[BEST XI] เด็กมหากาฬ ! จัดทีม 11 แข้งดาวรุ่งอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ทำผลงานได้โดดเด่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่า พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เป็นอีกหนึ่งปีทองสำหรับดาวรุ่งที่พลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาแจ้งเกิดกันยกใหญ่ ชนิดที่แทบจะไม่เคยเกิดปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเมื่อผู้ดีแห่งนี้

และถึงแม้ว่า ณ ปัจจุบันเราจะยังไม่ทราบบทสรุปของฤดูกาล อีกทั้งการแข่งขันในซีซั่นนี้ยังคงไม่สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ แต่เราก็พอจะมองเห็นภาพรวมตลอดปีที่ผ่านมาแล้วว่าดาวรุ่งรายใดบ้างที่สามารถฉายแสงเปล่งประกายจนน่าสะดุดตากันบ้าง วันนี้เราจึงลองมาจัดทีมเหล่าบรรดาดาวรุ่งพุ่งแรงที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นตลอดฤดูกาลที่ผ่านมากันในแผนการเล่นยอดฮิตอย่าง 4-3-3 โดยจะมีใครกันบ้าง ไปดูกันเลย…


1. ผู้รักษาประตู – ดีน เฮนเดอร์สัน

Reading FC v Sheffield United – FA Cup Fifth Round

สำหรับในตำแหน่งนายทวารดาวรุ่งที่ปีนี้ทำผลงานได้เตะตาสุด ๆ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก ดีน เฮนเดอร์สัน นายด่านที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัวมาใช้งานจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง โดยเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นพาทีมดาบคู่ขึ้นมามีลุ้นท็อป 4 ทั้งที่พึ่งจะเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นซีซั่นแรกเท่านั้น

ซึ่งนอกจากรายของ ดีน ก็ยังมีประตูดาวรุ่งของ บอร์นมัธ อย่าง อารอน แรมส์เดล ที่สามารถยึดมือหนึ่งของทีมจาก อัสเมียร์ เบโกวิช จนถึงขนาดต้องย้ายทีมออกไปเลยทีเดียว

2. แบ็คขวา – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

Liverpool FC v Atletico Madrid – UEFA Champions League Round of 16: Second Leg

ตำแหน่งนี้คงต้องยกให้เขาจริง ๆ สำหรับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดาวรุ่งจากว่าที่แชมป์ลีก ลิเวอร์พูล ด้วยผลงานทำไป 2 ประตูกับการแอสซิสต์อีกมากถึง 14์ ครั้งใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งจัดว่ามากเป็นอันดับสองเป็นรองแค่เพียง เควิน เดอ บรอยน์ เท่านั้น แถมยังเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการพา หงส์แดง ผงาดขึ้นมาจ่อคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีอีกด้วย

อันที่จริงในปีเดียวกันนี้ก็ยังมีดาวรุ่งในตำแหน่งแบ็คขวาอีกหลายรายที่สามารถทำผลงานกับทีมได้อย่างโดดนเด่นทั้ง อารอน วานบิส-ซาก้า ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รีซ เจมส์ ของ เชลซี หรือแม้แต่ แม็กซ์ อารอน จากน้องใหม่อย่าง นอริช ก็เป็นอีกรายที่มีฟอร์มการเล่นที่ดีแม้ต้นสังกัดมีโอกาสสูงที่จะตกชั้นก็ตาม

3. เซ็นเตอร์แบ็ค – ชากลาร์ โซยุนซู

Leicester City v Aston Villa – Premier League

กองหลังดาวรุ่งวัยเพียง 23 ปี ถูกดันขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนของ แฮร์รี แม็คไกวร์ ที่ย้ายทีมไปในช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา แต่กลับทำผลงานได้ดีซะจนแฟน ๆ เลสเตอร์ ซิตี้ ลืมชื่อของ แม็คไกวร์ ไปได้อย่างสนิทเลยทีเดียว ด้วยความนิ่งที่ดูเกินวัย รวมถึงความเร็วความแข็งแกร่งที่แข้งรายนี้มี จนสามารถพา จิ้งจอกสยาม ดีดตัวขึ้นมารั้งอับดับ 3 ได้ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดกันเลยทีเดียว

4. เซ็นเตอร์แบ็ค – เมสัน โฮลเกต

Everton FC v Manchester United – Premier League

เบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในถิ่น กูดิสัน พาร์ค ได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ แถมหลังจากการมาของ คาร์โล อันเชล็อตติ เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้ดีวันดีคืน ช่วยให้ เอฟเวอร์ตัน ขยับจากโซนท้ายตาราง กลับขึ้นมามีลุ้นโควต้ายุโรปได้ ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นเซ็นเตอร์ดาวรุ่งเนื้อหอมอีกหนึ่งรายที่มีทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมมาตามจีบไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

5. แบ็คซ้าย – บูกาโย ซาก้า

Arsenal FC v West Ham United – Premier League

ต้องบอกเลยว่าเลือกยากอยู่พอสมควรระหว่าง บูกาโย ซาก้า ดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปีของ อาร์เซนอล กับ เบน ชิลเวลล์ แบ็คซ้ายดีกรีทีมชาติอังกฤษของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกันทั้งคู่ในซีซั่นนี้ แต่สุดท้ายต้องขอเลือกเป็น ซาก้า ที่แม้จะพึ่งถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปีนี้ แต่ก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้ายของ ทีมปืนใหญ่ ได้สำเร็จ แม้จะถูกจับโยกไปเล่นเป็นแบ็คในระยะหลัง ก็เขายังคงรักษาฟอร์มอันยอมเยี่ยมเอาไว้ได้ ด้วยทักษะลีลาเหลือร้าย บวกกับความเร็วที่หาตัวจับยาก ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากยอดทีมในยุโรปมากมายหลายทีมด้วยกันในช่วงที่ผ่านมา

