ต้องบอกเลยว่าฟอร์มของเขาจัดว่าโดดเด่นไม่น้อยเลยทีเดียวทั้งเกมรุกและรับ ที่สำคัญคือความนิ่ง ความแน่นอน ที่กองกลางประเภท Box to Box จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี ซึ่งเจ้าตัวก็กลับทำได้ดีเสียจนผิดจากที่หลายคนคาดเอาไว้ อีกทั้งในเรื่องเทคนิค การออกบอล วิสัยทัศน์ และความสามารถเฉพาะตัว ก็ทำได้อย่างเนียนตา เข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ดีจนแทบไม่ต่างกับการที่ใช้ ดานี เซบาญอส ยืนประจำการในตำแหน่งนี้เมื่อปลายฤดูกาลกาลก่อนเลยแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงน่าจะมีโอกาสสูงที่จะทำให้ โมฮาเหม็ด เอลเนนี อาจแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ อาร์เซนอล ได้เสียทีหลังจากย้ายมาค้าแข้งกับทีมแล้วเกือบ 5 ปีด้วยกัน ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าเจ้าตัวจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมแบบนี้เอาไว้ได้หรือไม่ เพราะหากดูจากสองนัดที่ผ่านมาบอกได้เลยว่า แฟน ๆ ปืนใหญ่ คงอยากเห็นใจจะขาดแล้วว่าเกมแดนกลางของพวกเขา จะดุดันสักขนาดไหนเมื่อมีจอมเทคนิคเลือดกระทิงดุอย่าง ดานี เซบาญอส ลงสนามเคียงข้างกับ “เจ้าชายอิยิปต์” แข้งตัวความหวังคนใหม่แต่หน้าเก่าแห่ง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ตลอดฤดูกาล 2020/21 ที่พึ่งจะเริ่มปะทุขึ้นนับจากนี้…