มาร์เซโล บิเอลซา เป็นผู้จัดการทีมอันดับที่ 50 ในการจัดอันดับ ผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเรา ผู้อ่านสามารถติดตาม 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ บิเอลซา ได้ ที่นี่
มาร์เซโล บิเอลซา เริ่มต้นเดินทางในสายลูกหนังจากการเป็นนักเตะจนอาชีพกลายมาเป็นหนึ่งในกุนซือผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของแวดวงฟุตบอลในยุคสมัยใหม่
บิเอลซา ที่แม้จะแขวนสตั๊ดตั้งแต่วัยเพียง 25 ปีแต่ความรู้ในศาสตร์ฟุตบอลของเขาก็ถูกเคี่ยวกรำมากพอให้กลายเป็นผู้จัดการทีมชุดเยาวชนของ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ อดีตต้นสังกัดตั้งแต่ทศวรรษที่ 80
เช่นเดียวกับหลายคน กุนซือชาว อาร์เจนตินา หลงไหลกับ โททัลฟุตบอล ของ เนเธอร์แลนด์ ที่บุกเบิกโดย ไรนุส มิเชลส์ โดยได้รับอิทธิพลจาก ออสการ์ ตาบาเรซ และตำนานชาว อิตาลี อย่าง อาร์ริโก้ ซาคคี
เขานำปรัชญาการเล่นแบบโรแมนติค (เมน็อตติสต้า) ผสานเข้ากับการจัดการแท็คติค (บิยาร์ดิสต้า) อันเป็นวิธีการซึ่งเป็นที่นิยมใน อาร์เจนตินา โดยวิธีการเล่นทั้ง 2 รูปแบบถูกตั้งชื่อตาม เซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ และ คาร์ลอส บิยาร์โด้ ผู้โดดเด่นในปรัชญาที่แตกต่างกัน บิเอลซา เริ่มต้นเส้นทางสายกุนซือด้วยการพา โอลด์ บอยส์ กรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศ โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส (ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรทวีปอเมริกาใต้) ได้ในปี 1992
พลพรรค ลา เลปรา แห่ง โรซาริโอ เป็นฝ่ายกำชัยเหนือ เซา เปาโล ได้ในเลกแรกของการแข่งขันนัดชิงดำ ก่อนที่พวกเขาภายใต้การคุมทีมของ บิเอลซา จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการดวลลูกจุดโทษในเลกที่ 2 จากลูกจุดโทษของ คาฟู ตำนานแบ็คขวาทีมชาติ บราซิล และตามด้วยการบอกลาของ บิเอลซา ไม่นานหลังจากนั้น
ในขณะที่ บิเอลซา กุมบังเหียน นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ เขาเคยถูกกลุ่มแฟนบอลอุลตรัสของสโมสรตามมาก่นด่าถึงหน้าบ้านหลังความพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งด้วยสกอร์ 6-0 ตำนานเล่าขานกันว่ากุนซือ อาร์เจนไตน์ เปิดประตูออกมาต้อนรับพร้อมกับถือระเบิดไว้ในมือพร้อมกับขู่ว่าจะดึงสลักออก
ถัดจากนั้นเขาได้คุมทีมช่วงสั้นๆ ใน เม็กซิโก ก่อนที่จะกลายเป็นกุนซือของทีมชาติ อาร์เจนตินา เป็นเวลาเกือบ 7 ปี พาทัพ ลา อัลบิเซเลสเต้ โม่แข้งในศึก โคปา อเมริกา และ ฟุตบอลโลก แต่ความสำเร็จในระดับชาติของ เอล โลโค มาเกิดขึ้นในปี 2004 กับรายการ โอลิมปิก ที่ประเทศ กรีซ ด้วยการพาทีมคว้าเหรียญทองในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว กับสถิติชนะรวดทุกเกมโดยเสียประตูไปเพียงแค่ 1 ลูกเท่านั้น
เกียรติยศ
เหรียญทองโอลิมปิก (2004) |
รองแชมป์ โคปา อเมริกา (2004) |
อาร์เจนตินา พริเมรา ดิวิชัน (1991, 1992 & 1998) |
โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีทวีปอเมริกาใต้ (2009) |
การนำทัพ ฟ้าขาว ปราชัยในศึก โคปา อเมริกา นัดชิงชนะเลิศต่อ บราซิล และการไม่ประสบความสำเร็จใน เวิลด์คัพ 2002 ไม่ได้ทำให้ตำแหน่งของเขาสั่นคลอน แต่ถึงอย่างนั้นบรมครู อาร์เจนไตน์ ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งในอีก 3 ปีถัดมา ใช้เวลาพักผ่อนจากแวดวงลูกหนังอยู่ 2 ปีก่อนคัมแบ็คกับทีมชาติ ชิลี
ในช่วงเวลาดังกล่าว ชื่อของ บิเอลซา จางหายไปจากสารบบฟุตบอลกระแสหลักตามหน้าสื่อจนกระทั่งพลพรรค ลา โรฆา แห่งทวีป อเมริกาใต้ สำแดงให้เห็นฟุตบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจใน ฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศ แอฟริกาใต้
และเช่นเดียวกับทีมชาติ อาร์เจนตินา เขาตัดสินใจบอกลาตำแหน่งกุนซือทีมชาติ ชิลี ในขณะที่ยังคงเป็นที่รักของแฟนบอล ก่อนจะกลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งเมื่อกลับมารับงานกับสโมสรในฤดูกาล 2011/12
เมื่อครั้ง บิเอลซา ยังเป็นโค้ชหนุ่มไฟแรงใน อาร์เจนตินา มีเรื่องเล่าว่าเขาเคยบอกกับ เฟร์นานโด แกมบัว ปราการหลังลูกทีมว่าจะตัดนิ้วของตัวเองทิ้งหากมันช่วยให้ทีมของเขาคว้าชัยชนะได้
บิเอลซา ปักหมุดหมายต่อไปบนซุ้มม้านั่งสำรองแห่งทวีปยุโรป เจ้าตัวบอกปัด อินเตอร์ มิลาน ก่อนที่จะถูกแต่งตั้งให้เป็นกุนซือคนใหม่ของ แอธเลติก บิลเบา แห่ง ลา ลีกา สเปน
ฆัวกิน คาปาร์รอส อดีตนายใหญ่ของ บิลเบา ทำผลงานได้น่าประทับใจในระดับหนึ่งเมื่อทีมกับคุณภาพของทีมในเวลานั้นด้วยการพาทีมจบอันดับที่ 6 ก่อนที่กุนซือ ฟ้าขาว จะเข้ามารับตำแหน่งในปี 2011 แต่ บิเอลซา กลับยกเครื่องทั้งนักเตะในทีมและรูปแบบการเล่นเพื่อดึงเอาศักยภาพของแข้งอย่าง ฆาบี มาร์ติเนซ, อิเคร์ มูเนียอิน และ อิไบ โกเมซ ออกมา
แต่คีย์แมนในทีม บิลเบา ชุดนั้นของ บิเอลซา กลายเป็น อันเดร์ เอร์เรรา ที่ย้ายจาก เรอัล ซาราโกซา มาร่วมทัพด้วยมูลค่า 7.5 ล้านยูโรซึ่งเข้ามาเติมเต็มวิสัยทัศน์ของ เอล โลโค กับฟุตบอลเกมรุกที่น่าตื่นต่าตื่นใจ
“ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ผมย้ายไปร่วมทีม บิลเบา มาร์เซโล บิเอลซา พูดกับผมว่า ‘จงอย่าต่อล้อต่อเถียงกับผู้ตัดสินอีกต่อไปเพราะพวกเขาอยู่ในสนามเพื่อช่วยเหลือบรรดานักเตะ ไม่ใช่เพื่อฆ่าแกงนักฟุตบอล’ นั่นเป็นบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้จากเขา” เอร์เรรา กล่าวให้สัมภาษณ์ก่อนจะเปรยถึงความโหดในการฝึกซ้อมกับ เอล โลโค “เขามีมุมมองที่โรแมนติคกับฟุตบอลอยู่เหมือนกัน แต่ผมอยากจะบอกว่าในช่วงเดือนท้ายๆ ของฤดูกาลเราแทบเคลื่อนไหวไม่ได้เลย”
ระหว่างที่ บิเอลซา วิ่งออกกำลังกายกลางดึกใน เอเซซา ศูนย์ฝึกแห่งชาติของ อาร์เจนตินา เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุธครบมือชักปืนเล็งมาที่เขาเนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ไม่หวังดี เขาต้องแอบอยู่หลังต้นไม้พร้อมกับตะโกนออกมาว่า “อย่ายิง! ผม บิเอลซา เอง!”
