[RANKING] 5 กองหน้าชาวอิตาลี ที่ดีสุดใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นอีกหนึ่งเวทีการแข่งขันฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงมากจากคอลูกหนังทั่วโลก จึงทำให้มีผู้เล่นจากหลากหลายประเทศตบเท้าเข้ามาค้าแข้งกันอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

และชาติหนึ่งที่มีแข้งชั้นนำเข้ามาหาประสบการณ์ ไล่ล่าความสำเร็จในลีกอังกฤษเยอะมากอยู่ในอันดับต้น ๆ ก็คือ อิตาลี เพราะถึงแม้ กัลโช เซเรียอา จะยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ความท้าทายรวมถึงผลตอบแทนต่าง ๆ ที่ได้รับใน พรีเมียร์ลีก นั้นถือว่าสูงมากจนหลายคนปฏิเสธไม่ลง

วันนี้เรามาดูกันว่า นับตั้งแต่ลีกสูงสุดเปลี่ยนชื่อมาใช้คำว่า พรีเมียร์ลีก เคยมีกองหน้าชาวอิตาลีคนไหนที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังจนติดอันดับ 1 ใน 5 กันบ้าง

1. มาริโอ บาโลเตลลี

ดาวเตะเจ้าของฉายา “เกรียนโอ้” คือหนึ่งเพชรเม็ดงามที่แจ้งเกิดได้กับ อินเตอร์ มิลาน ได้ตั้งแต่อายุแค่ 16 ปี ก่อนจะพาตัวเองย้ายมาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2010 ตามคำชวนของ โรแบร์โต มันชินี

และภายใต้การดูแลของ มันโช่ ก็ทำให้สไตรเกอร์สายเกรียนประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก แม้จะมีปัญหาเรื่องความประพฤติจนคนรอบข้างต้องเอาเท้าก่ายหน้าผากอยู่บ่อย ๆ

ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาล เขาลงเล่นให้ทัพเรือใบสีฟ้าทั้งหมด 80 นัดยิงได้ 30 ประตู แถมยังเป็นหนึ่งในฮีโร่ผู้พาทีมคว้าแชมป์ลีกในปี 2012 อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ล้มเหลวสุด ๆ กับ ลิเวอร์พูล เมื่อไม่กี่ปีก่อน

2. ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี

ราวาเนลลี ถือเป็นผู้เล่นระดับตำนานของ อิตาลี ที่มีคอลูกหนังและเพื่อนร่วมอาชีพให้ความเคารพรักอย่างสูง โดยเฉพาะในช่วงที่เล่นอยู่กับ ยูเวนตุส นั้นถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว

และหลังจากที่ยิงกระจุยกระจายพาทัพม้าลายคว้าแชมป์ UCL ได้ในปี 1996 “เจ้าหงอก” ก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ “สิงห์แดง” มิดเดิลสโบรห์ แบบสุดเซอร์ไพร์ส เพราะมีทีมใหญ่ ๆ จากทั่วโลกตามจีบเขากันจนฝุ่นตลบ

แต่ด้วยการประสานงานของ ราวาเนลลี, จูนินโญ และ เอเมอร์สัน ก็ทำให้คอบอลต้องยอมยกนิ้วให้กับความมหัศจรรย์ของพวกเขา จนกลายเป็นตำนานที่แฟน ๆ เดอะ โบโร่ จดจำไปตลอดกาล แม้จะอยู่กับทีมแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

3. จิอันลูก้า วิอัลลี

วิอัลลี เป็นกองหน้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมาตั้งแต่สมัยค้าแข้งอยู่กับ ซามพ์โดเรีย ในช่วงปี 1984-1992 ก่อนจะถูก ยูเวนตุส ซื้อไปเสริมทัพด้วยค่าตัว 12.5 ล้านปอนด์ ซึ่งแพงเป็นสถิติสูงสุดของวงการฟุตบอล ณ เวลานั้น

