ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ไบรท์ตัน 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : ดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส สเตเดี้ยม
เกมวันนี้ต้องบอกว่าเจ้าถิ่น ไบรท์ตัน ไม่มีอะไรที่จะสามารถต่อกรกับผู้มาเยือนอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลย โดยเฉพาะช่วงครึ่งเวลาแรกที่ ปีศาจแดง บุกกดอยู่ฝ่ายเดียว และสามารถยิงประตูขึ้นนำได้ถึง 2 ลูก ในขณะที่ เจ้าบ้าน ยังไม่มีจังหวะยิงเข้ากรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว
กระทั่งครึ่งหลัง เกรแฮม พ็อตเตอร์ ตัดสินใจแก้เกมด้วยการส่ง ทรอสซาร์ด และ โมปาย สองแนวรุกตัวหลักลงสนามมา แม้จะโดยยิงนำห่าง 0-3 ในนาทีที่ 50 แต่หลังจากนั้นเกมบุกของพวกเขาก็ดูจะดีขึ้นเรื่อย จนมีโอกาสได้ประตูตีไข่แตกหลายครั้ง ต้องชม ดาบิด เด เคอา ที่ช่วยเซฟ 2 จังหวะสำคัญในเกมนี้ มิฉนั้นโมเมนตัมของเกมนี้อาจจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงก็เป็นได้
2 ประตูของ สตาร์เดอะแบกชาวโปรตุเกสรายนี้ ทำให้ ปีศาจแดง เล่นง่ายขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งหลัง แถมตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม เจ้าตัวก็เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางในเกมรุกให้กับทีม ทั้งยิง ทั้งโยน ทั้งจ่าย เรียกได้ว่าเหมาทุกอย่างเอาไว้ในคน ๆ เดียว มันจึงไม่แปลกที่เราจะมอบรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมทช์ ในวันนี้ให้กับเขาไป แม้เจ้าตัวจะอยู่ในสนามเพียงแค่ 60 กว่านาทีก็ตาม
ช่วง 60 นาทีแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมี บรูโน เฟอร์นันเดส และ พอล ป็อกบา คุมจังหวะเกมอยู่ในสนาม เป็นช่วงเวลาที่ ไบรท์ตัน ไม่สามารถตั้งเกมของตัวเองได้เลยเพราะถูกบุกกดดันใส่ตลอดเวลา
จนกระทั่งทั้งสองสตาร์ของทีมถูกเปลี่ยนออกไปพัก และส่งเทพเปเรย์รา และ แม็คโทมิเนย์ ลงมาแทน รูปเกมมันกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เจ้าถิ่นมีโอกาสทำเกมบุกขึ้นมาได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมมีจังหวะได้จบสวย ๆ ตลอดช่วง 30 นาทีหลัง ในขณะที่ความเฉียบขาดในแนวรุกที่ครึ่งแรก ปีศาจแดง ทำเอาไว้อย่างไร้ที่ติ ก็หายไปดื้อ ๆ แม้จะมีโอกาสได้โต้กลับหลายต่อหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี้ยนให้เป็นประตูที่ 4 ได้จนกระทั่งจบเกมไป
3 คะแนนในวันนี้ สำหรับลูกทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ทำให้พวกเขาขยับมารั้งอันดับ 5 เหมือนเดิม มี 52 คะแนน ตามหลังทีมอันดับ 4 อย่าง สิงโตน้ำเงินคราม อยู่ 2 แต้มด้วยกัน แต่ลงแข่งมากกว่า 1 นัด ซึ่งต้องบอกว่ายังพอมีโอกาสแซงใน 6 เกมที่เหลือสำหรับระยะห่างประมาณนี้ แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายเพราะ สิงห์บลู มีเกมในมืออีกหนึ่งนัดที่ยังแข่งน้อยกว่า แถมฟอร์มของพวกเขาก็ร้อนแรงไม่แพ้ ปีศาจแดง เลยแม้แต่น้อย จึงยากที่ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะพลาดสะดุดทำแต้มหล่นง่าย ๆ เหมือนกันในเกมที่เหลือต่อจากนี้
ส่วนอีกฝากคือ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมอันดับ 6 ที่มี 52 คะแนนเทียบเท่า แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า ก็ตามมากดดันรอจ่อคอหอยพวกเขาอยู่แล้ว เพราะฉนั้นหาก พลพรรคเร้ดเดวิลส์ พลาดเสมอแม้แต่นัดเดียว ก็มีโอกาสหลุดกระเด็นไปอยู่อันดับที่ 6 เลยเช่นกัน หรือพูดอีกนัยคือ อาจพลาดตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้านั้นเอง !