[FEATURE] รีสส์ เนลสัน เด็กผู้เติบโตจากแหล่งเสื่อมโทรม สู่การเป็นอนาคตของ อาร์เซนอล

รีสส์ เนลสัน ดาวรุ่งพุ่งแรงอีกหนึ่งคนที่มีแววว่าจะก้าวขึ้นสู่การเป็นแข้งระดับท็อปในอนาคตได้จากการปลุกปั้นของ มิเกล อาร์เตตา ในทีม ​อาร์เซนอล

ด้วยบทบาทการเล่นเป็นปีก ถึงแม้จะยังอายุน้อยและไม่ได้เป็นตัวจริงมากมายนัก จึงพอมีโอกาสลงสนามสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับแฟน ๆ พอสมควร โดยเฉพาะลูกแอสซิสต์ให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยิงไปในเกมชนะ พอร์ทสมัธ (ศึกเอฟเอคัพ) นั้นถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลยทีเดียว

​อย่างไรก็ตาม กว่าที่แข้งวัย 20 ปีคนนี้จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และแจ้งเกิดได้ในทัพปืนโตอย่างทุกวันนี้ เขาก็ต้องผ่านอะไรมามากมายพอสมควร ไม่ใช่แค่เรื่องของการฝึกซ้อมต่อสู้ในแง่ฟุตบอลอย่างเดียวเท่านั้น แต่เมื่อมองลึกเข้าไปถึงวิถีชีวิตแล้ว จะใช้คำว่า “โหดสัxx” ก็คงไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก


เนลสัน เกิดและเติบโตขึ้นมาในย่าน ไอเลสบิวรี ย่านเล็ก ๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางลอนดอน ซึ่งมีฉายาที่คนอังกฤษรู้จักเป็นอย่างดีว่า “ห้องนั่งเล่นแห่งนรก” และหากเด็กคนไหนเลือกเดินทางสายมืดแล้วล่ะก็ ยากที่จะหวนกลับมาเป็นผู้เป็นคนปกติได้อีกเลยตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม หนุ่มน้อยเนลสัน เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมาแล้วว่าตนเคยเกือบเข้าเป็นสมาชิกของแก๊งค์อาชญากรรมชื่อดังประจำถิ่นมาก่อน เพราะฝีไม้ลายมือในการทะเลาะวิวาทถือว่าเข้าขั้นพอตัว

แต่ในขณะที่กำลังตัดสินใจอยู่นั้น ก็ได้พี่ชายแท้ ๆ ช่วยชี้นำให้เลือกผันตัวเองมาเป็นนักฟุตบอลจะดีกว่านักเลงเยอะ ซึ่งเจ้าตัวเชื่อจนทำให้มีชีวิตดี ๆ แบบที่เห็นในปัจจุบัน


“ห้องนั่งเล่นแห่งนรก”

เมื่อพูดถึงย่าน ไอเลสบิวรี ที่ รีสส์ เนลสัน เติบโตมานั้น ชาวอังกฤษโดยเฉพาะจากลอนดอนรู้ดีว่าขึ้นชื่อเรื่องแกงค์อันธพาล, ยาเสพติด, ความรุนแรงและการก่ออาชญากรรมทุกประเภท เรียกว่าอันตรายสุดในประเทศเลยด้วยซ้ำ

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเด็ก ๆ ที่ใช้ชีวิตเติบโตมากับเรื่องราวสุดโหดแบบนั้น หลาย ๆ คนจะมีอนาคตเป็นเช่นไร แต่โชคดีที่พระเอกของเราได้ความสวยงามจากกีฬาฟุตบอลช่วยเอาไว้ก่อนที่ถลำลึกลงเกินกว่ากลับตัวกลับใจทัน

“สมัยเด็ก ๆ เรามักจะทำอะไรตามเพื่อนฝูงรอบ ๆ บ้านกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าอนาคตตัวเองจะเป็นยังไงถ้าไม่ได้หากินด้วยการเล่นฟุตบอล” เนลสัน กล่าว

“เพื่อนสนิทของผมเลือกทางเดินชีวิตผมจนกู่ไม่กลับไปหลายคนแล้วทั้ง ๆ ที่ความจริงมีฝีเท้าในการเล่นฟุตบอลดีกว่าผมด้วยซ้ำ”

“จึงอยากฝากทุกคนว่าการเข้าไปข้องเกี่ยวกับแก๊งค์อันธพาลและยาเสพย์ติดนั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่คุณหยุดมันด้วยตัวเองไม่ได้หรอก เพราะมีเยอะเหลือเกินในโซนทางใต้ของลอนดอน”

Reiss Nelson

ขอบคุณพี่ใหญ่

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า เนลสัน โชคดีกว่าเด็กคนอื่น ๆ หลายเท่านักเพราะ ริคกี้ พี่ชายคนโตของบ้านเป็นผู้ใหญ่ในวัยทำงานและเคยข้ามผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาแล้ว จึงสามารถให้คำแนะนำและฉุดน้องรักกลับมาได้อย่างทันท่วงที โดยมีกีฬาฟุตบอลเป็นตัวสนับสนุน

