การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2019/20 รอบที่ 3
วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2020
เวลาแข่งขัน 21.01 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน เชลซี 2-0 น็อตติงแฮม ฟอเรสต์
สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์
4. สิงห์บลู ต้องมีการแข่งขันในทีมชุดใหญ่ที่ดุเดือดกว่านี้
แม้ น็อตติงแฮม ฟอเรตส์ จะเป็นทีมอันดับที่ 4 ในศึก แชมเปี้ยนชิพ แต่เราเชื่อเหลือเกินว่าแฟน สิงห์บลู คาดหวังให้บรรดานักเตะของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดมากกว่านี้
นักเตะอย่าง เอเมอร์สัน, มาเตโอ โควาชิช, รอสส์ บาร์คลีย์ กระทั่ง เปโดร สามารถทำได้เพียงสร้างความวูบวาบในบางจังหวะของเกมและไม่สามารถรักษาระดับความเด็ดขาดในการเล่นได้ตลอดทั้งเกม
3. ฮัดสัน-โอดอย คนละคลาส
หลังจบเกมกับ ฟอเรสต์ เกมนี้ทำให้ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย มีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูทั้งหมด 11 ลูกจาก 13 เกมหลังสุดที่เจ้าตัวออกสตาร์ทใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อรวมทุกรายการเข้าไปแล้ว (5 ประตู 6 แอสซิสต์)
ดาวเตะวัย 19 ปีกลายเป็นคีย์แมนของ สิงห์บลู ที่กราบขวาเมื่อสามารถเล่นงานแนวรับทีมเยือนจมเปื่อยยุ่ยและน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของ แฟรงค์ แลมพาร์ด กับการเป็นส่วนหนึ่งของทีมตัวจริงในการโม่แข้งศึก พรีเมียร์ลีก ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลไล่ล่าพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
2. ไม่แปลกใจหาก บาทชัวยี ทำได้แค่บทพระรองตลอดซีซัน
บาทชัวยี ได้รับความไว้วางใจจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้และเจ้าตัวน่าจะต้องรอให้ แทมมี อับราฮัม หรือ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับถึงจะได้โอกาสครั้งถัดไป
ศูนย์หน้าชาว เบลเยียม วัย 26 ปีได้รับบอลถวายพานให้ล่อเป้าเหน่งๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่การตัดสินใจแบบครึ่งๆ กลางๆ และความไม่เด็ดขาดพอของเจ้าตัวทำให้ไม่สามารถแปรเปลี่ยนโอกาสจำนวนมากให้เป็นประตูได้
1. เจมส์
เบียดเข้าปะทะแย่งบอลสำเร็จ 3 ครั้ง
เลี้ยงผ่านคู่แข่งสำเร็จ 3 ครั้ง
ผ่านบอลให้เพื่อนได้สับไก 3 ครั้ง
ตัวเลขด้านบนทั้งหมดคือสถิติการเล่นของ รีซ เจมส์ แบ็คขวาชาว อังกฤษ วัยเพียง 20 ปีของ สิงโตน้ำเงินคราม ในเกมนี้ เจ้าตัวกลายเป็นคีย์แมนในการขึ้นเกมของ สิงห์บลู ที่กราบขวาซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้