ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2019/20 รอบชิงชนะเลิศ
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม
เวลาแข่งขัน : 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พบ บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : เอสตาดิโอน ดา ลุซ
ถ่ายทอดสด : Goal.com Thailand, DAZN Thailand
ความพร้อมของทั้งสองทีม
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
ทีมแชมป์จากลีกเอิงฝรั่งเศส ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรายการนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ต้องบอกว่าในรอบที่ผ่านมา ๆ มาทีมของ โธมัส ทูเคิล ยังไม่เจอกับทีมระดับหัวแถวเลย ทั้งการผ่าน ดอร์ทมุนด์ ในรอบ 16 ทีม ต่อด้วย อตาลันต้า และ แอร์เบ ไลป์ซิก ในรอบที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้พวกเขาต้องพบกับเต็งหนึ่งของรายการอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่ชั่วโมงนี้ดูจะแน่นทุกจุดจนแทบจะหาจุดอ่อนไม่ได้ ต้องมาดูกันว่า ยักษ์ใหญ่แดนน้ำหอมที่รอคอยเวลานี้มานานแสนนานจะมีทีเด็ดอะไรมารับมือกับความหน้าเกรงขามของทัพเสือใต้ในคืนวันอาทิตย์นี้
สภาพทีมก่องลงทำการแข่งขัน ยังคงต้องรอเช็กอาการของ เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารมือหนึ่งของทีม ที่ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ว่าจะฟิตพร้อมลงสนามในเกมนี้หรือไม่
คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – ริโก้
กองกลัง – แบร์นาต, ซิลวา, คิมแพมเบ้, เคห์เลอร์
กองกลาง – เอร์เรรา, มาร์ควินญอส, ปาราเดส
กองหน้า – ดิ มาเรีย, เนย์มาร์, เอ็มบัปเป้
บาเยิร์น มิวนิค
ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุด ๆ สำหรับทีมของ ฮันส์ ดีเทอร์ ฟลิค ที่นอกจากจะคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา และ เดเอ็ฟเบ โพคาล มาครองได้สมใจอยากแล้ว พวกเขายังทำสถิติชนะต่อเนื่องในทุกรายการมาถึง 20 เกมติดต่อกันอีกด้วย โดยในรายการนี้พวกเขาพึ่งจะถล่ม เชลซี บาร์เซโลนา และ โอลิมปิก ลียง มาได้อย่างยับเยินแทบทุกนัดจนมาถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่แน่นอนการโคจรมาพบกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ไม่ใช่งานง่ายเพราะการที่ทีมใดทะลุมาถึงรอบนี้ได้ย่อมไม่ธรรมดา ขึ้นอยู่กับว่า ทีมเสือใต้ ในวันอาทิตย์นี้จะยังสามารถรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมของพวกเขาเอาไว้ได้หรือไม่ในเกมนี้
ความพร้อมก่อนเกม เสือใต้ จะมีนักเตะตัวหลักที่ยังบาดเจ็บอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้นคือ เจโรม บัวเต็ง กองหลังตัวเก๋าของทีม ส่วนคนอื่น ๆ ฟิตพร้อมเป็นตัวเลือกในการลงสนามนัดนี้ทั้งหมด
คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ผู้รักษาประตู – นอยเออร์
กองกลัง – เดวีย์ส, อลาบา, ซุเล, คิมมิช
กองกลาง – กอเรทซ์ก้า, ติอาโก้, มุลเลอร์
กองหน้า – เปริซิช, เลวานดอฟสกี้, กนาบรี้
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ปารีส – ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 0
19/08/20 UCL – ไลป์ซิก 0-3 ปารีส
13/08/20 UCL – อตาลันต้า 1-2 ปารีส
06/08/20 FL – ปารีส 1-0 โซโชซ์
01/08/20 FC – ปารีส 1-0 ลียง
25/07/20 FLC – ปารีส 1-0 แซงต์ เอเตียน
บาเยิร์น มิวนิค – ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 0
20/08/20 UCL – บาเยิร์น มิวนิค 3-0 ลียง
15/08/20 UCL – บาเยิร์น มิวนิค 8-2 บาร์เซโลนา
09/08/20 UCL – บาเยิร์น มิวนิค 4-1 เชลซี
31/07/20 FL – บาเยิร์น มิวนิค 1-0 มาร์กเซย
05/07/20 POK – เลเวอร์คูเซน 2-4 บาเยิร์น มิวนิค
เฮดทูเฮท – ปารีส ชนะ 2 เสมอ 0 บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 3
21/07/18 FL – บาเยิร์น มิวนิค 3-1 ปารีส
