[FEATURE] รวบรวมทุกสถิติที่น่าสนใจ ผลงานของสโมสร-นักเตะ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2019/20

Paris Saint-Germain v Bayern Munich - UEFA Champions League Final
Paris Saint-Germain v Bayern Munich – UEFA Champions League Final | Pool/Getty Images

จบสิ้นลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2019/20 อันยืดเยื้อ และก็อย่างที่ทราบกันว่าสุดท้ายแล้วเป็นเต็งหนึ่งอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่เฉือนชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในรอบชิงชนะเลิศ 1-0 จากประตูชัยของ คิงส์ลีย์ โกม็อง ในช่วงครึ่งเวลาหลัง คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้ ทัพเสือใต้ คว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นสมัยที่ 6 เทียบเท่ากับ ลิเวอร์พูล มากที่สุดเป็นอันดับ 3 เป็นรองเพียง เอซี มิลาน และ เรอัล มาดริด เท่านั้น

วันนี้เราจะพาผู้อ่านทุกท่านไปชมทุกบทสรุปของรายการนี้ รวมถึงสถิติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย…

แน่นอนว่าอันดับหนึ่งย่อมเป็นทีมแชมป์อย่าง เสือใต้ ที่แม้จะลงเล่นไปเพียงแค่ 11 นัดในปีนี้ แต่พวกเขาก็ทำสถิติ ยิงประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 43 ประตู เป็นรองเพียง บาร์เซโลนา ที่ทำเอาไว้ในปี 1999/00 เท่านั้น (45 ประตู)

1. บาเยิร์น มิวนิค – 43 ประตู
2. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง – 25 ประตู
3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 21 ประตู
4. ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ – 18 ประตู
5. อตาลันต้า – 17 ประตู

2 ทีมจากเยอรมัน กลายเป็นทีมที่สรา้งสรรค์โอกาสเข้าทำได้มากที่สุด ตามมาด้วย 2 ทีมดังจากอังกฤษ…

1. บาเยิร์น มิวนิค – ยิงทั้งหมด 241 ครั้ง เข้ากรอบ 102 ครั้ง
2. แอร์เบ ไลป์ซิก – ยิงทั้งหมด 158 ครั้ง เข้ากรอบ 52 ครั้ง
3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ยิงทั้งหมด 146 ครั้ง เข้ากรอบ 61 ครั้ง
4. ลิเวอร์พูล – ยิงทั้งหมด 146 ครั้ง เข้ากรอบ 47 ครั้ง
5. เรอัล มาดริด – ยิงทั้งหมด 139 ครั้ง เข้ากรอบ 54 ครั้ง

กลับกลายเป็นทีมที่ตกรอบแรกอย่าง ดินาโม ซาเกร็บ ที่คว้าอันดับหนึ่งในสติถิทีมที่มีอัตราการยิงเข้ากรอบไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ…

1. ดินาโม ซาเกร็บ – 20% จากการยิงทั้งหมด 50 ครั้ง
2. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง – 18.66% จากการยิงทั้งหมด 134 ครั้ง
3. ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ – 18.37% จากการยิงทั้งหมด 98 ครั้ง
4. บาเยิร์น มิวนิค – 17.84% จากการยิงทั้งหมด 241 ครั้ง
5. เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก – 16.84% จากการยิงทั้งหมด 95 ครั้ง

ยังคงเป็นเจ้าแห่งการจ่ายบอลจริง ๆ สำหรับ เรือใบสีฟ้า ซึ่งการส่งบอลอันแม่นยำนั้นเป็นจุดขายของนายใหญ่อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาตั้งแต่ไหนแต่ไร…

1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 89.2% จากการส่งบอลทั้งหมด 5,927 ครั้ง
2. บาเยิร์น มิวนิค – 88.0% จากการส่งบอลทั้งหมด 6,959 ครั้ง
3. ยูเวนตุส – 87.7% จากการส่งบอลทั้งหมด 4,876 ครั้ง
4. เรอัล มาดริด – 87.6% จากการส่งบอลทั้งหมด 4,869 ครั้ง
5. บาร์เซโลนา – 87.4% จากการส่งบอลทั้งหมด 5,747 ครั้ง

เรื่องการครองบอลต้องยกให้เขาจริง ๆ สำหรับแชมป์เก่าอย่าง หงส์แดง ที่พร้อมจะเปิดเกมบุกใส่คู่แข่งแทบทุกทีมตลอด 90 นาทีของการแข่งขัน…

1. ลิเวอร์พูล – 67.6%
2. บาเยิร์น มิวนิค – 64.2%
3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 62.6%
4. ยูเวนตุส – 59.1%
5. ไปเออร์ เลเวอร์คูเซน – 58.9%

เป็นทีมรองแชมป์ในปีนี้อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่สามารถรักษาคลีนชีทเอาไว้ได้มากที่สุดในฤดูกาลที่ผ่านมา…

1. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง – 7 ครั้ง (เสียทั้งหมด 6 ประตู)
2. บาเยิร์น มิวนิค – 6 ครั้ง (เสียทั้งหมด 8 ประตู)
3. แอตเลติโก มาดริด – 6 ครั้ง (เสียทั้งหมด 9 ประตู)
4. อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม – 3 ครั้ง (เสียทั้งหมด 6 ประตู)
5. ยูเวนตุส – 3 ครั้ง (เสียทั้งหมด 6 ประตู)

รางวัลนี้อันดับหนึ่งเป็นของ เปแอสเช ที่ดูจะใส่หนักจัดเต็มคู่แข่งสุด ๆ จนได้รับใบเหลืองมากที่สุดในฤดูกาลนี้ไป

1. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง – ใบเหลือง 29 ใบแดง 0 รวม 29 ใบ
2. อตาลันต้า – ใบเหลือง 25 ใบแดง 0 รวม 25 ใบ
3. บาร์เซโลนา – ใบเหลือง 23 ใบแดง 1 รวม 24 ใบ
4. โอลิมปิก ลียง – ใบเหลือง 22 ใบแดง 0 รวม 22 ใบ
5. กาลาตาซาราย – ใบเหลือง 21 ใบแดง 0 รวม 21 ใบ

1. เกงค์ (เบลเยี่ยม) – 23 ปี 310 วัน
2. ลีลล์ (ฝรั่งเศส) – 24 ปี 38 วัน
3. เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก – 24 ปี 163 วัน
4. แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมัน) – 24 ปี 246 วัน
5. เบนฟิก้า (โปรตุเกส) – 24 ปี 343 วัน

1. กาลาตาซาราย (เตุรกี) – 29 ปี 347 วัน
2. ยูเวนตุส (อิตาลี) – 29 ปี 86 วัน
3. โลโคโมทีฟ มอสโคว (รัสเซีย) – 28 ปี 320 วัน
4. ซัคตาร์ โดเน็ตสก์ (ยูเครน) – 28 ปี 244 วัน
5. เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) – 28 ปี 515 วัน

แน่นอนรางวัลดาวซัลโวคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เทพเลวาน” ที่ยิงกระจายพา เสือใต้ คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ…

1. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น) – 15 ประตู
2. เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ (ซัลซ์บวร์ก/ดอร์ทมุนด์) – 10 ประตู
3. แซร์จ กนาบรี้ (บาเยิร์น) – 9 ประตู
4. ดรีส์ เมอร์เทน (นาโปลี) / กาเบรียล เชซุส (แมนฯ ซิตี้) / แฮร์รี เคน (สเปอร์ส) / เมมฟิส เดปาย (ลียง) / ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้) – 6 ประตู
5. โจซิป อิลิซิช (อตาลันต้า) / คาริม เบนเซมา (มาดริด) / คิเลียน เอ็มบัปเป้ (ปารีส) / เลาตาโร มาร์ติเนซ (อินเตอร์) / หลุยส์ ซัวเรซ (บาร์เซโลนา) / เมาโร อิคาร์ดี้ (อินเตอร์) / ซน เฮือง-มิน (สเปอร์ส) – 5 ประตู

เจ้าแห่งการแอสซิสต์ในปีนี้ตกเป็นของ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวเก๋าของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ทำไปมากถึง 6 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้…

1. อังเคล ดิ มาเรีย – 6 ครั้ง
2. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ / คิเลียน เอ็มบัปเป้ – 5 ครั้ง
3. ฮูสเซม อาอูอาร์ / ฮาคิม ซิเย็ค / ริยาด มาห์เรซ / เนย์มาร์ / โจชัว คิมมิช – 4 ครั้ง

ปีนี้นักเตะที่สร้างโอกาสให้เพื่อนได้มากที่สุดเป็นกองหลังจาก บาเยิร์น มิวนิค อย่าง โจชั คิมมิช ที่การวางบอลเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของเจ้าตัวจนสามารถพาทีมคว้าแชมป์มาครองในที่สุด..

1. โจชัว คิมมิช – 28 ครั้ง
2. เควิน เดอ บรอยน์ – 27 ครั้ง
3. โธมัส มุลเลอร์ – 25 ครั้ง
4. โทนี โครส – 24 ครั้ง
5. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ – 21 ครั้ง

ยังคงเป็นนักเตะ ทีมเสือใต้ ที่ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเป็น ติอาโก้ อัลคันทารา ที่ทำสถิติจ่ายบอลมากที่สุดในทัวนาเมนต์ปีนี้ถึง 832 ครั้งเลยทีเดียว

1. ติอาโก้ อัลคันทารา – ส่งบอลไปทั้งหมด 832 ครั้ง (ความแม่นยำ 90.9%)
2. โจชัว คิมมิช – ส่งบอลไปทั้งหมด 745 ครั้ง (ความแม่นยำ 88.1%)
3. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค – ส่งบอลไปทั้งหมด 736 ครั้ง (ความแม่นยำ 88.8%)
4. อิลคาย กุนโดกัน – ส่งบอลไปทั้งหมด 705 ครั้ง (ความแม่นยำ 93.6%)
5. โรดรี – ส่งบอลไปทั้งหมด 678 ครั้ง (ความแม่นยำ 93.2%)

ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนที่มีโอกาสได้จบมากที่ในปีนี้จะเป็นดาวซัลโวอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกตัวเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้ลองส่องไปถึง 52 ครั้งตลอดทัวร์นาเมนต์..

1. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ – ยิง 52 ครั้ง ตรงกรอบ 33 ครั้ง
2. คริสเตียโน โรนัลโด – ยิง 40 ครั้ง ตรงกรอบ 15 ครั้ง
3. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – ยิง 36 ครั้ง ตรงกรอบ 11 ครั้ง
4. ฟิลิปเป้ คูตินโญ – ยิง 34 ครั้ง ตรงกรอบ 11 ครั้ง
5. ลิโอเนล เมสซี – ยิง 31 ครั้ง ตรงกรอบ 15 ครั้ง

กองกลางของ แอร์เบ ไลป์ซิก อย่าง คอนราด ไลเมอร์ เป็นนักเตะที่ทำสถิติเข้าปะทะคู่แข่งมากที่สุดในปีนี้..

1. คอนราด ไลเมอร์ (ไลป์ซิก) – 38 ครั้ง
2. ติอาโก้ อัลคันทารา (บาเยิร์น) – 34 ครั้ง
3. โธมัส ปาร์เตย์ (แอตฯ มาดริด) – 28 ครั้ง
4. นิโกลาส ทาเกลียฟิโก้ (อาแจ็กซ์) – 27 ครั้ง
5. นอร์ดี้ มูกิเล (ไลป์ซิก) – 26 ครั้ง

สถิติการเข้าตัดบอลในฤดูกาลนี้เป็นนักเตะจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่าง แมตส์ ฮุมเมลส์ ที่สามารถตัดบอลคู่แข่งได้มากที่สุดถึง 30 ครั้งแม้ว่าต้นสังกัดจะจอดป้ายไปตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ตาม…

1. แมตส์ ฮุมเมลส์ – 30 ครั้ง
2. วิลมาร์ บาร์ริออส / ติอาโก้ อัลคันทารา – 23 ครั้ง
3. สเวน เบนเดอร์ / ฟาเบียน รุยซ์ – 19 ครั้ง
4. นิโกลาส ทาเกียฟิโก้ / แม็กซ์ โวเบอร์ – 18 ครั้ง
5. มาร์ควินญอส / มาร์เทน เดอ รูน / มิราเลม เปียนิช / โจเซ ลูอิส – 17 ครั้ง

ผู้รักษาประตูที่ทำสถิติเซฟลูกยิงได้มากที่สุดในปีนี้ ตกเป็นของ ปีเตอร์ กูลาคซี นายทวารจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยสถิติอัตราการป้องกันถึง 33 ครั้ง ตลอด 10 เกมที่ลงสนาม

1. ปีเตอร์ กูลาคซี (ไลป์ซิก)- เซฟ 33 ครั้ง อัตราการเซฟ 72.7%
2. เฟอร์นันโด มุสเลรา (กาลาตาซาราย) – เซฟ 33 ครั้ง อัตราการเซฟ 70.2%
3. มิลาน บอร์ยาน (เร้ดสตาร์) – เซฟ 33 ครั้ง อัตราการเซฟ 62.2%
4. กิลเฮอร์เม (โลโคโมทีฟ) – เซฟ 29 ครั้ง อัตราการเซฟ 76.3%
5. มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์น) – เซฟ 28 ครั้ง อัตราการเซฟ 77.1%

1. ฮาคิม ซิเย็ค (อาแจ็กซ์) – 1 นาที 34 วินาที
2. เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ (ซัลซ์บวร์ก) – 1 นาที 41 วินาที
3. แทมมี อับราฮัม (เชลซี) – 1 นาที 47 วินาที
4. อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน (ลิเวอร์พูล) – 1 นาที 50 วินาที
5. เลาตาโร มาร์ติเนซ (อินเตอร์) – 1 นาที 59 วินาที

1. เตเต้ (ชัคตาร์) – 97 นาที 39 วินาที
2. มาร์กอส ยอเรนเต้ (แอตฯ มาดริด) – 96 นาที 5 วินาที
3. เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (ไลป์ซิก) – 95 นาที 0 วินาที
4. ฟิล โฟเด้น (แมนฯ ซิตี้) – 94 นาที 36 วินาที
5. เมเนอร์ โซโลมอน (ชัคตาร์) – 94 นาที 20 วินาที