6. กองกลาง – สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์

Manchester United v Manchester City – Premier League

ในตำแหน่งตัวรับ มีดาวรุ่งหลายรายที่โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีปีนี้ทั้ง วิลฟรีด เอ็นดิดี ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ดีแคลน ไรซ์ จาก เวสต์แฮม หรือแม้แต่ ฟิลลิป บิลลิง ของ บอร์นมัธ แต่คนที่น่าจับตามองที่สุดเห็นจะเป็นหนุ่มน้อยจากค่าย โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ยึดตัวหลักในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จในซีซั่นนี้ ด้วยความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะแถมยังมีลูกยิงไกลที่หวังผลได้ ซึ่งนั่นมีส่วนสำคัญช่วยให้ ปีศาจแดง สามารถกลับเข้าสู่เส้นทางได้ในที่สุด

7. กองกลาง – เจมส์ แมดดิสัน

Leicester City v Aston Villa – Premier League

คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันให้มากความสำหรับดาวรุ่งดีกรีทีมชาติอังกฤษรายนี้ ที่ระเบิดฟอร์มเก่งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วและต่อเนื่องมายังปีนี้่ ด้วยการเป็นกำลังสำคัญของทีม จิ้งจอกสยาม ในการเบียดแทรกขึ้นมาคว้าโควต้า แชมเปี้ยนส์ลีก ชนิดที่ยึดอันดับสามแบบกอดไม่ปล่อย แถมยังเนื้อหอมไม่พักมีข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายทีมตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

8. กองกลาง – เมสัน เมานท์

Chelsea FC v Everton FC – Premier League

ดาวรุ่งไฟแรงลูกรักของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เคยร่วมงานกับตำนานแข้งของ เชลซี มาก่อนที่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ฤดูกาลที่แล้ว จนได้มาร่วมงานกันอีกครั้งที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในปีนี้ ซึ่งเขาก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก ซุเปอร์แฟรงค์ ให้ยืนเป็นตัวหลักของ สิงโตน้ำเงินคราม แม้จะมีบางช่วงที่โดนดรอปไปบ้าง แต่โดยรวมผลงานและฟอร์มการเล่นของ เมานท์ ก็ยังถือว่ายอดเยี่ยมแม้จะเป็นฤดูกาลแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ สิงห์บลู

9. กองหน้า – โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน

Everton FC v Manchester United – Premier League

ต้องบอกเลยว่ากองหน้าตัวริมเส้นเป็นอะไรที่เลือกยากแบบสุด ๆ เพราะตัวเลือกในตำแหน่งนี้มีค่อนข้างเยอะ ซึ่งสำหรับรายแรกขอเลือกเป็นหนุ่มน้อยจาก เอฟเวอร์ตัน นามว่า โดมินิค คาลเวิร์ต เลวิน ที่เป็นได้เพียงอะใหล่ของทีมอยู่นาน กระทั่ง อันเชล็อตติ เข้ามานั่งเก้าอี้กุนซือ ฟอร์มการเล่นของเขาก็เปลี่ยนเป็นคนละคนจนขึ้นนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมท็อฟฟีสีน้ำเงิน ด้วยผลงาน 13 ประตูแซงหน้า ริชาร์ลิซอน คู่ขาในแดนหน้าที่ทำไปทั้งสิ้น 10 ตุงในซีซั่นนี้

10. กองหน้า – มาร์คัส แรชฟอร์ด

Manchester United v Wolverhampton Wanderers – FA Cup Third Round: Replay

ตัวรุกริมเส้นอีกหนึ่งรายคงต้องขอยกให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่แม้จะได้รับบาดเจ็บไปตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่ต้องบอกเลยว่าก่อนหน้านั้นเขากลายเป็นความหวังสูงสุดหนึ่งเดียวในการผลิตสกอร์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้ ซึ่งหลังจากถูกจับมาเล่นริมเส้นก็ทำให้ฟอร์มของ แรชฟอร์ด ดีขึ้นมาทันตาเห็น โดยทำไปแล้วทั้งสิ้น 14 ประตูกับอีก 4 แอสซิตส์ ตลอด 22 เกมที่ลงสนามในลีกปีนี้ให้กับทัพปีศาจแดง

11. กองหน้า – แทมมี อับราฮัม

Chelsea FC v Tottenham Hotspur – Premier League

มาถึงในตำแหน่งตัวเป้าดาวรุ่ง อันนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก แทมมี อับราฮัม ดาวรุ่งจาก เชลซี อีกหนึ่งราย ที่ได้รับโอกาสจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ให้ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่เป็นปีแรกและก็สามารถทำผลงานได้ดีในทันที ด้วยการเบียดรุ่นพี่อย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ มิชี บัทชัวยี ยึดตำแหน่งตัวจริงในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จนถึงปัจจุบัน โดยทำไปแล้วทั้งสิ้น 13 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้