ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2019/20 รอบแบ่งกลุ่ม
อตาลันต้า 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คืนวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 03:00 น.
สนามซาน ซิโร
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบเอาตัวไม่รอดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ ซาน ซิโร แม้ว่าจะได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่จาก ราฮีม สเตอร์ลิง ก่อนที่จะพบกับจุดเปลี่ยนเมื่อ กาเบรียล เชซุส พลาดจุดโทษ ตามด้วย เอแดร์ซอน ได้รับบาดเจ็บ และ เคลาดิโอ บราโบ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามช่วงท้ายเกมจน ไคล์ วอล์คเกอร์ ต้องทำหน้าที่ผู้รักษาประตูจำเป็นช่วยทีมเก็บ 1 แต้มกับ อตาลันต้า มาได้
เป๊บ กวาร์ดิโอลา จัดทัพชุดใหญ่เต็มสูบในเกมนี้เมื่อส่ง ริยาด มาห์เรซ ประจำการที่แดนหน้าประสานงานร่วมกับ เชซุส และ สเตอร์ลิง โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ ขับเคลื่อนแดนกลางพร้อมกับ แบร์นาโด้ ซิลบา และ อิลคาย กุนโดกัน คัดท้ายแม้ว่าจะมีเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์กับ ลิเวอร์พูล บนเวที พรีเมียร์ลีก รออยู่ในคืนวันอาทิตย์นี้ก็ตาม
เกมเริ่มต้นมาได้เพียง 7 นาที เรือใบสีฟ้า ก็ได้ประตูเบิกร่อง 1-0 จาก สเตอร์ลิง ที่ปั่นโค้งลูกทริคแอสซิสต์ของ เชซุส ในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย และรูปเกมก็เข้าทางทีมเยือนจาก แมนเชสเตอร์ นับตั้งแต่นั้น
ก่อนที่จะจบครึ่งแรกเพียงไม่กี่อึดใจ ซิตี้ ก็เกือบจะได้ลูกจุดโทษเมื่อ สเตอร์ลิง ถูก ราฟาเอล โตลอย อัดล้มลงบริเวณกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินในสนามชี้ให้เป็นลูกโทษทันทีก่อนที่การพิจารณาจาก VAR จะให้เป็นฟรีคิกนอกเขต แต่ผลจากลูกฟรีคิกดังกล่าวที่ติดแขนของผู้เล่นเจ้าถิ่นในกำแพงทำให้ VAR ตัดสินเป็นลูกจุดโทษ ทว่า เชซุส ผู้รับหน้าที่สังหารกลับยิงแป้กหลุดกรอบออกไปและจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นำเพียง 1-0 ของทัพ เรือใบ
ครึ่งหลังออกสตาร์ทด้วยการเปลี่ยนตัวเอา เอแดร์ซอน ที่คาดว่าจะได้รับบาดเจ็บออกจากสนามโดย เคลาดิโอ บราโบ ลงมาแทนที่ และหลังจากนั้นเพียง 8 นาที เจ้าถิ่นก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะฉาบฉวยเมื่อตัดบอลได้ที่กลางสนามก่อนบอลจะไปถึง ปาปู โกเมซ ที่กราบซ้ายครอสเข้าไปที่กรอบ 6 หลาเข้าหัว มาริโอ พาซาลิช แข้งตัวยืมจาก เชลซี โหม่งผ่านมือ บราโบ ตุงตาข่าย
โมเมนตัมของเกมหลังจากนั้นกลับมาอยู่กับ อตาลันต้า และสถานการณ์ยิ่งเข้าทางเจ้าถิ่นมากยิ่งขึ้นเมื่อนายทวารทีมชาติ ชิลี ของ ซิตี้ พุ่งออกมาจากกรอบเขตโทษหมายจะป้องกันจังหวะหลุดเดี่ยวของกองหน้าทัพ ลา เดีย แต่ไม่ถึงบอลและไปสะกิดเอาผู้เล่น อตาลันต้า ล้มลง ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันทีทำให้ เป๊บ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเอา วอล์คเกอร์ แทนที่ มาห์เรซ ลงไปเฝ้าเสาขัดตาทัพในช่วงเวลาราว 10 นาทีสุดท้าย แต่ลูกทีมของ จาน ปิเอโร กาสเปรินี ไม่สามารถฉวยความได้เปรียบเอาไว้ได้ก่อนที่จะจบเกมด้วยการแบ่งแต้มในที่สุด
