ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน | ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20 |
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2019 |
เวลาแข่งขัน | 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย |
คู่แข่งขัน | เชลซี vs นิวคาสเซิล |
สนาม | สแตมฟอร์ด บริดจ์ |
ถ่ายทอดสด | True Premier Football HD 1 |
ความพร้อมทั้ง 2 ทีม
เชลซี
ฟอร์มของทีม สิงห์บลู ในตอนนี้กำลังขึ้นสุด ๆ หลังเก็บชัยชนะในลีกมาแล้ว 2 เกมติดต่อกัน ขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 5 ของตารางโดยมีคะแนนเท่ากับอันดับ 4 เลสเตอร์ แต่ประตูได้เสียน้อยกว่า อย่างไรก็ตามเกมนี้พวกเขาต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ทีมสาลิกาดง ที่สัปดาห์ก่อนพลิกล็อกเชือด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ 1-0 นั่นทำให้ลูกทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะประมาทในเกมนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
สถาพทีมในขณะนี้ ทัพสิงโตน้ำเงินคราม ได้ผู้เล่นตัวหลักที่หายจากอาการบาดเจ็บมาเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือแต่รายที่เจ็บหนักมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น รูเบน ลอฟตัส-ชีค, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ เอเมอร์สัน ที่จะไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้ในเกมนัดนี้
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู | อาร์ริซาบาลากา |
กองหลัง | อัซปิลิกวยต้า, คริสเตนเซน, โทโมริ, อลอนโซ |
กองกลาง | ก็องเต้, จอร์จินโญ, บาร์คลีย์ |
กองหน้า | เมานท์, อับราฮัม, วิลเลียน |
นิวคาสเซิล
ทีมของ สตีฟ บรูซ พึ่งจะทำเซอร์ไพรส์ด้วยการโค่น ปีศาจแดง มาได้เมื่อสัปดาห์ก่อน และขยับขึ้นมาอยู่นอกโซนตกชั้นเรียบร้อยแล้ว นั่นอาจจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้พลพรรคสาลิกาดง ในเกมวันนี้ได้ อีกทั้งพวกเขาก็มักจะทำได้ดีเวลาที่พบกับทีมใหญ่เสมอ แต่เกมในนัดที่คู่แข่งของพวกเขาคือ เชลซี ทีมที่มีเกมรุกที่เด็ดขาดและสวยงาม แน่นอนว่าพวกเขาจะมาในรูปแบบการเล่นที่เน้นตั้งรับต่ำ และอาศัยจังหวะสวนกลับในการโจมดีแนวรับของเจ้าบ้าน
สภาพทีมในตอนนี้ จะยังไม่สามารถใช้งาน ฟลอริย็อง เลอเฌิน ที่เจ็บยาวมาก่อนหน้านี้ ส่วนรายของ แม็ตต์ ริทชี ต้องรอเช็คความพร้อมก่อนเกมอีกครั้ง
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 3-5-2
ผู้รักษาประตู | ดูบราฟกา |
กองหลัง | ชาร์, ลาสเซลเลส, ดัมเม็ตต์ |
กองกลาง | อัตซู, แมท ลองสต๊าฟฟ์, อัลไมรอน, ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, คราฟธ์ |
กองหน้า | โจลินตอน, มูโตะ |
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
6 ต.ค. | PL | เซาธ์แฮมป์ตัน | 1-4 | เชลซี |
3 ต.ค. | UCL | ลีลล์ | 1-2 | เชลซี |
28 ก.ย. | PL | เชลซี | 2-0 | ไบรท์ตัน |
26 ก.ย. | EFL | เชลซี | 7-1 | กริมส์บี |
22 ก.ย. | PL | เชลซี | 1-2 | ลิเวอร์พูล |
นิวคาสเซิล (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 2)
6 ต.ค. | PL | นิวคาสเซิล | 1-0 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
29 ก.ย. | PL | เลสเตอร์ | 5-0 | นิวคาสเซิล |
21 ก.ย. | PL | นิวคาสเซิล | 0-0 | ไบรท์ตัน |
14 ก.ย. | PL | ลิเวอร์พูล | 3-1 | นิวคาสเซิล |
31 ส.ค. | PL | นิวคาสเซิล | 1-1 | วัตฟอร์ด |
เฮดทูเฮด (เชลซี 4 เสมอ 0 นิวคาสเซิล ชนะ 1)
13/01/19 | PL | เชลซี | 2-1 | นิวคาสเซิล |
26/08/18 | PL | นิวคาสเซิล | 1-2 | เชลซี |
13/05/18 | PL | นิวคาสเซิล | 3-0 | เชลซี |
21/01/18 | FA | เชลซี | 3-0 | นิวคาสเซิล |
02/12/17 | PL | เชลซี | 3-1 | นิวคาสเซิล |
*PL = พรีเมียร์ลีก / UCL = ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก / EFL = คาราบาวคัพ / FA = เอฟเอคัพ
สถิติจาก OPTA ที่น่าสนใจ
- เชลซี เอาชนะ นิวคาสเซิล ในบ้านมาได้แล้ว 6 เกมติดต่อกัน โดยยิงไปได้ถึง 17 ประตู เสียเพียง 3 ประตูเท่านั้น
- ทีมสาลิกาดง เอาชนะได้เพียงครั้งเดียว จาก 25 ครั้งหลังสุดที่มาเยือนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ (ชนะ 1 เสมอ 7 แพ้ 17) โดยต้องย้อนกลับไปในยุคของกุนซือ อลัน พาร์ดิว ในปี 2012
- เดอะแม็กพายส์ สามารถเอาชนะได้ 2 เกมติดต่อกันแล้ว ที่บุกมาเยือนทีมจาก ลอนดอน ครั้งล่าสุด (ฟูแลม, สเปอร์ส)
- 13 จาก 18 ประตูที่ ทัพสิงห์บลู ทำได้ในฤดูกาลนี้ มาจากนักเตะอังกฤษ
- นิวคาสเซิล ไม่สามารถชนะเกมใน พรีเมียร์ลีก 2 นัด ติดได้เลยนับตั้งแต่เดือน เมษายน
- โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยิงประตูใส่ทีมสาลิกาดง ได้มากกว่าทุกทีมที่เขาเคยพบ (8 ประตู) แต่ทั้งหมดนั้นเกิดในช่วง 6 เกมแรก แต่อีก 6 เกมต่อมา หอกชาวฝรั่งเศส ไม่สามารถยิงได้อีกเลย
- สตีฟ บรูซ เคยคุมทีมเอาชนะ เชลซี ได้เพียงครั้งเดียว จากทั้งหมด 21 ครั้งที่พบกัน (ชนะ 1 เสมอ 5 แพ้ 15) โดยต้องย้อนกลับไปในปี 2010 สมัยที่คุมทีม ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งบุกมาเอาชนะได้ถึงถิ่น 0-3
- แทมมี อับราฮัม เป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ยิงได้เกิน 7 ประตูใน 8 เกมแรก ต่อจาก เวย์น รูนีย์ ในปี 2011/12