ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน | ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019/20 |
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2019 |
เวลาแข่งขัน | 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย |
คู่แข่งขัน | ลิเวอร์พูล vs วัตฟอร์ด |
สนาม | แอนฟิลด์ |
ถ่ายทอดสด | True Premier Football HD 1, True ID |
ความพร้อมของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล
ยังคงฟอร์มร้อนแรงไม่เลิกจริง ๆ สำหรับลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ล่าสุดบุกอัด ซัลซ์บวร์ก ถึง ออสเตรีย 0-2 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ
สุดสัปดาห์นี้ พวกเขามีคิวลงเล่นใน แอนฟิลด์ พบกับทีมบ๊วยของตารางอย่าง วัตฟอร์ด ที่พึ่งจะเปลี่ยนกุนซือคนใหม่มาหมาด ๆ เป็นหนที่สองในซีซั่นนี้ ซึ่งคราวนี้เป็น ไนเจล เพียร์สัน กุนซือเลือดผู้ดีอังกฤษ ที่เกมแรกประเดิมสนามด้วยการยันเสมอ คริสตัล พาเลช ได้ 0-0 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน แต่การได้เล่นใน แอนฟิลด์ ทำให้เกมนี้ไม่น่าจะเป็นงานยากสำหรับ พลพรรคหงส์แดง ในคืนวันเสาร์นี้
สภาพทีมในขณะนี้ จะยังไม่สามารถใช้งาน นาธาเนียล ไคลน์, โจเอล มาติป และ ฟาบินโญ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้ ส่วนรายของ เดยัน ลอฟเรน และ อดัม ลัลลานา ต้องรอดูความพร้อมก่อนเกมจะเริ่มต้นอีกครั้ง
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู | อลิสซอน |
กองหลัง | อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน |
กองกลาง | เฮนเดอร์สัน, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ไวนัลดุม |
กองหน้า | ซาลาห์, ฟิร์มิโน, มาเน |
วัตฟอร์ด
ฟอร์มยังคงย่ำแย่อย่างต่อเนื่องสำหรับทัพ แตนอาละวาด ที่ไม่ชนะใครติดต่อกัน 4 นัดรวด จนต้องปลดกุนซือคนเก่าอย่าง กิเก้ ฟลอเรส ออกไป และตั้งกุนซือคนใหม่อย่าง ไนเจล เพียร์สัน ที่ดูผลงานในนัดแรกแม้จะยังไม่ถึงกับชนะ แต่อย่างน้อยก็ยังเก็บ 1 แต้มในบ้านได้สำเร็จเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
สภาพทีม ณ ขณะนี้ ทอม เคลฟเวอร์รีย์, โฆเซ โฮเลบาส และ แดนนี เวลเบ็ค ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้ในเกมนี้แน่นอนแล้ว
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-5-1
ผู้รักษาประตู | ฟอสเตอร์ |
กองหลัง | ฟีมีเนีย, คาบาเซเล, ดอว์สัน, มาซินา |
กองกลาง | ดูกูเร, กาปู, ซาร์, เปเรย์รา, เดวโลเฟว, |
กองหน้า | ดีนีย์ |
“It’s a tough start but it’s been a good week, the work has been fantastic. The boys have all got that buzz, that spring in the step, they’re ready to work.”
