การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง: นิวคาสเซิล 1-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : เซนต์ เจมส์พาร์ค
เกมนี้แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะดูเหนือกว่า แต่ตลอด 80 นาทีพวกเขาแทบจะงัดเกมรุกทุกรูปแบบในการเข้าทำรวมถึงการได้ลูกจุดโทษ แต่ก็ยังไม่สามารถหาช่องเจาะประตูของเจ้าถิ่นได้ แถมมีจังหวะโดนโต้กลับหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งต้องชม ดาบิด เด เคอา ในวันนี้ ที่ช่วยเซฟจังหวะสำคัญ ๆ ทำให้ทีมไม่เสียประตูที่สอง กระทั่งต้องอาศัยบารมีของ “เดอะแบก” บรูโน เฟอร์นันเดส ในการยิงประตูสุดสวยช่วยปลดล็อคในนาทีที่ 86 และหลังจากนั้นสกอร์ก็ไหลมาเทมา เพราะเจ้าบ้านต้องยอมเปิดเกมบุกแลกจนผลออกมาอย่างที่ทราบกันนั่นเอง
ในช่วงท้ายเกม โอเล กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจส่ง พอล ป็อกบา และ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค ลงมาเปลี่ยนเกม ซึ่งเป็นการแก้เกมที่ต้องบอกเลยว่าตรงจุดสุด ๆ เพราะดูแล้วซุเปอร์ซับทั้ง 2 คน สามารถลงมาเล่นกับ บรูโน และ มาต้า ได้อย่างเข้าขาสุด ๆ จนสามารถสร้างสรรค์จังหวะต่อบอลจากแดนตัวเองสวย ๆ งดงามและไหลลื่น ในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าใดนักจากบรรดาแข้ง ปีศาจแดง จนเป็นที่มาของ 3 ประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้าย
น่าสนใจว่าหาก โซลชา ลองจัดตัวโดยส่ง 4 คนนี้ลงเล่นพร้อมกันในแผงมิดฟิลด์ 5 ตัว การต่อบอลในแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด คงจะงดงามและน่าดูชมขึ้นอีกหลายเท่าตัวเป็นแน่…
8 ครั้ง คือจำนวนเซฟจังหวะสำคัญ ๆ ที่ คาร์ล ดาร์โลว์ นายทวารวัย 30 ปีชาวอังกฤษ โชว์ซุเปอร์เซฟช่วย ทีมสาลิกาดง มาได้ตลอด 85 นาที ทั้งที่มีอาการบาดเจ็บระหว่างเกม กระทั้ง 5 นาทีสุดท้ายบวกทดเวลาอีก 5 นาที เจ้าตัวกลับโดนยิงล่อเป้าถึง 3 ประตูชนิดที่เผาขนและแทบจะหมดสิทธิเซฟทั้งหมด อย่างไรก็ตามใครที่ได้ติดตามชมคงจะเห็นแล้วว่าฝีมือของเขานั้นไม่ธรรมดาทั้งการอ่านจังหวะบอล ความนิ่ง รวมถึงการยืนตำแหน่ง ไม่ทราบว่าหลังจาก ดูบราฟก้า มือหนึ่งของทีมหายเจ็บกลับมา ดาร์โลว์ จะถูกดรอปเป็นตัวสำรองตามเดิมหรือไม่ แต่บอกได้เลยว่าฝีไม้ลายมือขนาดนี้ ย้ายไปเป็นมือหนึ่งให้ทีมอื่นได้สบาย ๆ