การแข่งขัน | ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20 |
วันแข่งขัน | วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2020 |
เวลาแข่งขัน | 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย |
ผลการแข่งขัน | อาร์เซนอล 4-0 นิวคาสเซิล |
สนาม | เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม |
ประเด็นร้อนหลังเกม
ความเป็นไปของเกม
เกมนี้ในช่วงครึ่งแรก ต้องบอกเลยว่าอึกอัดพอสมควรสำหรับสาวกปืนใหญ่ เพราะรูปเกมดูยังตื้อ ๆ ตัน ๆ เหมือนกับหลาย ๆ นัดที่ผ่านมา แถมยังโดนแนวรุกของ นิวคาสเซิล ทั้ง อัลล็อง แซงต์-มักซีแม็ง วาเลนติโน ลาซาโร หรือแม้แต่ หัวหอกจอมบอดอย่าง โจลินตอน เล่นงานอย่างหนักในช่วงต้นเกมจนเกือบจะเสียประตูอยู่หลายครั้ง แต่โชคดีที่บรรดาแข้ง สาลิกาดง ไม่ได้พกความเฉียบขาดกันมาด้วยในวันนี้ เลยทำให้รอดจากการถูกเจาะตาข่ายมาได้จนถึง 45 นาทีหลัง
กระทั่งครึ่งทางที่เหลือ ต้องชมการแก้เกมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่กระตุ้นให้ลูกทีมกลับมาเล่นกันแบบคึกตักมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนมาได้ 2 ประตูติดกันตั้งแต่ช่วงต้น ทำให้พวกเขาเล่นง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะหลังจากที่ทีมเยือนจำเป็นต้องบุกเพื่อเอาประตูคืน พลพรรคปืนใหญ่ มีพื้นที่ให้สร้างสรรค์เกมมากกว่าในช่วงครึ่งแรกเยอะพอสมควร และแน่นอนเมื่อทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของพวกเขาแล้ว 2 ประตูในช่วงท้ายเกมจึงตามติดกันมาแบบง่าย ๆ ชิล ๆ จนกระทั่งจบเกมด้วย 3 คะแนนอย่างสวยหรูในสัปดาห์นี้
เปเป้ ฟอร์มอย่างโหด !
วันนี้ นิโคลาส เปเป้ ได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริงแทนที่ กาเบรีบล มาร์ติเนลลี ดาวรุ่งชาวบราซิลเลียน ที่กำลังทำผลงานได้ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา
ในช่วงครึ่งแรก แม้จะยังไม่ได้โอกาสเล่นกับบอลมากนัก แต่ก็ดูจะเป็นคนที่สามารถเจาะทะลวงแนวรับของทีมเยือนได้ดี เพราะกองหลังของ นิวคาสเซิล ดูจะมีปัญหาในการรับมือกับ ความเร็ว ความคล่องตัว ของเขาอยู่พอสมควร กระทั่งในช่วงครึ่งหลัง เปเป้ ก็ได้ตอบแทนความไว้วางใจของ อาร์เตต้า ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการระเบิดฟอร์มเทพ กระชากลากเลื้อยกระจาย โดยแทบจะไม่เสียการครอบครองบอลเลย แถมยังมีเครดิตด้วยการยิง 1 แอสซิตส์อีก 2 รับรางวัล แมน ออฟ เดอะแมทช์ ไปแบบหล่อ ๆ ในเกมวันนี้ ซึ่งคงจะเป็นการเรียกความมั่นใจของเจ้าตัวกลับมาได้มากพอสมควรนับจากนี้ไป
โควต้า แชมเปี้ยนส์ลีก อาจไม่ไกลเกินฝัน
7 คะแนน คือช่องว่างระหว่าง อาร์เซนอล กับ ทีมอันดับ 4 อย่าง เชลซี ณ เวลานี้ ซึ่ง สิงห์บลู จะลงสนามพบกับ ปีศาจแดง ในคืนวันจันทร์ แน่นอนว่ามีโอกาสที่ สิงโตน้ำเงินคราม จะพลาดท่าทำแต้มหล่นในเกมนี้สูงเช่นกัน แถมด้วยฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาเท่าใดในช่วงนี้ ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด จึงพร้อมที่จะทำแต้มหลุดมือได้ตลอดในช่วงเวลาที่เหลือ แถม เรือใบสีฟ้า ยังมีโอกาสสูงที่จะโดนแบนห้ามลงทำการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปในปีหน้า นั่นจะทำให้โควต้าจะตกเป็นของทีมอันดับที่ 5 ของตารางในทันที เมื่อฤดูกาลนี้สิ้นสุดลง
ดังนั้นหาก พลพรรคปืนใหญ่ รักษาฟอร์มการเล่นแบบวันนี้เอาไว้ได้ และคว้าชัยไปได้เรื่อย ๆ โอกาสก็ยังคงเปิดกว้างเสมอ จึงขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้วว่า 12 เกมที่เหลือต่อจากนี้ ทัพเดอะกันเนอร์ส จะทะยานขึ้นไปได้ไกลแค่ไหนในซีซั่นนี้ และท้ายที่สุดจะสามารถคว้าตั๋วไปล่าถ้วยบิ๊กเอียร์ในปีหน้าได้หรือไม่ คงต้องติดตามลุ้นกันไปยาว ๆ