5. ความเป็นไปของเกม
อาร์เซนอล เป็นฝ่ายที่จะดีไซน์รูปโฉมของเกมนี้เมื่อพวกเขาบุกมาเยือน ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มแข็งแกร่งสุดๆ ในถิ่น แอนฟิลด์ และ อูไน เอเมรี เลือกที่จะให้ลูกทีม ไอ้ปืนใหญ่ ตั้งรับอย่างเหนียวแน่นเพื่อรอจังหวะสวนกลับเร็ว
หงส์แดง เป็นฝ่ายบุกเข้าทำระลอกแล้วระลอกก่อนที่ช็อตพลาดท่าของ อาเดรียน เกือบจะมอบของขวัญให้เหล่า เดอะกันเนอร์ส ขณะที่จังหวะหลุดเดี่ยวของ นิโกลาส์ เปเป้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูได้
ประตูจากลูกโหม่งของ โจเอล มาติป ช่วยให้พลพรรค เร้ดแมชีน เล่นอย่างผ่อนคลายมากขึ้นก่อนที่ 2 ประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในครึ่งหลังจะทำให้เกมขาดในที่สุดขณะที่ลูกยิงในช่วงท้ายเกมของ ลูคัส ตอร์เรย์รา ก็เป็นได้เพียงประตูปลอบใจเท่านั้น
4. เอเมรี เพลย์เซฟ
น่าแปลกใจอยู่บ้างเมื่อ อูไน เอเมรี เลือกที่จะเก็บอาวุธหนักอย่าง อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ ไว้บนม้านั่งสำรองทั้งที่นายใหญ่ชาว สเปน สามารถจัดทัพเต็มรูปแบบเพื่อประสิทธิภาพที่อันตรายในเกมรุกยิ่งกว่านี้
แม้ โจ วิลล็อค, นิโกลาส์ เปเป้ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง จะทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งแต่พวกเขาไม่สามารถสร้างความกดดันให้กับแนวรับของเจ้าถิ่นได้เลยในครึ่งเวลาหลัง และ เอเมรี รอให้จนเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมจึงจะจัดการส่ง ลากาเซ็ตต์ ลงสนาม แต่นั่นก็ดูเหมือนจะสายเกินไปเมื่อพวกเขาโดยสอย 3 ประตูตั้งแต่ 58 นาทีแรกของเกมแล้ว
3. เจาะไม่เข้าเจอเซ็ตพีซทีเด็ด
ในวันที่ หงส์แดง ต้องเจอกับการแพ็คเกมแน่นของคู่ต่อสู้และการโยนบอมบ์ซ้ายทีขวาทีรวมไปถึงโจมตีตามช่องไม่สัมฤทธิ์ผลเสียทีจากความพยายามอยู่นานสองนาน กระทั่งลูกเตะมุมของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ไปเข้าหัว โจเอล มาติป ที่ขึ้นโหม่งเอาชนะ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส โขกตุงตาข่าย
2. 45 นาทีหลังที่กลายเป็นฝันร้ายของ ลุยซ์
ดาวิด ลุยซ์ ออกสตาร์ทในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางให้กับ อาร์เซนอล ในเกมนี้และครึ่งแรกกลายเป็น 45 นาทีแรกที่เจ้าตัวโดดเด่นกับการดักเก็บเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างแข็งแกร่ง แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดีใน 45 นาทีหลัง
ปราการหลังชาว บราซิล เริ่มต้นด้วยการมือไวดึงเสื้อของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในกรอบเขตโทษกับช็อตที่สตาร์ชาว อียิปต์ พลิกบอลหมายจะเข้าไปยิงประตู ผู้ตัดสินไม่ลังเลเป่าให้เป็นลูกจุดโทษทันทีและกลายเป็นประตู 2-0 ของเกม ก่อนที่ ซาลาห์ คนเดิมจะเผาเครื่องสะบัดหนี ลุยซ์ ก่อนจะเร่งเครื่องไปสอยประตูที่ 3 ตอกฝาโลงตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม
1. ความหมายจากผลแพ้-ชนะ ที่ แอนฟิลด์
การเสริมทัพของ เดอะกันเนอร์ส ทำให้ทีมของ อูไน เอเมรี ดูดีขึ้นกว่าซีซันที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดแต่ ไอ้ปืนใหญ่ ยังคงต้องทำงานหนักในการบีบช่องว่างระหว่างพวกเขากับทีมลุ้นแชมป์อีกมาก ขณะที่ หงส์แดง ประกาศศักดาชัดเจนว่าต้องการจะครองความยิ่งใหญ่ให้ได้เมื่อเป็นทีมเดียวในลีกที่ชนะรวด 3 นัดแรกติดต่อกัน
ปืนโต เวอร์ชันอัพเกรดจากปีก่อนจะถูกทดสอบอย่างต่อเนื่องกับ ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในสุดสัปดาห์หน้า ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะบุกไปเยือน เบิร์นลีย์ ในวันเดียวกัน