วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังเกมพรีเมียร์ลีก คืนวันศุกร์ สุดดราม่า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 คน ล้างแค้นไม่สำเร็จ บุกพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-2 โดยแม้ว่า เรือใบสีฟ้า จะเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 12 แต่ก็ได้ประตูออกนำก่อนถึง 2-0 จาก ราฮีม สเตอร์ลิง ในนาทีที่ 25 และ 50 ส่วน ทีมหมาป่า มายิง 3 ประตูรวดจาก อดามา ตราโอเร นาทีที่ 55 ราอูล ฆิเมเนซ นาทีที่ 82 และ ประตูชัยของ แมทต์ โดเฮอร์ตี้ ในนาทีที่ 89 จบเกม วูล์ฟ ทำได้อีกครั้ง อัด แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่า 3-2

Ederson,Martin Atkinson

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก ทีมเยือนเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ตามฟอร์มในช่วง 10 นาทีแรก ส่วนเจ้าบ้านมาตั้งรับและรอโอกาสโต้กลับในแบบที่พวกเขาถนัด

​กระทั่งนาทีที่ 12 เรือใบสีฟ้า ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ วูล์ฟ วางบอลยาวข้ามแนวหลัง แต่ เอแดร์ซอน ออกมาตัดบอลพลาดโดนยกบอลหลบและไปกระแทกกับ โจต้า ล้มลงเป็นโปรเฟสชันแนลฟาวล์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

ซึ่งหลังจากเหลือ 10 คน เจ้าบ้านก็กลับเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก ส่วนทีมเยือนต้องเป็นฝ่ายถอยลงมาตั้งรับบ้าง

แต่ในนาทีที่ 25 แมนฯ ซิตี้ มาได้ลูกจุดโทษจากลูกสวนกลับ มาห์เรซ โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น สเตอร์ลิง ที่รับหน้าที่สังหาร แต่ไปติดเซฟของ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โดย VAR จับได้ว่า ปาทริซิโอ ออกมาจากเส้นก่อน จึงให้ยิงใหม่ และเป็น สเตอร์ลิง คนเดิมที่ซัดไปติดเซฟอีกครั้งแต่บอลยังเป็นใจ กระดอนมาเข้าทางและซ้ำเข้าไป ให้ทีมออกนำ 0-1

จากนั้น เจ้าบ้านพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ก็ยังไม่สามารถตีไข่แตกได้ จบ 45 นาที เรือใบ บุกมานำ 0-1

Raheem Sterling,Rui Patricio

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง ทัพหมาป่า พยายามเร่งเกมบุกอย่างหนัก และเกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกยิงของ โจต้า แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ในนาทีที่ 50 กลายเป็นทีมเยือนออกนำห่าง 0-2 จากการสวนกลับเร็ว เดอ บรอยน์ เบิลทะลุช่องให้ สเตอร์ลิง คนเดิม หลุดเดียวเข้าไปยิงง่าย ๆ

จากนั้นเพียงเพียง 5 นาที วูล์ฟ มาได้ประตูตีไข่แตก หลังจากโหมบุกอยู่พักใหญ่ จากลูกยิงไกลนอกกรอบของ อดามา ตราโอเร เสียบเสาเข้าไปอย่างงดงามไล่มาเป็น 1-2

หลังจากได้ประตูไล่ตามมาเจ้าบ้านก็พยายามโหมบุกอย่างหนัก แม่ทีมเยือนจะมีโอกาสบุกสวนกลับมาบ้างแต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้

กระทั่งนาทีที่ 82 กองเชียเจ้าถิ่นได้เฮกันอีกครั้ง จากลูกยิงตีเสมอของ ฆิเมเนซ ที่ชาร์จลูกเปิดของ ตราโอเร จ่อ ๆ เข้าไป ทำให้สกอร์มาเสมอกันที่ 2-2

