1. เบนฟิก้า – จุดเริ่มต้นที่ไม่น่าจดจำ
วันที่ 23 กันยายน 2000
ผลการแข่งขัน เบนฟิก้า 0-1 เบาวิสต้า
หลังจากเป็นมือขวาของ ยอดผู้จัดการทีมในยุคนั้นอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน และ หลุยส์ ฟาล กัล จนสะสมประสบการณ์มาได้พอสมควร และแล้วก็ถึงวันที่กุนซือ เดอะสเปเชียลวัน จะได้คุมทีมอย่างเต็มตัวเสียที
ซึ่งทีมแรกที่ที่ให้โอกาสเจ้าตัวนั่นก็คือ เบนฟิก้า ทีมดังในลีก โปรตุเกส บ้านเกิดของเขานั่นเอง โดยเกมแรกที่เขาคุมทีมข้างสนามอย่างเต็มตัวนั้น น่าเสียดายที่ต้องจบด้วยความปราชัย 0-1 ต่อ เบาวิสต้า จากลูกยิงของ ดูด้า ต้นแต่ช่วงต้นเกม
แค่นั้นไม่พอ จ่ามู ของเราคุมทีมในลีกไปได้เพียง 6 เกมเท่านั้นก็ต้องออกจากตำแหน่งไป ซึ่งดูจะเป็นการเริ่มต้นที่ไม่สวยหรูเอาซะเลยในฐานะการเป็นผู้จัดการทีมครั้งแรกของเขา
2. ไลเรีย – ฉายแววกุนซือดาวรุ่ง
วันที่ 7 เมษาายน 2001
ผลการแข่งขัน ไลเรีย 2-0 สปอติง ลิสบอน
หลังจากออกจาก เบนฟิก้า ได้ประมาณ 4 เดือน เดอะสเปเชียลวัน ก็ได้รับงานใหม่จากทีม ยูนิอัล ไลเรีย ทีมในลีก โปรตุเกส เช่นเคย แต่ที่ต่างไปจากเดิมนั่นคือการที่ เฮียมู สามารถประเดิมสนามเกมแรกด้วยการพาทีมเปิดบ้านเอาชนะ สปอตติง ลิสบอน ทีมยักษ์ใหญ่ใน ลีกโปรตุกีส สมัยนั้นได้ถึง 2-0
และในปีนั้นเอง เขาสามารถพา ไลเรีย จบอันดับที่ 5 ในลีก ซึ่งเป็นอันดับที่สูงที่สุดที่เคยทำได้ในประวัติศาสตร์สโมสรเลยทีเดียว
3. ปอร์โต้ – แจ้งเกิดและพาทีมไปอยู่จุดสูงสุด
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2002
ผลการแข่งขัน ปอร์โต้ 2-1 มาริติโม
จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่แห่งยุคของ โชเซ มูรินโญ ได้เริ่มขึ้นเมื่อ ปอร์โต้ ทีมยักใหญ่ของลีกแดนฝอยทอง เห็นแววเฉิดฉายในตัวผู้จัดการทีมหนุ่มไฟแรงของทีม ยูนิอัล ไลเรีย จึงได้ทำการดึงตัวมานั่งเก้าอี้กุนซือในช่วงต้นปี 2002
เกมแรกที่ มูรินโญ ประเดิมสนามกับต้นสังกัดใหม่ นั่นคือเกมที่ ปอร์โต้ เปิดบ้านเฉือนชนะ มาริติโม ไปได้ 2-1 ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็สร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กับทีมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2004 ได้สำเร็จ
4. เชลซี – ความท้าทายใหม่ในต่างแดน
วันที่ 15 สิงหาคม 2004
ผลการแข่งขัน เชลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ ปอร์โต้ ก็ถึงคราวที่ เฮียมู ของเราจะต้องออกมาผจญภัยในต่างแดนกับอย่างคนอื่น ๆ เขาบ้าง โดยเป็น เชลซี ที่ขณะนั้น มหาเศรษฐีอย่าง โรมัน อับราโมวิช พึ่งจะเข้ามาทำการเท็คโอเวอร์ทีมได้เพียงปีเดียว จัดการกระชากตัว เดอะสเปเชียลวัน ออกจากโปรตุเกส มาคุมทีม สิงห์ไฮโซ ในช่วงหน้าร้อนปี 2004
เกมแรกของ จ่ามู กับ สิงห์บลู นั้น คือการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่งเก้าอี้กุนซือในเกมนัดเปิดสนามของ พรีเมียร์ลีก ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของ สิงโตน้ำเงินคราม 1-0 จากประตูชัยของ ไอเดอร์ กุดยอห์นเซน และจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ
5. อินเตอร์ มิลาน – ชูถ้วยยุโรปอีกครั้งที่ อิตาลี
วันที่ 30 สิงหาคม 2008
ผลการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน 1-1 ซามพ์โดเรีย
หลังจากแยกทางกับ สิงโตน้ำเงินคราม ในฤดูกาล 2007-08 เฮียมู เลือกย้ายมาหาความท้าทายใหม่อีกครั้งที่ อิตาลี กับทีม อินเตอร์ มิลาน ทีมยักใหญ่ในศึก กัลโช เซเรียอา
โดยเกมแรกที่เจ้าตัวประเดิมคุมทีมข้างสนามให้กับทัพงูใหญ่นั้น ผลออกมาไม่สวยเท่าใดนัก เพราะทำได้แค่เสมอกับ ซามพ์โดเรีย 1-1 แต่อย่างไรก็ตามจุดจบของซีซั่นนั้นพวกเขาสามารถคว้าแชมป์กัลโช ได้ในที่สุด รวมถึงปีต่อมา มูรินโญ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าทริปเบิลแชมป์ กับ อินเตอร์ มิลานได้สำเร็จ ซึ่งนั้นเป็นการสัมผัสถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นครั้งที่สองตลอดอาชีพกุนซือของเขา
6. เรอัล มาดริด – ก้าวสู้บัลลังก์ ราชันชุดขาว
วันที่ 29 สิงหาคม 2010
