สรุปทุกประเด็นข่าวที่สำคัญในแวดวงฟุตบอลที่เกิดขึ้นในรอบวันของ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, และบรรดาบิ๊กทีมในศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ, ข่าวซื้อขายนักเตะ และวงการฟุตบอลทั่วโลก
หลังจากที่ศึก บุนเดสลีกาเยอรมัน ได้เริ่มกลับมาทำการแข่งขันก่อนเพื่อนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลายอย่างดูจะเปลี่ยนแปลงไปหลังจากลีกสูงสุดเมืองเบียร์เริ่มกลับมาลงทำการแข่งขันกันอีกครั้ง ซึ่งนี่อาจเป็นสิ่งที่ พรีเมียร์ลีก ที่จะลงเล่นกันในวันพุธนี้ อาจต้องพบเจอ นั่นคือ..
1. ความได้เปรียบของเจ้าบ้านลดลง
11 เกม คือจำนวนที่ทีมเจ้าบ้านชนะ จากทั้งหมด 55 เกมที่ลงเล่นหลังจากเริ่มกลับมาทำการแข่งขัน (คิดเป็น 20%) นั่นอาจเป็นเพราะการไม่มีผู้ชมในสนามเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ความได้เปรียบของเจ้าบ้านลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด (ก่อนหน้านี้อัตราการชนะของเจ้าบ้านอยู่ที่ 43%)
2. อัตราการบาดเจ็บเพิ่มสูง
ใน 1 เดือนที่ผ่านมาศึก บุนเดสลีกา มีนักเตะที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อจนต้องพักยาวระหว่างเกมการแข่งขันไปแล้วถึง 14 รายด้วยกัน นี่ยังไม่นับอาการบาดเจ็บจากการเข้าปะทะรวมถึงการบาดเจ็บในช่วงฝึกซ้อมที่ไม่ได้อยู่ระหว่างการแข่งขัน
3. การยิงประตูแบบระเบิดเทิดเทิง
นับตั้งแต่กลับมาทำการแข่งขันจนถึงตอนนี้ 55 นัด มีการยิงประตูไปแล้วกว่า 166 ประตู เฉลี่ยมีการยิงถึง 3 ประตูต่อ 1 เกมเลยทีเดียว แถมมีถึง 11 เกม (คิดเป็น 20%) ที่ยิงกันตั้งแต่ 4 ประตูขึ้นไป
4. ท่าดีใจที่เปลี่ยนไป
ก่อนหน้านี้เราอาจเคยชินกับการดีใจเป็นหมู่กับเพื่อนร่วมทีมหลังจากมีการทำประตู แต่เนื่องจากนโยบาย “ระยะห่างทางสังคม” ทำให้บรรดาผู้ทำประตูใน บุนเดสลีกา ต่างคิดท่าดีใจที่ค่อนข้างแปลกแหวกแนวมากกว่าเดิม เพราะไม่สามารถเข้าไปดีใจกับเพื่อนร่วมทีมได้เหมือนเมื่อก่อนนั่นเอง
sportwitness เปิดเผยว่า ฟาลี รามาดานี เอเยนต์ของ คาลิดู คูลิบาลี ยอดกองหลังของ นาโปลี กำลังพยายามจะเจรจากับต้นสังกัดเพื่อขอให้ลดค่าตัวของแข้งชาว เซเนกัล รายนี้ลง พร้อมทั้งยืนยันอีกว่า ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ นิวคาสเซิล กำลังให้ความสนใจ คูลิบาลี อยู่จริง แต่ติดตรงที่ค่าตัวที่ถูกตั้งไว้ราว 90 ล้านยูโรดูจะสูงเกินไปในสถานการณ์ปัจจุบัน
สื้อท้องถิ่น รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมจะมอบโอกาสให้กับ อเล็กซิส ซานเชซ หัวหอกตัวเก๋าชาวชิลี ให้ได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองกับทีมอีกครั้ง เนื่องจากสโมสรคงไม่สามารถทำกำไรจากการปล่อยตัวแข้งรายนี้ออกจากทีมช่วงซัมเมอร์อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้อดีตสตาร์ของ อาร์เซนอล อาจต้องยอมรับเงื่อนไขในการลดบทบาทในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ลง
สื่อในสเปน เปิดเผยว่า ดาบิด ซิลบา เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แน่นอนแล้วว่าจะย้ายออกจากถิ่น เอติฮัด หลังจบฤดูกาลนี้ โดยก่อนหน้านี้อดีตดาวเตะจาก บาเลนเซีย รายนี้มีข่าวกับหลายทีมทั้ง เอซี มิลาน อินเตอร์ ไมอามี รวมถึง อัล ซาดด์ แต่ล่าสุดสื่อดังกล่าวเปิดเผยว่า อัล ดูเฮล ทีมดังในลีก กาตาร์ ที่มีสตาร์ดังอย่าง
มาริโอ มานด์ซูคิช และ เมดีห์ เบนาเตีย ค้าแข้งอยู่ กลายเป็นตัวเต็งที่จะได้ตัว ซิลบา ไปร่วมทีม
อ็อดซอน เอดูอาร์ด กองหน้าตัวเก่งของ กลาสโกว เซลติก ที่พึ่งจะได้รับการโหวตจากสื่อใน สกอตแลนด์ ให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสกอตติชลีก ซึ่งหลังจากรับรางวัลเจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตของตัวเองว่า “สำหรับผม การพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีก 10 สมัยรวด คือเป้าหมายที่ผมต้องการจะทำให้สำเร็จ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งในการจารึกประวัติศาสตร์นี้ ส่วนอนาคตอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ผมยังมีสัญญากับ เซลติก และผมต้องการจะสร้างประวัติศาสตร์กับทีมให้ได้”
สปอร์ต โมล รายงานว่า เชลซี คิดแผนการใหญ่ด้วยการจะดึงตัว คริสเตียโน โรนัลโด้ ซุเปอร์สตาร์ดาวยิงของ ยูเวนตุส ที่แม้จะอายุปาเข้าไป 35 ปีแล้ว แต่ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทำไปแล้วกว่า 53 ประตูจาก 76 เกมในทุกรายการนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ซึ่งสื่อดังกล่าว ชี้ว่า สิงโตน้ำเงินคราม เตรียมจะควักเงินราว 108 ล้านปอนด์ เป็นงบประมาณในการล่าลายเซ็นอดีตแข้งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายนี้
เดอะ ซัน สื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ กำลังให้ความสนใจจะยืมตัว อารอน แรมซีย์ อดีตกองกลางของ อาร์เซนอล ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ยูเวนตุส ในศึก กัลโช เซเรีย อา โดยสื่อดังกล่าวเปิดเผยว่า ทีมม้าลาย ต้องการจะลดภาระค่าเหนื่อยของนักเตะ จึงมีแผนจะส่งตัวกองกลางชาวเวลส์รายนี้กลับมาเล่นยัง พรีเมียร์ลีก อีกครั้งเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระด้านการเงินในช่วงวิกฤติที่กำลังเผชิญอยู่นี้