เกมทำท่าจะจบที่ผลเสมอ แต่แล้วนาทีที่ 89 วูล์ฟ มาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ โดเฮอร์ตี้ ทำชิ่งกับ ฆิเมเนซ หลุดเข้าไปยิง ให้ทีมขึ้นนำ 3-2 ก่อนหมดเวลาเพียง 1 นาที

แม้ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เรือใบสีฟ้า เกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิกที่ สเตอร์ลิง ยิงไปชนคาน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น

จบเกม วูล์ฟแฮมป์ตัน ย้ำแค้น พลิกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 คน 3-2

FBL-ENG-PR-WOLVES-MAN CITY

คะแนนนักเตะ แมนฯ ซิตี้


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน(5), วอล์คเกอร์(6), แฟร์นันดินโญ(6.5), โอตาเมนดี้(6), เมนดี้(4.5), โรดริโก้(6), เดอ บรอยน์(7), แบร์นาโด้(6), มาห์เรซ(6.5), สเตอร์ลิง(8), อเกวโร(6)

ตัวสำรอง : บราโบ(6.5), กุนโดกัน(6), การ์เซีย(6)


ประเด็นร้อนหลังเกม


เกมสุดดราม่าแห่งปี 2019

เริ่มตั้งแต่จุดเปลี่ยนแรกของเกมนี้ คือการโดนใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 12 ของ เอแดร์ซอน ที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รูปเกมตกเป็นรองแทบจะตลอดทั้งเกมในช่วงเวลาที่เหลือ แต่แล้วก็มีจุดเปลี่ยนที่สอง คือจุดโทษของ แมนฯ ซิตี้ ที่ VAR ให้โอกาสยิงถึงสองครั้งทั้งที่ยิงพลาดไปแล้วในจังหวะแรก แถมพวกเขายังมาได้ประตูนำห่าง 0-2 ในช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้โมเมนตัมของเกม ตกมาอยู่กับลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เต็ม ๆ แม้จะมีผู้เล่นน้อยกว่าก็ตาม

​แต่แล้วก็มีประกายความหวัง ที่สร้างจุดเปลี่ยนให้กับเจ้าถิ่นคือ ประตูตีไข่แตกในอีก 5 นาทีต่อมา ของ อดามา ตราโอเร ของแสลงเจ้าเก่าของ เรือใบสีฟ้า และด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของ ทัพหมาป่า ลูกที่ 2 ก็ตามมาในช่วงท้ายเกม ต้องขอบคุณ เมนดี้ ดันไปเล่นยากทำให้ทีมเสียบอลและเป็นที่มาของประตูตีเสมอนี้ แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือการประสานงานบวกความสามารถเฉพาะตัวของ แมตท์ โดเฮอร์ตี้ และ ราอูล ฆิเมเนซ ที่ประสานงานกันจนได้ประตูชัยมาในช่วงก่อนทดเวลา 1 นาที แม้ว่าช่วงต่อเวลายังเกือบมีเซอร์ไพรส์จากลูกฟรีคิกของ สเตอร์ลิง ที่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง พลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย จนจบเกม วูล์ฟ ย้ำชัยชนะแบบสุดดราม่าได้สำเร็จ 3-2

Ederson

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม


วูล์ฟแฮมป์ตัน: ปาทริซิโอ, เดนดองเคอร์, โคอาดี้, ไซอิสส์, โดเฮอร์ตี้, มูตินโญ, เนเวส, อ็อตโต้, อดามา, ฆิเมเนซ, โจต้า

ตัวสำรอง : รัดดี้, เนโต้, คูโตรเน, เบ็นเนตต์, บาเญโฆ, วินาเกร, คิลแมน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, วอล์คเกอร์, แฟร์นันดินโญ, โอตาเมนดี้, เมนดี้, โรดริโก้, เดอ บรอยน์, แบร์นาโด้, มาห์เรซ, สเตอร์ลิง, อเกวโร

ตัวสำรอง : บราโบ, อังเคลิโน, ซินเชนโก้, กุนโดกัน, คันเซโล, โฟเด้น, การ์เซีย