ผลการแข่งขัน เรอัล มาดริด 0-0 เรอัล มายอร์ก้า
หลังจากประสบความสำเร็จสูงสุดกับ ทีมงูใหญ่ ในฤดูกาล 2009-10 ราชันชุดขาวที่กำลังหากุนซือคนใหม่อยู่ในขณะนั้น ก็ได้ทำการคว้าตัวกุนซือ เดอะสเปเชียลวัน จาก อิตาลี ส่งตรงมายัง ลาลีกา สเปน ในช่วงซัมเมอร์ปี 2010
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ เฮียมู ออกสตาร์ทเกมแรกได้ไม่สวยหรูเท่าไดนัก โดยทำได้เพียงเสมอกับ มายอร์ก้า ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ซึ่งต้องบอกว่าตลอด 3 ปีในถิ่น ซานติเอโก้ เบอร์นาเบว เจ้าตัวดูจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับ เรอัล มาดริด เพราะทำได้เพียง คว้าแชมป์ลาลีกา และ โคปา เดล เรย์ อย่างละ 1 สมัยเท่านั้น
7. เชลซี – หวนคืนสู่ ลอนดอน อีกครั้ง
วันที่ 18 สิงหาคม 2013
ผลการแข่งขัน เชลซี 2-0 ฮัลล์ ซิตี้
หลังจากแยกทางกับ เรอัล มาดริด ในช่วงกลางปี 2013 เชลซี ในขณะนั้นกำลังมองหากุนซือที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน ราฟา เบนิเตซ ที่ปฏิเสธจะรับงานคุมทีมแบบถาวร หลังพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก ได้ในฤดูกาลก่อน นั่นทำให้ เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ดังตัว มูรินโญ มานั่งเก้าอี้กุนซือ ทีมสิงโตน้ำเงินคราม อีกครั้ง ในฤดูกาล 2013-14
ประเดิมเกมแรกหนนี้ จ่ามู ก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ด้วยการอัด ฮัลล์ ซิตี้ ไปสบาย ๆ 2-0 แต่แม้ว่าซีซั่นแรกที่กลับมาเป็นกุนซือให้ สิงห์บลู รอบนี้นั้น จะไม่จบด้วยการเป็นแชมป์ใด ๆ แต่ปีต่อมาพวกเขาจัดการคว้าดับเบิลแชมป์ได้สำเร็จ ก่อนปลายปี 2015 จะถูกเสี่ยหมีสั่งปลดฟ้าผ่าอีกครั้ง เนื่องจากทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ และลือว่าว่ามีปัญหาภายในทีมกับนักเตะหลายคนจนถึงขนาดหลายคนออกมาวิเคราะห์กันว่า ที่ฟอร์มห่วยก็เพราะ “นักเตะเล่นไล่โค้ชชัดๆ”
8. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – จุดประกายความหวัง ปีศาจแดง
วันที่ 16 สิงหาคม 2016
ผลการแข่งขัน บอร์นมัธ 1-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังจากถูกไล่ออกจากถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นครั้งที่สองตั้งแต่ช่วงเดือน ธันวาคม ปี 2015 เฮียมู ก็ไม่รับงานที่ใดอีกเลยจนกระทั่งกลางปี 2016 และเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้ตัวยอดกุนซือที่ตอนนี้เปลี่ยนฉายาให้กับตัวเองใหม่จาก เดอะสเปเชียลวัน เป็น เดอะแฮปปี้วัน ไปคุมทีมเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งเกมแรกกับ ปีศาจแดง เฮียมู ก็สร้างความหวังให้กับ แฟน ๆ เร้ดเดวิลส์ ทันที ด้วยการบุกไปถล่ม บอร์นมัธ 1-3 แถมซีซั่นแรกของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังจบด้วยการรั้งอันดับสองในลีก พร้อมทั้งคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก และ อีเอฟแอลคัพ มาครองได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นทีมก็กลับเข้าสู่ขาลงอีกครั้งในฤดูกาลถัดมา จนมาถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือน ธันวาคม ปี 2018
9. ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ – กู้วิกฤต ไก่เดือยทอง
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2019
ผลการแข่งขัน เวสต์แฮม 2-3 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์
ท่ามกลางช่วงเวลาอันมึดมนของ พลพรรคไก่เดือยทอง แดเนียล เลวีย์ ประธานสโมสร ได้สร้างเซอร์ไพรส์สองต่อด้วยการปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ออกแบบสายฟ้าแลบ พร้อมกับแต่งตั้ง เฮียมู เข้ามารับตำแหน่งแทนหลังจากนั้นภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
โดยเกมแรกของ น้ามู ก็อย่างที่ทราบกันด้วยการพาทีมบุกไปเฉือนชนะ เวสต์แฮม หวุดหวิด 2-3 ซึ่งก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่พวกเขาอาจจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของ โค้ชระดับตำนานที่มีนามว่า โชเซ มูรินโญ