ผลการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก นัดที่ 25
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1 – 1 สุโขทัย เอฟซี
– ช้าง อารีน่า , บุรีรัมย์
0-1 เอียน แรมเซย์ (22′) 1-1 อันเดรส ตูญเญซ (จุดโทษ 90+4′)
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : ยานโต บาสนา (อินโดนีเซีย , สุโขทัย เอฟซี)
ตราด เอฟซี 0 – 0 พีทีที ระยอง
– สนามกีฬากลางจังหวัดตราด , ตราด
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (ไทย , พีทีที ระยอง)
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2 – 0 การท่าเรือ เอฟซี
– สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต , ปทุมธานี
1-0 ชนานันท์ ป้อมบุปผา (50′) 2-0 เอฟเวอร์ตัน (88′)
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : วานเดอร์ วุยซ์ (บราซิล , ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
พีที ประจวบ 2 – 0 สมุทรปราการ ซิตี้
– สามอ่าม สเตเดี้ยม , ประจวบคีรีขันธ์
1-0 เมารินโญ่ (จุดโทษ 45′) 2-0 สิโรจน์ ฉัตรทอง (80′)
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : ขวัญชัย สุขล้อม (ไทย , พีที ประจวบ)
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 4 – 1 สุพรรณบุรี เอฟซี
– เอสซีจี สเตเดี้ยม , นนทบุรี
1-0 ไดซูเกะ ซาโตะ (4′) 2-0 เดอเลย์ (34′) 2-1 เคลตัน ซิลวา (55′) 3-1 เดอเลย์ (75′)
4-1 สารัช อยู่เย็น (88′)
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : วันเดอเลย์ ดิอาส มารินโญ่ (บราซิล , เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ราชบุรี มิตรผล 2 – 1 ชัยนาท ฮอร์นบิล
– มิตรผล สเตเดี้ยม , ราชบุรี
0-1 ริคาร์โด้ ซานโตส (จุดโทษ 47′) 1-1 ยานนิค โบลี (51′) 2-1 ยานนิค โบลี (81′)
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : ยานนิค โบลี (โกตดิวัวร์ , ราชบุรี มิตรผล)
ชลบุรี เอฟซี 0 – 2 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
– ชลบุรี สเตเดี้ยม , ชลบุรี
0-1 ศิวกรณ์ เตียตระกูล (25′) 0-2 บิล โรซิมาร์ (75′)
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : ศิวกรณ์ เตียตระกูล (ไทย , สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
เชียงใหม่ เอฟซี 5 – 1 นครราชสีมา มาสด้า
– สิงห์ สเตเดี้ยม , เชียงราย
1-0 ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (8′) 2-0 เอลิอันโดร (24′) 2-1 ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร (45′)
3-1 มุสตาฟา อาซัดซอย (62′) 4-1 เอลิอันโดร (80′) 5-1 ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (90+5′)
แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (ไทย , เชียงใหม่ เอฟซี)
เป็นเกมที่ เอสซีจี เมืองทอง เล่นได้อย่างเข้าฝักในหลายตำแหน่ง นักเตะหลายคนประสานงานร่วมกันได้ดี ทำให้สามารถเปิดบ้านไล่ถล่ม สุพรรณบุรี ไปถึง 4 ประตู