“ขาของเราร้องขอออกมาว่า หยุดเถอะ พวกเราเคยชินกับการลงเล่นด้วยนักเตะชุดเดิมๆ และผมยอมรับว่าเราเล่นได้ไม่ดีที่สุดในเกมนัดชิงชนะเลิศ (บิลเบา เข้าชิง ยูฟ่า ยูโรปาลีก และ โคปา เดลเรย์ ในฤดูกาล 2011/12 แต่อกหักในนัดชิงฯ ทั้ง 2 รายการ) เรากลายเป็นคนละทีมจากก่อนหน้านี้ ด้วยความสัตย์จริง ร่างกายของพวกเราถูกย่ำยีจนแหลกเหลวไปหมด”
แม้จะต้องเล่นภายใต้รูปแบบแท็คติกอันหนักหน่วง แต่ เอร์เรรา กลับไม่ตำหนิติเตียน บิเอลซา เลยแม้แต่น้อย มันกลับกลายเป็นความรู้สึกที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงด้วยซ้ำ
“พวกเราเล่นฟุตบอลอย่างน่าอัศจรรย์ มาร์เซโล บิเอลซา ควรที่จะอยู่ในวงการลูกหนังตลอดไปเพราะมุมมองของเขาในเกมฟุตบอลนั้นน่าทึ่ง”
ในช่วงเวลา 2 ปีสุดท้ายของ บิเอลซา ที่ บิลเบา ฟอร์มของทีมไม่สวยหรูอย่างคาดหวังก่อนที่ บิเอลซา จะบอกลา ซาน มาเมส สเตเดี้ยม พร้อมกับคำชมจาก เป๊บ กวาร์ดิโอลา และกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
บิเอลซา เดินทางสู่ 2 ช่วงเวลาสั้นๆ ใน ฝรั่งเศส โดยมี ลาซิโอ คั่นกลาง โดยเริ่มต้นจากการรับงานที่ โอลิมปิค มาร์กเซย์ เป็นเวลาเพียง 1 ฤดูกาล เขาลากออกจากตำแหน่งเมื่อเริ่มต้นการแข่งขันซีซันที่ 2 ของ ลีก เอิง ไป 1 นัดโดยให้เหตุผลว่าขัดแย้งกับบอร์ดบริหารของทีม
จูเลียน โลร็องส์ ผู้สันทัดกรณีฟุตบอล ฝรั่งเศส ได้เคยเขียนแสดงความคิดเห็นช่วงเวลาดังกล่าวใน อีเอสพีเอ็น ไว้ว่า “บิเอลซา กับ มาร์กเซย์ เหมือนกับคู่แต่งงานในอุดมคติ และมันจะต้องจบลงด้วยน้ำตาอย่างแน่นอนผมรับรอง แต่เขาเป็นผู้จัดการทีมในแบบที่ โอแอม ต้องการ”
ฮอร์เก้ กริฟฟา ผู้ช่วยของ บิเอลซา เคยขังกุนซือชาว อาร์เจนตินา ไว้ในห้องน้ำเพื่อไม่ให้เขาต่อว่าลูกทีมหลังพบกับความพ่ายแพ้
ความกระตือรือล้นและบุคลิกถึงลูกถึงคนของ บิเอลซา ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนบอล มาร์กเซย์ สถานการณ์ยิ่งกลายเป็นการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เมื่อทีมเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ตราตรึงกลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการบอกลาของเจ้าตัว
หลังจบเกมประเดิมสนามของฤดูกาลที่ 2 ของ บิเอลซา ในซีซัน 2015/16 ที่ปราชัยต่อ ก็อง เจ้าตัวตัดสินใจอ่านจดหมายลาออกในการแถลงข่าวหลังจบเกมทันทีโดยไม่ได้แจ้งต่อลูกทีมหรือบอร์ดบริหารรับทราบล่วงหน้า
ถัดจาก มาร์กเซย์ บิเอลซา ได้แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวอีกครั้งกับ ลาซิโอ สโมสรถัดมาเมื่อเขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งให้หลังเพียง 2 วันจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยให้เหตุผลว่าสโมรไม่สามารถดึงตัวนักเตะที่เขาตัองการมาได้ ก่อนที่จะถูกระงับการทำหน้าที่กับ ลีลล์ สโมสรถัดมาหลังจากพาทีมลงเล่นไป 13 เกมเมื่อทำผลงานได้ไม่ดีพอและถูกปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด
1 ปีหลังจากนั้น บิเอลซา ถูกแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด แห่งศึก แชมเปี้ยนชิพ พาทีมกรุยทางสู่รอบเพลย์ออฟตั้งแต่ซีซันแรกที่ทำหน้าที่ก่อนจะปราชัยต่อ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ในรอบแรก และกลายเป็น แอสตัน วิลลา ที่คว่ำ แกะเขาเหล็ก ซิวโควต้าเลื่อนชั้นสู่ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ไปครอง
กูรูหลายสำนักและแฟนบอล ยูงทอง ต่างคาดการณ์ว่า บิเอลซา จะบอกลาถิ่น เอลแลนด์ โร้ด หลังความผิดหวังดังกล่าวแต่ท้ายที่สุดเงื่อนไขการขยายสัญญาออกไปอีก 12 เดือนกับยักษ์หลับแห่งวงการลูกหนังแดนผู้ดีก็มีผลหลังจากนั้นโดยบอร์ดบริหาร กับลความมั่นใจว่า เอล โลโค จะกลายเป็นวีรบุรุษพาทีมสิ้นสุดการรอคอยอันยาวนาน 15 ปีกลับสู่ลีกสูงสุดได้
ประวัติการคุมทีม
นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ | 1990-92 |
แอทลาส | 1992-94 |
คลับ อเมริกา | 1995-96 |
เบเลซ ซาร์ฟิลด์ | 1997-98 |
เอสปันญอล | 1998 |
อาร์เจนตินา | 1998-2004 |
ชิลี | 2007-11 |
แอธเลติก บิลเบา | 2011-13 |
มาร์กเซย์ | 2014-15 |
ลาซิโอ | 2016 |
ลีลล์ | 2017 |
ลีดส์ ยูไนเต็ด | 2018- |