เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า เนชั่นลีก สิงโตคำราม เฉือนทดเจ็บหืดจับ

Birkir Bjarnason, Jordan Pickford
Iceland v England – UEFA Nations League | Haflidi Breidfjord/Getty Images

การแข่งขัน : ยูฟ่า เนชันส์ลีก ลีกเอ รอบแรก
วันแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2020
เวลาแข่งขัน : 23:00 น.
ผลการแข่งขัน : ทีมชาติไอซ์แลนด์ 0-1 ทีมชาติอังกฤษ
สนาม : เลาการ์ดาลสโวลลูร์ ประเทศไอซ์แลนด์

ทัพสิงโตคำราม 10 คนบุกเฉือน ไอซ์แลนด์ หืดจับ 0-1 โดยมาได้ประตูชัยจากลูกจุดโทษของ ราฮีม สเตอร์ลิง ในนาทีที่ 90 ทำให้จบเกม อังกฤษ คว้า 3 คะแนนกลับบ้านไปได้ในรายการ ยูฟ่า เนชั่นลีก นัดเปิดสนามฤดูกาลนี้

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เป็นผู้มาเยือนที่ครองบอลบุกได้มากกว่าค่อนข้างชัดเจนและเกือบได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ช่วง 5 นาทีแรกจากลูกชาร์จจ่อ ๆ ของ แฮร์รี เคน แต่ถูกจับล้ำหน้าไปก่อน

จากนั้นแทบจะเป็นอังกฤษที่ครองบอลอยู่ฝ่ายเดียวและได้โอกาสลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงของ ไคล์ วอล์คเกอร์ แต่บอลหลุดเสาออกไป

บอลส่วนใหญ่เป็นการเคาะกันกลางสนาม โดยทีมเยือนยังหาช่องเจาะเข้าพื้นที่อันตรายของเจ้าบ้านได้ไม่มากนัก

นาทีที่ 33 ไอซ์แลนด์ ได้โอกาสลุ้นครั้งแรกจากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ยิงหลุดเสาออกไป

ช่วงเวลาที่เหลือยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกเสมอกันไป 0-0

เริ่มเกมในครึ่งหลังยังคงเป็นทีมเยือนที่พยายามเร่งเกมบุกหวังเอาประตูขึ้นนำ แต่ก็ยังหาจังหวะลุ้นประตูไม่ได้เลยตลอด 15 นาทีแรก

นาทีที่ 63 ผู้มาเยือนเกือบขึ้นนำจากจังหวะฟรีคิกที่เปิดเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษ แต่กองหลังเจ้าบ้านขึ้นโหม่งสะกัดผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูเองไป

กระทั่งนาทีที่ 70 สิงโตคำราม ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนจากการที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

ช่วงท้ายเกมแม้จะเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าแต่ผู้มาเยือนยังพยายามบุกอย่างหนัก จนมาได้ลูกจุดโทษในจังหวะที่ สเตอร์ลิง ยิงไปโดนแขนกองหลังเจ้าบ้าน ทำให้ได้จุดโทษและเป็นใบแดงในนาทีที่ 90 ก่อนจะเป็น สเตอร์ลิง ที่สังหารเข้าไปไม่พลาด

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ไอซ์แลนด์ มาได้จุดโทษบ้าง จากจังหวะที่ โจ โกเมซ เข้าสะกัดจากด้านหลังในกรอบเขตโทษแต่ บียาร์นาสัน กลับซัดเหินข้ามคานออกไป

ทำให้จบ 90 นาที ทีมชาติอังกฤษ บุกมาเฉือนชนะแบบหืดจับ 0-1 คว้า 3 คะแนนแรกของฤดูกาลกลับบ้านไปได้สำเร็จ

คะแนนนักเตะทีมชาติอังกฤษ

อังกฤษ : พิคฟอร์ด(6.5), โกเมซ(6.5), ดายเออร์(7), ไรซ์(6.5), ทริปเปียร์(7.5), วอล์คเกอร์(6.5), วอร์ด-พราวส์(7), โฟเด้น(6.5), ซานโช(6.5), สเตอร์ลิง(7.5), เคน(6.5)

ตัวสำรอง : อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์(5.5), กรีนวูด(5.5), อิงส์(5.5)

คีย์แมน – ราฮีม สเตอร์ลิง

กองหน้าจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูจะเป็นคนที่เล่นได้โดดเด่นที่สุดใน ทัพสิงโตคำราม ทั้งบทบาทในการขึ้นเกม และการจบสกอร์ เจ้าตัวดูจะเป็นคนที่สามารถสร้างโอกาสให้ทีมได้มากกว่าตัวรุกคนอื่น ๆ แถมยังเป็นคนเรียกจุดโทษให้ทีมได้ในช่วงท้ายเกม และรับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเลือดเย็นเข้าไป จนพาทีมคว้า 3 แต้มกลับมาไปได้ในค่ำคืนนี้

ประเด็นหลังเกม – ฟอร์มอันน่าผิดหวังของทัพทรีไลออน

ตลอด 90 นาทีในเกมวันนี้ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ครองบอลได้มากถึง 73 ต่อ 27 และสร้างโอกาสยิงได้ 11 ครั้ง แต่ต้องบอกเลยว่าจากการยิงทั้งหมดนั้น แทบไม่มีจังหวะใดที่ได้ลุ้นประตูแบบเหน่ง ๆ เลย จนมาได้จุดโทษในช่วงทดเวลาช่วยชีวิตเอาไว้ แถมยังเป็นจังหวะที่ไม่ชัดเจนอีกต่างหาก แค่นั้นยังไม่พอพวกเขายังมาพลาดเสียจุดโทษในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย แต่โชคยังดีที่นักเตะไอซ์แลนด์ไม่นิ่งพอและยิงข้ามคานออกไป

ถ้าดูจากภาพรวมในเกมนี้และให้ลองตัดเกรดจากฟอร์มของพลพรรคสิงโตคำรามในเกมนี้ คงจะให้ได้เพียงแค่ราว 5 หรือ 6 เต็ม 10 เท่านั้น เพราะต้องบอกว่าพวกเขาแทบไม่มีทีเด็ดอะไรมาสร้างสรรค์เกมเลย รวมถึงแผนการเล่นของ เซาธ์เกต ดูจะตีบ ๆ ตัน ๆ ไม่ค่อยมีไอเดียในการเข้าทำมากนัก ซึ่งอาจเพราะเป็นนัดแรกหลังจากห่างหายมานาน จึงยังจำเป็นต้องใช้เวลาปรับจูนขุมกำลังต่อไปอีกหน่อย แฟน ๆ ทรีไลออน คงต้องมาลุ้นกันว่านัดต่อไปกับ เดนมาร์ก พวกเขาจะสามารถเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมาได้หรือไม่ คืนวันพุธนี้รู้กัน