The skipper’s got a positive vibe after the first week with the new Head Coach 💪
— Watford Football Club (@WatfordFC) December 13, 2019
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล (ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 0)
11 ธ.ค. | UCL | ซัลซ์บวร์ก | 0-2 | ลิเวอร์พูล |
7 ธ.ค. | PL | บอร์นมัธ | 0-3 | ลิเวอร์พูล |
5 ธ.ค. | PL | ลิเวอร์พูล | 5-2 | เอฟเวอร์ตัน |
30 พ.ย. | PL | ลิเวอร์พูล | 2-1 | ไบรท์ตัน |
28 พ.ย. | UCL | ลิเวอร์พูล | 1-1 | นาโปลี |
วัตฟอร์ด (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3)
7 ธ.ค. | PL | วัตฟอร์ด | 0-0 | คริสตัล พาเลซ |
5 ธ.ค. | PL | เลสเตอร์ ซิตี้ | 2-0 | วัตฟอร์ด |
1 ธ.ค. | PL | เซาต์แธมป์ตัน | 2-1 | วัตฟอร์ด |
23 พ.ย. | PL | วัตฟอร์ด | 0-3 | เบิร์นลีย์ |
9 พ.ย. | PL | นอริช | 0-2 | วัตฟอร์ด |
เฮดทูเฮด : ลิเวอร์พูล ชนะ 4 เสมอ 1 วัตฟอร์ด ชนะ 0
28/02/19 | PL | ลิเวอร์พูล | 5-0 | วัตฟอร์ด |
24/11/18 | PL | วัตฟอร์ด | 0-3 | ลิเวอร์พูล |
18/03/18 | PL | ลิเวอร์พูล | 5-0 | วัตฟอร์ด |
12/08/17 | PL | วัตฟอร์ด | 3-3 | ลิเวอร์พูล |
02/05/17 | PL | วัตฟอร์ด | 0-1 | ลิเวอร์พูล |
*PL = พรีเมียร์ลีก / UCL = ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
สถิติจาก OPTA ที่น่าสนใจ
- 7 เกมหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกัน ลิเวอร์พูล เอาชนะได้ถึง 6 เกม (ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 0) ยิงได้ทั้งหมด 25 เสียไปเพียง 4 ประตูเท่านั้น
- หลังจาก ปี 1999 ที่ วัตฟอร์ด บุกไปชนะที่ แอนฟิลด์ ได้ 1-0 พวกเขาไม่ชนะอีกเลยตลอด 5 เกมหลังที่ออกไปเยือน หงส์แดง โดยเสียไปถึง 20 ประตู และยิงได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น
- 3 เกมหลังสุดที่ทั้งคู่พบกันในบ้านของ ลิเวอร์พูล จบด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น 6-1, 5-0 และ 5-0 ซึ่งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ยังไม่เคยมีทีมใดชนะคู่แข่งในบ้าน 4 เกมติดต่อกันและยิงได้ถึง 5 ประตูในทุกนัด
- พลพรรคเดอะค็อป ชนะในบ้าน 15 นัดติดต่อกันแล้วในปัจจุบัน ซึ่งสถิติที่พวกเขาทำเอาไว้สูงที่สุดอยู่ที่ 21 นัดติดต่อกันในปี 1972
- ทัพแตนอาละวาด ทำสถิติแพ้ทีมที่เป็นจ่าฝูง ณ วันที่พบกันมาแล้ว 12 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 1986
- วัตฟอร์ด ทำประตูในเกมลีกฤดูกาลนี้ไม่ได้ 9 จาก 16 เกม ส่วน ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวที่ยิงประตูได้ทั้ง 16 นัดในซีซั่นนี้ ซึ่งสถิติที่ทำไว้สูงสุดของพวกเขาต้องย้อนกลับไปในปี 1933-34 ที่ยิงได้ทุกนัดตลอด 21 เกมแรกของฤดูกาล
- หงส์แดง ยิงประตูขึ้นนำคู่แข่งในปีนี้ไปได้ทั้งหมด 10 ประตู ซึ่งมากกว่าจำนวนประตูที่ ทีมแตนอาละวาด ทำได้ทั้งหมดในซีซั่นนี้ (9 ประตู)
- โม ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับการทำประตูถึง 7 ครั้ง ตลอด 4 เกมหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกัน (ยิง 6 แอสซิสต์ 1) ซาดิโอ มาเน มีส่วนร่วม 8 ครั้ง ตลอด 5 นัดหลัง (ยิง 5 แอสซิสต์ 3) ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ทีส่วนกับการทำประตูทั้งสิ้น 8 ครั้ง จาก 6 เกมหลังสุดที่ทั้งคู่พบกัน (ยิง 5 แอสซิส 3)