การแข่งขัน | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย |
วันแข่งขัน | วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2019 |
เวลาแข่งขัน | 19:00 น. |
ผลการแข่งขัน | ทีมชาติไทย 2-1 ยูเออี |
สนาม | สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต |
ประเด็นร้อนหลังเกม
1. รูปเกมที่ผิดไปจากความคาดหมาย
ก่อนเกมจะเริ่มหลาย ๆ คนคงทราบดีว่า ยูเออี เป็นอีกหนึ่งทีมชั้นนำของเอเชีย และแน่นอนว่าเราดูจะเป็นรองแทบจะในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น ชื่อชั้น สถิติ อันดับ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น ทุกอย่างกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหนังมือ พลพรรคช้างศึกเปิดเกมบุกกดดันอย่างหนัก แม้ว่า ยูเออี วางแผนมาเพื่อรอสวนกลับ แต่ในความเป็นจริงคือแทบไม่มีโอกาสโต้กลับที่ชัดเจนเลยด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าเราครองเกมไว้ได้ทั้งหมด แถมสกอร์ที่ออกมามันควรจะขาดกว่านี้ด้วยซ้ำ
อย่างแรกต้องชื่นชม พลพรรคช้างศึก และกุนซือ อากิระ นิชิโนะ ที่วางหมากมาได้อย่างยอดเยี่ยมและเล่นตามแผนกันได้อย่างมีวินัย แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็ต้องบอกเลยว่า ทีมเยือนวันนี้เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานมากจริง ๆ อาจเป็นเพราะการวางหมากที่ผิดพลาด หรือตัวนักเตะเล่นไม่ได้ตามแผน อันนี้ก็มิอาจทราบได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกเลยว่าเกมนี้ “มันเกินคาดซะจริง ๆ”
2. “นิชิโนะ สไตล์” เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น
รูปแบบการเล่นของทีมช้างศึกในยุคของกุนซือ อากิระ นิชิโนะ นั้นดูจะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งดูจะแตกต่างกับยุคก่อน ๆ มากพอสมควร ทั้งรูปแบบแท็คติคที่ชัดเจน นั่นคือ การเล่นเกมรุกโดยอาศัยการทำเกมจากด้านข้างเป็นหลัก ไม่เน้นเจาะตรงกลาง แต่จะใช้ผู้เล่นริมเส้นที่มีความคล่องตัว เจาะทะลวงแนวรับฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งให้แผงหลังดันขึ้นสูง เพื่อสนับสนุนเกมในแดนกลาง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกตรง ๆ เลยว่ายุคนี้ ดูมีทรงกว่า สนุกกว่า น่าลุ้นกว่า ยุคก่อนเยอะเลยจริง ๆ
3. ยุคทองของผู้เล่นริมเส้น
จะสังเกตได้ว่าผู้เล่นที่กุนซือ อากิระ นิชิโนะ เรียกมาติดทีมส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นตัวริมเส้น ซื่งแน่นอนว่าแผนการเล่นของกุนซือชาวอาทิตย์อุทัย นั้น เน้นการสร้างสรรค์เกมจากด้านข้างเป็นหลัก จึงไม่แปลกที่จะมีผู้เล่นตัวริมเส้นหน้าใหม่ที่มีความคล่องตัวสูง แจ้งเกิดในนามทีมชาติกันแทบทุกนัดที่ลงแข่ง ไม่ว่าจะเป็น สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา, นิติพงษ์ เสลานนท์ หรือแม้แต่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ยังอายุเพียง 17 ปีก็ตาม เริ่มกลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในวงกว้างมากขึ้น แน่นอนว่าส่วนหนึ่งต้องมากจากฝีเท้าอันไม่ธรรมดาที่มีมาเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แผนการเล่นแบบ “นิชิโนะ สไตล์” จะยิ่งเป็นตัวพลักดันให้เข้าสู่ยุคทองของผู้เล่นริมเส้นอย่างแท้จริง