นักเตะอย่าง ศนุกรานต์ ถิ่นจอม มีจังหวะสอดขึ้นมาทำประตูหลายครั้ง และเป็นที่มาของประตูแรก ที่เขาสอดขึ้นมารับบอลจาก เฮเบอร์ตี้ ก่อนหลบผู้รักษาประตู และปล่อยให้ ไดซูเกะ ซาโตะ ได้วิ่งมายิงง่าย ๆ หรือจะเป็น เดอเลย์ ที่นัดนี้ทำไป 2 ประตู จากจังหวะโหม่งในลูกแรก และลูกที่สองที่เป็นการประสานงานของเขากับ บรูโน่ กัลโล ก่อนที่แข้งวัย 31 ปี จะยิงบอลเข้าไปเสืยบเสาสองอย่างสุดสวย รวมถึง สารัช อยู่เย็น ที่ทำไปได้หนึ่งประตูในเกมนี้ ในประตูปิดท้าย 4-1
3 คะแนน นัดนี้ ส่งเมืองทองเก็บเพิ่มเป็น 37 คะแนน รั้งอยู่ที่อันดับ 6 ขณะที่ทีมเยือน สุพรรณบุรี แพ้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน หล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง มีเพียง 22 คะแนน
กลายเป็น ทรู แบงค็อก ที่เป็นฝ่ายดับฟอร์มอันร้อนแรงของ การท่าเรือ ไว้ได้ หลังจากที่ผันเปลี่ยนกุนซือมาเป็น โชคทวี พรหมรัตน์ และไม่แพ้ในเกมลีก 5 นัดก่อนหน้านี้
เกมนี้ทั้งสองทีมเล่นอย่างรัดกุม ไม่เปิดพื้นที่ให้อีกฝ่ายมากนัก การเข้าทำของทั้งสองทีมส่วนใหญ่เป็นการ สับไกยิงจากนอกกรอบ กระทั่งเกมมาปลดล็อคในต้นครึ่งหลัง วอนเดอร์ ลุยซ์ ขึ้นเกมมาฝั่งขวาถึงเส้นเขตโทษ ก่อนเปิดเข้าในให้ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ได้ยิงเข้าไปง่าย ๆ 1-0 จากนั้นเป็นเกมที่เปิดแลกใส่กัน แข้งเทพ เกือบได้ประตูทิ้งห่างหลายครั้ง แต่ทีมเยือนก็บุกขึ้นมาน่ากลัวหลายครั้งเช่นกัน
กระทั่งเจ้าถิ่นมาได้ประตูย้ำชัยชนะในช่วงท้ายเกม จากจังหวะฟรีคิกฝั่งขวา และเป็น วานเดอร์ ลุยซ์ ได้เปิดบอลเข้ามา เป็น เอฟเวอร์ตัน แข้งร่วมชาติ ได้ทิ้งตัวโหม่งเช็ดบอลเข้าไป เป็นประตูปิดกล่อง 2-0
ช่วงทดเวลา การท่าเรือ มีโอกาสยิงประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ เซร์กิโอ ซัวเรส หยอดบอลให้ นูรูล ศรียานเก็ม ได้เทคตัวขึ้นโหม่ง ก่อนไปติดเซฟ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด จบเกมเป็น 3 คะแนน ของเจ้าถิ่น รักษาสถิติสุดข่มในการพบกับการท่าเรือไว้ได้ต่อไป โดยแข้งเทพไม่แพ้ในลีกต่อทีมย่านคลองมากว่า 10 นัดติดต่อกัน
3 คะแนน นัดนี้ส่งแข้งเทพ มีเพิ่มเป็น 41 คะแนน รั้งอันดับ 4 ขณะที่ การท่าเรือ หยุดอยู่ที่ 43 คะแนน รั้งอันดับ 3
credit ภาพ : เพจ BURIRUM UNITED
จากเกมที่ไล่ถล่ม ราชบุรี 6-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทัพปราสาทสายฟ้า ก็ต้องพบกับเกมที่ยากลำบอกอีกครั้ง เมื่อต้องรับมือกับ ทัพค้างคาวไฟ โฉมใหม่โดย โค๊ชเบ้ จนเกือบจะพังคาบ้าน เป็นครั้งแรกของฤดูกาล ก่อนได้จุดโทษทดเจ็บของ อันเดรส ตูญเญซ เซฟแต้มล้ำค่าเอาไว้ได้
เป็นเกมที่แสนอึดอัดของเจ้าถิ่น เมื่อพวกเขาแทบไม่มีจังหวะได้เข้าทำง่าย ๆ ทีมเยือนวางหมากในการรับมือเกมรุกอันรวดเร็วของเจ้าถิ่นได้เป็นอย่างดี เกมยิ่งมาเข้าทาง สุโขทัย เมื่อพวกเขาได้ประตูออกนำก่อน จากจังหวะที่ จอห์น บาจโจ้ ได้ครอสบอลทางฝั่งซ้ายเข้าใน เป็น โจเอล ซาร์มี ได้เทคตัวขึ้นโหม่งไปชนเสา บอลกระดอนออกมา ก่อนเป็น เอียน แรมเซย์ ได้วิ่งมากระทุ้งด้วยซ้ายเข้าไปเต็ม ๆ เป็นประตูออกนำของทีมเยือน
