การแข่งขัน :ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2021
เวลาแข่งขัน : 03.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : ลิเวอร์พูล 0-1 เชลซี
สนาม : แอนฟิลด์
เกมนี้ต้องบอกว่าทั้งสองทีมสู้กันได้ค่อนข้างสูสี เปิดหน้าแลกกันตลอดในช่วงครึ่งเวลาแรกและมักจะมีโอกาสได้ลุ้นหวาดเสียว ๆ ตลอดทั้งเกม แต่ต้องบอกว่า เชลซี เป็นฝ่ายที่ฉกฉวยโอกาสได้ก่อนจากประตูชัยสุดสวยของ เมสัน เมานท์ ช่วงท้ายครึ่งแรก ทำให้ครึ่งหลัง ทูเคิล ปรับแทคติคถอยลงมารับต่ำเพื่อเน้นผลการแข่งกัน ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่าแผงหลังของ สิงห์บลู ในยุคนี้ เรียกได้ว่าแข็งแกร่งสุด ๆ ตั้งแต่นายใหญ่คนใหม่เขามาทำทีม และก็เป็นไปตามคาด หงส์แดง ไม่สามารถเจาะแนวรับของผู้มาเยือนได้เลย แถมยิงตรงกรอบไปเพียง 1 ครั้งถ้วนตลอดทั้งเกม กระทั่งในที่สุดก็ต้องปราชัยในบ้านอย่างต่อเนื่องไปในที่สุด
อย่างที่ได้วิเคราะห์ไปก่อนแข่งที่ว่า ณ เวลานี้ มีเพียง โม ซาลาห์ เพียงคนเดียวที่แบกเกมรุกของ ลิเวอร์พูล เอาไว้บนบ่า และมันก็เป็นเช่นนั้น เพราะคนอื่น ๆ ในทีม ดูจะฝากความหวังเอาไว้ไม่ได้เลยทั้ง ฟิร์มิโน หรือแม้แต่ ซาดิโอ มาเน ซึ่งหลังจากที่ ซาลาห์ ไม่สามารถสลัดตัวประกบอย่าง รือดิเกอร์ ไปได้ จึงทำให้เกมรุกของพวกเขาลดความอันตรายลงไปอย่างเห็นได้ชัด แถมครึ่งหลัง คล็อปป์ เลือกที่จะเปลี่ยน บังโม ออกตั้งแต่นาทีที่ 60 ทำให้แนวรับของ เชลซี ดูจะเล่นง่ายขึ้น และในที่สุดก็ ทัพหงส์แดง ก็แทบหาจังหวะจบที่สร้างปัญหาให้กับ เมนดี้ แทบไม่ได้เลยตลอดช่วงเวลาที่เหลือ
3 คะแนนในวันนี้ทำให้ เชลซี ขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4 ชั่วคราว มี 47 คะแนนห่างจากอันดับ 5 เอฟเวอร์ตัน 1 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 เกม และตามหลังอันดับ 3 เลสเตอร์ ซิตี้ 3 คะแนนด้วยกัน ส่วน ลิเวอร์พูล หล่นมาอยู่ที่ 7 มี 43 คะแนนตามหลังอันดับ 6 เวสต์แฮม 2 คะแนน และมี สเปอร์ส ไล่จี้เข้ามาเหลือเพียงคะแนนเดียว แถม หงส์แดง ยังลงเล่นเยอะกว่าทั้งสองทีมดังกล่าวอยู่อีก 1 เกมด้วยกัน
จากสถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่อันดับ 4 คงลุ้กันสนุกและแน่นอน เชลซี กลับมาเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วน ลิเวอร์พูล คงต้องลุ้นเหนื่อยหน่อยหากต้องการจะกลับสู่จุดที่ควรจะเป็น พวกเขาจำเป็นต้องเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้ในอีก 11 นัดที่เหลือ ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป…