การแข่งขัน : ฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบที่ 4
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 23 กันยายน 2020
เวลาแข่งขัน : 01.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (5) 1-1 (4) เชลซี
สนาม : ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เฉือนชนะจุดโทษ เชลซี หวุดหวิด 5-4 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 โดย สิงห์บลู ออกนำก่อนจาก ติโม แวร์เนอร์ นาทีที่ 19 ส่วน ไก่เดือยทอง มาตีเสมอได้ในช่วงทายเกมจาก เอริค ลาเมลา นาทีที่ 84 ก่อนจะต้องไปดวลจุดโทษและ เมสัน เมานท์ สังหารพลาด ทำให้ สเปอร์ส เอาชนะไปในการดวลจุดโทษ 5-4 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกเป็นทีมเยือนที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ ส่วนเจ้าบ้านถอยลงมารับต่ำและรอโอกาสในการสวนกลับ
10 นาทีแรกบอลส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางสนาม และยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์กันได้ทั้งสองฝั่ง
นาทีที่ 16 ทีมเยือน ได้โอกาสลุ้นจากจังหวะที่ ทันกันก้า สะกัดบอลพลาดไปเข้าทาง โอดอย แต่ยังคงยิงไปตรงตัว ยอริส
แต่แล้ว 3 นาทีต่อจากนั้น เชลซี ออกนำ 0-1 จากจังหวะที่ อัซปิลิกวยต้า เปิดย้อนกลับมาหน้ากรอบเขตโทษให้ แวร์เนอร์ มีเวลาบรรจงซัดเบียดเสาเข้าไป
นาทีที่ 23 สเปอร์ส มีโอกาสลุ้นบ้างจากจังหวะที่ ซูมา เสียบอลหน้าเขตโทษและเป็น เกดสัน ที่ตัดบอลไปได้ แต่สุดท้าย ซูมา และ เมนดี้ ยังช่วยกันเคลียร์ออกไปได้ทัน
หลังผ่านครึ่งชั่วโมงเจ้าถิ่นดูจะครองบอลบุกได้มากขึ้น และได้โอกาสลุ้นอีกครั้งจาก ลาเมลา แต่ยังยิงไปติดเซฟของ เมนดี้
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมแทบจะไม่มีจังหวะจบสกอร์กันเพิ่ม ทำให้จบ 45 นาทีแรก เชลซี บุกมานำ 0-1
เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง เจ้าถิ่นดูจะเริ่มเปิดเกมบุกมากขึ้น และมีโอกาสลุ้นตั้งแต่ช่วง 5 นาทีแรกจากลูกยิงของ เบิร์จไวน์ และ เรกิลอน แต่ยังคงไปติดเซฟของ เมนดี้
จากนั้น เจ้าบ้านครองบอลได้มากกว่าชัดเจน แต่ยังหาจังหวะเข้าทำได้ไม่มากนัก
ด้านผู้มาเยือนเองมีโอกาสที่ใกล้เคียงอีกครั้งในนาทีที่ 72 จาก ติโม แวร์เนอร์ ที่ได้ลองส่องในกรอบเขตโทษแต่ยังไปติดเซฟของ ยอริส
ไม่กี่นาทีต่อจากนั้น สิงห์บลู ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะลุยเดี่ยวของ โอดอย แต่กลับยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วนาทีที่ 83 เจ้าบ้านมาตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะโยนเข้ามาลุ้นของ เรกิลอน และเป็น ลาเมลา ที่เก็บบอลได้ก่อนยิงจ่อ ๆ เข้าไป
ทำให้จบ 90 นาทีเสมอกันไป 1-1 ต้องไปตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด
⚽ เอริค ดายเออร์
แทมมี อับราฮัม ⚽
⚽ เอริค ลาเมลา
เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ⚽
⚽ ปิแอร์ ฮอยจ์เบิร์ก
จอร์จินโญ ⚽
⚽ ลูคัส มูรา
เอเมอร์สัน ⚽
⚽ แฮร์รี เคน
เมสัน เมานท์ ❌
คะแนนผู้เล่นทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ : ยอริส(6.5), ออริเยร์(6.5), อัลเดอร์ไวเรลด์(7), ดายเออร์(7.5), ทันกันก้า(6), เรกิลอน(6.5), เกดสัน(6), ซิสโซโก้(6.5), เอ็นดอมเบเล(6.5), ลาเมลา(7.5), เบิร์กไวน์(6)
ตัวสำรอง : ฮอจ์ยเบิร์ก(6), ลูคัส(5.5), เคน(5.5)
เชลซี : เมนดี้(7), อัซปิลิกวยต้า(7), โทโมรี(7), ซูมา(6.5), ชิลเวลล์(6.5), จอร์จินโญ(6.5), เมานท์(6.5), โควาชิช(6.5), โอดอย(6.5), แวร์เนอร์(6.5), ชิรูด์(6)
ตัวสำรอง : ก็องเต้(5.5), เอเมอร์สัน(5), อับราฮัม(5.5)
แมน ออฟ เดอะแมทช์ – เอริค ดายเออร์
กองหลังเลือดผู้ดีของ ไก่เดือยทอง วันนี้โชว์ฟอร์มในเกมรับได้ค่อนข้างโดดเด่น โดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรกที่ทีมถูกคู่แข่งโหมบุกเข้าใส่อย่างหนัก ซึ่งเจ้าตัวมีจังหวะป้องกันและสะกัดบอลสวย ๆ ให้เห็นหลายครั้ง แถมยังมีจังหวะไฮไลท์ในครึ่งหลังที่อยู่ ๆ เจ้าตัวก็วิ่งออกจากสนามไปแบบดื้อ ๆ จนทำให้ โชเซ มูรินโญ ถึงกับหัวเสียและเดินเข้าไปตาม แต่แล้วหลังจบเกมเจ้าตัวได้ออกมากล่าวว่า เขาแค่ทนไม่ไหวและวิ่งไปเข้าห้องน้ำเท่านั้น
ประเด็นหลังเกม
แบ็คซ้ายทั้งสองทีมเป็นบ่อ
เกมนี้ เชลซี ตัดสินใจส่ง เบน ชิลเวลล์ ที่พึ่งจะฟิตกลับมา ลงเล่นเป็นตัวจริงราว 66 นาทีก่อนจะส่ง เอเมอร์สัน ลงมาเล่นแทน ซึ่งต้องบอกว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งที่ทำให้ สิงห์บลู พ่ายแพ้ในวันนี้เลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่ ชิลเวลล์ ออกไป เกมรับทางกราบซ้ายของพวกเขาก็ถูกโจมดีอย่างหนักโดยเฉพาะประตูตีเสมอท้ายเกมที่ เอเมอร์สัน พลาดเต็ม ๆ ทั้งหลุดตำแหน่ง ทั้งประกบตัวไม่ดี สะกัดบอลพลาด จึงทำให้ ลาเมลา ได้ยิงจ่อ ๆ เข้าไปในที่สุด
เช่นเดียวกับเจ้าบ้านที่ใช้ เซร์คิโอ เรกิลอน แบ็คซ้ายจอมบุกคนใหม่ที่พึ่งจะย้ายมาจาก เรอัล มาดริด แน่นอนว่าเกมรุก แบ็คเลือดกระทิงดุรายนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติแถมมี 1 แอสซิสต์ติดตัว แต่สำหรับเกมรับดูเหมือนว่าเจ้าตัวยังต้องปรับอีกพอสมควร เพราะดูจะมีปัญหาในการรับมือเกมรุกริมเส้นฝั่งขวาของผู้มาเยือนโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก แถมประตูที่ทีมเสียไปนั้น ก็เป็นเขาที่ทำพลาดถึง 2 จังหวะซ้อน ตั้งแต่จับบอลลั่นจนโดนโฉบเอาบอลไป และการพยายามวิ่งมาสไลด์เพื่อแก้ตัว แต่กลับเข้าพรวดจน อัซปิลิกวยต้า มีเวลาบรรจงเปิดไปให้ แวร์เนอร์ สังหารเข้าไปนั่นเอง