อตาลันต้า
คะแนนนักเตะ
11 ผู้เล่นตัวจริง: กอลลินี (5); โตลอย (6), จิมซิตี (5), ปาโลมิโน (5); ฮาเทบัวร์ (6), คาสตานเญ (6), ฟรอยเลอร์ (5), เดอ รูน (6), พาซาลิช (7), โกเมซ (6); อิลิซิช (7)
ตัวสำรอง: มาลินอฟสกี้ (5) มูเรียล (N/A)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ประเด็นหลังเกม
ซิตี้ ออกไปเยือนถิ่น ซาน ซิโร ด้วยผลงานการเก็บชัยชนะ 3 นัดรวดติดต่อกันมาก่อนหน้านี้ การคว้าชัยอีกเพียงแค่นัดเดียวจะทำให้พวกเขาทำแต้มขาดคว้าโควต้าผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทันทีไม่ว่าอีก 2 เกมที่เหลือในรอบแบ่งกลุ่มกับ ชัคตาร์ โดเนทส์ค (เหย้า) และ ดินาโม ซาเกร็บ (เยือน) จะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ผลการแข่งขันในเกมนี้ไม่เป็นอย่างที่พวกเขาหวัง
การจัดทัพแบบเต็มสูบของ เป๊บ ทำให้สามารถบอกได้ว่าพวกเขาหวังที่จะปิดจ๊อบรอบแบ่งกลุ่มถ้วย บิ๊กเอียร์ ตั้งแต่เกมนี้ และการออกสตาร์ทด้วยประตูขึ้นนำของ สเตอร์ลิง ตั้งแต่เพียงแค่ 7 นาทีแรกก็ทำให้ทุกอย่างเข้าทางพวกเขามากยิ่งขึ้น ทว่าการพลาดโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าหลังจากนั้นโดยเฉพาะลูกจุดโทษของ เชซุส ทำให้โมเมนตัมเอนเอียงไปยังฝั่ง อตาลันต้า
เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายมากยิ่งขึ้นเมื่อ เอแดร์ซอน ได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่หลังพักครึ่ง ก่อนที่เสียงเชียร์ใน ซาน ซิโร จะยิ่งปลุกเร้าผู้เล่นของ อตาลันต้า จนทำให้พวกได้ประตูตีเสมอในที่สุด
นับเป็นเกมที่เราเห็นได้ไม่บ่อยนักเมื่อเกมรับของ เรือใบสีฟ้า ถูกคู่แข่งทะลุทะลวงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกราบขวาที่ ชูเอา คันเซโล ได้ออกสตาร์ทและการไร้ซึ่งมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติซึ่ง เป๊บ จับเอา กุนโดกัน ไปคัดท้ายที่แดนกลางยิ่งกลายเป็นช่องโหว่ให้ลูกทีมของ กาสเปรินี เข้าทำอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์มาพีคเอาในช่วงราว 10 นาทีสุดท้ายของเกมเมื่อ บราโบ ถูกใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามจากการพุ่งออกมาเสียบสกัดลูกหลุดเดี่ยวของ โจซิป อิลิซิช ที่นอกกรอบเขตโทษจนทำให้ วอล์คเกอร์ ต้องลุกออกจากม้านั่งสำรองมาทำหน้าที่ผู้รักษาประตูจำเป็น เคราะห์ดีที่เจ้าถิ่นไม่สามารถหาโอกาสทดสอบแข้งชาว อังกฤษ รายนี้ในกรอบประตูแบบเหน่งๆ ได้ และเชื่อเหลือเกินว่า กวาร์ดิโอลา พอใจกับ 1 แต้มในเกมนี้
คะแนนนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
11 ผู้เล่นตัวจริง: เอแดร์ซอน (6); คันเซโล (5), แฟร์นันดินโญ (6), โอตาเมนดี้ (5), เมนดี้ (7); กุนโดกัน (5), เดอ บรอยน์ (6), แบร์นาโด้ (6); มาห์เรซ (6), เชซุส (5), สเตอร์ลิง (8*)
ตัวสำรอง: บราโบ (3), อเกวโร (5), วอล์คเกอร์ (6)
คีย์แมน – สเตอร์ลิง กลายเป็นแข้งที่วูบวาบที่สุดของ เรือใบสีฟ้า ในเกมนี้เมื่อทำประตูเบิกร่องให้กับทีมตั้งแต่ต้นเกมและสร้างอันตรายที่แดนหน้าทุกครั้งยามได้บอล รวมไปถึงการประสานงานกับทั้ง เชซุส และ มาห์เรซ อย่างลื่นไหล