06/12/17 UCL – บาเยิร์น มิวนิค 3-1 ปารีส
28/09/17 UCL – ปารีส 3-0 บาเยิร์น มิวนิค
19/10/00 UCL – บาเยิร์น มิวนิค 2-0 ปารีส
27/09/00 UCL – ปารีส 1-0 บาเยิร์น มิวนิค
(UCL= ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก / FC = เฟรชคัพ / FLC = เฟรนลีก คัพ / POK = เดเอฟเบ โพคาล / FL = กระชับมิตร)
สถิติที่น่าสนใจ
8 เกมที่ทั้งคู่เคยพบกัน เป็นการเจอกันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด ซึ่ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ดูจะเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าด้วยการเอาชนะไปได้ 5 ครั้ง และที่เหลืออีก 3 เกมเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่เอาชนะไปได้
เกมนี้จะเป็นนัดแรกที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ ซึ่ง 6 ทีมหลังสุดที่เข้าชิงเป็นครั้งแรกไม่เคยมีทีมใดคว้าแชมป์ได้เลย โดยทีมล่าสุดที่ทำได้คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เข้าชิงครั้งแรกเมื่อปี 1997 และสามารถเอาชนะ ยูเวนตุส ไปได้ในปีนั้น
บาเยิร์น มิวนิค เข้าชิงในรายการนี้ได้ถึง 11 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก เรอัล มาดริด (16 ครั้ง) โดยพวกเขาเคยคว้าแชมป์มาได้ทั้งหมด 5 สมัย ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจาก ลิเวอร์พูล (6 ครั้ง) เอซี มิลาน (7 ครั้ง) และ เรอัล มาดริด (13 ครั้ง)
เสือใต้ ยิงประตูใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ไปแล้ว 42 ประตูจากทั้งหมด 10 เกมที่ลงเล่น มีเพียง บาร์เซโลนา เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่เคยทำได้มากกว่า (45 ประตู) ในปี 1999/00 ซึ่งในปีนั้น เจ้าบุญทุ่ม ลงเล่นไปกว่า 16 เกม
นัดชิงชนะเลิศปีนี้ เป็นครั้งที่ 5 ที่มีทีมจากฝรั่งเศสเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศต่อจากปี 2004 ที่ โมนาโก ทำได้เป็นทีมล่าสุด ซึ่งจากทั้งหมด 5 ครั้งดังกล่าวมีเพียงครั้งเดียวที่ทีมจากเมืองน้ำหอมคว้าแชมป์ไปครองได้คือ โอลิมปิก มาร์กเซย ในปี 1993
หาก บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะในเกมนี้ พวกเขาจะเป็นทีมแรกที่ทำสถิติเอาชนะคู่แข่งใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ถึง 11 นัดติดต่อกัน
19 นัดที่ เนย์มาร์ ลงสนามในรายการนี้ให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งเจ้าตัวมีส่วนกับการทำประตูไปแล้วถึง 23 ครั้ง (ยิง 14 แอสซิสต์ 9) หากเขายิงได้ในเกมนี้ จะทำสถิติเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในรอบชิงชนะเลิศกับ 2 ทีมหลังจากเคยยิงให้ บาร์เซโลนา ในปี 2015 (คริสเตียโน โรนัลโด้ แมนฯ ยูไนเต็ด-เรอัล มาดริด / มาริโอ มานด์ซูคิช บาเยิร์น มิวนิค-ยูเวนตุส)
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำสถิติยิงประตูในรายการนี้มาแล้ว 9 นัดติดต่อกัน มีเพียง คริสเตียโน โรนัลโด้ รายเดียวเท่านั้นที่เคยยิงต่อต่อกันได้มากกว่าเขา (11 เกมติดต่อกัน)
ฮัน ดีเทอร์ ฟลิค เป็นกุนซือรายที่ 6 ที่เคยทั้งคุมทีมและลงเล่นให้สโมสรเดียวกันในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการนี้ต่อจาก มิเกล มูโนซ (เรอัล มาดริด), วิเซนเต้ เดบอสเก้ (เรอัล มาดริด), คาร์โล อันเชล็อตติ (เอซี มิลาน), เป๊ป กวาร์ดิโอลา (บาร์เซโลนา) และ ซีเนดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด)
บาร์เยิน มิวนิค เป็นทีมที่ โธมัส ทูเคิล นายใหญ่ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เคยคุมทีมไปแพ้มากที่สุดในชีวิตการเป็นผู้จัดการทีม (9 ครั้ง)
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูใน แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ไปแล้ว 15 ลูก ตามหลังสถิติสูงสุดที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำเอาไว้ในปี 2013/14 เพียง 2 ประตูเท่านั้น (17 ลูก)