ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน | ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20 |
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2019 |
เวลาแข่งขัน | 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย |
คู่แข่งขัน | คริสตัล พาเลช vs ลิเวอร์พูล |
สนาม | เซลเฮิร์สท์ พาร์ค |
ถ่ายทอดสด | True Premier Football HD 2 |
ความพร้อมทั้ง 2 ทีม
คริสตัล พาเลช
ทีมของ รอย ฮอดจ์สัน ไม่ชนะใครมาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน แต่ทั้ง 4 เกมดังกล่าว เป็นการพบกับทีมระดับหัวตารางทั้งหมด เช่นเดียวกับในสัปดาห์นี้ ที่พวกเขาโคจรมาพบกับทีมจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ที่แม้ว่าฟอร์มกับลังร้อนแรง แต่พวกเขาก็เริ่มมีปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บอยู่หลายราย แต่อย่างไรก็ตาม เกมนี้ก็ยังคงไม่ใช่งานง่ายที่พวกเขาจะมีแต้มแม้จะได้เล่นในบ้านก็ตาม
สภาพทีม ณ ปัจจุบัน ต้องรอเช็คความพร้อมของ โจเอล วอร์ด และ หัวหอกตัวเก่งอย่าง วิลฟรีด ซาฮา ที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ ว่าจะสามารถเรียกความฟิตกลับมาทันลงเล่นในคืนวันเสาร์หรือไม่
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-5-1
ผู้รักษาประตู | กูไอต้า |
กองหลัง | เคลลีย์, ทอมกินส์, แดนน์, ฟาน อานโฮลท์ |
กองกลาง | ทาวน์เซนด์, แม็คอาเธอร์, มิลิโวเยวิช, คูยาเต้, ชลุปป์ |
กองหน้า | อายิว |
ลิเวอร์พูล
ฟอร์มยังคงร้อนแรงชนิดที่ยืนหนึ่งในย่านนี้จริง ๆ สำหรับ หงส์แดง ที่เกมล่าสุด เปิดบ้านอัดคู่ปรับอันดับหนึ่งในการแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 3-1 นั่นทำให้พวกเขาลอยลำนำห่างอันดับสองและสามไปแล้วถึง 8 คะแนน
เกมสัปดาห์นี้พวกเขามีคิวต้องออกไปเยือน เซลเฮิร์สท์ พาร์ค รังเหย้าของ คริสตัล พาเลช ที่ฟอร์มในตอนนี้ไม่สู้ดีนัก ไม่ชนะใครมาแล้วติดต่อกัน 4 เกม แต่ก็จะประมาทไม่ได้เพราะ พลพรรคเดอะค็อป เอง ก็มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนกันไปทีละรายสองรายทั้งที่พึ่งจะผ่านไปเพียงหนึ่งในสามของเส้นทางลุ้นแชมป์เท่านั้น ดังนั้นพวกเขาต้องพยายามเอาชนะให้ได้เพื่อลดความกดดันลง พร้อมกับการถนอมตัวผู้เล่นให้สามารถยืนระยะได้ครบ 38 เกมในเวลาเดียวกัน
สภาพทีมของ เยอร์เกน คล็อปป์ ในตอนนี้ มีผู้เล่นบาดเจ็บอยู่หลายรายที่ต้องรอดูความฟิตก่อนแข่งคือ โจเอล มาติป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เซอร์ดาน ชากิรี, โจ โกเมซ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วนรายของ นาธาเนียล ไคลน์ ยังอยู่ในระหว่างพักรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้แน่นอนแล้ว
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู | อลิสซอน |
กองหลัง | อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ลอฟเรน, ฟาน ไดค์, มิลเนอร์ |
กองกลาง | อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ, ไวนัลดุม |