“พี่ชายคนโตถือว่ามีอิทธิพลสูงมากสำหรับชีวิตเลย เขาคอยผลักดันผมให้เลือกใช้ชีวิตในทางที่ถูกต้องเสมอ และก็นำเอาฟุตบอลเข้ามาให้รู้จักด้วย” เนลสัน กล่าว

“เขากำชับหนักแน่นว่าทุกวันต้องเดินทางไปโรงเรียนด้วยกัน ไม่ให้หนีเด็ดขาด และหากไม่ว่างก็จะใช้ให้พี่สาวอีกคนไปส่งแทน ผมจึงไม่สามารถโดดเรียนไปกับเพื่อนฝูงได้เลย”

“แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยบังคับให้ทำตามคำสั่งแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับโอบกอดให้คำแนะนำด้วยความรัก ผมจึงรู้ว่าเขาหวังดีจริง ๆ ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องต่อต้านอะไรอีกแล้ว ตั้งใจเรียน ตั้งใจซ้อมฟุตบอล รีบกลับบ้าน เข้านอนตรงเวลาก็พอ”

Reiss Nelson

เตะฟุตบอลในสนามกรงเหล็ก

ถึงแม้ ไอเลสบิวรี จะเป็นแหล่งเสื่อมโทรมที่อันตรายสุดในประเทศ แต่อังกฤษก็คืออังกฤษ เพราะมีสนามฟุตบอลให้เด็ก ๆ ได้เตะเล่นอยู่ทุกที่จริง ๆ โดยแถวบ้านของ เนลสัน เป็นพื้นปูนที่มีกรงเหล็กล้อมรอบให้บรรยากาศดิบเถื่อนเหมือนสังเวียนสู้รบ

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เขาได้เล่นฟุตบอล ได้ฝึกฝนทักษะตัวเองผ่านการแข่งขันอันโหดเหี้ยมตามสไตล์สตรีทของเหล่าเด็กเฮ้วประจำย่าน

“ตอนที่ผมยังเด็กมาก ๆ พอเลิกเรียนแล้วจะรีบมาเล่นฟุตบอลในสนามกรงเหล็กแถวบ้านทุกวัน ถึงแม้จะเราจะอยู่ในย่านแหล่งเสื่อมโทรม แต่สนามฟุตบอลก็เป็นเหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว” เนลสัน กล่าว

“และการเล่นฟุตบอลร่วมกับพวกเหล่าตัวแสบทั้งหลายนี่ก็เป็นเรื่องยากสุด โหดสุด อันตรายสุด แต่มันทำให้ผมเก่งขึ้นมากเช่นกัน ขอบคุณคู่ต่อสู้ทุกคนในวันนั้นจริง ๆ”

“ผมไม่ใช่คนเดียวที่ต้องเผชิญชีวิตแบบนี้เพราะ จาดอน ซานโช เองก็แทบไม่ต่างกัน บ้านเขาอยู่ห่างออกไปแค่นิดเดียว ทำให้เรามาเล่นฟุตบอลในกรงเหล็กด้วยกันทุกวัน”

“บางทีก็มี แทมมี อบราฮัม โผล่มาแจมด้วย ซึ่งทักษะของเขาโดดเด่นเหนือกว่าเด็กคนอื่น ๆ มาก โดยเฉพาะเวลาเล่นในพื้นที่แคบ ๆ จะมีช็อตเด็ดออกมาให้เราส่งเสียงเฮกันลั่นตลอดเวลาเลย”


กว่าจะมีวันนี้

ฤดูกาลที่แล้ว อูไน เอเมรี อดีตกุนซือที่โดนปลดออกไปยังไม่ค่อยไว้ใจในศักยภาพของ รีสส์ เนลสัน มากสักเท่าไหร่นัก จึงส่งออกให้ ฮอฟเฟนไฮม์ ยืมใช้งานนาน 1 ปี และเด็กคนนี้ก็ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาจนกลายเป็นดาวเด่นประจำบุนเดสลีกาได้สำเร็จ

ผลงานการยิง 7 ประตูในฐานะมิดฟิลด์ทำให้ จูเลียน นาเกลส์มันน์ ผู้จัดการทีม ฮอฟเฟนไฮม์ เริ่มอยากได้ตัว เนลสัน ไปอยู่ด้วยแบบถาวร ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนั้น อูไน เอเมรี คิดยังไง แต่ที่แน่ ๆ คือเจ้าหนูดาวรุ่งจากทัพปืนโตยืนยันว่าตนจะกลับไปอยู่กับต้นสังกัดเดิมเท่านั้น

“ผมเป็นนักเตะที่สัญญาอยู่กับ อาร์เซนอล และนี่คือทีมที่รักมาตั้งแต่เด็ก แถมยังเข้าไปเป็นเด็กฝึกในอคาเดมีตั้งแต่ 8 ขวบ ผมตัดใจจากพวกเขาไม่ได้จริง ๆ” เนลสัน กล่าว

“ความต้องการเพียงหนึ่งเดียวคือ กลับไปอยู่กับ อาร์เซนอล ในฐานะนักฟุตบอลที่ดีขึ้น ฝีเท้าสูงส่งขึ้น แน่นอนว่า ฮอฟเฟนไฮม์ มีบุญคุณกับเด็กคนนี้มาก แต่ผมต้องกลับไปอยู่บ้านจริง ๆ”