[OPINION] เส้นทางอันขุ่นมัวของดาวรุ่งอนาคตไกลแห่ง เชลซี : คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย

ท่ามกลางเส้นทางอันยากลำบากของ เชลซี ฤดูกาลนี้ กลับเป็นยุคทองของบรรดาแข้งดาวรุ่ง ที่มีโอกาสได้ไต่เต้าขึ้นมาวาดลวดลายกับทีมชุดใหญ่กันแบบทั่วหน้าภายใต้การคุมทัพของตำนานสโมสรอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งหนึ่งในจำนานนั้นคือ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ปีกความเร็วสูงวัย 19 ปี ที่เคยได้รับโอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่มาบ้างแล้วตั้งแต่ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ และ เมาริซิโอ ซาร์รี 

Mason Mount,Callum Hudson-Odoi

อย่างที่ได้กล่าวไปข่างต้น เนื่องมาจากปีนี้ ทีมสิงโตน้ำเงินคราม ประสบปัญหาถูกแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่ ทำให้เหล่าหนุ่มน้อยมากพรสวรรค์ในสังกัดต่างพากันได้รับโอกาสพิสูจน์ฝีเท้าจนสร้างชื่อเสียงกันขึ้นมาอย่างทั่วหน้า ทั้ง แทมมี อับราฮัม เมสัน เมานท์ หรือแม้แต่ รีซ เจมส์ ที่โชว์ฟอร์มเตะตาจนเบียด กัปตันเดฟ กระเด็นไปเล่นแบ็คซ้ายอยู่พักใหญ่เลยทีเดียว

แต่สำหรับ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย แม้ว่าจะได้รับโอกาสเปิดตัวมาก่อนเพื่อนถึง 2 ปี แต่ผลงานของเขาในปีนี้ต้องบอกว่าไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย ด้วยผลงาน 1 ประตูตลอด 29 นัดที่ลงสนามให้กับทีม แถมยังดูมีจุดผิดพลาดให้เห็นแทบจะทุกนัดที่ลงสนาม โดยเฉพาะเรื่องของการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย ที่ดูจะเรื้อรังแก้ไม่หายเสียทีจนถึงปัจจุบัน

ก่อนฤดูกาลนี้จะเริ่มต้น โอดอย มีข่าวพัวพันกับยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกาอย่าง บาเยิร์น มิวนิค แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะอยู่กับทีมต่อไปพร้อมได้รับสัญญาฉบับใหม่ที่ว่ากันว่าค่าเหนื่อยเกินหลักแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ต้องบอกว่าผลงานก็แทบไม่ได้โดดเด่นเฉิดฉายอะไรขนาดนั้นเสียด้วยซ้ำ และเจ้าตัวก็ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นเลยจนถึงทุกวันนี้ ใครหลายคนอาจจะมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว แต่จากที่เห็นนั้นเขายังดูแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาใดใดที่ชัดเจนเลยตลอด 1 ฤดูกาลที่ผ่านมา หากเทียบกับแข้งในตำแหน่งเดียวกันที่อายุไล่ ๆ กันอย่าง คริสเตียน พูลิซิช ที่พึ่งจะย้ายมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเป็นปีแรก และแม้ทางฝั่ง กัปตันอเมริกา จะยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ต่อเนื่องนัก แต่หากใครติดตามดูจะเห็นได้ว่า พูลิซิช มีของดีรอการเปล่งประกายอยู่อีกมาก ทั้งการครองบอลที่เหนี่ยวแน่น ทักษะลวดลายที่ไม่ธรรมดา แถมยังเล่นลูกกลางอากาศได้ดีอีกด้วย

แต่สำหรับ โอดอย ที่นอกจากจะมีสปีดเป็นจุดขายแล้ว ยังแทบไม่เห็นแววโดดเด่นฉายออกมาในทางไหนเป็นเรื่องเป็นราวเลย ทั้งการจบสกอร์ การวางบอล และที่สำคัญที่ได้กล่าวไป การตัดสินใจต่าง  ๆ ดูจะเป็นจุดอ่อนสำคัญของเขาเสมอมา จังหวะที่ควรเปิดดันยิง จังหวะที่ต้องจ่ายกลับเลี้ยง ซึ่งเจ้าตัวต้องรีบแก้ปัญหานี้ให้ได้เป็นการด่วน เพราะแม้ปีหน้าทีมอาจต้องเสีย วิลเลียน และ เปโดร ไป แต่การมาของ ฮาคิม ซิเย็ค รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด อาจต้องการตัวริมเส้นระดับโลกเข้ามาเสริมทัพเพิ่มเติมเพิ่อที่จะทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นรายของ คูตินโญ หรือแม้แต่ เจดอน ซานโช ก็ล้วนไม่ใข้ระดับธรรมดา ๆ ทั้งนั้น

ถ้าหากฤดูกาลหน้า สิงห์บลู ทุ่มเงินคว้าตัวสตาร์ในตำแหน่งริมเส้นมาอีกอย่างน้อย 1 หรือ 2 คนตามที่คาดกัน ก็มีโอกาสสูงมากที่ ฮัดสัน โอดอย จะต้องเสียตำแหน่งตัวจริงในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปอย่างถาวร ถ้ายังไม่สามารถเร่งฟอร์มการเล่นของตนขึ้นมาได้ ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าบทสรุปของเกมที่เหลือในซีซั่นนี้จะเป็นอย่างไร จะมีเวลาเหลือมากพอให้หนุ่มน้อยดีกรีทีมชาติอังกฤษรายนี้แก้ตัวหรือไม่ หรือว่าม่านของเขานั้นได้ปิดตัวลงไปอย่างสมบูรณ์แล้วกันแน่ อีกไม่นานคงได้รู้กัน…