กองหน้า | โอริกิ, ฟิร์มิโน, มาเน |
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
คริสตัล พาเลช (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3)
9 พ.ย. | PL | เชลซ๊ | 2-0 | คริสตัล พาเลช |
3 พ.ย. | PL | คริสตัล พาเลช | 0-2 | เลสเตอร์ |
27 ต.ค. | PL | อาร์เซนอล | 2-2 | คริสตัล พาเลช |
19 ต.ค. | PL | คริสตัล พาเลช | 0-2 | แมนฯ ซิตี้ |
2 ต.ค. | PL | เวสต์แฮม | 1-2 | คริสตัล พาเลช |
ลิเวอร์พูล (ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 0)
10 พ.ย. | PL | ลิเวอร์พูล | 3-1 | แมนฯ ซิตี้ |
6 พ.ย. | UCL | ลิเวอร์พูล | 2-1 | เกงค์ |
2 พ.ย. | PL | แอสตัน วิลลา | 1-2 | ลิเวอร์พูล |
31 ต.ค. | EFL | ลิเวอร์พูล | 6-5(5-5) | อาร์เซนอล |
27 ต.ค. | PL | ลิเวอร์พูล | 2-1 | สเปอร์ส |
เฮดทูเฮด : คริสตัล พาเลช ชนะ 0 เสมอ 0 ลิเวอร์พูล ชนะ 5
19/01/19 | PL | ลิเวอร์พูล | 4-3 | คริสตัล พาเลช |
21/08/18 | PL | คริสตัล พาเลช | 0-2 | ลิเวอร์พูล |
31/03/18 | PL | คริสตัล พาเลช | 1-2 | ลิเวอร์พูล |
19/08/17 | PL | ลิเวอร์พูล | 1-0 | คริสตัล พาเลช |
19/07/17 | FL | ลิเวอร์พูล | 2-0 | คริสตัล พาเลช |
*PL = พรีเมียร์ลีก / UCL = ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก / EFL = คาราบาวคัพ / FL = กระชับมิตร
สถิติจาก OPTA ที่น่าสนใจ
- 7 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกัน คริสตัล พาเลซ แพ้ไปถึง 6 เกม (ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 6)
- ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ได้ 4 เกมติดต่อกันแล้ว ทั้งที่ 12 เกมก่อนหน้านั้นพวกเขาสามารถบุกมาชนะได้เพียง 3 เกมเท่านั้น (ชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 4)
- หงส์แดง ไม่แพ้ในการเล่นที่ ลอนดอน มาแล้ว 7 เกมติดต่อกัน (ชนะ 4 แพ้ 3) ซึ่งสถิติการไร้พ่ายในลอนดอน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรคือ 16 เกม ตั้งแต่ปี 1987-89
- พลพรรคเดอะค็อป ไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 29 เกมติดต่อกัน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก รองจาก อาร์เซนอล – 49 นัด (2003-04) เชลซี – 40 นัด (2004-2005) อาร์เซนอล 30 นัด (2001-2002) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 30 นัด (2017-2018)
- คริสตัล พาเลซ ไม่เคยแพ้ในบ้านติดต่อกัน 3 เกมตั้งแต่เดือน มีนาคม ปี 2018
- ซาดิโอ มาเน ยิงไปแล้ว 7 ประตูจาก 9 เกมที่พบกับ เดอะพาเลซ ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกทีมที่เขาเคยยิงประตูได้
- มาเน ยิงประตูใส่ คริสตัล พาเลซ ได้ 4 เกมติดต่อกันแล้ว มีนักเตะ ลิเวอร์พูล เพียง 2 คนที่เคย ทำประตูใส่ทีมเดิมได้ 5 เกมติด คือ ไมเคิล โอเวน ยิงใส่ นิวคาสเซิล และ หลุยส์ ซัวเรซ ยิงใส่ นอริช
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำสถิติเป็นคนที่ยิงประตูชัยให้ทีมได้มากที่สุดในซีซั่นนี้ โดยยิงไปแล้วทั้งสิ้น 4 ประตู