หลังจากนั้น เกมรับอันเหนียวแน่นของ สุโขทัย ก็รับมือการเข้าทำของ เจ้าถิ่น ได้ตลอดทั้งเกม กระทั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บุรีรัมย์ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ พรรษา เหมวิบูลย์ ยิงบอลด้วยขวาไปโดนแขนของ จุง เมียง โห ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกก่อน ก่อนเป็น อันเดรส ตูญเญซ ยิงเข้าไปไม่พลาด เซฟคะแนนในรังเอาไว้ได้
จบเกมแบ่งกันไปฝั่งละหนึ่งคะแนน บุรีรัมย์ มีเพิ่มเป็น 48 คะแนน รั้งจ่าฝูงต่อไป ขณะที่ สุโขทัย เก็บเพิ่มเป็น 27 คะแนน รั้งอันดับ 13 ห่างโซนตกชั้น 3 คะแนน
credit ภาพ : เพจ Chiang Rai United FC
สิงห์ เชียงราย ที่ทราบผลแข่งของ บุรีรัมย์ ไปก่อนแล้ว ทำให้ไม่มีทางเลือกในการมาเยือน ชลบุรี ครั้งนี้ โดยพวกเขาต้องเก็บ 3 คะแนน เท่านั้น หากหวังจะไม่จบฤดูกาลด้วยมือเปล่า และลุ้นแชมป์ต่อไป
ทว่า สถิติสุดบู่ในการมาเยือน ชลบุรี ทำให้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยพวกเขาไม่เคยบุกมาเก็บสามคะแนนได้ที่นี่มาก่อน และหากย้อนไป 7 นัดหลังในการมาเยือน ชลบุรี พวกเขาแพ้ไปถึง 6 ครั้ง รวมถึงผลงานหลังจาก โค๊ชเตี้ย เข้ามาคุมบังเหียน ฉลามชล ยังคงไร้พ่ายในการเล่นในรังเหย้าในจำนวน 6 นัด โดย 3 จาก 6 นัดดังเกล่าเป็นการเอาชนะทั้ง เอสซีจี เมืองทอง , บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก
หากยึดตามสถิติที่กล่าวมาข้างต้น นี่จะเป็นอีกหนึ่งเกมแห่งฤดูกาลที่ยากที่สุดของ กว่างโซ้ง แต่พวกเขาก็ทำผลงานออกมาได้ดี เกมนี้พวกเขาลงไปตั้งรับ และรอโต้กลับ รวมถึงฉกฉวยจังหวะผิดพลาดเล่นงานเจ้าถิ่น และเกือบได้ขึ้นนำเร็ว จากจังหวะที่ บิล โรซิมาร์ ตัดบอลได้จาก จูเนียร์ โลเปซ และได้ดวลเดี่ยว ๆ กับผู้รักษาประตู ก่อนเป็น สินทวีชัย ออกมาสไลด์บอลไว้ได้
ทว่าทีมเยือน ก็มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ สุริยา สิงห์มุ้ย วางบอลจากฝั่งซ้ายเข้าใน ก่อนจ่ายต่อให้ ศิวกรณ์ เตียตระกูล ได้วิ่งมายิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสุดสวย
หลังจากนั้น เป็นเกมที่เข้าทางฝั่ง เชียงราย เมื่อเจ้าถิ่นต้องการประตูตีเสมอ ทำให้เปิดพื้นที่ฝั่งหลังบ้าน และทีมเยือนก็อาศัยเกมสวนกลับที่รวดเร็วเล่นงาน จนเกือบได้ประตูเพิ่มหลายครั้ง โดยเฉพาะ วิลเลี่ยม เอนริเก้ ที่ได้โอกาสยิงหลายครั้ง
จนนาทีที่ 75 พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล วางบอลยาวให้ บิล โรซิมาร์ แตะบอลผ่านผู้รักษาประตู ก่อนยิงเข้าไปง่าย ๆ เป็นประตูทิ้งห่าง 2-0 จากนั้นเจ้าถิ่นพยายามโหมบุกใส่อย่างหนัก แต่ก็ไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกมเป็น 3 คะแนนของ เชียงราย หยุดสถิติอันเลวร้ายในการมาเยือน ชลบุรี ได้สำเร็จ
3 คะแนน นัดนี้ ส่ง กว่างโซ้งมหาภัย เก็บเพิ่มเป็น 47 คะแนน รั้งรองจ่าฝูงต่อไป โดยตามหลังบุรีรัมย์เพียง 1 คะแนน ขณะที่ ฉลามชล หยุดอยู่ที่ 33 คะแนน รั้งอยู่ที่อันดับ 8
ตารางคะแนนหลังจบนัดที่ 25