เช่นเดียวกันกับ น้าหงอก ที่เราพูดถึงไปเมื่อกี้ เพราะหลังจากที่ ต้นตำรับหัวหลอดไฟ ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ ยูเวนตุส โดยมีถ้วย UCL เป็นใบล่าสุดในปี 1996 เขาก็ตัดสินใจพาตัวเองเดินทางมาหาประสบการณ์ใหม่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยมี เชลซี อ้าแขนต้อนรับอย่างอบอุ่น

และถึงแม้จะเป็น ช่วงปลายอาชีพพ่อค้าแข้ง แต่ วิอัลลี ก็ไม่ทำให้ 3 ปีสุดท้ายของเขาสูญเปล่า เพราะยังคงได้รับโอกาสลงเล่นต่อเนื่อง ยิงได้มากถึง 40 นัดจาก 88 เกม คว้าแชมป์ เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, คัพวินเนอร์สคัพ ได้อีกถ้วยละ 1 สมัยจนกระทั่งแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 1999

4. เปาโล ดิ คานิโอ

ดิ คานิโอ คือหนึ่งกองหน้าที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพราะถึงแม้จะเคยคว้าแชมป์ อินเตอร์ โตโต้คัพ ร่วมกันแค่เพียงรายการเดียว แต่ก็ค้าแข้งอยู่ในถิ่นอัพตัน พาร์ค นานถึง 5 ฤดูกาล

ดาวเตะชาวอิตาลีคนนี้ มาพร้อมสไตล์การเล่นอันลีลายียวนกวนบาทา แต่สวยงามทรงประสิทธิภาพราวกับศิลปินที่กำลังสร้างสรรค์ผลงานอยู่บนผืนหญ้า ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมเรื่องฝีเท้าอย่างสูงมาก แถมหัวจิตหัวใจยังห้าวหาญมากอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะถูกตามจีบจากทีมใหญ่ ๆ มากมายแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยปันใจให้ใครอื่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ด้วยความที่ ดิ คานิโอ รักทีมขุนค้อนหมดหัวใจ เล่นฟุตบอลด้วยสปิริตอันสูงส่ง มีความเป็นลูกผู้ชายเปี่ยมด้วยน้ำใจนักกีฬา เขาจึงถูกยกย่องให้เป็นตำนานสโมสรไปแบบไม่มีใครกล้าแย้งเลยแม้แต่คนเดียว

5. จิอันฟรังโก้ โซลา

สำหรับคนสุดท้ายที่เรากำลังจะพูดถึงกันนั้น บอกเลยว่าไม่ต้องสาธยายอะไรให้มากความนัก เพราะถึงแม้เจ้าตัวจะแขวนสตั๊ดไปตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน แต่ผลงานอันยอดเยี่ยมที่สร้างไว้สมัยอยู่ เชลซี ยังคงถูกพูดถึงในแง่ยกย่องสรรเสริญตลอดเวลาจนทุกวันนี้

ก่อนที่ โซลา จะมาสร้างชื่อจนเป็นตำนานของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เขาเคยแจ้งเกิดโด่งดังกับ ปาร์มา ในกัลโช เซเรียอา อยู่นาน 4 ซีซั่น ทำให้แฟน ๆ เชลซี ตื่นเต้นเหลือเกิน เมื่อทราบข่าวว่าทีมรักเซ็นสัญญากับกองหน้าร่างเล็กคนนี้

และตลอด 8 ปีที่เขาค้าแข้งอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ทุ่มเทต่อสู้เค้นเอาทุกสิ่งทุกอย่างออกมาเพื่อช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จเป็นแชมป์มากมาย แถมยังยิงได้อีก 80 ลูกจากการลงเล่น 311 นัดทุกรายการอีกด้วย

ล่าสุด โซลา รับงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้ เมาริซิโอ ซาร์รี ในทีม เชลซี แต่น่าเสียดายที่ต้องลาออกไปพร้อมกับเจ้านายเมื่อซัมเมอร์ปีก่อน แต่ก็ยังถือเป็นคนที่มีบทบาทต่อสโมสรไม่เสื่อมคลาย